เอเอฟพี – เจ้าหน้าที่รับผิดชอบขีปนาวุธนิวเคลียร์แห่งกองทัพอากาศสหรัฐฯ ถูกลงโทษทางวินัย ฐานแอบหนีไปงีบหลับ ขณะที่ครอบครองส่วนประกอบรหัสปล่อยอาวุธมหาประลัย โฆษกทัพฟ้าอเมริกาแถลงวันพฤหัสบดี (24)
ความพลั้งเผลอดังกล่าวที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคมที่ผ่านมา ณ ฐานทัพอากาศไมนอต ณ มลรัฐนอร์ทดาโคตาของสหรัฐฯ ถือเป็นความผิดพลาดอันน่าอัปยศรั้งล่าสุดที่เกี่ยวข้องกับอาวุธนิวเคลียร์หรือชิ้นส่วนทางนิวเคลียร์ หลังจากเพิ่งเกิดขึ้นมาแล้วก่อนหน้านี้ 2 ครั้ง โฆษกกองทัพอากาศกล่าว
ผลสอบสวนการละเมิดขั้นตอนปฏิบัติคราวนี้ "สรุปว่า วัสดุที่เป็นความลับดังกล่าวไม่ได้มีความเสียหายและเกิดอันตรายแต่อย่างใด ทัพฟ้าอเมริกากล่าวในคำแถลง
ส่วนประกอบรหัสปล่อยนิวเคลียร์ที่ว่านี้ เป็นอุปกรณ์ที่ทำให้เจ้าหน้าทีรับผิดชอบขีปนาวุธสามารถป้อนคำสั่งอิเล็กทรอนิกส์เพื่อปล่อยขีปนาวุธนิวเคลียร์ รหัสดังกล่าวจะถูกสับเปลี่ยนไปตามกำหนดเวลา และจะวนกลับมาใช้กันใหม่
ระหว่างอยู่เวร เจ้าหน้าที่รับผิดชอบขีปนาวุธนิวเคลียร์ 4 คน จัดแจงเปลี่ยนรหัสลับดังกล่าว ภายในศูนย์ควบคุมการปล่อยนิวเคลียร์ที่อยู่ชั้นใต้ดิน จากนั้นก็ขึ้นไปยังบริเวณอาคารเตรียมความพร้อมอาวุธนิวเคลียร์ (เอ็มเอเอฟ) ที่อยู่บนพื้นดิน พร้อมด้วยส่วนประกอบดังกล่าวที่บรรจุรหัสลับเก่าเอาไว้ เพื่อรอลำเลียงกลับไปยังศูนย์บัญชาการหลักของฐานทัพ โฆษกกองทัพบอก
ระหว่างรอกลับฐาน เจ้าหน้าที่ทั้ง 4 คนนี้ ได้เข้าไปยังเขตพักผ่อนสำหรับเจ้าหน้าที่ที่มีเครื่องนอนอยู่พรักพร้อมแล้วจึงเผลอหลับไป ทั้งที่การกระทำดังกล่าถือเป็นการละเมิดกฎข้อบังคับ
“ผลการสอบสวนเปิดเผยให้ทราบว่า ตลอดระยะเวลาที่เกิดเหตุผิดพลาดนี้เกิดขึ้นรหัสลับดังกล่าวถูกเก็บรักษาอยู่ในกล่องที่มีกุญแจล็อค ซึ่งมีวิธีเปิดอย่างซับซ้อนและ มีเพียงเจ้าหน้าที่ทั้ง 4 คนนี้เท่านั้นที่รู้”
“นอกจากนั้น การเข้าสู่อาคารเตรียมความพร้อมอาวุธนิวเคลียร์ก็ยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของกองกำลังรักษาความปลอดภัยแห่งกองทัพอากาศ และรหัสลับดังกล่าวก็ถูกแทนที่และยกเลิกแล้วไปแล้ว” ทัพฟ้าแถลงยืนยัน
ความพลั้งเผลอครั้งนี้ได้รับการรายงานโดยหนึ่งใน 4 เจ้าหน้าที่รับผิดชอบขีปนาวุธนิวเคลียร์ โฆษกทัพฟ้ากล่าว
"เราอยากบอกว่า ความพลาดพลั้งที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาของการปฏิบัติตามขั้นตอนที่กำหนดไว้
แต่เมื่อใดก็ตามที่คุณมีหน้าที่รับผิดชอบอาวุธนิวเคลียร์ ขั้นตอนต่าง ๆ ทั้งหลายเหล่านี้ ต้องถือเป็นขั้นตอนในการอารักขาป้องกัน และนั่นเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง”
โฆษกผู้นี้บอกต่อว่า เจ้าหน้าที่รับผิดชอบนิวเคลียร์ทั้ง 4 คนนี้ “จะถูกลงโทษทางวินัยอย่างไม่มีข้อสงสัย”
