xs
xsm
sm
md
lg

ขายชาติเสร็จ"นพดล"เผ่นหมักลั่นแก้รธน.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน- หลังเสร็จภารกิจขายชาติให้เขมร "นพดล" ลาออก แต่ยังขอให้มีผล14 ก.ค.นี้ ยังด้านไม่มีสลด บอกไม่ได้ทำผิดอะไร แต่ออกเพื่อให้ปัญหาการเมืองเบาลง ประชาธิปัตย์ ไม่ปล่อยให้เหล่ลอยนวล ชิงยื่นถอดถอนก่อนประกาศลาออก เตรียมไล่บี้เอาโทษให้ถึงที่สุด ขยายผลถึง "หมัก-ครม." ขณะที่ ส.ว.ก็จะยื่นถอดถอนจันทร์นี้ ด้าน"หมัก" เรียกประชุมปลุกปลอบลูกพรรค เตรียมปรับใหญ่ ครม. ลั่นไม่ออก ไม่ยุบสภา คุย "พรรคปลาคาร์ป" ยังวนในอ่าง ไม่ไหนไม่รอด ไม่ต้องห่วงรัฐบาลจะล้ม ภารกิจต่อไป เปิดสภาเมื่อไร แก้รัฐธรรมนูญตัวต้นเหตุทันที

เมื่อประมาณ 05.45 น. วานนี้ (10 ก.ค.) นายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ เดินทางกลับถึงประเทศไทย ด้วยเครื่องบินสายการบินไทย ทีจี 911 ลอนดอน - กรุงเทพฯ ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หลังเสร็จสิ้นภารกิจที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

ทันทีที่นายนพดล เดินทางมาถึงกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประมาณ 200 คน ได้ไปรอโห่ไล่ นายนพดล ที่บริเวณห้องรับรองพิเศษ จากนั้นในเวลา 06.30 น. นายนพดล ได้เดินทางออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อกลับไปพักผ่อนที่บ้านพัก ด้วยช่องผู้โดยสารขาออกตามปกติ โดยมีผู้ติดตามคอยรักษาความปลอดภัยไปโดยตลอด

"นพดล" ลาออก แต่ยังอ้างไม่ได้ทำผิด

ต่อมาเวลา 14.00 น. วันเดียวกัน นายนพดลได้เปิดแถลงข่าวที่กระทรวงการต่างประเทศ โดยระบุว่าจะขอลาออกจากตำแหน่ง โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 14 ก.ค.51 เพื่อให้การบริหารงานของนายกรัฐมนตรี เดินหน้าต่อไปโดยไม่ต้องมากังวลกับการแก้ปัญหาทางการเมือง และเพื่อให้เกิดความปรองดองกับทุกภาคส่วน จึงขอลาออกจากตำแหน่ง แม้จะไม่ได้กระทำผิด

"ผมไม่ได้ขายชาติครับ ผมรักชาติเท่ากับคนไทยทุกคน ขอยืนยันอีกครั้งว่า กระผมไม่ได้ทำให้ประเทศเสียหาย ผมอยากให้รัฐบาลเอาเวลาไปแก้ไขปัญหาบ้านเมือง และความเดือดร้อนของประชาชน แทนที่จะเสียเวลาแก้ไขปัญหาการเมือง"

ทั้งนี้นายนพดล ยืนยันว่า การลาออกครั้งนี้ เป็นการตัดสินใจด้วยตัวเอง และได้ทำหน้าที่ตามกระบวนการอย่างสุจริต ไม่ทำให้ไทยเสียดินแดน พร้อมกับปฏิเสธว่าไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนจากการลงนามแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชาให้จดทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก

