xs
xsm
sm
md
lg

เสธ.แดงแฉแผนนปช.โหมไฟเปิดทางใช้ภาวะฉุกเฉิน-“เติ้ง”โทษพันธมิตรฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายไทกร พลสุวรรณ แกนนำกลุ่มอีสานกู้ชาติ กล่าวถึงเบื้องหลังเหตุการณ์ที่ แนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เคลื่อนมาปะทะกับผู้ชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 1 ก.ย. จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คนว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการสร้างสถานการณ์จากรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ ส.ส.พรรคพลังประชาชน เพื่อให้ทหารออกมา ปราบปรามประชาชน ซึ่งตนทราบผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมด
โดยก่อนที่ นปก.จะยกพวกมาที่สะพานมัฆวานฯ สถานที่ชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ได้มีรถตู้เก่าๆ คันหนึ่งวิ่งผ่านหลังเวที นปก.ที่สนามหลวง 2-3 รอบ เมื่อเปิดกระจกลงมา พบว่าคนที่อยู่ข้างในเป็นนายทหารในราชการ ที่เรียกตัวเองว่า เสธ. และระหว่างที่มีการปะทะกันคนที่ยิงปืนขึ้นฟ้าอยู่ตลอดเวลาก็คือ เสธ.คนดังกล่าว
นอกจากนี้ยังมี ส.ส.จากพรรคพลังประชาชนอยู่ในเหตุการณ์ไม่ต่ำกว่า 3 คน อาทิ คนที่ถูกตีหัวก็เป็น ส.ส.จากจังหวัดอุดรธานี ซึ่งเคยพากลุ่มคนรักอุดรเข้าทำราย ผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ ส่วนคนหัวล้านที่อยู่บนรถและประกาศว่า ฆ่ามันๆ อยู่ตลอดเวลา ก็เป็น ส.ส.ลพบุรี พรรคพลังประชาชน
นอกจากนี้ยังมี ส.ส.นครราชสีมา พรรคพลังประชาชน ที่เป็นผู้ชักชวนคน ที่เสียชีวิตให้มาชุมนุมกับ นปก.โดยหลอกว่าจะมาให้กำลังนายสมัคร ดังนั้นคนที่พาคนมาตาย คือ ส.ส.พรรคพลังประชาชน ไม่ใช่พันธมิตรฯ ส่วนคนที่บงการ เป็นคนที่นั่งอยู่ในรถโฟล์คสีเขียว ซึ่งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงหนึ่ง และสนิทสนมกับนายเนวิน ชิดชอบ อดีตแกนนำพรรคไทยรักไทยเป็นอย่างมาก ขณะที่คนจ่ายเงินจ้างคนให้มาร่วมชุมนุมก็เป็นรัฐมนตรีในโควต้าของกลุ่มเพื่อนเนวิน ด้วยเช่นกัน
ดังนั้นการที่นายสมัครบอกว่าจะตั้งกรรมการหาผู้ก่อเหตุนั้น ก็ไม่รู้ว่าจะหาไปทำไม เพราะอยู่ในพรรคพลังประชาชนทั้งหมด นอกจากนี้ตนยังสงสัยว่า ทำไมตำรวจไม่จับคนเหล่านั้นในข้อหาปลุกปั่นให้คนไทยฆ่ากันบ้าง ทางออกที่นายสมัครจะรับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าวได้คือต้องลาออก เนื่องจากไม่มีอำนาจ ในการบริหารประเทศแล้ว

