ผมคิดว่าอดีตนายกฯ ทักษิณ ณ วันนี้ เมื่ออยู่ห่างไกลจากเมืองไทย และต้องมาจากสถานการณ์ต่างๆ ที่ทำให้ต้องคิดมาก
เขาคงมีเวลานั่งคิดนอนคิดถึงชะตากรรมที่ผ่านมา
และคงคิดถึงความอยุติธรรมที่เขาได้รับจนหมดทางต่อสู้ หาที่พึ่งไม่ได้
วันนี้ของเขาไม่เหมือนวันที่เขาได้อำนาจ ที่ครั้งหนึ่งเขามีทั้งเงินทอง บารมี คน และลูกน้องล้อมหน้าล้อมหลัง ไปที่ไหนประชาชนแซ่ซ้องเหมือนนักบุญมาโปรดคนยากคนจน
เขามีอิทธิพลมากที่สุด มีพรรคการเมืองที่ได้รับเลือกตั้งเข้ามาครองที่นั่งในสภามากเป็นประวัติการณ์ ในประวัติศาสตร์การเมืองไทย
นโยบายประชานิยมของเขาก็หยั่งรากลึกลงไปในชนบทจนยากที่พรรคการเมืองใดจะถอนรากถอนโคนได้ แม้กระทั่งในปัจจุบัน
เขาทำคุณให้กับเด็กและเยาวชนด้อยโอกาสได้เดินทางไปเรียนในต่างประเทศไกลถึงยุโรป ด้วยทุนที่รัฐบาลได้มาจากสลากกินแบ่งฯ และทั่วประเทศมีโครงการผลิตภัณฑ์พื้นบ้านออกขายที่รู้จักกันในนามสินค้าโอทอป
เขาคงภูมิใจในสิ่งต่างๆ ที่ได้ทำมาเหล่านี้
และไม่เข้าใจว่า ทำไมเขาจึงต้องอัปเปหิตัวเองโดยหนีคดีความออกมาอยู่ในอังกฤษเช่นนี้
ทั้งๆ ที่เขาเชื่อว่า เขาไม่ได้ทำอะไรผิดมากมาย
เขาเคยบอกกล่าว รวมทั้งเขียนว่า แม้ว่าเขาอาจไม่ได้ดีหมด แต่ก็ไม่ใช่คนเลว
ความจริงถ้าเขาย้อนมองไปในประวัติศาสตร์เสียบ้าง และอ่านหนังสือเสียหน่อย
เขาจะรู้ว่า
เขาไม่ใช่คนแรกเลยที่ลี้ภัย
มีบุคคลสำคัญ และสำคัญกว่าเขาที่ต้องชะตากรรมลี้ภัยจากอันตรายมากกว่าเขาเสียอีกไปอยู่ในต่างประเทศ และจบชีวิตในต่างประเทศ
คนหนึ่งเคยเป็นถึงผู้สำเร็จราชการแผ่นดินและเป็นรัฐบุรุษ มีคนเคารพนับถือมากกว่าเขาเสียอีก
เป็นรัฐบุรุษคนแรกของชาติ เป็นมันสมองให้กับคณะราษฎร์ในการปฏิวัติ 2475
รัฐบุรุษปรีดี พนมยงค์ ครับ
ท่านต้องลี้ภัยไปอยู่ประเทศจีนหลายปี กระทั่งย้ายมาอยู่ฝรั่งเศสในบั้นปลายชีวิต
ที่ฝรั่งเศสมีหลายคนเดินทางไปพบท่านรวมทั้งตัวกระผม ก็ไปพบพร้อมบิดา ในฐานะที่ท่านเป็นเจ้าภาพแต่งงานให้บิดามารดาผมที่หอประชุมธรรมศาสตร์ และท่านกับบิดาผมก็เผชิญชะตากรรมก่อกบถวังหลวงด้วยกัน จนเกือบทำให้บิดาผมต้องหนีไปอยู่ที่จีนกับท่านด้วยซ้ำไป
