xs
xsm
sm
md
lg

กุ๊ย “ขวัญชัย” กุนซือ “หมัก”ตั้งประจำสำนักนายกฯ-”ธีระชัย”ชง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แฉที่แท้ กุ๊ย "ขวัญชัย" ครม. “หมัก” อนุมัติแต่งตั้งเป็นขรก.การเมืองสังกัดสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี “ธีระชัย”ชงเรื่องเข้าที่ประชุมครม. บอกเป็นคนมีความสามารถทำงานได้ ถูกดึงตัวไปช่วยงานก.เกษตรฯ พันธมิตรฯ อัด"หมัก"เผด็จการไม่ต่างจาก"ฮิตเลอร์"สนับสนุนใช้ความรุนแรงจ้างอันธพาลการเมืองไล่ฆ่าประชาชนฝ่ายตรงข้าม พร้อมระบุมีทหารบางกลุ่มสนับสนุนความรุนแรงที่เกิดขึ้นที่อุดรฯ จี้ ย้ายผู้ว่าฯและผู้การอุดรฯ ออกจากพื้นที่ พร้อมนำพันธมิตรฯอุดรธานีที่ได้รับบาดเจ็บเปิดแถลงข่าววันนี้ ขณะที่นักวิชาการหลายมหาวิทยาลัยฮือต้านม็อบถ่อย เตรียมออกแถลงการณ์ประณามวันนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ www.thaigov.go.th ซึ่งเป็นเว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาล ได้จัดรวบรวมเผยแพร่ผลการประชุม ครม.แต่ละครั้ง และในการประชุมครม.เมื่อวันที่6พ.ค.2551ซึ่งมีวาระนำเข้าพิจารณา หลายวาระแต่ที่น่าสนใจคือวาระการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี) โดยคณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอให้แต่งตั้งข้าราชการการเมือง ตำแหน่งประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี รวม 12 ราย ได้แก่1.นาย โสภณ โกชุม 2.นาย ถาวร เกียรติไชยากร 3.นายสุรสิทธิ์ วงศ์วิทยานันท์ 4.นาย ไผ่ ลิกค์ 5.นาย ภักดีหาญส์ หิมะทองคำ 6.นาย โกวิทย์ ธรรมานุชิต 7.นายก ล่ำคาน ปาทาน 8.นายณพจน์สกร ทรัพยสิทธิ์ 9.นาย สมพงษ์ พรหมกลาง 10.นาย ทนง บุษราคัม 11.นาย สยาม หัตถสงเคราะห์ 12.นายขวัญชัย สาราคำ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบุคคลทั้ง12 คนที่ได้รับการแต่งตั้ง นั้น ล้วนเป็นส.ส.สอบตกและมีความใกล้ชิดกับนักการเมืองดังหลายคน เช่น นายณพจน์สกร ทรัพยสิทธิ์ อดีตผู้สมัครส.ส.นครพนมและเป็นน้องชายนายอรรถสิทธิ์(คันคาย) ทรัพยสิทธิ์ อดีตส.ส.นครพนม นาย ถาวร เกียรติไชยากร อดีตผู้สมัคร เชียงใหม่ พรรคพลังประชาชน นายภักดีหาญส์ อดีตผู้สมัครส.ส.กทม.พรรคพลังประชาชน และเป็นกลุ่มกทม.ของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ นายไผ่ อดีตผู้สมัครส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชาชนและบุตรชายนาย เรืองวิทย์ ลิกค์ อดีตส.ส.หลายสมัย กำแพงเพชร
แต่ที่น่าสนใจคือนาย ขวัญชัย สาราคำ ชื่อตามบัตรประชาชน หรือที่รู้จักกันในนาม ขวัญชัย ไพรพนาแกนนำกลุ่มคนรักอุดรฯ ที่นำมวลชนกว่า 700 คนเข้าทำร้ายกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่สวนสาธารณะหนองประจักษ์ศิลปาคม อ.เมือง จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมาได้รับการแต่งตั้งด้วย
