นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการสนทนาประสาสมัคร ถึงคดีความของตัวเองว่า เรื่องรถดับเพลิงที่ ป.ป.ช. กำลังดำเนินการตนไม่ขัดข้อง แต่อยากถามว่า ก่อนคดีรถดับเพลิง 2 ปี เกือบจะ 3 ปีแล้ว ที่มีการฮั้วกัน 20,000 ล้านใน 10 โครงการ ทางดีเอสไอ (กรมสอบสวนคดีพิเศษ) ตรวจสอบเสร็จเรียบร้อย กำหนดเสร็จ คนที่นั่น ถูกย้าย ต้องย้ายตำแหน่งไปเสร็จแล้ว เอาไปหมกไว้ที่ ป.ป.ช. 20,000 ล้าน คนพรรคไหนเป็นผู้ว่าฯ อยู่ มีใครแตะต้องหรือไม่ แตที่เรื่องรถดับเพลิง รัฐบาลอนุเคราะห์มา เราออก 40 เขาออก 60 ตนก็ดำเนินการทำ ปรากฎว่า นายสมัครทำผิด แต่ผู้ว่าฯ อีกคนทำไม่เป็นไร
นายสมัคร ยังกล่าวถึง กรณีผู้บริหารบริษัทญี่ปุ่นให้สินบนกว่า 125 ล้านบาท กับเจ้าหน้าที่ของไทย แลกกับโครงการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำคลองแสนแสบ-ลาดพร้าว ของกทม. สมัยที่นายสมัคร เป็นผู้ว่าฯกทม.ว่า เวลาที่ตนมีเรื่องเอิกเกริกใหญ่โต สื่อพยายามสอบถาม แต่ตนไม่ตอบ เพราะไม่ไว้ใจสื่อ เพราะตอบไปอย่าง ก็แปลไปอีกอย่าง การจะขุดคุ้ยเรื่องนี้ไม่เป็นปัญหา เพราะแค่เริ่มต้นก็ตลกแล้ว โครงการนี้ใช้เงินไทย แต่ต้องให้สินบนเป็นเงินเยน ตีข่าวกันใหญ่โตว่า ญี่ปุ่นบอกมาเบ็ดเสร็จว่าคนรับมี 3 คน ส. 2 คน อีกคนคือ ธ. ซึ่ง ส.ก็คือ สมัครกับนายสหัส บัณฑิตกุล ส่วน ธ. คือนายธีรพล นพรัมภา ญี่ปุ่นมันเก่ง ย่อเป็นตัวอักษรได้ เล่นกันถึงขนาดนี้ ตนก็ปล่อยให้เผากันไป เรื่องนี้ต้องมีการสอบสวนกัน
"ถ้ายังไม่มีเวลาสอบ ผมจะอธิบายให้ฟัง ผมถูกกล่าวหา ผมยังไม่รู้เลยว่า ชื่อบริษัทนี้ ผมเซ็นหนังสือตรงนั้นไม่มีหน้าที่จะจำหรอกว่า ใครบริษัทไหน อย่างไร เพราะชื่อไม่คุ้นเคย รับทำโครงการนี้ 2 พันกว่าล้าน ทำท่อยาว 14 กิโล น้ำจะไม่ท่วมกรุงเทพฯ เวลาฝนตกหนักก็เพราะโครงการอย่างนี้ แต่โครงการก่อนหน้านี้ทางเหนือลักษณะเดียวกัน กลับไม่มีไอ้บ้าที่ไหนมาพูดจากัน
โครงการนี้ 2 พันกว่าล้าน ทำเพื่อจะผ่องถ่ายน้ำเวลาน้ำท่วมส่ง ออกแม่น้ำเจ้าพระยา งานจะเสร็จอยู่แล้ว แต่ก็มีเรื่องอื้อฉาวเรื่องให้สินบน ไปตรวจสอบดูได้ งานนี้เมื่อเริ่มโครงการบริษัทสี่แสงโยธายื่นฟ้อง กทม. ว่าฮั้ว ศาลปกครองกลางก็สอบเสร็จ ผลปรากฏว่า กทม.ชนะคดี นี้ มีคนเข้ามาแข่งขัน 3 บริษัท งบประมาณตั้งไว้ 2,178 ล้าน ประมูลได้ราคา 2,155 ล้าน เซ็นสัญญาได้เลย แต่คนที่เป็นประธานเขาต่อรองจนเหลือราคา 2,095 ต่ำกว่าราคากลาง 83 ล้าน ถ้าโกงจะไปนั่งต่อรองราคาทำไม จะโปร่งใสหรือไม่ผมไม่รู้ ใครจะไปรับอะไร ผมไม่มีทางรู้ ผมถึงได้บอกว่า ชื่อบริษัทผมยังไม่คุ้นเคยเลย ผมก็เซ็นตลอด อยู่มา 4 ปี บริษัทไหนประมูลไปบ้าง ผมไม่มีวันมาจำได้หรอก ผมอยู่มาได้จนถึงทุกวันนี้เพราะผมเป็นอย่างนี้" นายสมัครกล่าว
