ซีพี-เมจิ เร่งสร้างเซกเมนต์ "ฟังก์ชันนัล มิลค์" ชูความต่างถล่มตลาดคัพโยเกิร์ต - นมเปรี้ยวพร้อมดื่ม ส่งซีรี่ส์ 3 "เมจิ บิวติ มิราเกิล" ทะลวงผู้หญิงรักสุขภาพและความงาม พร้อมปรับการสื่อสารใหม่ ดึง แจ็ค AF 4 ขึ้นแท่นแอมบาสเดอร์ หวังลบภาพลักษณ์นมครอบครัวสู่คนรุ่นใหม่ สิ้นปีขึ้นเบอร์ 2 ในตลาดคัพ โยเกิร์ต แทนที่โฟร์โมตส์ ครองแชร์ 17% ส่วนนมเปรี้ยวแชร์ขยับจาก 7% เป็น 15%
นายไพศาล จงบัญญัติเจริญ กรรมการผู้จัดการบริษัท ซีพี-เมจิ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมพร้อมดื่มตราเมจิ เปิดเผยว่า หลังจากได้ยื่นกรมการค้าภายใน เพื่อขอปรับราคาสินค้ากลุ่มพาสเจอร์ไรซ์ขึ้นเมื่อ 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้น้ำนมดิบปรับเพิ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม ที่ผ่านมา ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตเพิ่ม 24% ที่ผ่านมาบริษัทไม่อยากปรับราคาเท่าไร แต่เพราะต้นทุนพุ่งไม่ปรับก็อยู่ลำบาก และการปรับราคาขึ้นยอดขายก็ลดลง 8% ในช่วง 1 เดือน หลังจากนั้นผู้บริโภคจะกลับมาซื้อสินค้าตามปกติ
ล่าสุดบริษัทได้เปิดตัวกลุ่มนมเปรี้ยวพร้อมดื่ม-คัพ โยเกิร์ต เป็นสินค้าในกลุ่มเมจิ บิวติ ซีรีส์ เพื่อสร้างเซกเมนต์ฟังก์ชันนัล มิลค์ โดยใช้กลยุทธ์น่านน้ำสีคราม (Blue Ocean Strategy) ในการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ฉีกแนวออกจากคู่แข่งขัน โดยจะไม่เน้นการออกรสชาติผลไม้เหมือนในอดีต แต่จะเน้นการออกผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มคุณค่าทางสารอาหารเพื่อความงาม เจาะกลุ่มเป้าหมายที่รักสุขภาพและความงามโดยเฉพาะ เพื่อสร้างความแตกต่างจากสินค้าคู่แข่งที่อยู่ในตลาด
ทั้งนี้บริษัทได้แตกซีรี่ส์ที่ 3 เปิดตัว "เมจิ บิวติ มิราเกิล" ออกสู่ตลาดเพื่อปลุกกระแสสุขภาพและความงามในครึ่งปีหลัง เนื่องจากพบว่าพฤติกรรมของกลุ่มผู้หญิง ที่ซื้อโยเกิร์ตต้องการสินค้าที่ตอบสนองด้านความสวยความงาม หลังจากก่อนหน้านี้ได้เปิดตัวเมจิ บิวติ ดีโทซี่ และเมจิ บิวติ ไบรตต์ ขณะที่ปลายปีนี่จะเปิดตัวสินค้าใหม่เพิ่มโดยชูจุดเด่นผสมกับวิตามิน ทั้งนี้บริษัทได้ทุ่มงบ 50 ล้านบาท สำหรับการเปิดตัวเมจิ บิวติ มิราเกิล และปรับการสื่อสารใหม่ โดยเน้นสื่อสารคนรุ่นใหม่มากขึ้น จากเดิมภาพลักษณ์เป็นนมสำหรับครอบครัว