เสธ.แดงแฉนปช.เจตนาให้รุนแรง
ด้าน พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก กล่าวยอมรับว่า ได้เข้าร่วมสังเกตความเคลื่อนไหวการชุมนุมของกลุ่ม นปช. บริเวณท้องสนามหลวง ตลอดคืนที่ผ่านมา หลังจากทราบข่าวว่า มีการนำสมาชิกนปช. จากต่างจังหวัดเข้ามาที่ท้องสนามหลวง และมีการวางแผนนำมวลชนนปช. เคลื่อนขบวนไปทำเนียบฯ ทั้งนี้ หลังจากเตรียมความพร้อมไว้แล้ว นปช. ไม่มีแผนนำผู้ประท้วงไปที่ทำเนียบรัฐบาลในช่วงดึก แต่เกิดความขัดแย้งระหว่าง แกนนำนปช. ที่ควบคุมการชุมนุม เนื่องจากแกนนำส่วนหนึ่งไม่ต้องการเคลื่อนขบวน ไปที่ทำเนียบฯ เพราะเห็นว่ายังไม่มีความพร้อมและอาจเกิดการปะทะกันขึ้น ขณะที่แกนนำส่วนหนึ่งได้ประกาศบนเวที เพื่อให้ผู้ชุมนุมประท้วงลุกยืนขึ้น แล้วสั่งให้เดินออกจากท้องสนามหลวงเพื่อไปทำเนียบฯ เมื่อเวลาเที่ยงคืน
พล.ต.ขัตติยะ กล่าวว่า ขณะที่มีการตัดสินใจเคลื่อนขบวนไปทำเนียบฯ เห็นได้ว่าฝ่าย นปช.ไม่มีความพร้อม ทั้งเรื่องผู้คนและเครื่องมือป้องกันตัว ดังนั้น เมื่อเกิดการปะทะกับกลุ่มพันธมิตรฯ บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ จึงทำให้ฝ่ายนปช. ได้รับบาดเจ็บ โดยระหว่างเกิดการปะทะกัน ตนได้อยู่ร่วมสังเกตการณ์ตลอดเวลา
ไม่มีส่วนร่วมในการจัดตั้งผู้ชุมนุมประท้วงจากต่างจังหวัด แต่ยอมรับว่า มีความสนิทสนมกับแกนนำนปช.หลายคน และยอมรับว่าไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ และมองว่าการเคลื่อนกำลังของ นปช.ไปที่ทำเนียบฯ มีเจตนาเพื่อให้เกิดความรุนแรงจากการปะทะกันอย่างชัดเจน เพื่อใช้เป็นข้ออ้างประกาศภาวะฉุกเฉินและนำทหารมาแก้ไขสถานการณ์

ทรงศักดิ์ปัดเอียวนปช.แค่ลงไปดู
ด้าน นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.คมนาคม แกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน กล่าวปฏิเสธ ว่าไม่ได้เป็นผู้ควบคุมม็อบ นปก.ให้มาทำร้ายกลุ่มพันธมิตรฯแต่เป็นทางผ่านที่จะกลับบ้านก็ลงไปอยู่แป๊ปเดียวและตอนที่มีการปะทะกันตนก็ไม่อยู่แล้ว กลับมาบ้านแล้ว ส่วนที่มีการอ้างถึงชื่อตนนั้นเป็นการอ้างลอยๆ ว่ามีชื่อ รมต.อยู่ในนั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่าหลังจากที่มีผู้เสียชีวิตได้พูดคุยกับส.ส.พรรคพลังประชาชนหรือไม่ นายทรงศักดิ์ กล่าวว่า ยังไม่มีการพูดคุยกันเลย เพราะไม่ทราบว่า ผู้เสียชีวิตอยู่ฝ่ายไหน เมื่อถามว่ามีข่าวว่า ตัวท่านเองคอยยืนบัญชาการอยู่ในนั้น นายทรงศักดิ์ กล่าวว่า ความจริงตนไม่ถนัดเรื่องอย่างนี้ โดยเฉพาะการที่จะไปบัญชาการทั้งหลาย ยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ นปช. ใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งหลังจากนี้ตนจะแจ้งให้นายกฯ ทราบว่าเป็นเพียงการกล่าวหากันลอยๆ ซึ่งตนว่าตอนนี้กำลังมีความพยายามที่จะหาเป้าบุคคลบางเป้า และหาสาเหตุจะมากล่าวหามากกว่าว่า ในการชุมนุมของนปช.มีคนของรัฐบาลเข้าไปเกี่ยวข้อง แต่ถ้าทางฝ่ายพันธมิตรฯบอกว่ามีหลักฐานก็ขอให้แสดงมา แต่อยากจะบอกว่า การชุมนุมของกลุ่มต่างๆทุกคนก็มีสิทธิที่จะรับฟังอะไรกันได้หมด