การอารักขาอาวุธนิวเคลียร์ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ถูกเพ่งเล็งมากเป็นพิเศษ หลังเกิดเหตุความพลั้งเผลอทำนองนี้อยู่เรื่อย ๆ
ความพลั้งเผลอดังกล่าวที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคมที่ผ่านมา ณ ฐานทัพอากาศไมนอต ณ มลรัฐนอร์ทดาโคตาของสหรัฐฯ ถือเป็นความผิดพลาดอันน่าอัปยศรั้งล่าสุดที่เกี่ยวข้องกับอาวุธนิวเคลียร์หรือชิ้นส่วนทางนิวเคลียร์ หลังจากเพิ่งเกิดขึ้นมาแล้วก่อนหน้านี้ 2 ครั้ง โฆษกกองทัพอากาศกล่าว
ผลสอบสวนการละเมิดขั้นตอนปฏิบัติคราวนี้ "สรุปว่า วัสดุที่เป็นความลับดังกล่าวไม่ได้มีความเสียหายและเกิดอันตรายแต่อย่างใด ทัพฟ้าอเมริกากล่าวในคำแถลง
ส่วนประกอบรหัสปล่อยนิวเคลียร์ที่ว่านี้ เป็นอุปกรณ์ที่ทำให้เจ้าหน้าทีรับผิดชอบขีปนาวุธสามารถป้อนคำสั่งอิเล็กทรอนิกส์เพื่อปล่อยขีปนาวุธนิวเคลียร์ รหัสดังกล่าวจะถูกสับเปลี่ยนไปตามกำหนดเวลา และจะวนกลับมาใช้กันใหม่
ระหว่างอยู่เวร เจ้าหน้าที่รับผิดชอบขีปนาวุธนิวเคลียร์ 4 คน จัดแจงเปลี่ยนรหัสลับดังกล่าว ภายในศูนย์ควบคุมการปล่อยนิวเคลียร์ที่อยู่ชั้นใต้ดิน จากนั้นก็ขึ้นไปยังบริเวณอาคารเตรียมความพร้อมอาวุธนิวเคลียร์ (เอ็มเอเอฟ) ที่อยู่บนพื้นดิน พร้อมด้วยส่วนประกอบดังกล่าวที่บรรจุรหัสลับเก่าเอาไว้ เพื่อรอลำเลียงกลับไปยังศูนย์บัญชาการหลักของฐานทัพ โฆษกกองทัพบอก
ระหว่างรอกลับฐาน เจ้าหน้าที่ทั้ง 4 คนนี้ ได้เข้าไปยังเขตพักผ่อนสำหรับเจ้าหน้าที่ที่มีเครื่องนอนอยู่พรักพร้อมแล้วจึงเผลอหลับไป ทั้งที่การกระทำดังกล่าถือเป็นการละเมิดกฎข้อบังคับ
“ผลการสอบสวนเปิดเผยให้ทราบว่า ตลอดระยะเวลาที่เกิดเหตุผิดพลาดนี้เกิดขึ้นรหัสลับดังกล่าวถูกเก็บรักษาอยู่ในกล่องที่มีกุญแจล็อค ซึ่งมีวิธีเปิดอย่างซับซ้อนและ มีเพียงเจ้าหน้าที่ทั้ง 4 คนนี้เท่านั้นที่รู้”
“นอกจากนั้น การเข้าสู่อาคารเตรียมความพร้อมอาวุธนิวเคลียร์ก็ยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของกองกำลังรักษาความปลอดภัยแห่งกองทัพอากาศ และรหัสลับดังกล่าวก็ถูกแทนที่และยกเลิกแล้วไปแล้ว” ทัพฟ้าแถลงยืนยัน
ความพลั้งเผลอครั้งนี้ได้รับการรายงานโดยหนึ่งใน 4 เจ้าหน้าที่รับผิดชอบขีปนาวุธนิวเคลียร์ โฆษกทัพฟ้ากล่าว
"เราอยากบอกว่า ความพลาดพลั้งที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาของการปฏิบัติตามขั้นตอนที่กำหนดไว้
แต่เมื่อใดก็ตามที่คุณมีหน้าที่รับผิดชอบอาวุธนิวเคลียร์ ขั้นตอนต่าง ๆ ทั้งหลายเหล่านี้ ต้องถือเป็นขั้นตอนในการอารักขาป้องกัน และนั่นเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง”
โฆษกผู้นี้บอกต่อว่า เจ้าหน้าที่รับผิดชอบนิวเคลียร์ทั้ง 4 คนนี้ “จะถูกลงโทษทางวินัยอย่างไม่มีข้อสงสัย”
การอารักขาอาวุธนิวเคลียร์ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ถูกเพ่งเล็งมากเป็นพิเศษ หลังเกิดเหตุความพลั้งเผลอทำนองนี้อยู่เรื่อย ๆ