ผู้จัดการรายวัน - คณะทำงานสภาองค์กรชุมชนสิงห์บุรีเปิดประชุมนัดแรก ผู้ว่าฯขานรับนำแผนชุมชนเชื่อมต่อยุทธศาสตร์จังหวัด ชี้ต้องเน้นให้เกิดการแก้ปัญหาร่วมกัน สร้างความเข้มแข็ง เชื่อมโยง เข้าตรวจสอบราษฎร์และรัฐได้
วานนี้ (13 ส.ค.) คณะทำงานสภาองค์กรชุมชน 12 ตำบลที่จัดตั้งสภาองค์กรชุมชน ร่วมกับสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) ได้เปิดประชุมสภาองค์กรชุมชนระดับจังหวัดขึ้น ณ ศาลาว่าการจังหวัดสิงห์บุรี อ. เมือง จ. สิงห์บุรี มีผู้แทนคณะทำงานสภาองค์กรชุมชนจาก 12 ตำบลจัดตั้งสภาองค์กรชุมชน พมจ. จังหวัด พัฒนาชุมชนจังหวัด นายอำเภออินทร์บุรี นายอำเภอพรหมบุรี ตัวแทนสภาพัฒนาการเมือง เข้าร่วมประชุมสภาองค์กรครั้งนี้กว่า 40 คน โดยมีนายประภาส บุญยินดี ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี เป็นประธานเปิดการประชุมสภาองค์กรชุมชน
ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี กล่าวว่า พ.ร.บ. สภาองค์กรชุมชน มีเนื้อหาสาระที่จะช่วยให้ชุมชนมีสถานะและสิทธิของชุมชนตาม พ.ร.บ. สภาองค์กรชุมชน อย่างน้อยชุมชนสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาชุมชนท้องถิ่นตนได้อย่างถูกจุด และอยากเห็นประชาชนใช้ประโยชน์จาก พ.ร.บ. ฉบับนี้ ที่ไม่ใช่เรื่องการประชุมเท่านั้น แต่อยากให้นำการระดมความคิดนำไปสู่การแก้ไขปัญหา สร้างความสามัคคี เกิดความเข้มแข็งสามารถเชื่อมโยง ตรวจสอบซึ่งกันและกัน
ทั้งนี้ ยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดให้ความสำคัญเรื่องการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น เสริมสร้างมูลค่าเพิ่มในสินค้าหลัก พร้อมทั้งพัฒนาศักยภาพการท่องเที่ยวเชิงเกษตรพอเพียง เพื่อนำไปสู่ครัวโลกโดยไม่เน้นการผลิตแบบอุตสาหกรรม ที่จะสร้างมลพิษต่อสังคม
“การระดมความคิดกลั่นกรองออกมาเป็นแผนพัฒนาภาคประชาชน ถือว่าตรงต่อความต้องการของชุมชนอย่างยิ่ง ดังนั้น จะนำแผนของชุมชนมาผนึกรวมเข้าเป็นแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด เชื่อว่าประชาชนจะได้ประโยชน์สูงสุดแน่นอน”
นายสายหยุด กลิ่นลอง ประธานสภาองค์กรชุมชนตำบลห้วยชัน อ. อินทร์บุรี จ. สิงห์บุรี กล่าวว่า สภาองค์กรชุมชนตำบลห้วยชันเป็นองค์กรที่ทำให้กลุ่ม องค์กร มีสถานะมีที่ยืนในสังคม และมีฐานที่มาจากชมรมผู้สูงอายุ กลุ่มเยาวชน กลุ่มเกษตรอินทรีย์ กลุ่มผู้ใช้น้ำ กองทุนสวัสดิการชุมชน เครือข่ายฟื้นฟูภัยพิบัติ ฯลฯ สามารถเข้ามาทำงานพัฒนาในพื้นที่ เป็นเวทีให้ทุกคนได้แสดงความคิดเห็น นำไปสู่การแก้ไขปัญหาชุมชนได้อย่างแท้จริง และตรงต่อความต้องการของชุมชนนั้นๆ
คณะทำงานสภาองค์กรชุมชนจังหวัดสิงห์บุรี จึงร่วมกันเปิดสภาชุมชนระดับจังหวัดขึ้นครั้งแรก ในการสร้างความเข้าใจกฎหมายสภาองค์กรชุมชน พร้อมทั้งร่วมกันกำหนดทิศทางการใช้สิทธิตามกฎหมาย
จังหวัดสิงห์บุรี ได้มีการสนับสนุนการดำเนินการจัดตั้งสภาองค์กรชุมชน ที่เกิดจากกระบวนการ กลไกการทำงานภาคประชาชนจนเกิดเป็นสภาองค์กรชุมชนจังหวัดสิงห์บุรีขึ้น 12 ตำบล และมีตำบลเข้าร่วมสังเกตการณ์เพิ่มอีก 4 ตำบล ขณะเดียวกันคณะทำงานสภาองค์กรชุมชน พร้อมเดินหน้าจัดตั้งสภาองค์กรชุมชนต้องดำเนินการต่อไปอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ครอบคลุมทั้งจังหวัด