อ้างส.ส.พปช.ร่วมนปช.เป็นสิทธิ
ผู้สื่อข่าวถามว่าในฐานะประธานภาคอีสานจะมีการขอความร่วมมือไปยัง ส.ส.ภาคอีสานให้งดทำกิจกรรมต่างๆ เหล่านี้หรือไม่ นายทรงศักดิ์ กล่าวว่า มันเป็นสิทธิส่วนบุคคลในการที่จะชุมนุมหรือในการเข้าไปให้กำลัง หรือเข้าไปสังเกตุการณ์ แต่ถ้าจะเปรียบเทียบก็จะเห็นว่า ในวันที่มีเหตุการณ์ที่กลุ่มพันธมิตรฯก็จะเห็นภาพส.ส.ของพรรคการเมืองบางพรรคก็เข้าไปเหมือนกัน ซึ่งบางคนอยู่บนเวทีด้วย ไม่เห็นมีปัญหาอะไร แต่วันนี้กลับมีความพยายามชี้ให้เห็นว่ามีแกนนำรัฐบาล เข้าไปเกี่ยวข้อง ซึ่งตนว่าเป็นการแก้เกี้ยวกันมากกว่า
เมื่อถามว่า เป็นห่วงหรือไม่ว่าจะถูกกล่าวว่าพาประชาชนไปตาย นายทรงศักดิ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้เป็นแกนนำอะไร ตนไม่ใช่แกนนำอะไร

สมชายชี้พปช.ร่วมนปช.เป็นไปตามรธน.
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ศึกษาธิการ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน (พปช.) กล่าวว่าการที่แกนนำพรรคพลังประชาชนบางคนเข้าไปร่วมการชุมนุมกัน นปช.เป็นการไปชุมนุมตามรัฐธรรมนูญ สามารถดำเนินการได้ แต่ต้องปราศจากอาวุธ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะเกิดเหตุการณ์ไม่สงบ ซึ่งจะต้องมีการสอบสวนว่าใครกระทำผิดหรือไม่ โดยจะเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ในการดูแลทุกอย่าง แต่สิ่งสำคัญจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายหลังจากประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็จะทำให้สถานการณ์ดีขึ้น เพราะการออกกฎหมายก็เพื่อจะทำให้บ้านเมืองสงบ โดยให้ผู้ที่รับผิดชอบเป็นผู้ดำเนินการ

บรรหารโทษพันธมิตรฯไม่เคารพกม.
ด้านนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย เหตุการณ์ปะทะกันครั้งนี้ตนนึกถึงเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ซึ่งเป็นเครื่องเตือนสติว่าเหตุการณ์ครั้งนั้นเกิดขึ้นจากอะไร ตนคิดว่าการชุมนุมจะเป็นไปอย่างสันติ อหิงสา ไม่ไปรุกล้ำสถานที่ราชการ หรือไปทำลายข้าวของ แต่กลับบานปลายไปยึดทำเนียบฯ และยังใช้ตึกสันติไมตรีทำงาน รวมทั้งบุกไปยังสถานที่ราชการต่างๆ โดยเฉพาะการปิดสนามบิน ทำความเสียหายให้กับเศรษฐกิจของประเทศอย่างมหาศาล นอกจากนี้ยังเตรียมตัดน้ำตัดไฟกันอีก
เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ผมเสนอให้เปิดประชุมร่วมทั้ง 2 สภา เพื่อให้ทุกฝ่าย มาหารือร่วมกัน ซึ่งได้ข้อยุติระดับหนึ่ง แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์การปะทะของผู้ชุมนุมและเกิดการเสียชีวิตขึ้นจึงเป็นเหตุการณ์ที่เศร้าสลด ไม่น่ามีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น ทั้งนี้คิดว่ารัฐบาลก็ต้องการให้สถานการณ์คลี่คลายลง จึงได้ประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เพื่อไม่ให้มีการชุมนุมกันในเขตกทม.และคิดว่าคงเป็นความจำเป็นของรัฐบาล ซึ่งต่อจากนี้ขอให้เป็นอำนาจหน้าที่ของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ในฐานะประธานคณะกรรมการฯ ที่รักษาการ พ.ร.ก.ฉบับนี้จะทำอย่างไรกับการชุมนุม ความจริงหากเคารพกฏหมายก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าเราไม่เคารพ คนอื่นก็ไม่เคารพเรา ถ้าเอากฏหมู่ของคนหมู่มากมาเป็นที่ตั้งเหตุการณ์ก็จะเกิดขึ้น ปัญหาบ้านเมืองขณะนี้ เพราะว่าเราไม่เคารพกฎหมายซึ่งกันและกัน อย่างไรก็ตามพรรคชาติไทยก็จะต้องดูตุการร์ต่อไปว่าจะเป็นอย่างไรและจะทำอะไรได้

