00 หากจะว่าไปแล้วสถานการณ์ชายแดนทั้งในชายแดนใต้ และภาคตะวันออกนับวันจะล่อแหลมในทุกเวลานาที เสี่ยงจะเสียดินแดนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และถ้าพิจารณาถึงต้นสายปลายเหตุแล้วปัญหาไม่ใช่มาจากคนของเราด้อยความสามารถก็ใช่ที่
00 แต่เป็นเพราะคนของเรา ไม่มีความสำนึกรักชาติ คิดอะไรมองอะไรสั้นๆ แค่หวังผลประโยชน์ทั้งทรัพย์สินเงินทอง หรือหวังลาภยศ ตำแหน่ง แค่นั้น แค่นั้นจริงๆ มันน่าเจ็บใจนักที่ในยุคนี้ เรายังมีคนประเภทเดียวกับ “พระยาจักรี” สมคบกับต่างด้าว “ชักน้ำเข้าลึก ชักศึกเข้าบ้าน” ยอมแลกทุกสิ่งทุกอย่าง
00 ในกรณีการแถลงหยุดยิงแต่เพียงฝ่ายเดียวของกลุ่มโจรใต้ ที่อ้างชื่อว่า “กลุ่มอะไรก็ไม่รู้” จำนวน 3 คน จู่ๆออกแถลงการณ์ทางช่อง 5 แล้วบอกว่านับจากนี้ไปสถานการณ์ชายแดนใต้จะสงบเงียบ ไร้ความรุนแรง ไม่มีการเข่นฆ่ารายวันอีกต่อไป ขณะที่ พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร ทำตัวเป็น “นายหน้า” คุยโม้โอ้อวดการันตีสำทับอีกแรงว่าทุกอย่าง “ของจริง” และพร้อมจะรับผิดชอบ หากเกิดความผิดพลาด(อีกแหละ) มาทำนองเดียวกับ “นพดล” เป๊ะ
00 แล้วเป็นไง นาทีนี้ไม่ต้องมาพูดกันแล้วว่า จริงหรือปลอม เพราะมันปลอมแหงๆ เนื่องจากสถานการณ์ชายแดนใต้มันซับซ้อนเกินกว่า จะใช้คนเพียงแค่ 3 คนโผล่หน้าจอทีวีแล้วบอกว่า “ทุกอย่างเรียบร้อย” มันง่ายเกินไปว่ะ “เหวียง”
00 เวลานี้ไม่ต้องมาพูดกันอีกว่า หลัง คน 3 คนประกาศหยุดยิงนอกจากจะเกิดเหตุยิงถล่มรายวัน “ตูมตาม” ไม่หยุดหย่อนแล้ว แต่สิ่งที่น่าเศร้ายิ่งไปกว่าก็คือความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นสะท้อนความไร้ประสิทธิภาพ และวิธีคิดของหน่วยงานด้านความมั่นคงทั้งหมด ลองถ้ามีการใช้สถานีโทรทัศน์ช่อง 5 ซึ่งสังคมรับรู้กันมานมนานแล้วว่า เป็น “ช่องทหาร” เผยแพร่เรื่องที่ละเอียดอ่อนแบบนี้ได้เป็นวรรคเป็นเวร
00 การออกมาปฏิเสธความรับผิดชอบ ไล่ลงมาตั้งแต่ ผู้บัญชาการทหารบกรวมไปถึงใครต่อใคร หรือแม้แต่ “สมัคร สุนทรเวช” ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมที่ทำท่าทางไม่พูดไม่จา ว่าจริง-เท็จอย่างไรก็ไม่เคยพูดออกมาซักคำ ทีเรื่องอื่นๆแล้วปากดีนัก!!