**จวก"หมัก" พูดเบี่ยงเบนประเด็น
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า กรณีคดีรับสินบนโครงการอุโมงค์ส่งน้ำ ที่มีการระบุชื่อ 2 ส. และ 1 ธ. ว่า อัยการโตเกียวมีฝีมือมาก เพราะเคยจัดการนายกฯ ญี่ปุ่นออกมาแล้ว วันนี้เขาหยิบเรื่องนี้ขึ้นมา แต่ไม่ใช่เป็นการชี้แจงว่าตนเองมีส่วนเกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาหรือไม่ แต่กลับไปอภิปรายถึงความสำคัญของอุโมงค์ อีกทั้งยังบอกว่า การจ่ายสินบนทำไมจ่ายเป็นเงินเยน คำอธิบายดังกล่าว เป็นการเบี่ยงเบนประเด็น ทั้งที่สังคมสงสัยว่า ท่านเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ แต่กลับไม่ได้ชี้แจงในประเด็นนี้ ให้ชัดเจน และการจ่ายเงินเยน หรือเงินบาท มิใช่เรื่องที่จะต้องอธิบายเลย เพราะการรับเงินเยน จะนำมาแลกเป็นเงินไทยไม่ได้หรืออย่างไร หรือถนัดแต่รับเงินดอลล่าร์ หรือเงินไทยเท่านั้น อีกทั้งนายกฯก็ไม่พูดหรือแสดงจุดยืนเลยว่า เรื่องนี้จะดำเนินการอย่างไรต่อไป ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อศักดิ์ศรีของประเทศชาติและรัฐบาลมีอำนาจที่จะจัดการให้เรื่องกระจ่าง
นายเทพไท เสนพงษ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการชี้แจงของนายสมัคร กรณีสินบนอุโมงค์ส่งน้ำว่า ดูคำชี้แจงของนายสมัครวันนี้ยังตอบไม่ตรงคำถามที่ สังคมอยากรู้ เขาต้องการทราบว่ามีการติดสินบนจริงหรือไม่ แต่กลับใช้ลีลาโวหาร ของนักโต้วาทีเก่าเล่าอธิบายถึงลายละเอียดของโครงการ นายสมัคร ต้องกลับไปดูของที่มาของโครงการไม่ใช่อ้าง ว่าจำไม่ได้ ไม่ รู้จักบริษัท แล้วยังทวงบุญคุณว่าโครงการนี้ได้ราคาจัดซื้อจัดจ้างต่ำกว่าราคากลาง ตรงนี้ไม่ใช่เป็น ประเด็นสำคัญ เพราะมีหลายโครงการที่ราคาต่ำกว่าราคากลาง แต่ก็มีการโกงกินกันจึงไม่มีหลักประกัน ใดๆว่าโครงการราคาถูกแล้วจะไม่มีการคอรัปชั่นเกิดขึ้น
**ป.ป.ช.ถกสินบนญี่ปุ่นอังคารนี้
นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวถึงความคืบหน้าของกรณี บริษัทก่อสร้างของประเทศญี่ปุ่น ระบุว่าได้จ่ายสินบนจำนวนเงิน 125 ล้านบาท ให้กับเจ้าหน้าที่ กทม. เพื่อและกับโครงการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำคลองแสนแสบ-ลาดพร้าว ว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. กำลังรวบรวมข้อมูลทั้งหมด รวมทั้งข้อมูลที่ได้ไปขอจาก กทม.ด้วย โดยขั้นตอนต่อไป เจ้าหน้าที่ก็จะตรวจสอบว่า อยู่ในอำนาจของ ป.ป.ช.หรือไม่ โครงการนี้ใครเกี่ยวข้องบ้าง หลังจากนั้นก็นำเรื่องเสนอให้ คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาว่าจะรับหรือไม่ คาดว่า ภายในวันอังคารนี้เจ้าหน้าที่น่าจะรวบรวมข้อมูลส่งให้ ป.ป.ช.พิจารณา หากรับเรื่องนี้ไว้พิจารณา ก็จะแถลงให้ทราบ