เชื่อผบ.ทบ.จัดการกลุ่มพันธมิตรฯ
ผู้สื่อข่าวถามว่าการเอา ผบ.ทบ.มาจัดการกับกลุ่มผู้ชุมนุมจะทำให้สถานการณ์ รุนแรงขึ้นหรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า ตอนนี้ตำรวจทำอะไรไม่ได้แล้ว ก่อนหน้านี้ตำรวจเคยเข้าไปคลี่คลายสถานการณ์ในทำเนียบฯแต่สุดท้ายก็ต้องสั่งให้ถอย ตำรวจก็คงลำบากใจ และคงไม่ทำแล้ว ฉะนั้นยามใดที่เกิดวิกฤติ ทหารก็ต้องออกมา
คิดว่า ผบ.ทบ.คงมีวิธีการดำเนินการ คิดว่าท่านก็คงอยากให้ผู้ชุมนุม ในทำเนียบฯออกมา แต่ไม่รู้ว่าท่านจะให้ออกได้อย่างไร เพราะตอนนี้ทำเนียบฯ เหม็นเน่าไปหมดแล้ว กี่สิบปีที่สร้างขึ้นมาไม่เคยเป็นแบบนี้ น่าสังเวช สนามหญ้า ที่เคยรับแขกต่างประเทศก็เสียหายไปหมด ทำให้เสียหายต่อภาพพจน์ของประเทศชาติ อันนี้ไม่ใช่การชุมนุมแบบสงบแล้ว ในเมื่อเกิดการปะทะกันก็หนีไม่พ้นการบาดเจ็บทั้ง 2 ฝ่าย ถ้าถอยเสียก็ไม่เป็นอะไร ผมก็ไม่ทราบว่าพูดไปเนี่ย จะถูกเล่นงานบนเวทีพันธมิตรฯหรือไม่ เคยพาดพิงเหมือนแถวจรัญฯ แต่ผมไม่กลัว อย่างไรก็ตามมีอะไรที่สามารถยุติกันได้ ผมก็พร้อมเป็นผู้เจรจาให้ บางทีอยากจะเข้าไปในทำเนียบแต่ก็กลัวว่าจะออกมาไม่ได้