แหล่งข่าวจากข้าราชการประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีที่ได้รับแต่งตั้ง เปิดเผยว่า บุคคลที่ได้รับแต่งตั้งตำแหน่งเทียบเท่าข้าราชการซี8 ได้รับเงินเดือน 27,000 บาทต่อเดือน ส่วนหน้าที่ในการทำงานแล้วแต่จะได้รับมอบหมายจากเลขาธิการนายกฯ แต่ส่วนใหญ่บุคคลที่ได้รับแต่งตั้งอาจจะถูกขอตัวไปช่วยงานในแต่ละกระทรวง ขณะที่บางคนทำงานอยู่ที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ส่วนกรณีนายขวัญชัย ที่ได้รับแต่งตั้งนั้นทราบมาว่านายธีระชัย แสนแก้ว รมช.เกษตรและสหกรณ์ เป็นคนเสนอชื่อนายขวัญชัย เข้าสู่ที่ประชุมครม.เพื่อให้มารับในตำแหน่งดังกล่าว เนื่องจากมองว่าเป็นบุคคลที่มีความสามารถทำงานได้ เป็นนักจัดรายการวิทยุที่อุดรธานี ซึ่งปัจจุบันนายขวัญชัยถูกดึงตัวไปช่วยงานที่กระทรวงเกษตรฯบ้างในบางครั้ง
นาย ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าตนไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการแต่งตั้งข้าราชการประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และไม่ทราบว่าตามระเบียบข้าราชการพลเรือนให้อำนาจหน้าที่ทำอะไรบ้าง เมื่อถามว่าบุคคลที่ได้รับแต่งตั้งนั้นมีเงินเดือนหรือไม่ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ได้รับเงินเดือน เพราะตำแหน่งดังกล่าวถือเป็นข้าราชการการเมือง

"พันธมิตรฯ"จี้ ย้ายผู้ว่าฯและผู้การอุดรฯ
เมื่อเวลา 18.30 น. นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า วันนี้(28 ก.ค.) เวลา 10.00 น. ตนและแกนนำจะเปิดแถลงข่าวที่บ้านพระอาทิตย์ จากนั้นจะไปยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน ประจำสหประชาชาติ ที่สำนักงานยูเอ็น ถนนราชดำเนิน เพื่อหาช่องทางเอาผิดรัฐบาลที่ปล่อยให้เกิดเหตุการณ์ป่าเถื่อนและความรุนแรง จากนั้นวันอังคารที่ 29 ก.ค. ในช่วงบ่ายผู้เสียหายและทนายความจะเดินทางไปยังสำนักงานป.ป.ช. เพื่อกล่าวโทษผู้ที่ใช้ความรุนแรงและผู้เบื้องหลังทั้งหมดรวมทั้งผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับการ หัวหน้าตำรวจที่ จ.อุดรธานี และนอกจากนี้กำลังพิจารณากฎหมายว่าจะเอาผิดถึงตัวร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีได้หรือไม่ เพราะเรื่องนี้ทำเป็นกระบวนการ มีการออกแบบและมีการกำกับจากในพื้นที่และส่วนกลาง
ส่วนที่เลือกยื่นกับป.ป.ช.นั้น นายสุริยะใส กล่าวว่า ถ้าจำเหตุการณ์ที่เซ็นทรัลเวิลด์ได้ที่มีการปะทะกันระหว่างพันธมิตรฯกับคนรักทักษิณจนมีการหัวร้างค่างแตก ซึ่งมีตำรวจที่ชื่อ “โอ๋สืบ6” หรือ พ.ต.อ.ฤทธิรงค์ เทพจันดา อดีตผู้กำกับการสืบสวนนครบาล 6 ก็ถูกป.ป.ช.ชี้มูลความผิดและลงโทษทางวินัย แต่ทั้งนี้ระดับความรุนแรงที่จ.อุดรเมื่อเทียบกันแล้วต่างกันมาก ฉะนั้นจึงมั่นใจว่าป.ป.ช.จะให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหายได้
นอกจากนี้ได้มีการขอให้สภาทนายความช่วยดูแลเรื่องคดีความโดยจะเรียกร้องให้พล.ต.อ.พัชรวาท วงศ์สุวรรณ ผบ.ตร.หรือรัฐบาลให้ย้ายผู้ว่าฯ ผู้บังคับการตำรวจที่เป็นปัญหาออกจากพื้นที่เพราะจะเป็นปัญหาต่อรูปคดี เพราะมีพฤติกรรมเหมือนสมรู้ร่วมคิด อย่างไรก็ดีตนเชื่อว่าเป็นนโยบายของรัฐบาลในการจัดตั้งกลุ่มอันธพาลออกมาต่อต้านพันธมิตรฯ อย่างเช่น จ.อุดรธานี มีข่าวว่ามีเจ้าของโรงงานน้ำตาลเอาคนงานมา ซึ่งคงจะมีการตรวจสอบเรื่องนี้อีกที
