xs
xsm
sm
md
lg

ไอพีพีส่อเค้าแจ้งเกิดไม่ครบ 4 ราย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน- จับตาโครงการไอพีพี 4 รายส่อเค้าอาจแจ้งเกิดได้ไม่ครบตามผลการชนะประมูลการรับซื้อไฟฟ้าช่วงปลายปีที่ผ่านมาเหตุต้นทุนค่าก่อสร้างและอุปกรณ์ก่อสร้างโรงไฟฟ้าพุ่งกระฉูดโดยเฉพาะที่ต้องนำเข้าจากจีน ส่อทำให้โรงไฟฟ้าบางแห่งอาจไม่สามารถผลิตไฟได้ตามต้นทุนที่เสนอ

แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า จากผลการคัดเลือกผู้ชนะประมูลโครงการรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนอิสระรายใหญ่หรือไอพีพีช่วงสิ้นปีที่ผ่านมาซึ่งได้อนุมัติผู้ชนะประมูล 4 รายไปแล้วประกอบด้วย 1. บ.Gheco-one 2.โครงการเอ็นพีเอส (เนชั่นแนลเพาเวอร์ซัพพลาย) 3.โครงการ สยาม เอ็นเนอร์ยี่ และ 4. โครงการเพาเวอร์ เจนเนอเรชั่น ซัพพลายส์ ซึ่ง 2 โครงการแรกใช้ถ่านหิน 2 โครงการสุดท้ายใช้ก๊าซฯเป็นเชื้อเพลิง โดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)จะรับซื้อไฟในราคา 2.135-2.648 บาทต่อหน่วยยอมรับว่าราคาที่เอกชนได้เสนอบางรายมีทิศทางที่อาจไม่สามารถทำได้ตามที่ยื่นเสนอเนื่องจากมีต้นทุนที่สูงจากค่าวัสดุและอุปกรณ์โรงไฟฟ้าที่ปรับราคาเพิ่มขึ้นอย่างมาก

" ยอมรับว่ามี 1 รายน่าเป็นห่วงสุดเพราะอาจมีปัญหาเรื่องต้นทุนที่ขณะนี้ค่าก่อสร้างต่างๆ โดยเฉพาะเหล็กได้ปรับขึ้นอย่างมาก ขณะที่อุปกรณ์เกี่ยวกับโรงไฟฟ้าโดยเฉพาะจากจีนที่เอกชนบางรายได้ติดต่อนำเข้ามาเพื่อก่อสร้างนั้นได้ปรับขึ้นสูงถึง 20-30%และอาจไม่สามารถการันตีการส่งมอบได้ทัน อย่างไรก็ตามเงื่อนไขสำคัญคือหากโรงไฟฟ้าไม่ผ่านด้านสิ่งแวดล้อมภายในวันที่ 1 ก.ย. 2551 ก็จะไม่สามารถเซ็นสัญญาซื้อขายไฟหรือ PPA ได้"แหล่งข่าวกล่าว

แหล่งข่าวจากบ.เอ็นพีเอส กล่าวยอมรับว่า แผนการนำเข้าเครื่องจักรมีราคาสูงขึ้น รวมถึงค่าก่อสร้างโดยเฉพาะเหล็กได้ปรับตัวอย่างมากแต่บริษัทฯได้พยายามที่จะลดต้นทุนภาพรวมอยู่

แหล่งข่าวจากกฟผ.กล่าวว่า หากผู้ชนะประมูลไม่สามารถที่จะทำตามเงื่อนไขทั้งการผ่านอีไอเอ หรือมีปัญหาต้นทุนแพงจนอาจไม่สามารถขายในราคาที่เสนอไว้ได้นั้นก็จะต้องตัดสินใจยกเลิกโครงการไปซึ่งหากมีการยกเลิกไป 1-2 โครงการคงไม่ได้ส่งผลกระทบเนื่องจากตามแผนได้มีการวางโครงการไอพีพีไว้เผื่อสำรองไฟฟ้าอยู่แล้วซึ่งคาดว่าสำรองไฟฟ้าในช่วงปี 2554-2555 ที่เป็นช่วงไอพีพีดังกล่าวจะป้อนไฟได้นั้นสำรองไม่ได้เป็นปัญหาใดเนื่องจากปีนี้การใช้ไฟฟ้าต่ำกว่าเป้าหมายค่อนข้างสูงทำให้สำรองเหลือมากกว่า 15 %

อย่างไรก็ตามสิ่งที่กฟผ.กังวลมากกว่าคือ ปัญหาความเสี่ยงจากเชื้อเพลิงเนื่องจากหากบมจ.ปตท.ไม่สามารถจัดหาก๊าซธรรมชาติเหลว(แอลเอ็นจี) ได้ทันในต้นปี 2554 ซึ่งตามแผนจะต้องนำเข้ามาป้อนกับโรงไฟฟ้าไอพีพี 2 แห่งที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงคือสยามเอ็นเนอร์ยี่ และเพาเวอร์เจเนเรชั่น ที่จะต้องผลิตไฟป้อนในช่วงต้นปี 2555-2556 ก็จะมีผลกระทบให้กฟผ.ต้องหันไปพึ่งพิงน้ำมันเตาและดีเซลในการผลิตที่จะนำไปสู่ค่าไฟฟ้าที่แพงได้ดังนั้นปตท.จะต้องรีบการันตีแผนนำเข้าดังกล่าวให้ชัดภายในไม่เกินกลางปี 2552

" เวลานี้ปตท.ระบุว่าได้มีการลงนามซื้อแอลเอ็นจีแล้วแต่ไม่ชัดถึงระยะเวลาที่จะส่งมอบ ขณะเดียวกันการก่อสร้างคลังก็ยังไม่ได้เริ่มมากนัก จึงไม่แน่ใจว่าท้ายสุดจะนำเข้าได้จริงหรือไม่ซึ่งขณะนี้ส่วนของถ่านหินนั้นราคา ตลาดจร หรือ Spot ยังหาซื้อได้แต่แพงหน่อยแต่ราคาแอลเอ็นจีราคา Spot นั้นเท่าที่ดูเริ่มหายากมาก"แหล่งข่าวกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น