ไม่เชื่อพปช.นำม็อบลุยพัฒธมิตรฯ
ส่วนที่คนของพรรคพลังประชาชนเกณฑ์มาชุมนุมเพื่อให้ปะทะเพื่อสร้างความรุนแรงนั้น นายบรรหาร กล่าวว่า มีจริงหรือ ใช่หรือไม่ ก็เห็นเขาปฏิเสธว่า ไม่ได้ไป เป็นการพูดไปเอง ฝ่ายค้านก็ตั้งข้อสังเกตได้ แต่มันต้องมีหลักฐาน จึงจะฟ้องร้องกันได้ ความจริงไม่อยากพูด อยากให้ไปคิดกันเอาเองว่า ลมหวนกลับ แต่ตนไม่พูดว่าคืออะไร
นายบรรหาร กล่าวถึงกรณีที่ กกต.มีมติยุบพรรคพลังประชาชนอาจจะทำให้สถานการณ์รุนแรงขึ้น ว่า ไม่เป็นไร เป็นไปตามระบบ เช่นเดียวกับพรรคชาติไทย มัชฌิมาฯ ซึ่งไม่น่าเป็นห่วงว่าผู้สนับสนุนพรรคพลังประชาชนจะออกมาเคลื่อนไหว เพราะพรรคพลังประชาชนได้ประกาศตั้งพรรคใหม่มารองรับไว้แล้ว

พชป.ยังมีหน้ามาแสดงความเสียใจ
ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง ส.ส.ศรีสะเกษ และโฆษกพรรคพลังประชาชน แถลง แสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตในเหตุปะทะกันเมื่อคืนวันที่ 1 ก.ย. ซึ่งฝ่ายสูญเสียเป็นกล่ม นปช. และไม่มีอาวุธป้องกันตัว อย่างไรก็ตาม พรรคยังยืนยันที่จะให้ยึดแนวทางแก้ไขโดยสันติวิธี ไม่ใช้ความรุนแรง
ส่วนการที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้พรรคประชาธิปัตย์ แถลงทำนองว่ารัฐบาลจงใจให้เกิดการปะทะและไม่ยอมรับวิธีการทำงานของพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ นั้น ถือเป็นการกล่าวให้ร้ายรัฐบาล ดังนั้นขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายหันมาสนใจ แก้ปัญหาเพื่อให้เกิดผลไปในทางที่ดีและสนับสนุนแนวทางที่สันติในการแก้ปัญหา

บ้านเมืองวิกฤติชัยยังดันถกงบฯ
นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา แถลงว่า เนื่องจากสถานการณ์ของบ้านเมืองปัจจุบัน รัฐบาลได้ประกาศพ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน อาจทำให้ส.ส. เข้าใจผิดว่าจะไม่มีการประชุมสภาผู้แทราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2552 ในวันที่ 3-4 ก.ย. ขอยืนยันว่ายังมีการประชุมตามปกติในวันดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่ารัฐสภาจะมาส่วนช่วยคลี่คลายวิกฤตของบ้านเมืองอย่างไร ประธานรัฐสภากล่าวว่า เป็นอำนาจของผบ.ทบ. , ผบ.ตร. และแม่ทัพภาคที่ 1 ที่จะแก้ปัญหาตามกฎหมาย และการประชุมร่วมของรัฐสภาได้พูดกันถึง 11 ชั่วโมงเต็มๆ รู้ว่าปัญหาต่างๆ คืออะไร เมื่อถามว่าผู้นำฝ่ายค้านเสนอให้นายกฯ ยุบสภา จะเป็นทางออก ได้หรือไม่ นายชัยกล่าวว่า ตอนนี้การยุบสภาคงไม่เกิดขึ้น เพราะความผิดของสภายังไม่มี การทะเลาะหรือขัดแย้งกันยังไม่มี ยังไม่มีเหตุผลที่ต้องยุบสภา เรื่องการยุบสภา เป็นแนวคิดของผู้นำฝ่ายค้าน แต่ส.ส.ยังไม่มีใครเห็นด้วย ส่วนส.ว.มีวาระอยู่ถึง 6 ปี แม้ยุบภสภาก็ไม่ได้รับผลกระทบ ไม่เดือดร้อน เพราะไม่ได้ไปยุบวุฒิสภาด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่านายกฯ ลาออกจะสามารถคลี่คลายสถานการณ์ของบ้านเมือง ได้หรือไม่ นายชัยกล่าวว่า เหตุการณ์มาถึงขนาดนี้นายกฯ คงไม่ลาออกแน่นอน เพราะต้องการแก้ไขปัญหาให้บ้านเมืองตามวิถีทางประชาธิปไตย โดยใช้ระบบ กฎหมายเป็นหลัก นายกฯ มอบหมายให้คณะกรรมการ 3 คน นำโดยผบ.ทบ. ที่ตั้งขึ้นแก้ไขปัญหาแล้ว ถ้า 3 คนนี้แก้ไขปัญหาไม่ได้ บ้านเมืองก็อยู่ไม่ได้แล้ว เพราะบ้านเมืองมีขื่อมีแป