“ นายสมัครมีท่าทีส่งสัญญาณให้ใช้ความรุนแรงเป็นระยะ และวันนี้นายสมัครก็ไม่ได้แสดงความคิดเห็นเพื่อแสดงออกถึงความจริงใจของผู้นำต่อเหตุการณ์ กลับเพิกเฉยไม่รู้ร้อน-รู้หนาวไม่สนใจกับเหตุการณ์ รวมทั้งก่อนหน้านี้นายสมัครเคยกล่าวในรายการสนทนาประสาสมัครว่าถึงเวลาต้องฆ่าคืนบ้าง ซึ่งคำพูดเหล่านี้คือใบเสร็จในการใช้ความรุนแรง เป็นการส่งสัญญาณโดยผู้นำ อย่างไรก็ตามตอนนี้ได้มีการกำชับแกนนำที่ภาคอีสานว่าจังหวัดใดไม่มั่นใจในความปลอดภัยขอให้งดการชุมนุมก่อน ส่วนภาคใต้ ตะวันออก ตะวันตกและเหนือบางส่วนก็ยังจะจัดต่อ ที่อาจจะเป็นการเปิดวิดีโอการชุมนุมจากถนนราชดำเนินแทนการเปิดเวทีใหญ่”นายสุริยะใส กล่าว
นายสุริยะใส กล่าวอีกว่า ตนมีหลักฐานเด็ดจากช่อง 7 ที่มีการแพร่ภาพกลุ่มต้านพันธมิตรฯใช้ขวาน และมีคนถูกฟันจริง ก็จะขอความร่วมมือจากช่อง7เพื่อนำข่าวชิ้นนั้นมาเป็นหลักฐาน นอกจากนี้ยังภาพวีดีโอที่ยังไม่มีการเผยแพร่ที่ไหนมาเป็นหลักฐานยืนยันด้วย อย่างไรก็ตามในส่วนของตัวเลขคนเจ็บ คนหายและคนตาย จากการตรวจสอบในพื้นที่ไม่ยืนยันว่ามีคนตายหรือไม่ แต่ศพที่พบตามข่าวเท่าที่ตรวจสอบกับหมอยังไม่ใช่ ส่วนคนหายยังไม่ยืนยันว่าหายจริงหรือไม่เช่นกัน

บี้แพทยสภาสอบถอนใบอนุญาต “เหวง”
นายสุริยะใส กล่าวถึงการที่นายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำคนรักอุดรฯ ประกาศบนเวทีหลังจากตีกลุ่มพันธมิตรเสร็จเรียบร้อยแล้วว่าร.ต.อ.เฉลิมและนายแพทย์เหวง โตจิราการ อดีตแกนนำนปก. โทรศัพท์ไปแสดงความยินดี ซึ่งตนปรึกษากับนพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ ม.จุฬาฯว่าเข้าข่ายผิดจรรยาบรรณวิชาชีพหมอหรือไม่ เพราะถ้าหากนายแพทย์เหวงโทรไปแสดงความยินดีจริงก็ถือว่าผิดจรรยาบรรณแพทยสภาต้องตรวจสอบ ดังนั้นจึงจะมีการยื่นต่อแพทยสภาพิจารณาพฤติกรรมดังกล่าว
“ร.ต.อ.เฉลิมโทรไปยินดีผมไม่แปลกใจเพราะเขาดูแลยุทธศาสตร์เรื่องการใช้ความรุนแรง แต่หมอเหวงอาชีพเป็นหมอแต่คุณสะใจหรือพึงพอใจกับความเจ็บความตายของมนุษย์ของคนมันถือว่าเป็นเรื่องที่รับกันไม่ได้ ซึ่งกรณีแบบนี้ก็เคยมีการถอดถอนใบอนุญาต”นายสุริยะใส กล่าวและว่านายแพทย์เหวงเปิดคลินิกอยู่ที่ย่านบางเขน ใกล้ๆกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

”หมัก”หุบปากการเมือง-นปก.ให้กำลังใจ
เมื่อเวลา 08.30 – 09.30 น.วานนี้(27 ก.ค.) นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ดำเนินรายการ "สนทนาประสาสมัคร" ทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที และวิทยุในเครือกรมประชาสัมพันธ์ตามปกติทุกวันอาทิตย์ แต่ปรากฏว่า นายสมัครไม่ได้กล่าวถึงสถานการณ์ หรือตอบโต้ทางการเมือง อย่างที่เคยใช้โอกาสนี้ทุกสัปดาห์ แต่นายสมัคร กลับใช้เวลาของรายการ 1 ชั่วโมงเต็ม กล่าวถึง ความสำคัญ และประวัติความเป็นมาของภาษาไทย ตลอดจนอวดภูมิรู้เกี่ยวกับโคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน อย่างสบายอารมณ์ โดยระบุว่าเนื่องจาก วันที่ 29 ก.ค.นี้ จะเป็นวันภาษาไทยแห่งชาติ
อย่างไรก็ตามตอนท้ายรายการ ช่วงตอบคำถาม นายสมัคร อ้างว่า มีจดหมายที่เขียนมา บอกให้อธิบายเรื่อง"กฎหมายลูก กฎหมายหลาน" ที่นายสมัครเคยพูดถึงสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสเมื่อวันก่อน ซึ่งนายสมัครตั้งข้อสังเกตว่า กฎหมายหลาน คือ พ.ร.บ.องค์กรกระจายเสียงแพร่ภาพสาธารณะไทย ที่มายึดเอาสถานีโทรทัศน์ไอทีวีไป ทำ สถานีโทรทัศน์ทีพีบีเอสให้เป็นทีวีสาธารณะ เอาเงินไปปีละ 2 พันล้านบาท ออกเมื่อวันที่ 15 ม.ค. 51 ส่วนกฎหมายแม่ เพิ่งออกวันที่ 5 มี.ค.51
