พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผบ.สูงสุด ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้า การปรับโยกย้ายนายทหาร ประจำปีว่า ในแต่ล่ะเหล่าทัพแต่ล่ะหน่วยไปทำกันอยู่ โดยกำหนดส่งกองบัญชาการกองทัพไทยภายในวันที่ 13 ส.ค.นี้ และตนส่งไปที่กระทรวงกลาโหมวันที่ 15 ส.ค. ซึ่งกองบัญชาการทหารสูงสุดไม่มีปัญหาในเรื่องการจัดตำแหน่งเราทำกันได้ทุกที ต้องใช้ความคิดและความเหมาะสม ซึ่งการโยกย้ายจะดูเรื่องรุ่นน้อยมากจะดูความรู้ความสามารถและความอาวุโสเป็นหลัก
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า ผบ.ทหารสูงสุด คนต่อไปจะมาจากสำนักงานปลัดกลาโหม พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่มีอะไรแน่นอน ยังไม่ตัดสินใจร้อยเปอร์เซ็นต์ ต้องเข้าคณะกรรมการพิจารณาของกระทรวงกลาโหมก่อน และเป็นความลับเรื่องตัวบุคคล ส่วนการประกาศรายชื่อคาดการได้ยากว่า จะประกาศวันไหน คาดว่าเป็นเดือน ก.ย. และที่ผ่านมาไม่เห็นมีตำแหน่งใดมีปัญหา
ผู้สื่อข่าวถามว่าการโยกย้ายของกองทัพอากาศมักจะรุนแรง เพราะมีกระแสการเมืองเข้ามากดดัน ทั้งที่กองทัพมีตัวบุคคลเหมาะสมอยู่แล้ว พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า ตนคิดว่า ผบ.ทอ.จัดการได้ยึดถือความยุติธรรมเป็นหลัก ผบ.ทอ. คงไม่ลำบากใจ เพราะมีความมั่นคง ต้องเลือกคนที่เหมาะสมกับงาน
ต่อข้อถามว่ามีผบ.เหล่าทัพ เกษียณหลายคน รู้สึกหนักใจหรือไม่ พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า ไม่หนักใจ ทุกคนกว่าจะเป็น พลเอก ทุกคนทำโผปรับย้ายหลายครั้ง ทุกระดับต้องทำ เมื่อถามว่า หากฝ่ายการเมืองแทรกแซงเข้ามาจะทำให้กุมอำนาจในกองทัพได้ พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า ทหารทุกคน ต้องยึดมั่นในอุดมการณ์ ไม่คิดว่าใครเป็นคนของใคร ทางที่ดีต้องไม่เป็นอย่างนั้น ทหารที่ดี ต้องไม่เป็นคนของใคร ซึ่งบางทีต้องดูคล้ายอย่างนั้น แต่ทุกคนต้องเป็นตัวของตัวเอง ซึ่งการตัดสินใจครั้งสุท้ายต้องเข้าคณะกรรมการกระทรวงกลาโหมซึ่งเป็นสิ่งดี
ผู้สื่อข่าวถามว่า หาก พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. จะมาเป็น ผบ.สูงสุด เหมาะสมหรือไม่ พล.อ.บุญสร้าง “หัวเราะก่อนกล่าวว่า ข่าวนี้ไม่เคยได้ยินจากผู้ใหญ่ ที่มีบทบาท ข่าวนี้ว่ากันไปเรื่อย
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า แสดงว่า พล.อ.อนุพงษ์ ต้องอยู่ตำแหน่งเดิม พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า ตนไม่มีอำนาจแต่ผู้เดียว ซึ่งเรามีคณะกรรมการหลายอย่าง ส่วนจะมาจากคนในกองบัญชาการทหารสูงสุดหรือคนนอก ตนขอดูก่อนเพราะเรามีแคนดิเดตหลายคน ต้องดูว่าใครที่เหมาะสม ผบ.ทบ.อาจจะไม่เหมาะ เพราะท่านเหมาะที่จะอยู่กองทัพบกมากกว่า เมื่อถามว่า การโยกย้ายจะทำให้เกิดความขัดแย้งหรือไม่ พล.อ.บุญสร้าง กล่าวย้ำว่า ไม่มี ทหารมีวินัย
