xs
xsm
sm
md
lg

ภูเก็ตระดมสมองกำหนดทิศทางอนาคต - เดินหน้าพัฒนาท่องเที่ยวสู่ความยั่งยืน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวภูเก็ต - อบจ.ภูเก็ตร่วมกับภาคเอชนระดมสมอง กำหนดทิศทางการพัฒนาภูเก็ตในอนาคต เห็นพ้องเดินหน้าพัฒนาสู่การเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับสากลสู่ความยั่งยืน พร้อมหากิจกรรมเสริมที่รองรับหากการท่องเที่ยวประสบปัญหาทั้งจากปัจจัยภายนอกและภายใน

วันนี้ (2 ธ.ค.) ที่โรงแรมเมโทรโพลภูเก็ต นายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดการสัมมนา “แนวทางอนาคตจังหวัดภูเก็ต” ซึ่งจัดโดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต หอการค้าจังหวัดภูเก็ต สภาอุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ต สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต และสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้

โดยมีหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าร่วมประมาณ 200 คน ณ.โรงแรมเมโทรโพลภูเก็ต เพื่อนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาและทิศทางการพัฒนาจังหวัดภูเก็ต เพื่อให้ภาคีการพัฒนาทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน นักวิชาการ องค์การพัฒนาเอกชน รวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนามีส่วนร่วมในการระดมความคิดเห็นแนวทางการพัฒนาจังหวัดภูเก็ต รวมทั้งจะมีการประมวล วิเคราะห์ สังเคราะห์ ความคิดเห็นและข้อเสนอที่ได้จากการสัมมนาเสนอหน่วยงานภาครัฐระดับชาติ ระดับจังหวัด และเพื่อนำผลที่ได้จากการสัมมนาเป็นข้อมูลในการวางแผนพัฒนาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่อไป

โดยการสัมมนาในครั้งนี้ได้แบ่งการสัมมนาออกเป็น 8 แนวทาง ประกอบด้วย การพัฒนาด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว การพัฒนาด้านการศึกษา การพัฒนาด้านสาธารณสุข การพัฒนาด้านคุณภาพชีวิต การพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การพัฒนาด้านเทคโนโลยีและสารสนเทศและการพัฒนาด้านการบริหารการเมืองและการปกครอง

นายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงภูเก็ตในอนาคตว่า การที่ภูเก็ตจะพัฒนาไปข้างหน้านั้น จะต้องนำปัญหาที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนามาพูดกันอย่างเปิดเผย เพราะในขณะนี้ต้องยอมรับว่าภูเก็ตมีปัญหาที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขอีกหลายๆ ปัญหา ไม่ว่าจะเป็นปัญหาขยะ น้ำเสีย ยาเสพติด การก่อการร้ายสากล ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยว

จากจุดนี้ไปจะทำให้อย่างไรเพื่อนำภูเก็ตสู่ปลายฝัน ซึ่งเชื่อว่าอนาคตของภูเก็ตนั้นหนีไม่พ้นการเป็นเมืองท่องเที่ยว และต้องคิดว่าเราต้องการท่องเที่ยวที่เติบโตตลอดไปหรือท่องเที่ยวที่ตายแล้ว เชื่อว่าทุกคนต้องการการท่องเที่ยวที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ เพื่อที่จะนำภูเก็ตไปสู่การเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับนานาชาติและการเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวทางทะเล

“ผมมองว่าสังคมภูเก็ตในขณะนี้เป็นสังคมแห่งการแย่งชิงพื้นที่ จากที่ภูเก็ตมีพื้นที่ไม่มาก ซึ่งจะเห็นได้จากการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ มีการก่อสร้างอาคารต่างๆ ในพื้นที่ที่ไม่เหมาะสมโดยอ้างว่ามีเอกสารสิทธิ์ที่ดินที่ถูกต้อง ทำให้ทรัพยากรธรรมชาติของภูเก็ตถูกทำลายอย่างรวดเร็ว หากต้องการให้ภูเก็ตยั่งยืนก็ต้องลดและเลิกการทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม” ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวและว่า

ภูเก็ตควรที่จะขายนักท่องเที่ยวเชิงคุณภาพมากกว่านักท่องเที่ยวเชิงปริมาณ ขายความเป็นภูเก็ตทั้งในแง่ของวีถีชีวิต วัฒนธรรม ประเพณีต่างๆ เป็นต้น รวมทั้งพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกรองรับนักท่องเที่ยว


