** หลายคนคงนึกไม่ถึงไม่เหมือนกันเมื่อจู่ๆ “เจ้าหล่อเล็ก” โชว์สปิริตนักการเมืองรุ่นใหม่เกทับพวกไดโนเสาร์ในทำเนียบฯจนหัวเสียไปตามๆกัน ก็จะอะไรล่ะ แค่ไม่ทันขาดคำที่ คตส.ชี้มูลความผิดเรื่องคดีรถ และเรือดับเพลิงของกทม.ก็รีบชิงประกาศยุติการทำหน้าที่ในเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม.ทันควัน
** รายการนี้แม้ไม่ต้องพิจารณากันให้ซับซ้อนก็คงพอมองออกว่ามันเกี่ยวพันกับเรตติ้งการเมืองแน่นอน ถือเป็นการ“หักเหลี่ยมชิงมุม” กันแบบได้จังหวะก็ตาม
** แต่อีกมุมหนึ่งก็ต้องยอมชื่นชมสปิริตอันเต็มร้อยของนักการเมืองที่ชื่อ “อภิรักษ์ โกษะโยธิน” คนนี้ เพราะถือว่าได้สร้างบรรทัดฐานที่ดี ไม่ต้องรอให้ถูกวิจารณ์ค่อนแคะตกเป็นขี้ปากฝ่ายตรงข้ามก็ชิงตัดบทเสียก่อน
** ทั้งๆที่ตามรูปการณ์แล้วยังสามารถยื้อได้อีกนาน เนื่องจากเวลานี้ยังเป็นแค่ผลสรุปของทางคตส.เท่านั้นและยังไม่ได้ส่งฟ้องศาลถือเป็นผู้บริสุทธิ์ หรือถ้าจะยึด “อย่างหนา” แบบพวกที่อยู่ในทำเนียบฯไล่เรียงกันตั้งแต่ตัว “หัวหน้า” สมัคร สุนทรเวช ที่ถูกชี้มูลความผิดไปก่อนหน้านี้ด้วยเรื่องเดียวกันก็ยังทำเฉย หรือจะเดินตามรอย 3 รัฐมนตรีที่ยกข้ออ้างกันมาสารพัด แต่สรุปก็คือยังดื้อแพ่ง-ไม่ไป
** แต่เชื่อเถอะอีกด้านหนึ่งก็จะมีเสียงลอยลมเข้ามาทำนองเยาะเย้ยถากถางให้ได้ยินว่า “ไม่อยากเอาขมิ้นไปแลกกับปูน” ย้อนมาว่า วาระผู้ว่าฯกทม.เหลือแค่ 5-6 เดือน จึงต้องสร้างกระแสเพื่อลงสมัครอีกรอบ ก็อาจจะใช่ แต่ประเด็นคือเรื่องจิตสำนึก และที่สำคัญฝ่ายที่ชี้มูลความผิดคือ คตส. และคงไม่สนุกนัก หากต้องหยุดพักการปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งผู้ว่าฯแม้จะสักวันเดียวก็ตาม
** ดังนั้นถ้าให้สรุป แม้ว่านาทีนี้ถ้าพิจารณาอย่างตรงไปตรงมาการปิดเกมของ อภิรักษ์ ครั้งนี้ถือว่ามีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องแน่ แต่ช่วยไม่ได้เพราะถ้ากล่าวหาว่าคนอื่นเอาหน้าหวังผลการเมือง ก็สามารถทำแบบเดียวกันได้ ไม่มีใครว่า
** แต่เชื่อว่าในทางตรงกันข้ามการพักงานคราวนี้จะส่งผลให้ “หมัก” และทีมงาน “ลิ่วล้อพลังแม้ว” แค้นแทบกระอักเลือด สร้างมาตรฐานให้สังคมเกิดข้อเปรียบเทียบ เพราะเพิ่งยกเหตุผลสารพัดเพื่อยื้อ 3 รมต.ทำหน้ามึนอยู่ในเก้าอี้ต่อกรณีทุจริตหวยบนดินไม่ทันไร ตัวลูกพี่ “นอมินีหมัก” ยังต้องมาเสียท่าให้ถูกชาวบ้านด่า สร้างแรงกดดันเพิ่มเข้ามาอีก แหม มันน่าเจ็บใจจริง !!
** ตบท้ายด้วยเหลี่ยมคูยังแพรวพราวเหมือนเดิมสำหรับ “เฮียแม้ว” ของเราคนนี้ หลังจากไปขึ้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในคดีทุจริตเป็นนัดแรกแล้ว หลังจากปฏิเสธทุกข้อหาแล้วก็ได้ยื่นขออนุญาตเดินทางออกนอกประเทศไปสูดอากาศในต่างประเทศสักระยะหนึ่ง ดูเผินๆไม่มีอะไรผิดสังเกต
** แต่ถ้าพิจารณาให้ละเอียดก็จะเห็นช่องทางบางอย่าง โดยเฉพาะการขอให้ศาลพิจารณาคดีลับหลังได้ คือจำเลยไม่ต้องมาขึ้นศาลด้วยตัวเอง หลายฝ่ายจึงอดสงสัยว่านี่คือหนทางขอลี้ภัยนอกประเทศล่วงหน้าหรือไม่ เพราะถ้าในช่วงปลายๆหากเห็นสัญญาณไม่ดีรู้ตัวว่าผลคดีออกมา “ไม่ปลื้ม” ก็อาจฉวยโอกาสดูฟุตบอลที่อังกฤษเป็นการถาวรเลยก็เป็นได้(ไม่ฮา แต่เครียดวุ้ย) !!