ในช่วงการแถลงลาออก นายนพดล ยังคงไม่ยอมรับผิดในสิ่งที่เกิดขึ้น โดยระบุว่า การดำเนินการของกระทรวงการต่างประเทศ เป็นไปด้วยสุจริต ในการปกป้องไม่ให้ไทยเสียดินแดน และอธิปไตย มีการหารือ และได้ร่วมเจรจากับเจ้าหน้าที่ ของกระทรวงการต่างประเทศ กรมเอเชียตะวันออก กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย และกรมแผนที่ทหาร อีกทั้งมิได้เร่งรีบดำเนินการ แต่เป็นไปตามขั้นตอน หลังจากที่มีการหารือ กับข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศแล้ว ก็ได้นำเรื่องเข้าสู่สภาความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งมีรัฐมนตรีหลายกระทรวง และมี ผบ.หลายเหล่าทัพ และเลขาธิการสภาการความมั่นคงแห่งชาติ เข้าร่วมประชุมด้วย ก่อนนำเสนอเข้าที่ประชุมครม. และเมื่อครม. ได้อนุมัติ ตนจึงได้ไปลงนามในนามของรัฐบาล

"หมัก" รอสนทนาคนเดียวไม่ให้สื่อซัก

ด้าน นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวภายหลังการเดินทางมาตรวจเยี่ยมกองทัพอากาศ โดยพูดออกตัวกับสื่อมวลชนที่เฝ้าดักรอทำข่าวว่า วันนี้ไม่ขอพูดเรื่องการเมือง ขอให้อดใจรอไปฟังรายการในสนทนาประสาสมัคร ในวันอาทิตย์นี้

ขณะที่ผู้สื่อข่าวพยายามถามถึงกรณี นายนพดล ประกาศลาออก และถามถึงความรับผิดชอบของนายกรัฐมนตรี ต่อกรณีการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก แต่นายสมัคร ไม่ตอบ และใช้วิธีเดินเลี่ยงผู้สื่อข่าวไป

ปชป.ยื่นถอดถอน"นพดล"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 12.00 น. วันเดียวกันนี้ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) พร้อมคณะได้ยื่นหนังสือต่อนายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 เพื่อขอให้ถอดถอนนายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ ออกจากตำแหน่ง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 270 พร้อมจำนวนรายชื่อ ส.ส. 1 ใน 4 ตามรัฐธรรมนูญ โดยนายนิคม กล่าวว่า ขอเวลาตรวจสอบรายชื่อตาม มาตรา 117 ก่อน จากนั้นจะส่งให้ ป.ป.ช. ดำเนินการต่อโดยเร็ว

นายสาทิตย์ กล่าวถึงข้อหาที่ยื่นถอดถอด นายนพดล คือส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ซึ่งในคำร้องจะยืนยันได้อย่างชัดเจนว่า รมว.ต่างประเทศ มีเจตนาที่จะจงใจฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ มาตรา190 ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยไปแล้วว่า คำแถลงการร่วมไทย-กัมพูชา เป็นหนังสือสัญญาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 190

การถอดถอนครั้งนี้ ฝ่ายค้านระบุเหตุหลัก 3 ข้อ คือ 1. รมว.ต่างประเทศ มีเจตนาพิเศษที่เร่งรัด ฝ่าฝืนบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ให้แถลงการณ์ร่วมมีผลโดยเร็ว ซึ่งเราเชื่อว่าเอกสาร หลักฐานทั้งหลายยืนยันว่า การเจรจาในเรื่องนี้เริ่มต้นที่ เกาะกง เมื่อวันที่ 14 พ.ค.51 ที่นายนพดล เดินทางไปกับน้องเขย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และในวันนั้น มีข้อครหาเบื้องต้นแล้วว่า เป็นการแลกกันกับผลประโยชน์ ซึ่งเจตนาพิเศษนี้นำมาซึ่งการไปเจรจา กับคณะที่ประเทศฝรั่งเศส ในวันที่ 22-23 พ.ค.51 และที่ผิดปกติมากคือ หลังจากการเจรจาไปแล้ว มีการลงมติครม.เห็นชอบย้อนหลังไปผูกพัน วันที่ 22-23 พ.ค.51 ด้วย ซึ่งถือเป็นเรื่องผิดปกติอย่างยิ่ง เพราะหลักฐานปรากฎในตอนหลังว่าในวันที่ 22-23 พ.ค.51 นั้น รมว.ต่างประเทศ ยังไปลงนามกำกับในร่างของคำแถลงการร่วมดังกล่าวด้วย

