ศูนย์ข่าวภูเก็ต -นักลงทุนไทย-ต่างชาติ ยังหอบเงินเข้ามาลงทุนโรงแรม คอนโดฯในพื้นที่ต.ราไวย์-วิชิต จ.ภูเก็ต รวมมูลค่าการลงทุนไม่น้อยกว่า 6 พันล้านบาท เชื่อแนวโน้มการลงทุนเพิ่มขึ้นไม่หยุด ขณะที่ราคาที่ดินพุ่งกระฉูด
นายอรุณ โสฬส นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต กล่าวถึงแนวโน้มการเข้ามาลงทุนของกลุ่มทุนไทยและต่างชาติ ในพื้นที่ ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ว่า ปัจจุบันนี้พื้นที่ตำบลราไวย์ยังคงได้รับการตอบรับจากกลุ่มนักลงทุน สนใจที่จะเข้ามาลงทุนในเรื่องของที่พักและโรงแรมเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะการก่อสร้างคอนโดมิเนียม ซึ่งขณะนี้มีผู้ประกอบการเข้ามาติดต่อสอบถามถึงขั้นตอนการดำเนินโครงการแล้ว 4-5 ราย และก่อนหน้านี้ได้มีการอนุญาตให้ก่อสร้างและอยู่ระหว่างการก่อสร้างไม่ต่ำกว่า 3 ราย โดยนักลงทุนมีทั้งกลุ่มทุนจากส่วนกลาง และชาวต่างชาติ
นอกจากนั้น ยังมีกลุ่มทุน ที่สนใจเข้ามาลงทุนทางด้านโรงแรมรีสอร์ต ซึ่งอยู่ระหว่างการขออนุญาตก่อสร้างอีกประมาณ 3 แห่ง ซึ่งกลุ่มอินเดียลงทุนสร้างรีสอร์ต บนเกาะโหลน จำนวน 200 ยูนิต กลุ่มทุนจากประเทศโบลิเวียลงทุนสร้างรีสอร์ต ประมาณ 200 ยูนิต ในพื้นที่บริเวณหาดในหาน ซึ่งบริเวณหาดในหาน มีโครงการรีสอร์ตเตรียมขึ้นอีก 2 แห่ง
นายอรุณ กล่าวต่อไปว่า สำหรับโครงการที่อยู่ระหว่างการขออนุญาตในขณะนี้ เมื่อเปิดให้บริการจะทำให้พื้นที่ต. ราไวย์มีห้องพักเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 600 ห้อง ไม่รวมในส่วนของคอนโดมิเนียมที่มีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เชื่อว่ามีมูลค่าการลงทุนรวมไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท
ส่วนการเปลี่ยนมือของที่ดินในพื้นที่ต.ราไวย์ ในปีนี้ไม่หวือหวาเหมือนกับช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งราคาที่ดินในช่วงนี้ปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย และยังมีการสอบถามเพื่อกว้านซื้อที่ดินแปลงใหญ่อยู่บ้าง
ขณะที่การยื่นขออนุญาตก่อสร้างโครงการต่างๆนั้นก่อนที่จะมีการอนุญาตได้มีการขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการให้เน้นในเรื่องของพื้นที่สีเขียวให้มากที่สุดรวมทั้งจะต้องรักษาสภาพสิ่งแวดล้อมในพื้นที่
ด้านนายกรีฑา แซ่ตัน นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลวิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต กล่าวถึงการลงทุนในพื้นที่ต.วิชิต ว่า ต.วิชิตก็เป็นอีกพื้นที่หนึ่ง ที่กำลังได้รับความสนใจจากนักลงทุน เพราะมีชายหาดที่สวยงาม ซึ่งขณะนี้มีโรงแรมหลายแห่งอยู่ระหว่างการก่อสร้าง และอีก 3 แห่งอยู่ระหว่างยื่นขออนุญาตก่อสร้าง รวมห้องพักประมาณ กว่า 1,000 ห้อง เช่น โรงแรมเรดิสัน อ่าวขามเบย์ นอกจากนั้นยังมีโครงการสร้างที่พักอาศัยอีกหลายโครงการ ทำให้ขณะนี้ในพื้นที่มีมูลค่าการลงทุนไม่น้อยกว่า 2,000-3,000 ล้านบาท
สำหรับโรงแรมที่ขึ้นในพื้นที่ต.วิชิต มาจากหลายกลุ่ม ทั้งนักลงทุนจากส่วนกลาง และต่างชาติ และจากความเคลื่อนไหวของนักลงทุนนี่เอง ทำให้ราคาที่ดินปรับตัวสูงขึ้นกว่า 2 ปีที่ผ่านมาถึง 50% และมีแนวโน้มว่านักลงทุนยังมีความต้องการที่จะเข้ามาลงทุนอีกมาก โดยเฉพาะพื้นที่ที่เห็นวิวทะเล และติดชายทะเล
“การลงทุนในพื้นที่วิชิตมีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว เทศบาลฯจึงต้องเตรียมความพร้อมในการรองรับการพัฒนาดังกล่าวโดยเฉพาะเรื่องของการรักษาสิ่งแวดล้อม ที่ชุมชนจะต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลและควบคุม เพื่อรักษาแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติในพื้นที่ไว้ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ยั่งยืนตลอดไป”