ด้าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. กล่าวถึงความคืบหน้าในการจัดทำบัญชีโยกย้ายว่า กำลังดำเนินการอยู่ มีการประชุมคณะกรรมการปรับย้ายนายทหารชั้นนายพลไปครั้งหนึ่ง และคงต้องมีการปรับไปเรื่อย ๆ คงเสร็จทันเวลา คือจะส่งให้ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้ทันวันที่ 15 ส.ค.นี้ ทั้งนี้ในส่วนของ กองทัพบก ก็โยกย้ายเท่าที่เกษียณ หรือเท่าที่มีการลาออก ก่อนกำหนด ซึ่งจะมีการสับเปลี่ยนกันขึ้นไป
ส่วนกระแสข่าวจะถูกปรับไปเป็น ผบ.สูงสุดนั้น พล.อ. อนุพงษ์ ตอบว่า ผมไม่ทราบกระแสข่าว ต้องถามคนถามว่าที่บอกว่ากระแสนั้นจากไหน ผมไม่ทราบจริงๆ เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่าท่านจะไปอยู่ตำแหน่งใดก็ได้ใช่หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ผมไม่มีความเห็น
พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ. กล่าวว่า กองทัพอากาศไม่มีปัญหา เกือบทุกคน เกือบจะเป็น ผบ.ทอ.คนใหม่ได้หมด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม และอะไรอีกหลายอย่าง ซึ่งจะเป็นข้อมูลจากนายทหารชั้นผู้ใหญ่ส่งมาให้ตน
ผู้สื่อข่าวถามว่าผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งผบ.ทอ.คนใหม่ต้องเป็นคนใน หรือคนนอก พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า เป็นทหารอากาศล้วนอยู่ในข่ายทั้งสิ้น ซึ่งมาจากที่อื่นก็ได้ เช่น จาก บก.ทหารสูงสุด สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม หรือจากผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษในกองทัพ
ส่วนที่มีข่าวว่า พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณฑัต ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมจะมาเป็น ผบ.ทอ.ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า ตนไม่สามารถบอกได้เป็นรายบุคคล
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า ผบ.ทหารสูงสุด คนต่อไปจะมาจากสำนักงานปลัดกลาโหม พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่มีอะไรแน่นอน ยังไม่ตัดสินใจร้อยเปอร์เซ็นต์ ต้องเข้าคณะกรรมการพิจารณาของกระทรวงกลาโหมก่อน และเป็นความลับเรื่องตัวบุคคล ส่วนการประกาศรายชื่อคาดการได้ยากว่า จะประกาศวันไหน คาดว่าเป็นเดือน ก.ย. และที่ผ่านมาไม่เห็นมีตำแหน่งใดมีปัญหา
ผู้สื่อข่าวถามว่าการโยกย้ายของกองทัพอากาศมักจะรุนแรง เพราะมีกระแสการเมืองเข้ามากดดัน ทั้งที่กองทัพมีตัวบุคคลเหมาะสมอยู่แล้ว พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า ตนคิดว่า ผบ.ทอ.จัดการได้ยึดถือความยุติธรรมเป็นหลัก ผบ.ทอ. คงไม่ลำบากใจ เพราะมีความมั่นคง ต้องเลือกคนที่เหมาะสมกับงาน
ต่อข้อถามว่ามีผบ.เหล่าทัพ เกษียณหลายคน รู้สึกหนักใจหรือไม่ พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า ไม่หนักใจ ทุกคนกว่าจะเป็น พลเอก ทุกคนทำโผปรับย้ายหลายครั้ง ทุกระดับต้องทำ เมื่อถามว่า หากฝ่ายการเมืองแทรกแซงเข้ามาจะทำให้กุมอำนาจในกองทัพได้ พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า ทหารทุกคน ต้องยึดมั่นในอุดมการณ์ ไม่คิดว่าใครเป็นคนของใคร ทางที่ดีต้องไม่เป็นอย่างนั้น ทหารที่ดี ต้องไม่เป็นคนของใคร ซึ่งบางทีต้องดูคล้ายอย่างนั้น แต่ทุกคนต้องเป็นตัวของตัวเอง ซึ่งการตัดสินใจครั้งสุท้ายต้องเข้าคณะกรรมการกระทรวงกลาโหมซึ่งเป็นสิ่งดี