2. มีคนท้วงติงกรณีแถลงการณ์ร่วม อาจจะเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 เพราะก่อนหน้าที่ ครม.จะมีมติในวันที่17 มิ.ย.51 แต่รมว.ต่างประเทศ ยังยืนยันที่จะดำเนินการ แสดงว่ามีเจตนาที่จะฝ่าฝืน รัฐธรรมนูญอย่างชัดแจ้ง

3. รมว.ต่างประเทศคนนี้ เป็นนักกฎหมาย จบนิติศาสตร์ จบเนติบัณฑิต สมควรที่จะรู้รัฐธรรมนูญ และข้อกฎหมายอย่างชัดเจน เพราะถ้อยคำให้สัมภาษณ์ของนายนพดล หลายครั้งที่พรรคได้อ้างนายนพดล ได้พูดชัดถึงอนุสัญญากรุงเวียนนา ซึ่งเป็นเรื่องของสนธิสัญญา และได้พูดถึงรัฐธรรนูญ มาตรา 190 แต่ได้บิดเบือนข้อเท็จจริงในการชี้แจง เพื่อที่จะให้แถลงการร่วมไทย-กัมพูชามีผล

ทั้งหมดนี้ จึงชี้ให้เห็นว่าพฤติกรรมของรมว.ต่างประเทศ จงใจฝ่าฝืน ซึ่งเป็นการกระทำผิดรัฐธรรมนูญ ซึ่งต้องใช้คำว่า ผิดอย่างร้ายแรง ซึ่งผลกระทบที่จะตามมาทีหลังคือ กรณีที่ประเทศไทยจะเสี่ยงต่อการเสียดินแดน อย่างที่ทุกคนเป็นห่วงอยู่ในขณะนี้

อย่างไรก็ตาม การยื่นถอดถอนนายนพดล ครั้งนี้เป็นเพียงขั้นต้นเท่านั้น เพราะขั้นตอนต่อไปจะต้องดูว่ามีรัฐมนตรีคนใดที่เข้าไปเกี่ยวข้องบ้าง รวมถึง ความเกี่ยวพันกับนายกรัฐมนตรี ดังนั้นคำร้องถอดถอนที่น่าจะดำเนินการต่อไป ก็จะเกี่ยวข้องกับนายกรัฐมนตรี ซึ่งขณะนี้กำลังดูเอกสารหลักฐานอยู่ เพราะต้องยอมรับว่าเอกสาร หลักฐานในเรื่องนี้ รัฐบาลมีความจงใจที่จะปกปิดอยู่ จนกระทั่งวันนี้ที่ฝ่ายค้านขอเอกสารไป ก็ยังไม่ได้ ดังนั้นอาจมีความจำเป็นที่ฝ่ายค้านจะต้องไปกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อไปขอเอกสารเหล่านี้ด้วย

"ข้อที่ผิดปกติเหล่านี้ ถือเป็นภาระหนักอย่างยิ่งของฝ่ายค้านที่จะต้องไปรวบรวมหลักฐาน ซึ่งในเบื้องต้นเชื่อว่า นายกรัฐมนตรีหนีไม่พ้นที่จะต้องมีความรับผิดชอบในเรื่องที่เกิดขึ้น และข้อหาก็คงจะเหมือนกัน คือ ส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ" นายสาทิตย์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า เท่าที่ดูรายชื่อการประชุมครม.มีรัฐมนตรีคนใดบ้างที่เกี่ยวข้อง นายสาทิตย์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า รัฐมนตรีที่เข้าประชุมครม. เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.51 มีลาการประชุม 5 คน เท่าที่จำได้มี นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกฯและรมว.คลัง พล.ท.หญิงพูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ รมว.พลังงาน ส่วนอีก 3 คนจำชื่อไม่ได้ แต่รัฐมนตรีสำคัญๆ อยู่ครบ

