เอเจนซี - ประธานาธิบดีดมิตรี เมดเวเดฟแห่งรัสเซียสั่งหยุดปฏิบัติการทางทหารในจอร์เจียเมื่อวันอังคาร (12) โดยระบุว่ารัสเซียบรรลุวัตถุประสงค์ในการผลักดันจอร์เจียแล้ว ขณะที่ประธานาธิบดีนิโกลาส์ ซาร์โกซีแห่งฝรั่งเศสเดินทางถึงกรุงมอสโกและเปิดการเจรจาตามแผนการสันติภาพของนานาชาติ
"ผมคิดว่าสิ่งที่ได้ยืนยันไปแล้วเป็นข่าวดี" ซาร์โกซีระบุ "ขณะนี้การหยุดยิงได้เป็นรูปเป็นร่างขึ้นแล้ว เราจะต้องร่างกำหนดการต่างๆ โดยเร็วเพื่อให้แต่ละฝ่ายกลับไปอยู่ในจุดเดิมก่อนที่จะเกิดปัญหาขัดแย้งกันขึ้น"
ทั้งนี้ เมดเวเดฟตั้งเงื่อนไข 2 ข้อก่อนยุติความขัดแย้งเต็มรูป กล่าวคือ กองกำลังของจอร์เจียจะต้องถอนกลับไปยังตำแหน่งที่ประจำการอยู่เดิม และต้องปลดอาวุธบางส่วน และจะต้องมีการลงนามในข้อตกลงผูกพันว่าจะไม่ใช้กำลัง
แม้ว่าจะยังไม่แน่ชัดว่าจอร์เจียจะตกลงตามเงื่อนไขทั้งสองนี้หรือไม่ก็ตาม แต่ลาโด กุร์เกนิดเซ นายกรัฐมนตรีของจอร์เจีย บอกว่า เขาต้องการหลักฐานแน่ชัดว่ารัสเซียหยุดยิงจริง และจอร์เจียจะยังคงเตรียมพร้อมรับสถานการณ์จนกว่ารัสเซียจะลงนามในข้อตกลงสันติภาพอย่างเป็นทางการ
ทั้งนี้ ก่อนที่ซาร์โกซีจะเดินทางถึงมอสโก เมดเวเดฟได้แถลงผ่านทางสถานีโทรทัศน์ว่า "ปฏิบัติการของเราบรรลุเป้าหมายแล้ว" และ "ผู้รุกรานถูกลงโทษและได้รับความเสียหายหนักมาก"
เขายังได้สั่งการให้อนาโตลี เซอร์ดยูคอฟ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม หยุดปฏิบัติการกดดันรัฐบาลจอร์เจีย ปรากฏว่าหลังข่าวนี้แพร่ออกไป ตลาดการเงินรัสเซียขานรับด้วยการที่เงินรูเบิลปรับตัวแข็งค่าขึ้น พร้อมกับที่ดัชนีหุ้นก็ปรับสูงขึ้นท่ามกลางความโล่งอกของนักลงทุน
ทว่า เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซีย กล่าวก่อนหน้านี้ว่า มอสโกไม่อาจตกลงตามแผนการดังกล่าว หากมีการรวมเอาจอร์เจียไว้ในกองกำลังรักษาสันติภาพทำหน้าที่ดูแลแคว้นเซาท์ออสซีเชีย เพราะจอร์เจียเป็นฝ่ายโจมตีเพื่อนชาวรัสเซียในระหว่างที่ใช้กำลังเข้ายึดครองแคว้นดังกล่าว
"พวกเขาไม่สามารถอยู่ที่นั่นได้อีกต่อไป เพราะพวกกองกำลังรักษาสันติภาพทำขายหน้าเสียเองด้วยการก่ออาชญากรรม" ลาฟรอฟแถลง
ส่วนในจอร์เจีย มีรายงานว่า กองกำลังของรัสเซียได้เข้าโจมตีเป้าหมายทั้งภายในและนอกเขตเมืองโกรีวานนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 คน และมีการต่อสู้กันประปรายตลอดแนวรบแต่ไม่มีการโจมตีอย่างหนักจากทั้ง 2 ฝ่ายตลอดคืนวันจันทร์