พร้อมกันนี้ได้เปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์คนแรกของเมจิ แจ็ค- เมธัส ตรีรัตนวารีสิน (แจ็ค AF 4) โดยการส่งภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ "ผู้หญิงในฝันของแจ็ค" เพื่อตอกย้ำการรับรู้ในกลุ่มผู้บริโภค เน้นแนวคิดเกี่ยวกับ "ความสวยจากภายในสู่ภายนอก" โดยใช้สื่อโฆษณาโทรทัศน์ การจัดกิจกรรมในรูปแบบ Movie Preview ให้สิทธิพิเศษแก่ลูกค้าของซีพี-เมจิ ได้ชมภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์แบบเหมารอบเหมาโรง รวมถึงการจัดกิจกรรมโรดโชว์นำขบวน troop เพื่อให้เข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายโดยตรง
นายไพศาล กล่าวว่า จากการเปิดตัวสินค้าใหม่เมจิ บิวติซีรี่ส์ คาดว่าจะผลักดันคัพ โยเกิร์ต มีส่วนแบ่งเพิ่มจาก 10% เป็น 17% ขึ้นจากอันดับ 3 เป็นอันดับ 2 แทนที่โฟร์โมต์ซึ่งมีส่วนแบ่งกว่า 10% ส่วนดัชมิลล์ 60% จากตลาดมูลค่า 2,500 ล้านบาท เติบโต 20% ทุกปี ส่วนนมเปรี้ยวพร้อมดื่ม เป็นอันดับ 2 ของตลาด คาดว่ามีส่วนแบ่งเพิ่มจาก7-8% เป็น 15% จากตลาดมูลค่า 1,500 ล้านบาท ซึ่งปีนี้ตลาดมีอัตราการเติบโต 14% จากการมีผู้ประกอบการรายใหม่เข้ามาทำตลาด เมื่อเทียบกับช่วงที่ผ่านมาตลาดไม่เติบโต
ส่วนตลาดพาสเจอร์ไรซ์มูลค่า 3,500 ล้านบาท ปีนี้ตลาดโต 12% เมจิ เป็นผู้นำตลาดปีนี้ตั้งเป้าโต 15% ครองส่วนแบ่ง 51% และจากการดำเนินการตลาดในเชิงรุกปีนี้ ผลักดันให้มีการเติบโต 20% หรือรายได้เพิ่มจาก 3,000 ล้านบาท เป็น 3,600 ล้านบาท แบ่งเป็น รายได้ พาสเจอร์ไรซ์ 1,600 ล้านบาท ตามด้วยไทเก้น คัพ โยเกิร์ต และนมเปรี้ยวพร้อมดื่ม
นายไพศาล จงบัญญัติเจริญ กรรมการผู้จัดการบริษัท ซีพี-เมจิ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมพร้อมดื่มตราเมจิ เปิดเผยว่า หลังจากได้ยื่นกรมการค้าภายใน เพื่อขอปรับราคาสินค้ากลุ่มพาสเจอร์ไรซ์ขึ้นเมื่อ 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้น้ำนมดิบปรับเพิ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม ที่ผ่านมา ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตเพิ่ม 24% ที่ผ่านมาบริษัทไม่อยากปรับราคาเท่าไร แต่เพราะต้นทุนพุ่งไม่ปรับก็อยู่ลำบาก และการปรับราคาขึ้นยอดขายก็ลดลง 8% ในช่วง 1 เดือน หลังจากนั้นผู้บริโภคจะกลับมาซื้อสินค้าตามปกติ
ล่าสุดบริษัทได้เปิดตัวกลุ่มนมเปรี้ยวพร้อมดื่ม-คัพ โยเกิร์ต เป็นสินค้าในกลุ่มเมจิ บิวติ ซีรีส์ เพื่อสร้างเซกเมนต์ฟังก์ชันนัล มิลค์ โดยใช้กลยุทธ์น่านน้ำสีคราม (Blue Ocean Strategy) ในการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ฉีกแนวออกจากคู่แข่งขัน โดยจะไม่เน้นการออกรสชาติผลไม้เหมือนในอดีต แต่จะเน้นการออกผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มคุณค่าทางสารอาหารเพื่อความงาม เจาะกลุ่มเป้าหมายที่รักสุขภาพและความงามโดยเฉพาะ เพื่อสร้างความแตกต่างจากสินค้าคู่แข่งที่อยู่ในตลาด