"เรื่องถอดถอนนี้ พวกเราจำเป็นต้องทำ คงไม่ใช่เป็นเรื่องการล้มรัฐบาล หรืออย่างไร แต่เป็นการทำหน้าที่ในการปกปักษ์รักษาแผ่นดินเกิด และถือว่าเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน" นายสาทิตย์ กล่าว

ส่วนเรื่องการาดำเนินคดีอาญาเอาผิดกับนายนพดลนั้น ทีมกฎหมายของพรรคกำลังดำเนินการอยู่ และทางส.ว.ก็จะยื่นดำเนินคดีอาญา ตามมาตรา 275 อยู่แล้ว ซึ่งเราก็ต้องทำทุกทาง
 
ทั้งนี้ การถอดถอนนายนพดล ถึงแม้ว่านายนพดล จะลาออกแล้ว ก็ไม่มีผล เพราะถือว่าการถอดถอนมีผลแล้วและป.ป.ช.ก็ต้องไปดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป และถ้าพบความผิดใดที่เกี่ยวข้องกับการปฎิบัติหน้าที่ในฐานะนักการเมือง ก็อาจจะต้องส่งไปที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของนักการเมืองด้วย และเรื่องนี้ต้องทำให้เห็นเป็นตัวอย่าง ว่าคนเป็นรัฐมนตรีต้องรักษาผลประโยชน์ให้ประเทศชาติ และทุกเรื่องที่เขียนเป็นคำถอดถอน ทำให้เห็นได้ชัดว่า นายนพดล บิดเบือนข้อเท็จจริง และจงใจเจตนาพิเศษที่จะจงใจฝ่าฝืนอย่างชัดแจ้ง โดยไม่เกรงว่า นี่คือเรื่องความผิดตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ

ลาออกก็ไม่มีผลต่อยื่นถอดถอน

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังนายนพดล ปัทมะ แถลงข่าวลาออกจากตำแหน่งรมว.ต่างประเทศ ว่า ถึงแม้นายนพดล จะลาออกแล้วก็ตาม ก็ไม่มีผลกระทบต่อการยื่นถอดถอน เพราะฝ่ายค้านได้ดำเนินการเรื่องนี้ในขณะที่นายนพดล ยังอยู่ในตำแหน่ง ดังนั้นกระบวนการคงต้องดำเนินการต่อไป ซึ่งการยื่นถอดถอนจะแตกต่างจากการลาออก เพราะในทางการเมืองหาก ป.ป.ช.วินิจฉัยว่า มีมูลแล้วส่งให้มีการถอดถอน ผลก็จะมีมากกว่าการพ้นตำแหน่ง คือ การห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมืองในอนาคตด้วย และหากมีการกระทำที่ผิดกฎหมาย จะต้องดำเนินการตามกระบวนการของศาล แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของป.ป.ช.

อย่างไรก็ตาม การที่นายนพดลลาออก ปัญหาเรื่องปราสาทพระวิหาร คงไม่จบลงไปด้วย เพราะปัญหานี้ ไม่ได้ผูกติดอยู่กับตัวบุคคล เพราะไม่ได้ทำในฐานะนายนพดล แต่ทำไปในฐานะรมว.ต่างประเทศของประเทศไทย นี่คือประเด็นที่ว่าทำไมจำเป็นต้องมาแก้ปัญหาต่อไป อย่างน้อยที่สุดที่เห็นชัดเจนคือ มติคณะกรรมการมรดกโลก ให้ 7 ประเทศเข้ามาบริหารจัดการพื้นที่ ซึ่งเป็นพื้นที่ของไทย จึงเป็นโจทย์ใหญ่ที่รัฐบาลต้องเร่งคลี่คลายไม่ให้เกิดปัญหาลุกลามต่อไป

นายอภิสิทธิ์ ยังเสนอให้นายกรัฐมนตรี เร่งปรับใหญ่ ครม. เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน เพราะมีรัฐมนตรีหลายคนที่กำลังมีปัญหา หากปรับเพียงเล็กน้อยจะไม่สามารถช่วยอะไรได้