รัฐบุรุษปรีดี พนมยงค์นั้นอยู่เหนือกาลเวลา และเมื่อมีสถานะเช่นนี้ ย่อมอยู่ห่างไกลจนไม่อาจนำท่านมาเปรียบได้กับอดีตนายกฯ ทักษิณ
เพราะห่างกันหลายชั้น
ก็อยากให้ทักษิณ ชินวัตร ผู้มั่งคั่ง ได้คิดสักหน่อยว่า การลี้ภัยของท่านนั้นมีบุคคลที่สำคัญเหนือชั้นกว่าท่านเลยลี้ภัยมายาวนานกว่า และถึงแก่อสัญกรรมในต่างประเทศด้วยซ้ำไป
อีกท่านหนึ่งซึ่งอดีตนายกฯ ทักษิณ น่าจะรู้จักก็คือ ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ ไงครับ
ท่านต้องลี้ภัยหลังเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519
เพราะถูกคุกคามด้วยชีวิต
ก่อนออกจากสนามบิน ท่านยังโดนนายตำรวจนายหนึ่งตบหน้าอย่างแรง
ชีวิตของ ดร.ป๋วยนั้น ทำคุณงามความดีให้กับชาติบ้านเมืองมายาวนาน และแน่นอนว่ามากกว่าอดีตนายกฯ ทักษิณ ไม่ว่าทำให้ชาวชนบทยากจนหรือช่วยด้านเศรษฐกิจให้กับชาติบ้านเมือง
ข้อแตกต่างที่เห็นชัด คือท่านไม่โกงกิน ไม่ฝักใฝ่ในอำนาจ
มันหน้ามือเป็นหลังมือ เทียบกับคุณทักษิณ ชินวัตร มิใช่หรือ
ขณะที่คุณทักษิณ คุณมีลูกน้องคอยสอพลอ และมี ส.ส.คอยล้อมหน้าล้อมหลัง และคุณมีบารมีที่มาจากเงินทุน
ดร.ป๋วยมีแต่ลูกศิษย์มีแต่คนยากคนจนในชนบท และผู้คนที่ศรัทธาโดยที่ท่านไม่เคยรู้จัก และท่านมีคนต่างประเทศให้รางวัลที่ยิ่งใหญ่กว่าเงินตรา
ในบั้นปลายของชีวิต ท่านใช้ชีวิตด้วยความสงบ
ไม่ได้เดินใช้จ่ายหรือชอปปิ้งตามห้างสรรพสินค้าที่ลอนดอนแบบคุณทักษิณ
ไม่ได้บริหารสโมสรเรือใบสีฟ้าเป็นงานอดิเรก และเพื่อหากำไรจากนักฟุตบอลอาชีพแต่ประการใด
ที่ผมต้องเขียนเรื่องนี้ก็เพราะต้องการเรียกความทรงจำที่ดีกลับมาให้คนไทยที่ได้อ่านเรื่องราวของผมได้ระลึกถึงรัฐบุรุษคนแรกอย่างอาจารย์ปรีดี ซึ่งคนไทยควรจดจำไว้ตลอดไป
และได้ยกย่องคำนึงถึงพระคุณตลอดจนคุณธรรมอันสูงส่งและผลงานของ ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ที่ใสสะอาด ไม่เคยคอร์รัปชันโกงกินบ้านเมือง
ทั้ง 2 ท่านใช้ชีวิตที่ต้องลี้ภัย
แต่ลี้ภัยอย่างมีเกียรติยศและทั้ง 2 ท่านเป็นบุคคลที่คนไทยทุกคนภูมิใจเสมอในฐานะบุคคลตัวอย่างที่กราบไหว้โดยไม่ต้องอายใคร
