xs
xsm
sm
md
lg

ป.ป.ช.ส่ง กมธ.คุ้ยข้อมูลสินบนยุ่น คาด 1 เดือนรู้ผล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ที่ประชุม กมธ.ป.ป.ช.มีมติสอบบริษัทญี่ปุ่นจ่ายสินบน 400 ล้านเยนสร้างอุโมงค์ระบายน้ำ กทม. พร้อมส่งคณะ กมธ.เหินฟ้าคุ้ยข้อมูลถึงแดนปลาดิบ คาดเดือนเดียวรู้ผล ย้ำหากมีการพาดพิงถึง “อดีตผู้ว่าฯ สมัคร” เตรียมเรียกแจง เดินเครื่องสอบ 16 ก.ค.นี้

วันนี้ (10 ก.ค.) นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ส..ส.นครนายก พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติไม่ชอบ แถลงภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมมีมติรับเรื่องกรณีที่ผู้บริหารบริษัท นิชิมัตสึ คอนสตรัคชัน จำกัด ของญี่ปุ่นให้การกับอัยการของญี่ปุ่นว่าเคยจ่ายเงินสินบนกว่า 400 ล้านเยน หรือกว่า 125 ล้านบาท ให้แก่เจ้าหน้าที่ของไทยเพื่อแลกกับการได้งานโครงการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำคลองแสนแสบ-ลาดพร้าว ของ กทม.เมื่อปี 2546 สมัยที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกฯ เป็นผู้ว่าฯ กทม. โดยในสัปดาห์หน้าจะเชิญเจ้าหน้าที่จาก กทม.มาให้ข้อมูลเพื่อจะได้ทราบว่าจะต้องเชิญบุคคลใดเข้าชี้แจงบ้าง โดยในกรณีของนายสมัครหากพบว่ามีการพาดพิงหรือมีการบันทึกข้อความถึงก็ต้องเชิญมาชี้แจงด้วย ขอยืนยันว่ากรรมาธิการไม่ได้มีเรื่องการเมืองหรือพรรคเข้ามาเกี่ยวข้องและไม่มีเป้าหมายที่จะเอาผิดกับนายสมัครหรือเอาให้ตาย ซึ่งหากข้อมูลไม่ถึงนายสมัครเรื่องก็ต้องตกไป

“กรรมาธิการได้มอบให้ผมไปรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการขอความร่วมมือที่ญี่ปุ่น ซึ่งจากประสบการณ์จากการตรวจสอบการจัดซื้อเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดซีทีเอ็กซ์ พบว่าขั้นตอนการประสานระหว่างอัยการไทยและอัยการต่างประเทศล่าช้ามาก ดังนั้น หลังจากที่ผมได้ศึกษาแล้วจะขอให้กรรมาธิการมีมติอนุมัติให้เดินทางไปที่ประเทศญี่ปุ่นเพื่อขอข้อมูลด้วยตัวเอง ซึ่งจะทำให้ได้เอกสารรวดเร็ว ถ้าขั้นตอนเป็นแบบนี้ก็จะสามารถสรุปได้ภายใน 1 เดือน จากนั้นกรรมาธิการจะส่งข้อมูลไปยัง ป.ป.ช.เพื่อตรวจสอบต่อไป ซึ่งอาจจะมีการนำเรื่องเข้าสู่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือเอาผิดทางวินัยกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ข้อมูลขณะนี้หัวใจสำคัญอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นหากได้มาโดยการเซ็นรับรองที่ถูกต้องทุกอย่างก็จบ ปิดคดีได้ ตรวจสอบได้เลยว่าจริงหรือไม่ที่บริษัท นิชิมัตสึฯ จ่ายเงินสินบนให้กับใคร ซึ่งจะเป็นบทเรียนสำคัญให้บริษัทข้ามชาติและข้าราชการที่ดูแลเมกกะโปรเจค สภาจะทำความจริงให้ปรากฏและต้องลงโทษให้เข็ดหลาบ” นายชาญชัยกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้ที่เกี่ยวข้องหรือไม่ นายชาญชัย กล่าวว่า กรรมาธิการมีสิทธิที่จะตรวจสอบ โดยเร็วๆ นี้มีกำหนดการที่จะไปดูงานที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ป.ป.ท.) ซึ่งจะมีการขอข้อมูลทางการเงินกับหน่วยงานเหล่านี้ด้วย พร้อมให้ ปปง.ตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้ที่เกี่ยงข้องด้วย และจะได้มีการประสานงานทางลับกับทางเจบิคด้วย เพราะเจบิครู้เรื่องนี้ด้วย นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้มีมติเชิญนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ มาเป็นที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการด้วย เนื่องจากนายพีระพันธุ์เคยตรวจสอบเรื่องนี้มาก่อน

นายชาญชัย กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบพบว่าเรื่องนี้เคยผ่านที่ประชุมสภา กทม.มาก่อน โดยสมาชิกในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ได้เคยสอบถามเรื่องนี้ แต่นายสมัครซึ่งเป็นผู้ว่าฯ สมัยนั้นได้อ้างว่าเรื่องนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนในศาลปกครอง จึงไม่ได้ให้ความร่วมมือใดๆ

เมื่อถามถึงบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริต โดยมีอักษรย่อ “2 ส. 1 ธ.” นายชาญชัยกล่าวว่า เรื่องนี้ทางกรรมาธิการจะเชิญเจ้าหน้าที่ของ กทม.มาชี้แจงวันพุธที่ 16 ก.ค.เวลา 13.00 น. โดยบุคคลที่จะมาชี้แจงเบื้องต้นจะเป็นระดับเจ้าหน้าที่แต่หากมีการพาดพิงก็อาจจะมีการเชิญผู้ว่าฯ และอดีตผู้ว่าฯ มาชี้แจงได้
กำลังโหลดความคิดเห็น