ส่วนที่นายกรัฐมนตรีระบุว่า ปัญหาที่รัฐบาลประสบอยู่ในขณะนี้เป็นเพราะรัฐธรรมนูญนั้น ถิอว่าเป็นการแสดงความเห็นที่น่าเป็นห่วง เพราะอีกหน่อยผู้ร้ายในบ้านเมืองคงโทษว่ากฎหมายอาญาเป็นปัญหา ซึ่งจะไปโทษเช่นนั้นไม่ได้ เพราะเมื่อกติกาเป็นอย่างไรก็ต้องทำตามกติกา หากเห็นว่ากติกาไม่ดี จะแก้ไขก็มาพูดคุยกันได้ แต่ตราบเท่าที่กติกามี และคนรู้ว่ากติกาเป็นอย่างไร แล้วไม่ทำตามกติกา จะมาโทษในภายหลังไม่ได้

ส.ว.ยื่นถอดถอนนพดล จันทร์นี้

น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม. กล่าวถึงกรณีที่ ส.ว.จะยื่นถอดถอน นายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศว่า ในเวลา 12.00 น.วันที่ 11 ก.ค. ทางกลุ่ม ส.ว. จะหารือกัน ซึ่งคาดว่าจะสามารถยื่นถอดถอนนายนพดลได้ภายในวันจันทร์ที่14 ก.ค.นี้ แม้นายนพดล จะลาออกก็ต้องยื่น เพราะความผิดทางอาญายังมีอยู่ แต่ถ้าจะทำความผิดเบาบางลง รัฐบาลต้องไปยกเลิกแถลงการณ์ร่วมต่อคณะกรรมการมรดกโลกอย่างเป็นทางการทันที ไม่อย่างนั้นจะเป็นการผูกมัดประเทศ ทำให้เกิดความเสียหาย เพราะสิ่งที่ทำไปมันเข้าข่ายเสียเอกราช และพื้นที่ส่วนใดส่วนหนึ่งในราชอาณาจักร ซึ่งผู้ที่ทำให้เกิดความเสียหายจะถือว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 119 สิ่งที่เราทำไม่ใช่ว่าจะเอาให้ตาย แต่ต้องการทำให้กฎหมายมีบรรทัดฐาน

"หมัก"ปรับใหญ่ ไม่ยุบ ไม่ลาออก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงบ่ายวานนี้พรรคพลังประชาชน ได้มีการประชุมส.ส.นัดพิเศษ เพื่อปลุกปลอบ และแก้ปัญหาทางการเมืองที่กำลังจะเข้าสู่ภาวะจนตรอก โดยมีนายสมัคร สุนทรเวช เป็นประธานการประชุม

ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง โฆษกพรรคพลังประชาชน แถลงภายหลังการประชุมว่า นายสมัคร ได้เปิดใจชี้แจงต่อที่ประชุมถึงปัญหาต่างๆ ที่รุมเร้ารัฐบาล ทุกวันนี้ ว่า ต้นเหตุมาจากความตั้งใจจะทำลายล้าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จากฝ่ายตรงข้าม โดยมีการลากดึงบุคคลที่อยู่ใกล้ชิด รวมทั้งตัวนายสมัคร เข้าไปสู่วังวนของการทำลายล้างด้วย โดยมีแผนการทำลายไปทีละคน

นอกจากนี้นายสมัคร ยังยืนยันว่า จะต่อสู้ต่อไป ไม่ผวา ไม่ปอด และยืนยันว่าจะไม่ยุบสภา ไม่ลาออก หากจะมีการตัดสินใจใดๆทางการเมืองที่สำคัญ ก็จะปรึกษา กับพรรคก่อนที่จะตัดสินใจ

ส่วนแนวทางการปรับ ครม.นั้นที่ประชุมไม่ได้มีการสอบถามเรื่องนี้ แต่เราก็ทราบอยู่แล้ว เมื่อมีรัฐมนตรีลาออกนายกฯ ก็ต้องเตรียมหาคนมาทำงานแทน ซึ่งนายกฯ คงต้องทำ และจัดทำในจังหวะที่เหมาะสมเพื่อประโยชน์สูงสุด