00 ถ้าให้สรุปจากพื้นฐานและวิธีคิด วิธีปฏิบัติจากเรื่องดังกล่าว ไล่เรียงกันไปตั้งแต่ระดับนโยบายไปจนถึงฝ่ายปฏิบัติมันถึงทำให้สถานการณ์ชายแดนใต้ ยังไม่มี “อนาคต” จนถึงทุกวันนี้
00 ลองหันมาดูชายแดนด้านตะวันออกกันบ้าง น่าสลดหดหู่ไม่แพ้กัน มาวันนี้ทำไปทำมาตอนแรกเราต้องเสีย “ปราสาทพระวิหาร” ที่เคยอ้างสิทธิ์มานานให้กับเขมร เราก็แทบจะกระอักเลือดแล้ว มาวันนี้มีแนวโน้มสูงอีกว่าจะต้องเสีย “พื้นที่ทับซ้อน” ประมาณ 4.6 ตารางกิโลเมตรหรือประมาณ 3 พันไร่ให้ “พวกมัน” ไปอีก ซึ่งก็ไม่มีเหตุผลอะไรต้องพูดกันมาก สาเหตุหลักก็มาจาก “ไอ้หอกหัก” ไปยอมรับในแผนที่แนบท้ายของฝ่ายกัมพูชาเมื่อครั้งที่เสนอขึ้นทะเบียนปราสาทเป็นมรดกโลกนั่นแหละ
00 ถ้าลองย้อนกลับไปเปิดเทปคำพูดของแต่ละคนไล่ไปตั้งแต่ นพดลตัวดี หรือแม้แต่ตัว “ผู้นำ” ที่ปากดีการันตีอย่างภาคภูมิใจในทำนองว่า ให้เขาขึ้นทะเบียน เฉพาะตัวปราสาท “ที่เป็นของเขาเท่านั้น” ไม่มีพื้นที่ทับซ้อน แล้ววันนี้เป็นไงละ “ไอ้หอกหัก” เขมรมันอ้างว่าพื้นที่ทับซ้อนเป็นของมันด้วย แล้วใช้ “จุดแข็งในจุดอ่อน” นำเรื่องไฟฟ้องยูเอ็นให้ไทยเสียหายหาว่าไทยข่มเหงชาติที่อ่อนแอกว่า
00 ที่บอกว่าจะรับผิดชอบหากต้องเสียดินแดน คนอย่างนพดลจะรับผิดชอบอย่างไรมันถึงจะสาสมกับความเสียหายที่เกิดขึ้น
00 นาทีนี้ถึงบอกว่าปัญหาชายแดนใต้และชายแดนตะวันออก ที่กำลังเป็นอยู่ไม่ได้มาจากสาเหตุที่เราอ่อนด้อยกว่าฝ่ายตรงข้าม แต่เป็นเพราะคนของเรามีพฤติกรรมส่อขายชาติ หวังประโยชน์เฉพาะหน้า หวังลาภยศตำแหน่งเท่านั้น พูดแล้ว เครียด !!
00 แต่เป็นเพราะคนของเรา ไม่มีความสำนึกรักชาติ คิดอะไรมองอะไรสั้นๆ แค่หวังผลประโยชน์ทั้งทรัพย์สินเงินทอง หรือหวังลาภยศ ตำแหน่ง แค่นั้น แค่นั้นจริงๆ มันน่าเจ็บใจนักที่ในยุคนี้ เรายังมีคนประเภทเดียวกับ “พระยาจักรี” สมคบกับต่างด้าว “ชักน้ำเข้าลึก ชักศึกเข้าบ้าน” ยอมแลกทุกสิ่งทุกอย่าง
00 ในกรณีการแถลงหยุดยิงแต่เพียงฝ่ายเดียวของกลุ่มโจรใต้ ที่อ้างชื่อว่า “กลุ่มอะไรก็ไม่รู้” จำนวน 3 คน จู่ๆออกแถลงการณ์ทางช่อง 5 แล้วบอกว่านับจากนี้ไปสถานการณ์ชายแดนใต้จะสงบเงียบ ไร้ความรุนแรง ไม่มีการเข่นฆ่ารายวันอีกต่อไป ขณะที่ พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร ทำตัวเป็น “นายหน้า” คุยโม้โอ้อวดการันตีสำทับอีกแรงว่าทุกอย่าง “ของจริง” และพร้อมจะรับผิดชอบ หากเกิดความผิดพลาด(อีกแหละ) มาทำนองเดียวกับ “นพดล” เป๊ะ