นอกจากนี้ ยังตั้งข้อสังเกตถึง พ.ร.บ. องค์กรกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะซึ่งยังไม่ออกบังคับใช้ แต่กลับมีกฎหมายประกอบ ซึ่งเป็นกฎหมายเกี่ยวข้องกับทีวีสาธารณะออกมา โดยยืนยันว่า ไม่ได้พูดกำกวมใน เรื่องดังกล่าว
"กฎหมายแม่ของแม่หรือ กฎหมายยาย นี่ยังไม่ออกเลย คือพ.ร.บ.จัดสรรคลื่นความถี่ ตาม มาตรา 70 หรือ มาตรา 40 นี่ ยังไม่เกิด แปลว่ายังไง ชิงออกมาก่อนเลย แม่ยังไม่เกิดเลย ลูกออกมาแล้ว ยายอยู่ไหนยังไม่รู้เลย กฎหมายหลาน พ.ร.บ.องค์กรกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะ ซึ่ง ออกมา 15 ม.ค. 51 ซึ่งบอกว่า เป็นกฎหมายหลาน แล้วกฎหมายแม่ เพิ่งจะออกมาเมื่อวันที่ 5 มี.ค. 51 ทำไม ขณะที่กฎหมายยายยังไม่ออกเลย พ.ร.บ.จัดสรรคลื่นความถี่ ยังไม่เกิด ทั้งนี้ อยากจะถามว่า การที่กฎหมายหลานออกมาก่อน แปลว่าอย่างไร ชิงออกมาก่อน แม่ยังไม่เกิดเลย ลูกออกมาก่อนแล้ว ยายอยู่ไหนยังไม่รู้เลย" นายกรัฐมนตรี กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายสมัคร จัดรายการอยู่นั้นได้มีกลุ่มนปก. พากันสวมเสื้อสีแดง มาคอยให้กำลังใจนายสมัคร อยู่ด้านนอกห้องส่ง10 กว่าคน แต่ไม่มีเหตุวุ่นวายอะไร

จวกหมักนิ่งเฉยนปก.ไล่ฆ่าคน
         วานนี้(27 ก.ค.)นายสมศักดิ์ โกศัยสุข พร้อมด้วย นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวบนเวทีที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ในรายการคู่ขนานตอบโต้รายการสนทนาประสาสมัคร โดยนายสมศักดิ์กล่าวว่า นายสมัครไม่พูดถึงเหตุการณ์ความโหดเหี้ยมอำมหิตที่ประชาชนถูกรุมทำร้ายที่จังหวัดอุดรธานี แถมไม่ได้พูดห้ามปราบ เหมือนสนับสนุนให้อันธพาลการเมืองก่อเหตุ ขณะเดียวกันพยายามเบี่ยงเบนพูดนิทานโกหกไปเรื่อย พยายามจะใช้สื่อรัฐโฆษณาชวนเชื่อ ทั้งที่องค์การสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติออกแถลงการณ์ประณามรัฐบาลชุดนี้ที่ไม่ได้คุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานประชาธิปไตยของประเทศด้วยการปล่อยให้พวกอันธพาลที่สนับสนุนรัฐบาลใช้ความรุนแรงอย่างเสรี ทั้งที่ประชาชนเป็นเจ้าของประเทศ มีสิทธิวิพากษ์วิจารณ์ และโดยหลักรัฐบาลต้องห้ามปราบเรื่องที่ผิดกฎหมายและผิดศีลธรรม
        ที่สำคัญคือรัฐบาลพยายามบิดเบือนกลบเกลื่อนเรื่องเลวร้ายที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะนายสมัครมีจิตสำนึกของความเป็นเผด็จการ ไม่สนใจความเดือนร้อนของประชาชน ทั้งที่ปัญหาความเดือนร้อนของประชาชนในขณะนี้มีมากมายหลายเรื่อง ทั้งปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัญหาเขาพระวิหาร ปัญหาเศรษฐกิจ การที่นายสมัครไม่เอาเรื่องความรุนแรงที่เกิดขึ้นมาพูด เพราะนายสมัครไม่สามารถอธิบายอะไรได้ ตกเป็นจำเลยอย่างเดียว รัฐบาลที่ทำแบบนี้คือรัฐบาลเผด็จการไม่แตกต่างกับฮิตเลอร์ พฤติกรรมผู้นำประเทศไร้ความรับผิดชอบ ไม่สนใจใยดีกับปัญหาที่เกิดขึ้น ในขณะที่ประเทศกำลังวิกฤตขณะนี้ หรืออาจจะมีความสุข สะใจ ที่เห็นพวกตัวเองไปทำร้ายฝ่ายตรงข้าม