ทั้งนี้บริษัทได้แตกซีรี่ส์ที่ 3 เปิดตัว "เมจิ บิวติ มิราเกิล" ออกสู่ตลาดเพื่อปลุกกระแสสุขภาพและความงามในครึ่งปีหลัง เนื่องจากพบว่าพฤติกรรมของกลุ่มผู้หญิง ที่ซื้อโยเกิร์ตต้องการสินค้าที่ตอบสนองด้านความสวยความงาม หลังจากก่อนหน้านี้ได้เปิดตัวเมจิ บิวติ ดีโทซี่ และเมจิ บิวติ ไบรตต์ ขณะที่ปลายปีนี่จะเปิดตัวสินค้าใหม่เพิ่มโดยชูจุดเด่นผสมกับวิตามิน ทั้งนี้บริษัทได้ทุ่มงบ 50 ล้านบาท สำหรับการเปิดตัวเมจิ บิวติ มิราเกิล และปรับการสื่อสารใหม่ โดยเน้นสื่อสารคนรุ่นใหม่มากขึ้น จากเดิมภาพลักษณ์เป็นนมสำหรับครอบครัว
พร้อมกันนี้ได้เปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์คนแรกของเมจิ แจ็ค- เมธัส ตรีรัตนวารีสิน (แจ็ค AF 4) โดยการส่งภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ "ผู้หญิงในฝันของแจ็ค" เพื่อตอกย้ำการรับรู้ในกลุ่มผู้บริโภค เน้นแนวคิดเกี่ยวกับ "ความสวยจากภายในสู่ภายนอก" โดยใช้สื่อโฆษณาโทรทัศน์ การจัดกิจกรรมในรูปแบบ Movie Preview ให้สิทธิพิเศษแก่ลูกค้าของซีพี-เมจิ ได้ชมภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์แบบเหมารอบเหมาโรง รวมถึงการจัดกิจกรรมโรดโชว์นำขบวน troop เพื่อให้เข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายโดยตรง
นายไพศาล กล่าวว่า จากการเปิดตัวสินค้าใหม่เมจิ บิวติซีรี่ส์ คาดว่าจะผลักดันคัพ โยเกิร์ต มีส่วนแบ่งเพิ่มจาก 10% เป็น 17% ขึ้นจากอันดับ 3 เป็นอันดับ 2 แทนที่โฟร์โมต์ซึ่งมีส่วนแบ่งกว่า 10% ส่วนดัชมิลล์ 60% จากตลาดมูลค่า 2,500 ล้านบาท เติบโต 20% ทุกปี ส่วนนมเปรี้ยวพร้อมดื่ม เป็นอันดับ 2 ของตลาด คาดว่ามีส่วนแบ่งเพิ่มจาก7-8% เป็น 15% จากตลาดมูลค่า 1,500 ล้านบาท ซึ่งปีนี้ตลาดมีอัตราการเติบโต 14% จากการมีผู้ประกอบการรายใหม่เข้ามาทำตลาด เมื่อเทียบกับช่วงที่ผ่านมาตลาดไม่เติบโต
ส่วนตลาดพาสเจอร์ไรซ์มูลค่า 3,500 ล้านบาท ปีนี้ตลาดโต 12% เมจิ เป็นผู้นำตลาดปีนี้ตั้งเป้าโต 15% ครองส่วนแบ่ง 51% และจากการดำเนินการตลาดในเชิงรุกปีนี้ ผลักดันให้มีการเติบโต 20% หรือรายได้เพิ่มจาก 3,000 ล้านบาท เป็น 3,600 ล้านบาท แบ่งเป็น รายได้ พาสเจอร์ไรซ์ 1,600 ล้านบาท ตามด้วยไทเก้น คัพ โยเกิร์ต และนมเปรี้ยวพร้อมดื่ม