แหล่งข่าวจากที่ประชุมพรรคในครั้งนี้ เปิดเผยว่า นายสมัคร ได้ลำดับถึงเหตุการณ์ทางการเมืองในอดีตที่ผ่านมา แล้วสรุปว่า หลายๆปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น ล้วนเป็นผลมาจากรัฐธรรมนูญปี 50 ทั้งสิ้น

"วันนี้ผมจะอยู่สู้ต่อไป เพื่อทำงานให้ประชาชน ให้เต็มที่ อะไรที่ผิดพลาดก็ต้องค่อยๆ แก้ไป และทุกอย่าง ทุกเรื่อง ผมจะขอพูดในรายการ สนทนาประสาสมัคร วันอาทิตย์นี้ แต่ตอนนี้ผมขอยืนยันให้สมาชิกทุกท่านได้สบายใจว่า ผมจะไม่ยุบ ไม่ถอย ไม่หนี ขอให้พวกเราพยายามรักใคร่กลมเกลียวกันไว้ให้แข็งแรง และช่วยกันทำงานให้ประชาชนอย่างเต็มที่ สิ่งที่รัฐบาลจะต้องดำเนินการจากนี้โดยเร็วก็คือ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะรัฐธรรมนูญเป็นต้นเหตุของปัญหาทุกอย่าง" แหล่งข่าว อ้างคำพูดของนายสมัคร

แหล่งข่าวยังกล่าวด้วยว่า นายสมัครได้พูดต่อที่ประชุมประมาณชั่วโมงกว่า และเมื่อพูดจบได้มีส.ส.ภาคอีสานลุกขึ้นสอบถามถึงการปรับครม. แทนตำแหน่งที่ว่าง ซึ่งนายสมัคร ขอยังไม่ตอบในขณะนี้ เพราะต้องคิดให้รอบคอบ

ยัน"พรรคปลาคาร์ป"ไปไหนไม่รอด

ส่วนท่าทีของพรรคร่วมรัฐบาลนั้น มี ส.ส.สอบถามถึงข่าวคราวที่อาจจะมีการหนีไปซบกับพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งนายสมัคร ได้ยืนยันกับสมาชิกว่า ได้มีการพูดคุย และได้รับการยืนยันจากแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลแล้วทุกพรรคว่า เข้าใจถึงสถานการณ์ในขณะนี้ดี ซึ่งทุกพรรคยินดีที่จะร่วมงานกับรัฐบาลต่อไป ไม่หนีย้ายไปอยู่กับพรรคฝ่ายตรงข้ามแน่นอน

สมาชิกพรรคหลายคนยังปรับทุกข์ ด้วยความเป็นห่วงเรื่องคดีความต่างๆ ที่จะมีผลกับพรรค ไม่ว่าจะเป็นคดี ชิมไปบ่นไป ของตัวนายกฯ ที่ กกต.จะตัดสินในวันที่ 18 ก.ค.นี้ ซึ่งสมาชิกก็มีการพูดเหมือนกันว่า คงไม่รอด นอกจากนี้ยังเป็นห่วงที่พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นถอดถอนครม.ทั้งคณะ และยังมีคดีของนายยงยุทธ ที่จะต้องเชื่อมโยงถึงการยุบพรรค โดยสมาชิกเห็นว่า พรรคก็คงถูกยุบแน่นอน และมีการเตรียมตั้งพรรคไว้แล้ว หลายคนก็ท้อใจ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด

เลิกพูดเรื่องทวงปราสาทพระวิหาร

สำหรับเรื่องปราสาทพระวิหารนั้น แหล่งข่าว เปิดเผยว่า นายสมัครได้ชี้แจงว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นต่อให้รัฐบาลไหนเข้ามา เขมรก็ต้องได้ขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหาร เพราะประเทศสมาชิกเขามีการล็อบบี้กันไว้หมดแล้ว