ส่วนคุณทักษิณ ชินวัตร นั้น ท่านเป็นเสี้ยวหนึ่งของประวัติศาสตร์ เป็นแค่หยดน้ำหยดหนึ่งในมหาสมุทรเท่านั้น
เขาคงมีเวลานั่งคิดนอนคิดถึงชะตากรรมที่ผ่านมา
และคงคิดถึงความอยุติธรรมที่เขาได้รับจนหมดทางต่อสู้ หาที่พึ่งไม่ได้
วันนี้ของเขาไม่เหมือนวันที่เขาได้อำนาจ ที่ครั้งหนึ่งเขามีทั้งเงินทอง บารมี คน และลูกน้องล้อมหน้าล้อมหลัง ไปที่ไหนประชาชนแซ่ซ้องเหมือนนักบุญมาโปรดคนยากคนจน
เขามีอิทธิพลมากที่สุด มีพรรคการเมืองที่ได้รับเลือกตั้งเข้ามาครองที่นั่งในสภามากเป็นประวัติการณ์ ในประวัติศาสตร์การเมืองไทย
นโยบายประชานิยมของเขาก็หยั่งรากลึกลงไปในชนบทจนยากที่พรรคการเมืองใดจะถอนรากถอนโคนได้ แม้กระทั่งในปัจจุบัน
เขาทำคุณให้กับเด็กและเยาวชนด้อยโอกาสได้เดินทางไปเรียนในต่างประเทศไกลถึงยุโรป ด้วยทุนที่รัฐบาลได้มาจากสลากกินแบ่งฯ และทั่วประเทศมีโครงการผลิตภัณฑ์พื้นบ้านออกขายที่รู้จักกันในนามสินค้าโอทอป
เขาคงภูมิใจในสิ่งต่างๆ ที่ได้ทำมาเหล่านี้
และไม่เข้าใจว่า ทำไมเขาจึงต้องอัปเปหิตัวเองโดยหนีคดีความออกมาอยู่ในอังกฤษเช่นนี้
ทั้งๆ ที่เขาเชื่อว่า เขาไม่ได้ทำอะไรผิดมากมาย
เขาเคยบอกกล่าว รวมทั้งเขียนว่า แม้ว่าเขาอาจไม่ได้ดีหมด แต่ก็ไม่ใช่คนเลว
ความจริงถ้าเขาย้อนมองไปในประวัติศาสตร์เสียบ้าง และอ่านหนังสือเสียหน่อย
เขาจะรู้ว่า
เขาไม่ใช่คนแรกเลยที่ลี้ภัย
มีบุคคลสำคัญ และสำคัญกว่าเขาที่ต้องชะตากรรมลี้ภัยจากอันตรายมากกว่าเขาเสียอีกไปอยู่ในต่างประเทศ และจบชีวิตในต่างประเทศ
คนหนึ่งเคยเป็นถึงผู้สำเร็จราชการแผ่นดินและเป็นรัฐบุรุษ มีคนเคารพนับถือมากกว่าเขาเสียอีก
เป็นรัฐบุรุษคนแรกของชาติ เป็นมันสมองให้กับคณะราษฎร์ในการปฏิวัติ 2475
รัฐบุรุษปรีดี พนมยงค์ ครับ
ท่านต้องลี้ภัยไปอยู่ประเทศจีนหลายปี กระทั่งย้ายมาอยู่ฝรั่งเศสในบั้นปลายชีวิต
ที่ฝรั่งเศสมีหลายคนเดินทางไปพบท่านรวมทั้งตัวกระผม ก็ไปพบพร้อมบิดา ในฐานะที่ท่านเป็นเจ้าภาพแต่งงานให้บิดามารดาผมที่หอประชุมธรรมศาสตร์ และท่านกับบิดาผมก็เผชิญชะตากรรมก่อกบถวังหลวงด้วยกัน จนเกือบทำให้บิดาผมต้องหนีไปอยู่ที่จีนกับท่านด้วยซ้ำไป
รัฐบุรุษปรีดี พนมยงค์นั้นอยู่เหนือกาลเวลา และเมื่อมีสถานะเช่นนี้ ย่อมอยู่ห่างไกลจนไม่อาจนำท่านมาเปรียบได้กับอดีตนายกฯ ทักษิณ