         "พันธมิตรฯกับประชาชนไม่ได้ทะเลาะกันแต่เป็นอันธพาลของรัฐบาลทำร้ายอยู่ฝ่ายเดียว เรื่องนี้ทำให้ต่างประเทศไม่ยอมรับ เป็นการทำลายบรรยากาศเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว ไม่ใช่การชุมนุมของเราทำลายบรรยากาศ ต่างประเทศเขาทราบดี เราไม่ได้ไปตีกับใคร อยู่อย่างสงบ แต่เมื่อถูกรังแกเราก็มีสิทธิป้องกันตัว กฎหมายถือว่าไม่มีความผิด ถามว่าคนรักทักษิณทำไมมันเถื่อนถ่อยแบบนี้หรอ ฮิวแมนไรท์ ยังพูดชัดเจนว่ารัฐบาลนี้ต้องคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนในการชุมนุม พวกรัฐบาลทำให้ภาพของประเทศตกต่ำไปสนับสนุนอันธพาลเถื่อนถ่อย สมัครจึงไม่กล้าพูด วันนี้เลยหลบหลีกไม่พูดถึงเรื่องนี้ นายสมัครเหมือนผู้นำที่ไม่ใช่ผู้นำ เป็นผู้นำในครอบครัวก็ยังเป็นไม่ได้ นี่เป็นการเอาตัวรอดทางหนึ่งไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้น" นายสมศักดิ์กล่าว
       นอกจากนี้ นายสมศักดิ์ ยังกล่าวถึง กรณีที่นายสมัครยังแสดงอาการอาฆาตสถานีโทรทัศน์พีทีบีเอสที่เป็นทีวีสาธารณะ โดยพยายามชี้ให้เห็นว่าสถานีโทรทัศน์พีทีบีเอสมีที่มาไม่ถูกต้องพูดเหมือนจะเอาคืน ทั้งที่สถานีโทรทัศน์พีทีบีเอส ดีกว่าฟรีทีวีทุกช่องในขณะนี้ จึงพยายามใช้สงครามสื่อ เอาพวกแกนนำนปก.อันธพาลครองเมืองที่บุกบ้านป๋าเปรมมาพูด ขณะเดียวกันวันนี้เขาไม่สามารถที่จะหยุดยั้งความก้าวหน้าเอเอสทีวีได้ จึงพยายามสกัด
ดังนั้น ต่อไปนี้ขอให้จับตาให้ดีว่ารัฐบาลกำลังวางแผนจะจัดการกับกลุ่มพันธมิตรฯทุกที่ไม่เว้นแม้แต่กทม.และภาคใต้ โดยพยายามทำให้เกิดสงครามประชาชน ซึ่งพันธมิตรฯไม่กลัวอยู่แล้ว แต่ต้องใช้ความระมัดระวัง โดยยืนยันว่าจะเปิดโปงขบวนการเลวร้ายของรัฐบาลหุ่นเชิดจนถึงที่สุด
   
แฉทหารบางกลุ่มหนุนไล่ฆ่าปชช. 
       ด้านนายพิภพ กล่าวว่า วันนี้นายกฯควรตอบเหตุการณ์สำคัญของบ้านเมืองที่กำลังเกิดวิกฤต โดยเฉพาะเหตุการณ์รุนแรงที่ประชาชนถูกรุมทำร้าย ที่จังหวัดอุดรธานี มหาสารคาม เชียงราย มาพูด แต่กลับหลีกเลี่ยงไม่พูดถึง เรื่องนี้ตนขอย้ำว่าคนทำร้ายผู้ชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯนั้นไม่ใช่ขบวนการเครียดแค้นพันธมิตรฯหรือของคนในระดับรากหญ้า แต่เป็นขบวนการอันธพาลการเมือง มีการมอมเหล้าอย่างเต็มที่ จ้างมาทำร้ายประชาชน จากส.ส.ในพื้นที่ ซึ่งรัฐบาลจะต้องแสดงความรับผิดชอบ แต่นายสมัครกลับละเลยไม่พูด นายสมัครกำลังจะสร้างความรุนแรงจอมปลอมขึ้นมา เพราะเขารู้ดีว่าขณะนี้คนอีสานและภาคเหนือไม่ใช่จะเห็นกับรัฐบาลเหมือนเมื่อก่อน มีคนอีสานดูเอเอสทีวี สนใจการเมืองมากขึ้น ดังนั้นอยากให้สื่อเหมารวมคนสนับสนุนทักษิณหรือคนไม่ชอบพันธมิตรฯ เป็นคนมาทำร้าย ต้องแยกแยะ เพราะขณะนี้รัฐบาลพยายามพยายามสร้างภาพว่าเป็นคนกลุ่มใหญ่ไม่พอใจพันธมิตรฯ
      ขณะเดียวกันความรุนแรงที่เกิดขึ้นที่จังหวัดอุดรธานี ตนทราบมาว่า มีทหารบางส่วนเข้าไปสนับสนุนความรุนแรงที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ด้วย ซึ่งผบ.ทบ.จะต้องตอบคำถามเรื่องนี้ เพราะถือเป็นเรื่องที่อันตรายทางสังคม