นายแพทย์ศิริชัย ศิลปอาชา รองประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ตลอดระยะเวลากว่า 20 ปีที่อยู่ในจังหวัดภูเก็ตพบว่า การพัฒนาภูเก็ตนั้นมีการกำหนดขึ้นมาแผนพัฒนาหลายๆแผน ซึ่งแต่ละแผนล้วนแต่จะพัฒนาภูเก็ตสู่การเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับนานาชาติทั้งสิ้น แต่ปัญหาที่ภูเก็ตประสบมาตลอดคือ ไม่สามารถที่จะแปลงแผนสู่การปฎิบัติได้ ซึ่งในส่วนของภาคเอกชนทั้งหอการค้า สภาอุตสหากรรม และสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้เห็นว่าควรที่จะหาแนวทางในการนำแผนสู่การปฏิบัติ ซึ่งการที่จะนำแผนสู่การปฎิบัตินั้นมีอยู่ 2 ส่วนด้วยกัน คือ การผลักดันงบประมาณจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตและการของบประมาณจากส่วนกลาง โดยใช้กลไกลของทางจังหวัดและส.ส.ที่มีอยู่ในการผลักดันงบประมาณมาดำเนินการ

นายสัตวแพทย์สิทธิ์ศักดิ์ เหมืองสิน เลขาธิกาสภาอุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ภูเก็ตที่จะมีกิจกรรมที่นอกเหนือจากการท่องเที่ยวบ้าง เพราะหากมีแต่กิจกรรมด้านการท่องเที่ยวเป็นเศรษฐกิจหลักของจังหวัดเพียงด้านเดียว เมื่อเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นมาก็จะส่งผลกระทบอย่างหนัก โดยในส่วนของตนเห็นว่าสิ่งที่จะรองรับหากท่องเที่ยวของภูเก็ตเกิดวิกฤตคือการทำให้ภูเป็นศูนย์กลางการเรียนการสอนด้านการโรงแรมและการท่องเที่ยวในระดับนานาชาติ เหมือนกับสวิสเซอร์แลนด์ เพื่อที่จะดึงคนในภูมิภาคเอเชียเข้ามาเรียนที่ภูเก็ต และพัฒนาให้ภูเก็ตศูนย์กลางการดูแลสุขภาพและความงามระดับโลก และสิ่งสำคัญเห็นว่าการผลักดันให้ภูเก็ตเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษจะทำให้ภูเก็ตมีรายได้ในการพัฒนามากขึ้น

ด้าน นายสมบูรณ์ จิรายุส นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จากการเหตุการณ์การปิดสนามบินสุวรรณภูมิทำให้การท่องเที่ยวของภูเก็ตได้รับผลกระทบโดยตรง แต่จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ภูเก็ตได้แสดงศักยภาพในการให้การช่วยเหลือนักท่องเที่ยวได้อย่างเต็มที่แม้ว่าจะเป็นจังหวัดเล็กๆ โดยสนามบินภูเก็ตเป็นสนามบินอันดับ 2 ในการกระจายนักท่องเที่ยวเดินทางกลับประเทศ โดยทางการบินไทยได้ทำการบินจากภูเก็ตไปแฟรงเฟิร์ชวันละ 2 เที่ยวบิน และการให้การช่วยเหลือนักท่องเที่ยวในเรื่องอื่นๆ

ส่วนยุทธศาสตร์ทางด้านการท่องเที่ยวของภูเก็ตได้กำหนดไว้ 3 ยุทธศาสตราภายใต้การพัฒนาที่ยั่งยืน คือ การรักษาสภาพสิ่งแวดล้อมไม่ให้ถูกทำลาย รวมถึงวัฒนธรรมและประเพณี การให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมและมีส่วนได้รับประโยชน์จากการท่องเที่ยว และนักท่องเที่ยวที่เข้ามาต้องเที่ยวข้องได้รับความพึงพอใจสูงสุด

ขณะที่ นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกอบจ.ภูเก็ต กล่าวว่า ประเด็นการพัฒนาภูเก็ตในอนาคตที่ได้จากการจัดสัมมนาในครั้งนี้จะมีการนำเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เสนอไปยังรัฐบาล และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งในส่วนของท้องถิ่นนั้น ทาง อบจ.จะได้มีการหารือร่วมกันอีกเพื่อที่จะให้การพัฒนาจังหวัดภูเก็ตเป็นไปในแนวทางเดียวกัน

กำลังโหลดความคิดเห็น