ผอ. พอช.ยกเสาเอกบ้านมั่นคงนครปฐม ย้ำเดินหน้าเยียวยาผู้เดือดร้อนด้านที่อยู่อาศัย

ผู้จัดการออนไลน์ - ผอ. พอช. ร่วมยกเสาเอกบ้านมั่นคง ปลูกต้นไม้มงคลพร้อมเปิดป้ายบ้านมั่นคงพร้อมกัน 3 ชุมชน ทัพหลวง – ชุมชนบางแก้วฟ้า และชุมชนโพรงมะเดื่อ ร่วมกับรองผู้ว่าฯ และประชาชนร่วมพันจากเครือข่ายบ้านมั่นคงภาคกลางและตะวันตก

เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (30 ก.ค. 51) นางสาวสมสุข บุญญะบัญชา ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) กล่าวในงานเปิดป้ายบ้านมั่นคงในเมืองนครปฐม ซึ่งมีนายนเรศ วงค์สวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เข้าร่วมด้วยว่า จังหวัดนครปฐมได้มองเห็นความสำคัญ กับสถานการณ์การอยู่อาศัยตามนโยบายของรัฐบาล ที่ต้องการแก้ปัญหาความไม่มั่นคงในที่อยู่อาศัย การพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม รวมถึงการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้มีรายได้น้อยในทุกๆ ด้าน ของชุมชนผู้ถูกไล่รื้อ บ้านเช่า ผู้บุกรุกที่ดินเอกชน ตลอดจนครอบครัวขยายไม่เพียงพอต่อการอยู่อาศัย

แนวทางการแก้ปัญหาโดยจัดหาที่อยู่อาศัยตามโครงการบ้านมั่นคง โดยการรวมตัวกัน ร่วมกันคิด ร่วมกันทำของชาวบ้าน บริหารการจัดการโดยชาวบ้าน เป็นการพิสูจน์ว่าคนจนสามารถบริหารจัดการได้ และมีที่อยู่อาศัยอย่างมั่นคง

ที่ผ่านมา พอช. ดำเนินรูปแบบการพัฒนาแนวใหม่ เพื่อสร้างชุมชนที่มั่นคงและน่าอยู่ โดยมีชุมชนที่ดำเนินการโครงการเบื้องต้น 3 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนทัพหลวง ชุมชนโพรงมะเดื่อและชุมชนบางแก้วฟ้าเป็นพื้นที่นำร่อง ครอบคลุม 3 เมือง ผู้ได้รับผลประโยชน์ 178 ครอบครัว โดยได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชน รวมถึงความร่วมมือจากประชาชนในชุมชน จนทำให้โครงการสำเร็จไปได้ด้วยดี

“พอช. ตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นเครื่องมือของชาวบ้าน คอยสนับสนุนให้เกิดการรวมตัวในการคิด วางแผนแก้ปัญหาร่วมกัน แม้ที่ผ่านมาการทำงานจะมีอุปสรรค หากทุกคนเปลี่ยนความขัดแย้งแล้วหันมาสานความสามัคคี จนเป็นพลังหลักสร้างความสุข สร้างชุมชน สังคม เชื่อว่าสามารถแก้ไขปัญหาด้านที่อยู่อาศัยได้อย่างเป็นรูปธรรม”

นายวิชาญ คุ้มเนียด ผู้ประสานงานโครงการบ้านมั่นคงภาคกลางบนและตะวันตก กล่าวว่า จากการสำรวจข้อมูลความเดือดร้อนด้านที่อยู่อาศัยภาคตะวันตกพบว่ามีผู้เดือดร้อนกว่า 24,129 ครอบครัว ครอบคลุม 69 เมือง 367 ชุมชน คนจนภาคตะวันตกจึงได้รวมตัวกันเป็นเครือข่ายองค์กรชุมชนเพื่อพัฒนาและแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยโดยได้คัดสรรตัวแทนชุมชนมาจังหวัดละ 2-4 คน ให้เป็นจุดเริ่มต้นของการแก้ปัญหาสร้างความสามัคคี อยู่ร่วมกันเป็นสังคม

ทั้งนี้ ในระยะ 3-4 ปี จะสามารถขยายและให้การช่วยเหลือชาวบ้านผู้มีรายได้น้อย แต่สิ่งที่จะได้มาซึ่งบ้านมั่นคง ชาวบ้านต้องช่วยเหลือตนเองก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นภาครัฐจึงจะเข้ามาช่วยเหลือในอันดับต่อไป โดยปัจจุบันคนจนจังหวัดนครปฐมได้เข้าร่วมโครงการบ้านมั่นคงไปแล้ว 8 ชุมชน 6 เมือง ผู้รับผลประโยชน์ 750 ครัวเรือน

ภายในงานดังกล่าว ยังมีการเปิดป้ายชุมชน ปลูกต้นไม้มงคล ช่วงบ่ายได้มีพิธีมอบสัญญาเช่าที่ดิน กิจกรรมการเสวนาในหัวข้อ “การแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยชุมชนแออัดในเมือง โดยความร่วมมือกับท้องถิ่นภาคีระดับเมือง” พร้อมทั้งมอบโล่เกียรติคุณท้องถิ่นและชุมชนบ้านมั่นคงนำร่อง ในภาคกลางบนและภาคตะวันตก และหน่วยงานสนับสนุนการพัฒนาที่อยู่อาศัย