       "นายสมัครกำลังทำบทบาทเดิมเหมือน 6 ต.ค. นำกำลังนักการเมืองพรรคพลังประชาชนไปทำร้ายทุบตีประชาชน เป็นนายกฯไม่คิดจะแก้ปัญหาของประเทศ นายสมัครกำลังกระตุ้นนำประเทศไปสู่ความรุนแรง และอาจจะไปสนับสนุนยุแหย่ ประชาชนในระบบรากหญ้า ซึ่งเป็นเรื่องที่อันตรายมาก ทำให้เกิดภาพว่าประชาชนตีกันเอง ทำให้คนที่ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ติดตามเรื่องนี้เข้าใจผิดว่าเป็นคนทั้งอีสานหรือทั้งจังหวัดต่อต้านพันธมิตรฯ " แกนนำพันธมิตรฯกล่าว

นักวิการล่าชื่อประณามรบ.ฮิตเลอร์
นายไชยันต์ ไชยพร อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ ภาควิชาการปกครอง จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ในที่ 28 ก.ค.เวลา 12.00 น. ที่ห้องประชุมนิสิตเก่าคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ คณาจารย์ นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยหลายแห่งจะออกแถลงการณ์เรื่อง “ ขอประณามการใช้ความรุนแรงและเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหาโดยการใช้กฎหมายอย่างเต็มที่” สืบเนื่องมาจากการที่มีม็อบถ่อยเข้ามาทำร้ายผู้ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ จ.อุดรธานี อย่างอำมหิตเยี่ยงมนุษย์ผู้กระหายเลือด ซึ่งวิญญูชนไม่ควรกระทำการหรือสนับสนุนการกระทำอันแบบนี้เด็ดขาด ซึ่งทางคณาจารย์ขอประณามการกระทำดังกล่าวและประณามทุกคนที่เกี่ยวข้อง
“น่าเสียใจที่เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นซึ่งหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ตำรวจกลับไม่ทำอะไร รวมถึงยังมีผู้นำในรัฐบาลกล่าวในลักษณะที่ให้ท้ายม็อบที่ใช้ความรุนแรงซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่สามารถยอมรับได้ เรื่องนี้รัฐบาลต้องรับผิดชอบโดยต้องมีการใช้กฎหมายในการลงโทษคนทำผิดอย่างเต็มที่ ไม่เช่นนั้นสถานการณ์จะบานปลายซึ่งครั้งนี้จะรุนแรงกว่า 19 ก.ย. ที่มีการรัฐประหาร แต่ครั้งนี้แม้จะมีการรัฐประหารก็เชื่อว่าจะเอาไม่อยู่และความขัดแย้งนี้จะลุกลามเป็นสงครามการเมืองในที่สุด”นายไชยันต์ กล่าว
ทั้งนี้มหาวิทยาลัยที่ร่วมออกแถลงการณ์ ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ม.ธรรมศาสตร์ ม.รามคำแหง ม.สุโขทัยธรรมาธิราช ม.เชียงใหม่ ม.เที่ยงคืน ม.มหาสารคาม เป็นต้น

นำผู้บาดเจ็บอุดรฯแถลงข่าววันนี้     
พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เปิดเผยว่า นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ หนึ่งในแกนนำพันธมิตรฯ จะเดินทางไปรับผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ปะทะกับกลุ่มต่อต้านที่ จ.อุดรธานี มาแถลงข่าวที่บ้านพระอาทิตย์ ในเวลา 10.00 น.วันนี้ (28 ก.ค.) ก่อนไปยื่นเรื่องต่อองค์กรสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ และองค์กรสิทธิมนุษยชนแห่งประเทศไทย โดยย้ำว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกิดจากความล้มเหลวของรัฐบาล จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลลาออกโดยเร็วเพื่อเปิดทางให้กับการเมืองใหม่ พร้อมกันนี้จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดว่ามีผู้เสียชีวิตหรือไม่ เพราะได้รับแจ้งว่ามีผู้สูญหายจากเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งจะทราบผลภายใน 7-10 วัน

จวก"หมัก"ไม่รู้จักกาละ เทศะ