ปธ.สภาไม่รู้คนพปช.หนุนหลังนปช.
ส่วนที่มีผู้เห็นเหตุการณ์ยืนยันว่านายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.คมนาคม และแกนนำพรรคพลังประชาชน อยู่ในเหตุการณ์การชุมนุมและอยู่เบื้องหลังการสั่งการให้เกิดการปะทะกัน นายชัย ปฏิเสธว่า ไม่ทราบ เมื่อถามว่ามีส.ส.พรรคพลังประชาชนหลายคนอยู่บนรถและสั่งการตอนม็อบ นปก.เคลื่อนจากสนามหลวงมายังสะพานมัฆวานรังสรรค์ นายชัยกล่าวว่า ในฐานะอยู่พรรคพลังประชาชนเพิ่งทราบข่าว แต่ยืนยันว่าแนวคิดของพรรคพลังประชาชนไม่มีนโยบายส่งเสริมให้ทะเลาะกัน ทั้งนี้ที่มีนักการเมืองไปหาผู้ชุมนุมก็หาเสียงกันทั้งนั้น ส.ว.หรือผู้นำฝ่ายค้าน ก็ไปเยี่ยมประชาชนในฐานะเป็นผู้แทนประชาชน
ผู้สื่อข่าวถามว่าส.ส.พรรคพลังประชาชนที่อยู่ในเหตุการณ์ปะทะกันอยู่ในสังกัดนายเนวิน ชิดชอบ บุตรชายของประธานัฐสภา นายชัยกล่าวว่า “เขาไม่รู้เรื่อง แกก็อยู่ของแก แกไม่ได้ยุ่ง แต่ใครๆ ก็อยู่สังกัดเนวินทั้งนั้น เพราะส.ส.อีสานปั้นข้าวเหนียวเหมือนกัน มีอะไรก็ช่วยเหลือกัน อย่าไปคิดว่าอะไรๆ ก็ นายเนวิน อย่าไปทำบาปทำกรรมกับแกเลย สงสารแกเถอะ ตอนนี้ก็อยู่กับภรรยาและลูกที่บ้านในเมืองไทย ไม่ได้อยู่อังกฤษ

นปช.ปักหลักชุมนุมไม่เลิก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มแกนนำ นปก. ซึ่งประกอบด้วย นายวีระ มุสิกพงศ์ , นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ , นายจตุพร พรหมพันธ์ และ ฯลฯ ที่ได้แจ้งไว้ล่วงหน้าว่า จะมีการเปิดตัวแถลงฟื้น นปก. อย่างเป็นทางการ เวลา 10.00 น. ในวันนี้ แต่ปรากฏว่า หลังจากที่มีการประกาศบังคับใช้ พรก.ฉุกเฉินฯ ก็ได้มีการแจ้งยกเลิกการแถลงดังกล่าวทันที
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชาชน ได้จัดเวทีปราศรัยต่อต้านพันธมิตรฯที่หน้าศาลากลางจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมเรียกร้องให้ นปก.มาร่วมกันชุมนุม
นอกจากนี้ที่ท้องสนามหลวงกลุ่ม นปก.ยังคงเปิดเวทีปราศรัยโจมตีกลุ่มพันธมิตรฯ โดยประกาศขีดเส้นตายให้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. บุกจับแกนนำพันธมิตรฯทั้ง 9 คน ในวันพรุ่งนี้ (3 ก.ย.)
กำลังโหลดความคิดเห็น