นอกจากนั้น ที่อับฮาเซีย อันเป็นอีกแคว้นหนึ่งที่ประกาศแยกตัวเป็นอิสระจากจอร์เจีย เซอร์ไก แชมบา รัฐมนตรีต่างประเทศของดินแดนแห่งนี้ บอกว่า วานนี้อับฮาเซียได้เปิดฉากผลักดันกองกำลังของจอร์เจียออกไปจากช่องเขาโคโดรี ซึ่งอยู่ภายใต้การยึดครองของจอร์เจีย
ขณะเดียวกันกำลังทหารของรัสเซียส่วนใหญ่ก็ยังประจำอยู่ในเซาท์ออสซีเชียและอับฮาเซียตลอดคืน โดยไม่ได้รุกคืบเข้าไปในจอร์เจียมากขึ้น แต่ทางการจอร์เจียระบุในเย็นวันจันทร์ว่า มอสโกได้เข้ายึดเมืองโกรีและกำลังแบ่งประเทศออกเป็น 2 ส่วน อีกทั้งยังมุ่งหน้าเข้าสู่กรุงทบิลิซิเพื่อโค่นล้มรัฐบาลของประธานาธิบดีซาคาชวิลี
อันที่จริง ความหวั่นเกรงว่ารัสเซียอาจบุกจอร์เจียได้บรรเทาลงไปเมื่อกำลังทหารของรัสเซียได้ถอนกำลังออกจากเมืองเซนากิของจอร์เจีย ซึ่งอยู่ทางตะวันออกของอับฮาเซีย โดยระบุว่ารัสเซียได้บรรลุวัตถุประสงค์ด้านการทหารแล้ว
**ความสัมพันธ์โลกตะวันตกเขม็งเกลียว**
ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ของสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า รัสเซียได้ละเมิดอธิปไตยของประเทศเพื่อนบ้าน และคุกคามรัฐบาลประชาธิปไตย บุชยังได้บอกให้รัสเซียยุติปฏิบัติการทางทหารและยอมรับข้อตกลงสันติภาพ โดยย้ำว่าการกระทำของรัสเซียนั้นสุ่มเสี่ยงที่จะกระทบถึงความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ และยุโรป
ทั้งนี้ จอร์เจียเป็นศูนย์สำคัญในการขนส่งน้ำมันและก๊าซจากทะเลสาบแคสเปียนไปยังโลกตะวันตก โดยที่มีทั้งสายท่อส่งน้ำมันและก๊าซพาดผ่าน ตลอดจนมีเมืองท่าในการขนสินค้าโภคภัณฑ์สำคัญนี้ การสู้รบจึงทำให้ตลาดน้ำมันจับตาด้วยความหวั่นไหว แม้ว่าตัวท่อขนส่งน้ำมันจะไม่ได้รับความเสียหาย อีกทั้งนักลงทุนรัสเซียต่างตื่นตระหนกจนค่าเงินรูเบิลรวมทั้งดัชนีตลาดหุ้นรัสเซียทรุดดิ่ง
หนำซ้ำ รัสเซียยังบอกปัดการประกาศหยุดยิงของจอร์เจียในวันจันทร์ โดยกล่าวว่า จอร์เจียยังไม่ได้หยุดยิง และจอร์เจียจะต้องให้คำมั่นว่าจะไม่ส่งกองกำลังเข้าไปในเซาท์ออสซีเชียอีก
นายกรัฐมนตรีวลาดิมีร์ ปูตินแห่งรัสเซีย ก็กล่าวหาจอร์เจียว่า เป็นผู้เริ่มต้นการสู้รบ และปูตินก็ยังโจมตีสหรัฐฯ ที่เข้าข้างจอร์เจียอีกด้วย
ส่วนจอร์เจียก็ได้ร้องขอให้สหประชาชาติส่งกองกำลังรักษาสันติภาพเข้าแทรกแซงเพื่อยุติความขัดแย้งกับรัสเซีย และระบุในช่วงเย็นวันจันทร์ว่า กองกำลังของจอร์เจียนั้นได้ถอนกลับออกมาเพื่อคุ้มกันกรุงทบิลิซิอันเป็นเมืองหลวง ซากาววิลิยังบอกด้วยว่ารัสเซียควรรู้ด้วยว่า "จอร์เจียจะไม่ยอมจำนน"