เพราะห่างกันหลายชั้น
ก็อยากให้ทักษิณ ชินวัตร ผู้มั่งคั่ง ได้คิดสักหน่อยว่า การลี้ภัยของท่านนั้นมีบุคคลที่สำคัญเหนือชั้นกว่าท่านเลยลี้ภัยมายาวนานกว่า และถึงแก่อสัญกรรมในต่างประเทศด้วยซ้ำไป
อีกท่านหนึ่งซึ่งอดีตนายกฯ ทักษิณ น่าจะรู้จักก็คือ ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ ไงครับ
ท่านต้องลี้ภัยหลังเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519
เพราะถูกคุกคามด้วยชีวิต
ก่อนออกจากสนามบิน ท่านยังโดนนายตำรวจนายหนึ่งตบหน้าอย่างแรง
ชีวิตของ ดร.ป๋วยนั้น ทำคุณงามความดีให้กับชาติบ้านเมืองมายาวนาน และแน่นอนว่ามากกว่าอดีตนายกฯ ทักษิณ ไม่ว่าทำให้ชาวชนบทยากจนหรือช่วยด้านเศรษฐกิจให้กับชาติบ้านเมือง
ข้อแตกต่างที่เห็นชัด คือท่านไม่โกงกิน ไม่ฝักใฝ่ในอำนาจ
มันหน้ามือเป็นหลังมือ เทียบกับคุณทักษิณ ชินวัตร มิใช่หรือ
ขณะที่คุณทักษิณ คุณมีลูกน้องคอยสอพลอ และมี ส.ส.คอยล้อมหน้าล้อมหลัง และคุณมีบารมีที่มาจากเงินทุน
ดร.ป๋วยมีแต่ลูกศิษย์มีแต่คนยากคนจนในชนบท และผู้คนที่ศรัทธาโดยที่ท่านไม่เคยรู้จัก และท่านมีคนต่างประเทศให้รางวัลที่ยิ่งใหญ่กว่าเงินตรา
ในบั้นปลายของชีวิต ท่านใช้ชีวิตด้วยความสงบ
ไม่ได้เดินใช้จ่ายหรือชอปปิ้งตามห้างสรรพสินค้าที่ลอนดอนแบบคุณทักษิณ
ไม่ได้บริหารสโมสรเรือใบสีฟ้าเป็นงานอดิเรก และเพื่อหากำไรจากนักฟุตบอลอาชีพแต่ประการใด
ที่ผมต้องเขียนเรื่องนี้ก็เพราะต้องการเรียกความทรงจำที่ดีกลับมาให้คนไทยที่ได้อ่านเรื่องราวของผมได้ระลึกถึงรัฐบุรุษคนแรกอย่างอาจารย์ปรีดี ซึ่งคนไทยควรจดจำไว้ตลอดไป
และได้ยกย่องคำนึงถึงพระคุณตลอดจนคุณธรรมอันสูงส่งและผลงานของ ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ที่ใสสะอาด ไม่เคยคอร์รัปชันโกงกินบ้านเมือง
ทั้ง 2 ท่านใช้ชีวิตที่ต้องลี้ภัย
แต่ลี้ภัยอย่างมีเกียรติยศและทั้ง 2 ท่านเป็นบุคคลที่คนไทยทุกคนภูมิใจเสมอในฐานะบุคคลตัวอย่างที่กราบไหว้โดยไม่ต้องอายใคร
ส่วนคุณทักษิณ ชินวัตร นั้น ท่านเป็นเสี้ยวหนึ่งของประวัติศาสตร์ เป็นแค่หยดน้ำหยดหนึ่งในมหาสมุทรเท่านั้น