** รายการนี้แม้ไม่ต้องพิจารณากันให้ซับซ้อนก็คงพอมองออกว่ามันเกี่ยวพันกับเรตติ้งการเมืองแน่นอน ถือเป็นการ“หักเหลี่ยมชิงมุม” กันแบบได้จังหวะก็ตาม
** แต่อีกมุมหนึ่งก็ต้องยอมชื่นชมสปิริตอันเต็มร้อยของนักการเมืองที่ชื่อ “อภิรักษ์ โกษะโยธิน” คนนี้ เพราะถือว่าได้สร้างบรรทัดฐานที่ดี ไม่ต้องรอให้ถูกวิจารณ์ค่อนแคะตกเป็นขี้ปากฝ่ายตรงข้ามก็ชิงตัดบทเสียก่อน
** ทั้งๆที่ตามรูปการณ์แล้วยังสามารถยื้อได้อีกนาน เนื่องจากเวลานี้ยังเป็นแค่ผลสรุปของทางคตส.เท่านั้นและยังไม่ได้ส่งฟ้องศาลถือเป็นผู้บริสุทธิ์ หรือถ้าจะยึด “อย่างหนา” แบบพวกที่อยู่ในทำเนียบฯไล่เรียงกันตั้งแต่ตัว “หัวหน้า” สมัคร สุนทรเวช ที่ถูกชี้มูลความผิดไปก่อนหน้านี้ด้วยเรื่องเดียวกันก็ยังทำเฉย หรือจะเดินตามรอย 3 รัฐมนตรีที่ยกข้ออ้างกันมาสารพัด แต่สรุปก็คือยังดื้อแพ่ง-ไม่ไป
** แต่เชื่อเถอะอีกด้านหนึ่งก็จะมีเสียงลอยลมเข้ามาทำนองเยาะเย้ยถากถางให้ได้ยินว่า “ไม่อยากเอาขมิ้นไปแลกกับปูน” ย้อนมาว่า วาระผู้ว่าฯกทม.เหลือแค่ 5-6 เดือน จึงต้องสร้างกระแสเพื่อลงสมัครอีกรอบ ก็อาจจะใช่ แต่ประเด็นคือเรื่องจิตสำนึก และที่สำคัญฝ่ายที่ชี้มูลความผิดคือ คตส. และคงไม่สนุกนัก หากต้องหยุดพักการปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งผู้ว่าฯแม้จะสักวันเดียวก็ตาม
** ดังนั้นถ้าให้สรุป แม้ว่านาทีนี้ถ้าพิจารณาอย่างตรงไปตรงมาการปิดเกมของ อภิรักษ์ ครั้งนี้ถือว่ามีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องแน่ แต่ช่วยไม่ได้เพราะถ้ากล่าวหาว่าคนอื่นเอาหน้าหวังผลการเมือง ก็สามารถทำแบบเดียวกันได้ ไม่มีใครว่า
** แต่เชื่อว่าในทางตรงกันข้ามการพักงานคราวนี้จะส่งผลให้ “หมัก” และทีมงาน “ลิ่วล้อพลังแม้ว” แค้นแทบกระอักเลือด สร้างมาตรฐานให้สังคมเกิดข้อเปรียบเทียบ เพราะเพิ่งยกเหตุผลสารพัดเพื่อยื้อ 3 รมต.ทำหน้ามึนอยู่ในเก้าอี้ต่อกรณีทุจริตหวยบนดินไม่ทันไร ตัวลูกพี่ “นอมินีหมัก” ยังต้องมาเสียท่าให้ถูกชาวบ้านด่า สร้างแรงกดดันเพิ่มเข้ามาอีก แหม มันน่าเจ็บใจจริง !!
** ตบท้ายด้วยเหลี่ยมคูยังแพรวพราวเหมือนเดิมสำหรับ “เฮียแม้ว” ของเราคนนี้ หลังจากไปขึ้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในคดีทุจริตเป็นนัดแรกแล้ว หลังจากปฏิเสธทุกข้อหาแล้วก็ได้ยื่นขออนุญาตเดินทางออกนอกประเทศไปสูดอากาศในต่างประเทศสักระยะหนึ่ง ดูเผินๆไม่มีอะไรผิดสังเกต
** แต่ถ้าพิจารณาให้ละเอียดก็จะเห็นช่องทางบางอย่าง โดยเฉพาะการขอให้ศาลพิจารณาคดีลับหลังได้ คือจำเลยไม่ต้องมาขึ้นศาลด้วยตัวเอง หลายฝ่ายจึงอดสงสัยว่านี่คือหนทางขอลี้ภัยนอกประเทศล่วงหน้าหรือไม่ เพราะถ้าในช่วงปลายๆหากเห็นสัญญาณไม่ดีรู้ตัวว่าผลคดีออกมา “ไม่ปลื้ม” ก็อาจฉวยโอกาสดูฟุตบอลที่อังกฤษเป็นการถาวรเลยก็เป็นได้(ไม่ฮา แต่เครียดวุ้ย) !!