"จะให้เราอย่างไร เพราะที่ผ่านมาเราก็ปรึกษากับผู้รู้มาตลอด ไม่ว่าจะเป็นคณะกรรมการกฤษฎีกา หน่วยงานทางด้านกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะด้านต่างประเทศ หรือแม้แต่หน่วยงานทางทหาร ต่างก็ยืนยันว่า ถูกต้อง และเมื่อเป็นอย่างนี้จะให้ทำอย่างไร ก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย รัฐบาลก็ต้องทำงานต่อไป อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด" แหล่งข่าว อ้างถึงคำพูดนายสมัคร

นอกจากนี้ ยังมี ส.ส.หลายคน ได้ซักถามนายสมัคร ถึงความชัดเจนว่า จะมีการยุบสภาฯ หรือลาออกหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาเมื่อถึงทางตัน นายกฯทุกคนจะบอกว่า ไม่ยุบสภาไม่ลาอออก แต่สุดท้ายก็ยุบสภา ทุกครั้ง โดยที่ส.ส.ไม่รู้ตัว ทำให้พวกพันธมิตรฯ ที่ชุมนุมประท้วงอยู่ในขณะนี้ได้ใจ จึงขอมติที่ประชุมส.ส.วันนี้ว่า เห็นด้วยกับการยุบสภา หรือไม่ และหากนายกฯ จะตัดสินใจอย่างไร ขอให้มาถามความเห็นจากส.ส.ก่อนว่า เห็นด้วยหรือไม่ ซึ่งส.ส.ทั้งหมดเห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าว

เปิดสภาเมื่อไร แก้ รธน.ทันที

นายสมัคร ยังได้กล่าวกับที่ประชุมว่า การที่มาอยู่ที่พรรคพลังประชานั้น มีจุดประสงค์เพื่อรวบรวม ส.ส.ให้เป็นหนึ่งเดียวกัน ขอให้ไว้ใจ จะไม่ทำเหมือนที่ผ่านมา ที่ตัดสินใจโดยลำพัง แต่จะเรียกประชุม.ส.สทั้งหมด เพื่อขอความเห็น และขอเป็นมติ

"ปัญหาที่เกิดขึ้นวันนี้ มันมีต้นเหตุ ดังนั้นเมื่อมีเหตุ ก็ต้องแก้ที่ตัวเหตุ ปัญหาที่เกิดขึ้นจึงจำเป็นต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะเป็นรัฐธรรมนูญที่เขียนจากเผด็จการ รัฐบาลเข้ามา 3-4 เดือน ก็เจอปัญหา เพราะมีคนไปเขียนดักไว้ เรื่องนี้จะไม้เกิดหากเราไม่ชนะ และไม่ได้เป็นรัฐบาล โดยมีความพยายามจะล้มให้ได้ ขณะเราถอย มันก็ยังไม่เลิก จะไล่ทุบให้ถึงที่สุด ดังนั้น เมื่อเปิดสภาฯ ก็ต้องคุยเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ โดยนำผลของคณะกรรมาธิการศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 และอยากให้พวกเราจับตาดูว่า มีการใช้อำนาจนอกระบบมาจัดการหรือไม่ หากเจอก็มาบอก จะออกมาต่อสู้เอง" นายสมัคร กล่าวกับที่ประชุม

"แม้ว" ทำบื้อ..ลืมเรื่องการเมืองแล้ว

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์ ระหว่างไปร่วมงานรับปริญญา ของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร โดยปฏิเสธที่จะตอบข้อซักถามถึงกรณีที่นายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศลาออกจากกการเป็นรัฐมนตรี โดยกล่าวเพียงว่า ไม่ทราบ

เมื่อถามว่า ได้ให้กำลังใจนายสมัคร ในการบริหารประเทศช่วงวิกฤตการเมืองอย่างไรบ้าง พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่ายังไม่เจอนายสมัคร แต่ก็ให้กำลังทุกฝ่าย เพื่อให้บ้านเมืองเรียบร้อย เมื่อถามว่าสถานการณ์ขณะนี้ถึงเวลาปรับครม.แล้วหรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ไม่ทราบ ต้องถามนายสมัคร วันนี้ถามเรื่องลูกสาวได้เรื่องเดียว เรื่องอื่นตนไม่รู้เรื่อง จำอะไรไม่ค่อยได้แล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น