วานนี้ (13 ส.ค.) คณะทำงานสภาองค์กรชุมชน 12 ตำบลที่จัดตั้งสภาองค์กรชุมชน ร่วมกับสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) ได้เปิดประชุมสภาองค์กรชุมชนระดับจังหวัดขึ้น ณ ศาลาว่าการจังหวัดสิงห์บุรี อ. เมือง จ. สิงห์บุรี มีผู้แทนคณะทำงานสภาองค์กรชุมชนจาก 12 ตำบลจัดตั้งสภาองค์กรชุมชน พมจ. จังหวัด พัฒนาชุมชนจังหวัด นายอำเภออินทร์บุรี นายอำเภอพรหมบุรี ตัวแทนสภาพัฒนาการเมือง เข้าร่วมประชุมสภาองค์กรครั้งนี้กว่า 40 คน โดยมีนายประภาส บุญยินดี ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี เป็นประธานเปิดการประชุมสภาองค์กรชุมชน
ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี กล่าวว่า พ.ร.บ. สภาองค์กรชุมชน มีเนื้อหาสาระที่จะช่วยให้ชุมชนมีสถานะและสิทธิของชุมชนตาม พ.ร.บ. สภาองค์กรชุมชน อย่างน้อยชุมชนสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาชุมชนท้องถิ่นตนได้อย่างถูกจุด และอยากเห็นประชาชนใช้ประโยชน์จาก พ.ร.บ. ฉบับนี้ ที่ไม่ใช่เรื่องการประชุมเท่านั้น แต่อยากให้นำการระดมความคิดนำไปสู่การแก้ไขปัญหา สร้างความสามัคคี เกิดความเข้มแข็งสามารถเชื่อมโยง ตรวจสอบซึ่งกันและกัน
ทั้งนี้ ยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดให้ความสำคัญเรื่องการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น เสริมสร้างมูลค่าเพิ่มในสินค้าหลัก พร้อมทั้งพัฒนาศักยภาพการท่องเที่ยวเชิงเกษตรพอเพียง เพื่อนำไปสู่ครัวโลกโดยไม่เน้นการผลิตแบบอุตสาหกรรม ที่จะสร้างมลพิษต่อสังคม
“การระดมความคิดกลั่นกรองออกมาเป็นแผนพัฒนาภาคประชาชน ถือว่าตรงต่อความต้องการของชุมชนอย่างยิ่ง ดังนั้น จะนำแผนของชุมชนมาผนึกรวมเข้าเป็นแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด เชื่อว่าประชาชนจะได้ประโยชน์สูงสุดแน่นอน”
นายสายหยุด กลิ่นลอง ประธานสภาองค์กรชุมชนตำบลห้วยชัน อ. อินทร์บุรี จ. สิงห์บุรี กล่าวว่า สภาองค์กรชุมชนตำบลห้วยชันเป็นองค์กรที่ทำให้กลุ่ม องค์กร มีสถานะมีที่ยืนในสังคม และมีฐานที่มาจากชมรมผู้สูงอายุ กลุ่มเยาวชน กลุ่มเกษตรอินทรีย์ กลุ่มผู้ใช้น้ำ กองทุนสวัสดิการชุมชน เครือข่ายฟื้นฟูภัยพิบัติ ฯลฯ สามารถเข้ามาทำงานพัฒนาในพื้นที่ เป็นเวทีให้ทุกคนได้แสดงความคิดเห็น นำไปสู่การแก้ไขปัญหาชุมชนได้อย่างแท้จริง และตรงต่อความต้องการของชุมชนนั้นๆ
คณะทำงานสภาองค์กรชุมชนจังหวัดสิงห์บุรี จึงร่วมกันเปิดสภาชุมชนระดับจังหวัดขึ้นครั้งแรก ในการสร้างความเข้าใจกฎหมายสภาองค์กรชุมชน พร้อมทั้งร่วมกันกำหนดทิศทางการใช้สิทธิตามกฎหมาย
จังหวัดสิงห์บุรี ได้มีการสนับสนุนการดำเนินการจัดตั้งสภาองค์กรชุมชน ที่เกิดจากกระบวนการ กลไกการทำงานภาคประชาชนจนเกิดเป็นสภาองค์กรชุมชนจังหวัดสิงห์บุรีขึ้น 12 ตำบล และมีตำบลเข้าร่วมสังเกตการณ์เพิ่มอีก 4 ตำบล ขณะเดียวกันคณะทำงานสภาองค์กรชุมชน พร้อมเดินหน้าจัดตั้งสภาองค์กรชุมชนต้องดำเนินการต่อไปอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ครอบคลุมทั้งจังหวัด