00 แล้วเป็นไง นาทีนี้ไม่ต้องมาพูดกันแล้วว่า จริงหรือปลอม เพราะมันปลอมแหงๆ เนื่องจากสถานการณ์ชายแดนใต้มันซับซ้อนเกินกว่า จะใช้คนเพียงแค่ 3 คนโผล่หน้าจอทีวีแล้วบอกว่า “ทุกอย่างเรียบร้อย” มันง่ายเกินไปว่ะ “เหวียง”
00 เวลานี้ไม่ต้องมาพูดกันอีกว่า หลัง คน 3 คนประกาศหยุดยิงนอกจากจะเกิดเหตุยิงถล่มรายวัน “ตูมตาม” ไม่หยุดหย่อนแล้ว แต่สิ่งที่น่าเศร้ายิ่งไปกว่าก็คือความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นสะท้อนความไร้ประสิทธิภาพ และวิธีคิดของหน่วยงานด้านความมั่นคงทั้งหมด ลองถ้ามีการใช้สถานีโทรทัศน์ช่อง 5 ซึ่งสังคมรับรู้กันมานมนานแล้วว่า เป็น “ช่องทหาร” เผยแพร่เรื่องที่ละเอียดอ่อนแบบนี้ได้เป็นวรรคเป็นเวร
00 การออกมาปฏิเสธความรับผิดชอบ ไล่ลงมาตั้งแต่ ผู้บัญชาการทหารบกรวมไปถึงใครต่อใคร หรือแม้แต่ “สมัคร สุนทรเวช” ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมที่ทำท่าทางไม่พูดไม่จา ว่าจริง-เท็จอย่างไรก็ไม่เคยพูดออกมาซักคำ ทีเรื่องอื่นๆแล้วปากดีนัก!!
00 ถ้าให้สรุปจากพื้นฐานและวิธีคิด วิธีปฏิบัติจากเรื่องดังกล่าว ไล่เรียงกันไปตั้งแต่ระดับนโยบายไปจนถึงฝ่ายปฏิบัติมันถึงทำให้สถานการณ์ชายแดนใต้ ยังไม่มี “อนาคต” จนถึงทุกวันนี้
00 ลองหันมาดูชายแดนด้านตะวันออกกันบ้าง น่าสลดหดหู่ไม่แพ้กัน มาวันนี้ทำไปทำมาตอนแรกเราต้องเสีย “ปราสาทพระวิหาร” ที่เคยอ้างสิทธิ์มานานให้กับเขมร เราก็แทบจะกระอักเลือดแล้ว มาวันนี้มีแนวโน้มสูงอีกว่าจะต้องเสีย “พื้นที่ทับซ้อน” ประมาณ 4.6 ตารางกิโลเมตรหรือประมาณ 3 พันไร่ให้ “พวกมัน” ไปอีก ซึ่งก็ไม่มีเหตุผลอะไรต้องพูดกันมาก สาเหตุหลักก็มาจาก “ไอ้หอกหัก” ไปยอมรับในแผนที่แนบท้ายของฝ่ายกัมพูชาเมื่อครั้งที่เสนอขึ้นทะเบียนปราสาทเป็นมรดกโลกนั่นแหละ
00 ถ้าลองย้อนกลับไปเปิดเทปคำพูดของแต่ละคนไล่ไปตั้งแต่ นพดลตัวดี หรือแม้แต่ตัว “ผู้นำ” ที่ปากดีการันตีอย่างภาคภูมิใจในทำนองว่า ให้เขาขึ้นทะเบียน เฉพาะตัวปราสาท “ที่เป็นของเขาเท่านั้น” ไม่มีพื้นที่ทับซ้อน แล้ววันนี้เป็นไงละ “ไอ้หอกหัก” เขมรมันอ้างว่าพื้นที่ทับซ้อนเป็นของมันด้วย แล้วใช้ “จุดแข็งในจุดอ่อน” นำเรื่องไฟฟ้องยูเอ็นให้ไทยเสียหายหาว่าไทยข่มเหงชาติที่อ่อนแอกว่า
00 ที่บอกว่าจะรับผิดชอบหากต้องเสียดินแดน คนอย่างนพดลจะรับผิดชอบอย่างไรมันถึงจะสาสมกับความเสียหายที่เกิดขึ้น
00 นาทีนี้ถึงบอกว่าปัญหาชายแดนใต้และชายแดนตะวันออก ที่กำลังเป็นอยู่ไม่ได้มาจากสาเหตุที่เราอ่อนด้อยกว่าฝ่ายตรงข้าม แต่เป็นเพราะคนของเรามีพฤติกรรมส่อขายชาติ หวังประโยชน์เฉพาะหน้า หวังลาภยศตำแหน่งเท่านั้น พูดแล้ว เครียด !!