ผู้จัดการรายวัน- ภาคครัวเรือนแห่กักตุนแอลพีจีเพิ่มเป็นบ้านละ 2-3 ถังเหตุยังผวาขาดแคลนไม่หาย สมาคมผู้ค้าแอลพีจีชี้อันตรายร้านค้ามีถังสำรองไว้มากแถมด้านปริมาณปตท.นำเข้ามาอื้อรวม 9 หมื่นตันพอกับความต้องการแน่นอน แนะรัฐขึ้นแอลพีจีขนส่ง-อุตสาหกรรม10บ./กก.อาจจูงใจให้ใช้ผิดประเภทได้ควรขยับ 5-6 บ./กก.ก่อน
นายชิษณุพงศ์ รุ่งโรจน์งามเจริญ นายกสมาคมผู้ค้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว(แอลพีจี) เปิดเผยว่า จากปัญหาภาวะขาดแคลนก๊าซหุงต้ม(แอลพีจี)ที่ผ่านมาส่งผลให้ประชาชนบางรายมีความวิตกกังวลจึงสำรองถังแอลพีจีภาคครัวเรือนเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 2-3 ถังต่อครัวเรือน จึงต้องการวิงวอนขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกเพราะปัจจุบันปัญหาการขนส่งแอลพีจีได้เข้าสู่ภาวะปกติเกือบ 100 % แล้วจึงมั่นใจได้ว่าแอลพีจีจะไม่ขาดแคลนแน่นอนโดยปริมาณล่าสุดปตท.ได้แจ้งที่จะมีการนำเข้าเพิ่มอีก 3 หมื่นตันจากเดิมที่นำเข้าแล้ว 6 หมื่นตัน
“ ยอมรับว่าประชาชนกังวลจึงมีการกักตุนแอลพีจีในครัวเรือนเพิ่ม บางบ้านซื้อถังเอาไปเก็บ 2-3 ถังซึ่งทางร้านมีถังสำรองไว้รองรับแล้วเห็นว่าเป็นอันตรายจึงต้องการให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกเพราะปัญหาที่เกิดขึ้นที่คลี่คลายสู่ปกติแล้วและที่สำคัญนโยบายรัฐได้ออกมาชัดเจนแล้วว่าจะตรึงราคาภาคครัวเรือนไปอีก 6 เดือน”นายชิษณุพงศ์กล่าว
ทั้งนี้ตามตัวเลขการใช้แอลพีจีในภาคครัวเรือนคงจะต้องติดตามตัวเลขสรุปเดือนก.ค.เพื่อประเมินถึงความต้องการในครัวเรือนที่เพิ่มผิดปกติมากน้อยเพียงใดเพราะอาจจะมีการนำแอลพีจีครัวเรือนไปใช้ผิดประเภทได้แต่สิ่งที่กังวลคือในภาคขนส่งมีอัตราการขยายตัวเพิ่มถึง 20% ถือเป็นอัตราที่สูงมากดังนั้นจำเป็นที่รัฐจะต้องปรับขึ้นราคาภาคขนส่งและอุตสาหกรรมเพื่อลดการใช้แอลพีจีผิดประเภทเนื่องจากต้องยอมรับว่านโยบายรัฐผลิตแอลพีจีเพื่อเน้นภาคครัวเรือนเป็นหลักแต่ต่อมาภาคขนส่งมาแย่งสัดส่วนการใช้จากภาคครัวเรือนจนทำให้ขาดแคลนและต้องนำเข้ามาในที่สุดซึ่งการนำเข้านั้นมีราคาสูงกว่าราคาในประเทศมากการขึ้นภาคขนส่งและอุตสาหกรรมจึงเป็นสิ่งที่ถูกต้อง
อย่างไรก็ตามตามที่มีข่าวระบุว่ากระทรวงพลังงานอาจจะมีการปรับขึ้นราคาแอลพีจีภาคขนส่งและอุตสาหกรรมขั้นต่ำ 10 บาทต่อกิโลกรัม(กก.)นั้นยอมรับว่าเป็นตัวเลขที่อาจจะสูงเกินไปเมื่อเทียบกับแอลพีจีครัวเรือนอาจจูงใจให้มีการนำไปใช้ผิดประเภทได้แม้ว่าเบื้องต้นจะทราบว่ากฏหมายการทำผิดแอลพีจีนั้นค่อนข้างจะรุนแรงก็ตามโดยส่วนตัวเห็นว่าราคาควรจะปรับขั้นต่ำก่อน 5-6 บาทต่อกก.
แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงานกล่าวว่า การกักตุนของประชาชนเป็นความวิตกว่าจะขาดแคลนน่าจะเป็นช่วงระยะสั้นๆ ขณะนี้เชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่เริ่มมั่นใจแล้ว ขณะเดียวกันการกักตุนเพื่อรอปรับขึ้นราคาภาคขนส่งและอุตสาหกรรมก็คงไม่เกิดประโยชน์เพราะรัฐบาลมีนโยบายชัดเจนที่จะเรียกเงินทั้งหมดส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อทยอยจ่ายหนี้คืนจากการที่ปตท.นำเข้ามาและจ่ายเงินไปก่อนล่วงหน้า
นายชิษณุพงศ์ รุ่งโรจน์งามเจริญ นายกสมาคมผู้ค้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว(แอลพีจี) เปิดเผยว่า จากปัญหาภาวะขาดแคลนก๊าซหุงต้ม(แอลพีจี)ที่ผ่านมาส่งผลให้ประชาชนบางรายมีความวิตกกังวลจึงสำรองถังแอลพีจีภาคครัวเรือนเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 2-3 ถังต่อครัวเรือน จึงต้องการวิงวอนขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกเพราะปัจจุบันปัญหาการขนส่งแอลพีจีได้เข้าสู่ภาวะปกติเกือบ 100 % แล้วจึงมั่นใจได้ว่าแอลพีจีจะไม่ขาดแคลนแน่นอนโดยปริมาณล่าสุดปตท.ได้แจ้งที่จะมีการนำเข้าเพิ่มอีก 3 หมื่นตันจากเดิมที่นำเข้าแล้ว 6 หมื่นตัน
“ ยอมรับว่าประชาชนกังวลจึงมีการกักตุนแอลพีจีในครัวเรือนเพิ่ม บางบ้านซื้อถังเอาไปเก็บ 2-3 ถังซึ่งทางร้านมีถังสำรองไว้รองรับแล้วเห็นว่าเป็นอันตรายจึงต้องการให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกเพราะปัญหาที่เกิดขึ้นที่คลี่คลายสู่ปกติแล้วและที่สำคัญนโยบายรัฐได้ออกมาชัดเจนแล้วว่าจะตรึงราคาภาคครัวเรือนไปอีก 6 เดือน”นายชิษณุพงศ์กล่าว
ทั้งนี้ตามตัวเลขการใช้แอลพีจีในภาคครัวเรือนคงจะต้องติดตามตัวเลขสรุปเดือนก.ค.เพื่อประเมินถึงความต้องการในครัวเรือนที่เพิ่มผิดปกติมากน้อยเพียงใดเพราะอาจจะมีการนำแอลพีจีครัวเรือนไปใช้ผิดประเภทได้แต่สิ่งที่กังวลคือในภาคขนส่งมีอัตราการขยายตัวเพิ่มถึง 20% ถือเป็นอัตราที่สูงมากดังนั้นจำเป็นที่รัฐจะต้องปรับขึ้นราคาภาคขนส่งและอุตสาหกรรมเพื่อลดการใช้แอลพีจีผิดประเภทเนื่องจากต้องยอมรับว่านโยบายรัฐผลิตแอลพีจีเพื่อเน้นภาคครัวเรือนเป็นหลักแต่ต่อมาภาคขนส่งมาแย่งสัดส่วนการใช้จากภาคครัวเรือนจนทำให้ขาดแคลนและต้องนำเข้ามาในที่สุดซึ่งการนำเข้านั้นมีราคาสูงกว่าราคาในประเทศมากการขึ้นภาคขนส่งและอุตสาหกรรมจึงเป็นสิ่งที่ถูกต้อง
อย่างไรก็ตามตามที่มีข่าวระบุว่ากระทรวงพลังงานอาจจะมีการปรับขึ้นราคาแอลพีจีภาคขนส่งและอุตสาหกรรมขั้นต่ำ 10 บาทต่อกิโลกรัม(กก.)นั้นยอมรับว่าเป็นตัวเลขที่อาจจะสูงเกินไปเมื่อเทียบกับแอลพีจีครัวเรือนอาจจูงใจให้มีการนำไปใช้ผิดประเภทได้แม้ว่าเบื้องต้นจะทราบว่ากฏหมายการทำผิดแอลพีจีนั้นค่อนข้างจะรุนแรงก็ตามโดยส่วนตัวเห็นว่าราคาควรจะปรับขั้นต่ำก่อน 5-6 บาทต่อกก.
แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงานกล่าวว่า การกักตุนของประชาชนเป็นความวิตกว่าจะขาดแคลนน่าจะเป็นช่วงระยะสั้นๆ ขณะนี้เชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่เริ่มมั่นใจแล้ว ขณะเดียวกันการกักตุนเพื่อรอปรับขึ้นราคาภาคขนส่งและอุตสาหกรรมก็คงไม่เกิดประโยชน์เพราะรัฐบาลมีนโยบายชัดเจนที่จะเรียกเงินทั้งหมดส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อทยอยจ่ายหนี้คืนจากการที่ปตท.นำเข้ามาและจ่ายเงินไปก่อนล่วงหน้า