ผู้สื่อข่าวถามว่า หาก พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. จะมาเป็น ผบ.สูงสุด เหมาะสมหรือไม่ พล.อ.บุญสร้าง “หัวเราะก่อนกล่าวว่า ข่าวนี้ไม่เคยได้ยินจากผู้ใหญ่ ที่มีบทบาท ข่าวนี้ว่ากันไปเรื่อย
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า แสดงว่า พล.อ.อนุพงษ์ ต้องอยู่ตำแหน่งเดิม พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า ตนไม่มีอำนาจแต่ผู้เดียว ซึ่งเรามีคณะกรรมการหลายอย่าง ส่วนจะมาจากคนในกองบัญชาการทหารสูงสุดหรือคนนอก ตนขอดูก่อนเพราะเรามีแคนดิเดตหลายคน ต้องดูว่าใครที่เหมาะสม ผบ.ทบ.อาจจะไม่เหมาะ เพราะท่านเหมาะที่จะอยู่กองทัพบกมากกว่า เมื่อถามว่า การโยกย้ายจะทำให้เกิดความขัดแย้งหรือไม่ พล.อ.บุญสร้าง กล่าวย้ำว่า ไม่มี ทหารมีวินัย
ด้าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. กล่าวถึงความคืบหน้าในการจัดทำบัญชีโยกย้ายว่า กำลังดำเนินการอยู่ มีการประชุมคณะกรรมการปรับย้ายนายทหารชั้นนายพลไปครั้งหนึ่ง และคงต้องมีการปรับไปเรื่อย ๆ คงเสร็จทันเวลา คือจะส่งให้ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้ทันวันที่ 15 ส.ค.นี้ ทั้งนี้ในส่วนของ กองทัพบก ก็โยกย้ายเท่าที่เกษียณ หรือเท่าที่มีการลาออก ก่อนกำหนด ซึ่งจะมีการสับเปลี่ยนกันขึ้นไป
ส่วนกระแสข่าวจะถูกปรับไปเป็น ผบ.สูงสุดนั้น พล.อ. อนุพงษ์ ตอบว่า ผมไม่ทราบกระแสข่าว ต้องถามคนถามว่าที่บอกว่ากระแสนั้นจากไหน ผมไม่ทราบจริงๆ เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่าท่านจะไปอยู่ตำแหน่งใดก็ได้ใช่หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ผมไม่มีความเห็น
พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ. กล่าวว่า กองทัพอากาศไม่มีปัญหา เกือบทุกคน เกือบจะเป็น ผบ.ทอ.คนใหม่ได้หมด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม และอะไรอีกหลายอย่าง ซึ่งจะเป็นข้อมูลจากนายทหารชั้นผู้ใหญ่ส่งมาให้ตน
ผู้สื่อข่าวถามว่าผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งผบ.ทอ.คนใหม่ต้องเป็นคนใน หรือคนนอก พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า เป็นทหารอากาศล้วนอยู่ในข่ายทั้งสิ้น ซึ่งมาจากที่อื่นก็ได้ เช่น จาก บก.ทหารสูงสุด สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม หรือจากผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษในกองทัพ
ส่วนที่มีข่าวว่า พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณฑัต ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมจะมาเป็น ผบ.ทอ.ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า ตนไม่สามารถบอกได้เป็นรายบุคคล