สำนักข่าวรอยเตอร์และเอเอฟพีรายงานว่า ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกขยับพรวดพราดคราวเดียวกว่า 5 ดอลลาร์ ขึ้นสู่ระดับเหนือ 121 ดอลลาร์เมื่อวันพฤหัสบดี (21) เป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบกว่า 2 เดือนที่ผ่านมา เนืองจากความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ กับรัสเซียยิ่งเขม็งเกลียวขึ้น กอปรกับการที่เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม พอถึงวานนี้(22) กลับมีแรงเทขายทำกำไร ทำให้ราคาถอยกลับลงมากว่า 2 ดอลลาร์
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของตลาดไนเม็กซ์แห่งนิวยอร์ก ปิดเมื่อวันพฤหัสบดี (21) เพิ่มขึ้น 5.62 ดอลลาร์หรือ 4.86% มาอยู่ที่ 121.18 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดเบรนต์ของลอนดอนไต่ขึ้นมา 5.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 120.16 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันขยับขึ้นพรวดพราดในวันพฤหัสบดี (21) หลังจากรัสเซีย ซึ่งเป็นประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก ประกาศกร้าวจะตอบโต้มากกว่าเพียงแค่การประท้วงทางการทูต จากกรณีที่สหรัฐฯและโปแลนด์ลงนามในข้อตกลงเบื้องต้น เพื่อจัดสร้างส่วนหนึ่งของระบบป้องกันขีปนาวุธของสหรัฐฯไว้ในพื้นที่ของโปแลนด์ ขณะที่ความขัดแย้งระหว่างจอร์เจียกับรัสเซียก็ยังไม่ได้คลี่คลาย
ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับชาติตะวันตกเริ่มตึงเครียดขึ้นทันที เมื่อกองทัพหมีขาวบุกเข้าไปขับไล่กองทัพจอร์เจียออกจากดินแดนเซาท์ออสซีเชีย อันเป็นแคว้นเล็กๆ ในจอร์เจียที่ฝักใฝ่รัสเซีย หลังจากกรุงทบิลิซิเปิดศึกขึ้นก่อนด้วยการพยายามใช้กำลังทหารเข้ายึดดินแดนดังกล่าว ที่ประกาศแยกตัวออกจากจอร์เจียในช่วงทศวรรษ 1990 การสู้รบอย่างนองเลือดระหว่างจอร์เจีย กับ รัสเซีย ส่งผลกระทบต่อท่อส่งน้ำมันสายสำคัญที่ตัดผ่านภูมิภาคแถบนี้ที่นำเอาทรัพยากรน้ำมันและก๊าซในแถบทะเลสาบแคสเปียน ไปสู่ยุโรปและสหรัฐฯ
สัมพันธภาพอันร้าวฉานระหว่างอเมริกันกับหมีขาว ยิ่งสอดรับกับปัจจัยต่าง ๆ ทางการเมืองที่ดันให้ราคาน้ำมันดีดกลับอีกครั้ง อาทิ ความขัดแย้งเรื่องโครงการนิวเคลียร์อิหร่านและการโจมตีโรงงานน้ำมันที่ไนจีเรีย นอกจากนี้ การที่เงินดอลลาร์กลับมาอ่อนค่าลงอีกครั้ง ก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ตลาดน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์คึกครื้นอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม พอถึงช่วงการซื้อขายในลอนดอนวานนี้ ราคาน้ำมันก็กลับดำดิ่งถอยลงมา เนื่องจากมีแรงเทขายทำกำไร โดยเมื่อเวลาประมาณ 21.00 น.เมืองไทย ไลต์สวีตครูดอยู่ที่ 118.74 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลงมา 2.44 ดอลลาร์ ส่วนเบรนต์อยู่ที่ 177.66 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ถอยลง 2.50 ดอลลาร์
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของตลาดไนเม็กซ์แห่งนิวยอร์ก ปิดเมื่อวันพฤหัสบดี (21) เพิ่มขึ้น 5.62 ดอลลาร์หรือ 4.86% มาอยู่ที่ 121.18 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดเบรนต์ของลอนดอนไต่ขึ้นมา 5.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 120.16 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันขยับขึ้นพรวดพราดในวันพฤหัสบดี (21) หลังจากรัสเซีย ซึ่งเป็นประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก ประกาศกร้าวจะตอบโต้มากกว่าเพียงแค่การประท้วงทางการทูต จากกรณีที่สหรัฐฯและโปแลนด์ลงนามในข้อตกลงเบื้องต้น เพื่อจัดสร้างส่วนหนึ่งของระบบป้องกันขีปนาวุธของสหรัฐฯไว้ในพื้นที่ของโปแลนด์ ขณะที่ความขัดแย้งระหว่างจอร์เจียกับรัสเซียก็ยังไม่ได้คลี่คลาย
ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับชาติตะวันตกเริ่มตึงเครียดขึ้นทันที เมื่อกองทัพหมีขาวบุกเข้าไปขับไล่กองทัพจอร์เจียออกจากดินแดนเซาท์ออสซีเชีย อันเป็นแคว้นเล็กๆ ในจอร์เจียที่ฝักใฝ่รัสเซีย หลังจากกรุงทบิลิซิเปิดศึกขึ้นก่อนด้วยการพยายามใช้กำลังทหารเข้ายึดดินแดนดังกล่าว ที่ประกาศแยกตัวออกจากจอร์เจียในช่วงทศวรรษ 1990 การสู้รบอย่างนองเลือดระหว่างจอร์เจีย กับ รัสเซีย ส่งผลกระทบต่อท่อส่งน้ำมันสายสำคัญที่ตัดผ่านภูมิภาคแถบนี้ที่นำเอาทรัพยากรน้ำมันและก๊าซในแถบทะเลสาบแคสเปียน ไปสู่ยุโรปและสหรัฐฯ
สัมพันธภาพอันร้าวฉานระหว่างอเมริกันกับหมีขาว ยิ่งสอดรับกับปัจจัยต่าง ๆ ทางการเมืองที่ดันให้ราคาน้ำมันดีดกลับอีกครั้ง อาทิ ความขัดแย้งเรื่องโครงการนิวเคลียร์อิหร่านและการโจมตีโรงงานน้ำมันที่ไนจีเรีย นอกจากนี้ การที่เงินดอลลาร์กลับมาอ่อนค่าลงอีกครั้ง ก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ตลาดน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์คึกครื้นอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม พอถึงช่วงการซื้อขายในลอนดอนวานนี้ ราคาน้ำมันก็กลับดำดิ่งถอยลงมา เนื่องจากมีแรงเทขายทำกำไร โดยเมื่อเวลาประมาณ 21.00 น.เมืองไทย ไลต์สวีตครูดอยู่ที่ 118.74 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลงมา 2.44 ดอลลาร์ ส่วนเบรนต์อยู่ที่ 177.66 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ถอยลง 2.50 ดอลลาร์