นาย เทพไท เสนพงศ์ ผูhช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นายสมัคร ใช้รายการสนทนาประสาสมัคร โดยไม่มีการพูดถึงประเด็นการเมืองที่กำลังเป็นปัญหากับประเทศในขณะนี้ แต่ใช้เวลาไปในการสอนภาษาไทยเพียงอย่างเดียว โดยเฉพาะความรุนแรงที่เกิดขึ้นที่ จ.อุดรธานี เพราะทั่วโลกได้ออกมาประณามประเทศไทย ถือเป็นเรื่องใหญ่มาก แต่นายกฯ กลับนิ่งเฉยไม่สนใจ ทั้งนี้ เห็นว่าถ้าประชาชนพึ่งอำนาจในระบบไม่ได้ วันหน้าจะเรียกหาอำนาจนอกระบบ ซึ่งจะสร้างความเสียหายต่อระบอบประชาธิปไตย จึงอยากให้นายกฯ รักษาภาพลักษณ์ของชาติด้วย
นายสาธิต ปิตุเตชะ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า คนที่เป็นนายกฯ ของประเทศ ถ้าจะใช้เวลาพูดเรื่องภาษาไทย ไม่มีใครว่า แต่ต้องรู้จักจัดลำดับความสำคัญของปัญหา เพราะแทนที่นายกฯ จะพูดถึงปัญหาที่ดำรงคงอยู่ และก่อให้เกิดปัญหาให้กับประเทศ กลับไม่ทำ ถือว่านายกฯ เป็นคนไม่รู้จักเวลา ไม่จัดลำดับความสำคัญในการแก้ปัญหา ถ้าทำอย่างนี้น่าจะไปเป็นครูสอนภาษาไทยมากกว่าเป็นนายกฯ
"ผมขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทยต้องรับผิดชอบ เอากฎหมายคืนมา เอากฎหมู่คืนไป หาคนผิดมาลงโทษให้ได้ และปรับครม. เอาร.ต.อ.เฉลิม ออกไปจากตำแหน่ง เพราะไม่ได้รักษาความสงบในประเทศตามหน้าที่ แต่สร้างความแตกแยกภายในประเทศ และเรียกร้องพรรคร่วมรัฐบาลว่า ต้องแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ไปยังนายกฯ ว่าควรดำเนินการเรื่องนี้อย่างไร " นายสาธิตกล่าว

กมธ.สิทธิมนุษยชนฯ วุฒิฯจวกหุ่นเชิด
นางนฤมล ศิริวัฒน์ ส.ว.อุตรดิตถ์ ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา กล่าวว่า กมธ.สิทธิมนุษยชนฯ จะแถลงข่าวในวันที่ 28 ก.ค.นี้ ที่รัฐสภา เวลา 14.00 น.เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลออกมาแสดงความรับผิดชอบถึงความรุนแรงที่เกิดขึ้นจากการปะทะกันระหว่างกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและกลุ่มชมรมรักอุดร ที่จังหวัดอุดรธานี อยากเห็นผู้ที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้กำกับการจังหวัดอุดรฯ นั่งเรียงหน้าเหมือนตอนที่รัฐบาลแถลง 6 เดือน 6 มาตรการ ฝ่าวิกฤตเพื่อคนไทยทุกคน บอกว่า ผู้ที่รับผิดชอบได้ทำอะไรไปแล้วบ้างกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ปล่อยให้มีการใช้ความรุนแรง โดยไม่ต้องคำนึงว่าเป็นฝ่ายใด
“อยากเห็นการกระทำของผู้ที่เกี่ยวข้องบ้างว่า ได้ทำอะไรที่เคารพประชาชน เพราะแค่มาตรา 81 วรรค 2 ของกฎหมายรัฐธรรมนูญที่ว่า คุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของบุคคลให้พ้นจากการล่วงละเมิด ทั้งโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐและโดยบุคคลอื่นและต้องอำนวยความยุติธรรมแกประชาชนอย่างเท่าเทียมกันก็ฉิวเฉียดอยู่แล้ว เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่แค่มีคนเจ็บ แต่ภาพพจน์ของประเทศต่อสายตาชาวโลกกำลังมองว่า บ้านเราป่าเถื่อน ซึ่งเรื่องนี้ควรได้รับการประณาม เพราะจิตใจของประชาชนเวลานี้แย่เต็มที และจะมีการทำจดหมายเปิดผนึกถึงรัฐบาล” โฆษก กมธ.สิทธิมนุษยชนฯ กล่าว

บิ๊กบังลั่นการชุมนุมเป็นสิทธิตามรธน.
พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองหลังปาฐกถาพิเศษเรื่อง “แนวโน้มสู่ภาวะวิกฤติของสังคม” ซึ่งจัดโดยเครือข่ายมุสลิมอภิวัฒน์และสมาคมผู้ผลิตและส่งออกสินค้าฮาลาลไทยตอนหนึ่งว่า ต้องหยิบรัฐธรรมนูญมาพูด เพราะเป็นแม่แบบเป็นพิมพ์เขียวขนาดใหญ่ที่คนทั้งประเทศต้องนำมาใช้ ดังนั้น มาตราใดกำหนดให้ประชาชนทำอะไร ก็ต้องให้ปฏิบัติไปตามสิทธิที่มีอยู่ ปัญหาที่เกิดขึ้นใน จ.อุดรธานี เป็นหน้าที่ที่เจ้าหน้าที่รัฐต้องยอมรับรัฐธรรมนูญที่มีอยู่ และปฏิบัติตามหน้าที่ที่ตนเองมี ต้องไม่ให้เกิดการทะเลาะเบาะแวงกัน ซึ่งเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่
ส่วนกรณีนายธีรยุทธ บุญมี อาจารย์คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ระบุว่าสถานการณ์ขณะนี้อาจเป็นสงครามการเมืองบานปลายเหมือนเหตุการณ์เดือนตุลา ควรนำ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรมาใช้หรือไม่ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ไม่น่าถึงขนาดนั้น เพราะเงื่อนไขไม่เหมือนกัน แต่ พ.ร.บ.ความมั่นคงจะใช้หรือไม่ อยู่ที่คณะกรรมการของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และมี ผบ.ทบ.เป็นผู้อำนวยการ และการแก้ปัญหาเป็นเรื่องของคณะกรรมการ
“ความคิดเห็นแตกต่างเกิดทั่วโลกตามระบอบประชาธิปไตย แต่การปฏิบัติแต่ละกลุ่ม แต่ละภาค แต่ละส่วน ต้องยึดถือรัฐธรรมนูญเป็นที่ตั้งว่า อะไรทำได้ก็ทำ และอะไรทำไม่ได้ก็อย่าทำ หน้าที่ของราชการของรัฐใครมีหน้าที่ใดต้องทำอย่างนั้น ต้องไม่ให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐ”
เมื่อถามว่า จะเสนอแนะ ผบ.เหล่าทัพอย่างไร หากนายกฯให้กองทัพออกมาควบคุมสถานการณ์การชุมนุม พล.อ.สนธิ กล่าวว่า การเข้าแก้ปัญหาและทำให้กองทัพเกิดความขัดแย้งกับประชาชนคิดว่า ผบ.เหล่าทัพ คงไม่มีใครไปทำ เพราะเราเป็นทหารของประชาชน
เมื่อถามว่า ดูบทบาท พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก อิงข้างการเมืองหรือยืนอยู่บนความพอดี พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ไม่มีใครรู้ว่าในที่ประชุมท่านคิดอะไร ท่านฟังนโยบายอย่างไร เราตอบไม่ได้ ดังนั้น คนเป็นผู้นำเราต้องเคารพการตัดสินใจของเขา เมื่อถามว่า โอกาสที่จะเกิดรัฐประหารในสังคมไทยยังมีหรือไม่ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า “มันมีโอกาสเป็นไปได้ยาก”
เมื่อถามว่า รัฐบาลทำหน้าที่เต็มที่หรือไม่โดยเฉพาะปัญหาที่ จ.อุดรธานี พล.อ.สนธิ กล่าวว่า อย่างที่ ผบ.ตร. ระบุว่าปัญหานี้เกิดได้ทุกที่ แต่เราต้องมาหาหนทางไม่ให้ครั้งหน้าเกิดอีก ประเทศไทยเราส่วนมากจะล้อมคอก เมื่อวัวหายไปแล้ว เป็นปกติของประเทศไทย

ยันรธน.ไม่ใช่เป็นของคมช.
พล.อ.สนธิกล่าวต่อว่า การที่รัฐบาลพยายามโยงว่ารัฐธรรมนูญมีที่มาจาก คมช. จึงต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นไม่ถูกต้อง เพราะ คมช.ไม่รู้เรื่อง ไม่มีส่วนในการทำ เราให้เสรีองค์กรอิสระดำเนินการ คณะทำงานไปทำรัฐธรรมนูญฉบับ 2550 มีความรู้ มีหลายอาชีพ และทหารก็เป็นประชาชน เป็นนักประชาธิปไตยแท้จริง ต้องการให้ประเทศเป็นประชาธิปไตยอย่างไร ล
“รัฐธรรมนูญฉบับ 2550 มีความสมบูรณ์ และ คมช.ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง รัฐธรรมนูญฉบับนี้ลงประชามติไปแล้ว คนส่วนใหญ่ยอมรับ ส่วนถึงเวลาแก้ไขหรือยัง เราวิเคราะห์ไม่ได้ แต่อยู่ที่รัฐบาลมีอำนาจหรือไม่ ถ้ามีอำนาจก็อยู่ที่รัฐบาล ต้องว่ากันตามกติกา หากแก้ได้ก็แก้ ส่วนองค์กรอิสระที่ คมช. ตั้งไว้ บางองค์กรก็ตรวจสอบ คมช.เองตรวจซ้ำ นั่นคือความสำเร็จขององค์กรอิสระที่นำมาใช้ ยืนยันว่าองค์กรอิสระ คมช. เข้าไปควบคุมไม่ได้ ไม่ว่าเป็น ปปช. คตส. เราไม่เคยเข้าไปยุ่ง”พล.อ.สนธิกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น