ศูนย์ข่าวภูเก็ต –สปาในภูเก็ต ได้รับการตอบรับจากนักท่องเที่ยวต่อเนื่อง ทั้ งสอร์ตสปาและเดย์สปา เปิดให้บริการมากกว่า 200 แห่ง สร้างรายได้กว่าปีละ 1,000 ล้านบาท ขณะที่ในอนาคตมั่นใจยังครองความนิยมแต่การขยายตัวของธุรกิจไม่มาก เหตุมีการแข่งขันสูง
นายวิเชียร จูฑะมงคล นายกสมาคมสปาจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ธุรกิจสปาในภูเก็ตยังคงขยายตัวได้ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สปาในโรงแรม หรือรีสอร์ต สปา ปัจจุบันโรงแรมใหม่ที่เปิดให้บริการ รวมทั้งโรงแรมหรือรีสอร์ตที่มีการปรับปรุงใหม่ จะสร้างสปาเพิ่มเติมเข้าไปด้วย ขณะที่ เดย์สปาไม่ค่อยมีการขยายตัว เนื่องจากช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา มีการเปิดให้บริการจำนวนมาก
สำหรับสปาในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ขณะนี้ทั้งรีสอร์ตสปาและเดย์สปา เปิดให้บริการทั้งหมด ประมาณ 200 แห่ง โดยเป็นรีสอร์ตสปา ประมาณ 150 แห่ง และ เดย์สปา 50 แห่ง ซึ่งเชื่อว่าในอนาคตธุรกิจสปาในจังหวัดภูเก็ตจะยังคงขยายตัวเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในส่วนของรีสอร์ตสปา ส่วนเดย์สปาค่อนข้างจะอิ่มตัวแล้ว
ส่วนผู้ใช้บริการสปาในจังหวัดภูเก็ต ยังคงเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวเป็นหลัก โดยกลุ่มเอเชียเป็นตลาดหลักที่ใช้บริการสปาโดยเฉพาะเดย์สปา ส่วนกลุ่มรีสอร์ตสปานั้นขึ้นอยู่กับกลุ่มตลาดของแต่ละโรงแรม
นายวิเชียร กล่าวต่อไปว่า รายได้ที่เกิดจากการให้บริการสปา ทั้งในส่วนของรีสอร์ตสปาและเดย์สปา คิดว่าในแต่ละปีมีรายได้สะพัดไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาท ส่วนการใช้บริการในอนาคต คาดว่า จะมีนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวและใช้บริการสปาเพิ่มขึ้น เนื่องจาก ยังได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก แต่อัตราการเพิ่มจะเพิ่มในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป ส่วนเรื่องของรายได้เชื่อว่า ไม่น่าจะเพิ่มมากนักเนื่องจากราคาการให้บริการมีแนวโน้มปรับตัวลดลง จากที่มีการแข่งขันกันสูง ลูกค้ามีทางเลือกมากขึ้น
นายวิเชียร ยังได้กล่าวต่อไปถึงการรับรองมาตรฐานสถานประกอบการสปา ว่า สถานประกอบการสปาในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ขณะนี้ ผ่านการตรวจประเมิน และรับรองมาตรฐานจากกระทรวงสาธารณสุขแล้วประมาณ 70 แห่ง ซึ่งขณะนี้ สมาคมและสาธารณสุขจังหวัดกำลังช่วยกันผลักดันให้สถานประกอบการเหล่านี้ ได้รับการรับรองมาตรฐานจากกระทรวงสาธารณสุขมากขึ้น โดยการพยายามที่จะสร้างแรงจูงใจให้แก่คนที่ยังไม่ได้เข้าสู่ระบบหันมาเข้าสู่ระบบมากขึ้น
เช่น มาตรการเรื่องของการขอยกเว้นภาษีสรรพสามิต ก็เชื่อว่าจะเป็นมาตรการหนึ่ง ที่ทำให้ผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันนี้ผู้ประกอบการจะต้องเสียภาษีสรรพสามิตสูงถึง 10 % แต่ถ้ายกเว้นได้จะเป็นเรื่องที่ดีมาก
ส่วนเรื่องของการขาดแคลนบุคลากร เชื่อว่าอีก 3 ปี ปัญหาจะหมดไป เพราะขณะนี้มีการพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งหน่วยงานราชการต่างจัดสรรงบประมาณ เข้ามาดำเนินการหลายแห่ง เช่น อบจ. และเทศบาล ทั้งในเรื่องของพนักงานให้บริการและผู้บริหาร ซึ่งในส่วนของระดับผู้บริหาร ได้เข้าไปร่วมกับสถานศึกษาในการจัดการศึกษาเพื่อเข้ามาเสริมในอุตสาหกรรมดังกล่าว