นายกล้านรงค์ ยังกล่าวถึงกรณีความคืบหน้า คดีแปลงสัมปทานโทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นภาษีสรรพสามิต เพื่อประโยชน์สาธารณะแก่ บริษัทชินคอร์ปอเรชั่นจำกัด (มหาชน)ในส่วนของคดีแพ่ง ที่ให้มีการยึดทรัพย์ 76,000 ล้านบาท ที่ อัยการสูงสุด (อสส.) ระบุว่า คดียังไม่สมบูรณ์ และต้องมีการตั้งคณะกรรมการร่วมระหว่าง ป.ป.ช. และ อสส. ว่า ข้อไม่สมบูรณ์ของคดีนี้มีอยู่ 2-3 จุด แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ คาดว่าปลายสัปดาห์นี้ จะสามารถตั้งคณะกรรมการหารือร่วมกันได้
นายสมัคร ยังกล่าวถึง กรณีผู้บริหารบริษัทญี่ปุ่นให้สินบนกว่า 125 ล้านบาท กับเจ้าหน้าที่ของไทย แลกกับโครงการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำคลองแสนแสบ-ลาดพร้าว ของกทม. สมัยที่นายสมัคร เป็นผู้ว่าฯกทม.ว่า เวลาที่ตนมีเรื่องเอิกเกริกใหญ่โต สื่อพยายามสอบถาม แต่ตนไม่ตอบ เพราะไม่ไว้ใจสื่อ เพราะตอบไปอย่าง ก็แปลไปอีกอย่าง การจะขุดคุ้ยเรื่องนี้ไม่เป็นปัญหา เพราะแค่เริ่มต้นก็ตลกแล้ว โครงการนี้ใช้เงินไทย แต่ต้องให้สินบนเป็นเงินเยน ตีข่าวกันใหญ่โตว่า ญี่ปุ่นบอกมาเบ็ดเสร็จว่าคนรับมี 3 คน ส. 2 คน อีกคนคือ ธ. ซึ่ง ส.ก็คือ สมัครกับนายสหัส บัณฑิตกุล ส่วน ธ. คือนายธีรพล นพรัมภา ญี่ปุ่นมันเก่ง ย่อเป็นตัวอักษรได้ เล่นกันถึงขนาดนี้ ตนก็ปล่อยให้เผากันไป เรื่องนี้ต้องมีการสอบสวนกัน
"ถ้ายังไม่มีเวลาสอบ ผมจะอธิบายให้ฟัง ผมถูกกล่าวหา ผมยังไม่รู้เลยว่า ชื่อบริษัทนี้ ผมเซ็นหนังสือตรงนั้นไม่มีหน้าที่จะจำหรอกว่า ใครบริษัทไหน อย่างไร เพราะชื่อไม่คุ้นเคย รับทำโครงการนี้ 2 พันกว่าล้าน ทำท่อยาว 14 กิโล น้ำจะไม่ท่วมกรุงเทพฯ เวลาฝนตกหนักก็เพราะโครงการอย่างนี้ แต่โครงการก่อนหน้านี้ทางเหนือลักษณะเดียวกัน กลับไม่มีไอ้บ้าที่ไหนมาพูดจากัน
โครงการนี้ 2 พันกว่าล้าน ทำเพื่อจะผ่องถ่ายน้ำเวลาน้ำท่วมส่ง ออกแม่น้ำเจ้าพระยา งานจะเสร็จอยู่แล้ว แต่ก็มีเรื่องอื้อฉาวเรื่องให้สินบน ไปตรวจสอบดูได้ งานนี้เมื่อเริ่มโครงการบริษัทสี่แสงโยธายื่นฟ้อง กทม. ว่าฮั้ว ศาลปกครองกลางก็สอบเสร็จ ผลปรากฏว่า กทม.ชนะคดี นี้ มีคนเข้ามาแข่งขัน 3 บริษัท งบประมาณตั้งไว้ 2,178 ล้าน ประมูลได้ราคา 2,155 ล้าน เซ็นสัญญาได้เลย แต่คนที่เป็นประธานเขาต่อรองจนเหลือราคา 2,095 ต่ำกว่าราคากลาง 83 ล้าน ถ้าโกงจะไปนั่งต่อรองราคาทำไม จะโปร่งใสหรือไม่ผมไม่รู้ ใครจะไปรับอะไร ผมไม่มีทางรู้ ผมถึงได้บอกว่า ชื่อบริษัทผมยังไม่คุ้นเคยเลย ผมก็เซ็นตลอด อยู่มา 4 ปี บริษัทไหนประมูลไปบ้าง ผมไม่มีวันมาจำได้หรอก ผมอยู่มาได้จนถึงทุกวันนี้เพราะผมเป็นอย่างนี้" นายสมัครกล่าว
**จวก"หมัก" พูดเบี่ยงเบนประเด็น
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า กรณีคดีรับสินบนโครงการอุโมงค์ส่งน้ำ ที่มีการระบุชื่อ 2 ส. และ 1 ธ. ว่า อัยการโตเกียวมีฝีมือมาก เพราะเคยจัดการนายกฯ ญี่ปุ่นออกมาแล้ว วันนี้เขาหยิบเรื่องนี้ขึ้นมา แต่ไม่ใช่เป็นการชี้แจงว่าตนเองมีส่วนเกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาหรือไม่ แต่กลับไปอภิปรายถึงความสำคัญของอุโมงค์ อีกทั้งยังบอกว่า การจ่ายสินบนทำไมจ่ายเป็นเงินเยน คำอธิบายดังกล่าว เป็นการเบี่ยงเบนประเด็น ทั้งที่สังคมสงสัยว่า ท่านเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ แต่กลับไม่ได้ชี้แจงในประเด็นนี้ ให้ชัดเจน และการจ่ายเงินเยน หรือเงินบาท มิใช่เรื่องที่จะต้องอธิบายเลย เพราะการรับเงินเยน จะนำมาแลกเป็นเงินไทยไม่ได้หรืออย่างไร หรือถนัดแต่รับเงินดอลล่าร์ หรือเงินไทยเท่านั้น อีกทั้งนายกฯก็ไม่พูดหรือแสดงจุดยืนเลยว่า เรื่องนี้จะดำเนินการอย่างไรต่อไป ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อศักดิ์ศรีของประเทศชาติและรัฐบาลมีอำนาจที่จะจัดการให้เรื่องกระจ่าง
นายเทพไท เสนพงษ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการชี้แจงของนายสมัคร กรณีสินบนอุโมงค์ส่งน้ำว่า ดูคำชี้แจงของนายสมัครวันนี้ยังตอบไม่ตรงคำถามที่ สังคมอยากรู้ เขาต้องการทราบว่ามีการติดสินบนจริงหรือไม่ แต่กลับใช้ลีลาโวหาร ของนักโต้วาทีเก่าเล่าอธิบายถึงลายละเอียดของโครงการ นายสมัคร ต้องกลับไปดูของที่มาของโครงการไม่ใช่อ้าง ว่าจำไม่ได้ ไม่ รู้จักบริษัท แล้วยังทวงบุญคุณว่าโครงการนี้ได้ราคาจัดซื้อจัดจ้างต่ำกว่าราคากลาง ตรงนี้ไม่ใช่เป็น ประเด็นสำคัญ เพราะมีหลายโครงการที่ราคาต่ำกว่าราคากลาง แต่ก็มีการโกงกินกันจึงไม่มีหลักประกัน ใดๆว่าโครงการราคาถูกแล้วจะไม่มีการคอรัปชั่นเกิดขึ้น
**ป.ป.ช.ถกสินบนญี่ปุ่นอังคารนี้
นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวถึงความคืบหน้าของกรณี บริษัทก่อสร้างของประเทศญี่ปุ่น ระบุว่าได้จ่ายสินบนจำนวนเงิน 125 ล้านบาท ให้กับเจ้าหน้าที่ กทม. เพื่อและกับโครงการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำคลองแสนแสบ-ลาดพร้าว ว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. กำลังรวบรวมข้อมูลทั้งหมด รวมทั้งข้อมูลที่ได้ไปขอจาก กทม.ด้วย โดยขั้นตอนต่อไป เจ้าหน้าที่ก็จะตรวจสอบว่า อยู่ในอำนาจของ ป.ป.ช.หรือไม่ โครงการนี้ใครเกี่ยวข้องบ้าง หลังจากนั้นก็นำเรื่องเสนอให้ คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาว่าจะรับหรือไม่ คาดว่า ภายในวันอังคารนี้เจ้าหน้าที่น่าจะรวบรวมข้อมูลส่งให้ ป.ป.ช.พิจารณา หากรับเรื่องนี้ไว้พิจารณา ก็จะแถลงให้ทราบ
นายกล้านรงค์ ยังกล่าวถึงกรณีความคืบหน้า คดีแปลงสัมปทานโทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นภาษีสรรพสามิต เพื่อประโยชน์สาธารณะแก่ บริษัทชินคอร์ปอเรชั่นจำกัด (มหาชน)ในส่วนของคดีแพ่ง ที่ให้มีการยึดทรัพย์ 76,000 ล้านบาท ที่ อัยการสูงสุด (อสส.) ระบุว่า คดียังไม่สมบูรณ์ และต้องมีการตั้งคณะกรรมการร่วมระหว่าง ป.ป.ช. และ อสส. ว่า ข้อไม่สมบูรณ์ของคดีนี้มีอยู่ 2-3 จุด แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ คาดว่าปลายสัปดาห์นี้ จะสามารถตั้งคณะกรรมการหารือร่วมกันได้
