xs
xsm
sm
md
lg

ประดิษฐ์ทำใจแห้วภาษีชินคอร์ป ไล่บี้ฟ้องแพ่งเจ้าหน้าที่สรรพากร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน – “ประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์” หนุนสรรพากรทำงานฉับไวหลังศาลตัดสินคดีโกงภาษี “พจมาน-บรรณพจน์” ตั้งกรรมการสอบหาผู้รับผิดชอบเงินแผ่นดินทันที ระบุหากเรียกภาษีคืนไม่ได้ก็ไล่บี้เก็บจากคนของกรมเอง เชื่อกฎหมายและศาลจะให้ความเป็นธรรมสำหรับทุกฝ่ายในคดีเลี่ยงภาษีหุ้นชินคอร์ปทุกคดี พร้อมเร่งรัดกระบวนการวอบสวนของกรมให้เดินหน้าเร็วขึ้น
นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะกำกับดูแลกรมสรรพากร กล่าวว่า กรณีที่นายศานิต ร่างน้อย อธิบดีกรมสรรพากรแต่งตั้งนางเสาวนีย์ กมลบุตร ที่ปรึกษาด้านประสิทธิภาพ กรมสรรพากร เป็นประธานคณะกรรมการสอบหาผู้รับผิดทางแพ่ง จากความเสียหายของกรมสรรพากรที่ไม่ได้รับเม็ดเงินภาษีจำนวน 546 ล้านบาท จากนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ ในการซื้อขายหุ้นบริษัทชินวัตร คอมพิวเตอร์แอนด์คอมมูนิเคชั่น จำกัด(มหาชน) จากคุณหญิงพจมาน ชินวัตร และนางกาญจนาภา หงษ์เหิน นั้น
เรื่องนี้ถือว่าการทำงานของกรมสรรพากรรวดเร็ว ฉับไว ภายหลังจากศาลอาญาพิพากษาทางอาญา ก็ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นพิจารณาความเสียหายของกรมทันที เนื่องจากคดีนี้หมดอายุความไปแล้วจะเรียกเงินคืนจากนายบรรณพจน์ อีกไม่ได้ โดยเฉพาะก่อนหน้านี้ที่คณะกรรมการอุทธรณ์ซึ่งประกอบด้วยกรมสรรพากร อัยการสูงสุดและเจ้าหน้าที่จากกระทรวงมหาดไทยระบุว่าไม่สามารถเรียกเงินภาษีคืนจากนายบรรณพจน์ได้ก็ถือว่าจบกันไป แต่จะต้องมาเรียกคืนกับเจ้าหน้าที่ของกรมแทน ที่ทำให้กรมสรรพากรเสียหาย
อย่างไรก็ตามกรมสรรพากรจะดำเนินการอย่างไรต่อไปไม่ว่าจะฟ้องทางแพ่งหรือเรียกร้องการรับผิดจากเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรก็ต้องรอให้คณะทำงานของนางเสาวนีย์สรุปผลออกมาเสียก่อน
"เราคงไปเรียกเงินคืนจากนายบรรณพจน์อีกไม่ได้ จะทำได้ตอนนี้ก็เพียงสอบสวนเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องภายในกรมที่จะต้องทำให้เกิดความยุติธรรมกับสังคม ผมไม่ได้เร่งรัดอะไรแต่ต้องทำไปตามกระบวนการ"นายประดิษฐ์กล่าว
ส่วนกรณีคดีที่เกี่ยวข้องกับการหลีกเลี่ยงภาษีซื้อขายหุ้นของบริษัทชินคอปอร์เรชั่นอื่นๆ เช่น คดีแอมเพิลริช ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนของคณะกรรมการอุทธรณ์ และได้เร่งรัดไปแล้วแต่เนื่องจากมีเอกสารจำนวนมาก ทุกอย่างจึงต้องเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย ถึงวันนี้เชื่อว่ากระบวนการยุติธรรมได้เดินมาอย่างให้เป็นธรรมกับทุกฝ่ายแล้ว ก็ต้องต้องปล่อยให้เดินต่อไป ส่วนกรณีที่ไม่พบว่าใครผิดจะไปเอาผิดก็คงไม่ได้ ให้กระบวนการยุติธรรมตัดสิน ส่วนกรมจะดำเนินการต่อไปอย่างไรก็เป็นเรื่องของกรม
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่สรรพากรที่เกี่ยวข้องกับคดีเลี่ยงภาษีหุ้นชิน 546.12 ล้านบาท ประกอบด้วย นายศิโรตม์ สวัสดิ์พาณิชย์ อดีตอธิบดีกรมสรรพากร น.ส.กุลฤดี แสงสายัณฑ์ อดีตนิติกร 7 ว. น.ส.โมรีรัตน์ บุญญาศิริ อดีตผู้อำนวยการฝ่ายกฎหมาย น.ส.สุจินดา แสงชมภู นิติกร 9 ชช. และนายวิชัย จึงรักเกียรติ อดีตผู้อำนวยการสำนักคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ซึ่งก่อนหน้านี้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ระบุว่า มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรงฐานทุจริตต่อหน้าที่ราชการและมีความผิดอาญา ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และทางก.พ.ได้มีมติให้ออกจากราชการไปแล้ว
นายประดิษฐ์ กล่าวว่า สำหรับการแต่งตั้งอธิบดีกรมสรรพากรคนใหม่ในวันที่ 1 ต.ค.นี้ แทนนายศานิตที่จะเกษียณอายุราชการ การแต่งตั้งอธิบดีต้องมีคุณสมบัติเป็นที่ยอมรับของคนในกรมสรรพากร เพราะเป็นกรมที่จัดเก็บรายได้ส่วนใหญ่ของประเทศหรือราว 70% จึงต้องรู้งานที่ต้องดำเนินการ รวมถึงต้องเป็นคนที่กระทรวงคลังยอมรับ มีความรู้ความสามารถและที่สำคัญในฐานะที่รมช.คลังที่เป็นผู้แต่งตั้งจะต้องตอบคำถามสื่อมวลชนและคนภายนอกให้ได้ว่าทำไมถึงต้องแต่งตั้งบุคคลนั้นๆ แต่ยืนยันว่าไม่ใช่เพื่อปูนบำเหน็จให้แก่ใครหรือเพื่อตอบแทนผลประโยชน์ที่ได้ทำให้กันมา
"ถึงวันนี้ยังไม่ได้ทำหรือเตรียมตำแหน่งอธิบดีกรมสรรพากรให้กับใคร จะแต่งตั้งใครผมต้องชี้แจงได้ทั้งหมดว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร เป็นคนมีความสามารจะจัดเก็บรายได้และดูแลงบประมาณเป็นแสนๆ ล้านของประเทศ และไม่ใช่จะให้คนนั้นคนนี้เพื่อปูนบำเหน็จมันไม่ใช่ วันนี้การแต่งตั้งอธิบดีเป็นการแต่งตั้งประจำปี ก็ต้องดำเนินการต่อไป" รมช.คลังกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น