ผู้จัดการรายวัน-บิ๊กอสังหาฯส่งสัญญาณเชิงบวกโชว์ผลประกอบการ6เดือนแรกสดใส จับตาพฤกษาฯบันทึกรายได้จากการขาย 5,500 ล้านบาท เติบโต 35% คาดไตรมาส 2 กำไรโตเท่าตัวอยู่ที่ 626 ล้านบาท รุกคืบเปิดคอนโดฯระดับพรีเมียมใจกลางแหล่งเศรษฐกิจในเมือง ได้แปลงดีบนถนนเยาวราชฝั่งวัดเล่งเน่ยยี่ ลุยคอนโดฯติดห้างปิ่นเกล้าและบนถนนทองหล่อ เปิดภายใต้แบรนด์"ไอวี่" ด้านศุภาลัย เผย6เดือนแรกมียอดทำสัญญา 4,800 ล้านบาท
นายประเสิรฐ แต่ดุลยสาธิต กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PS เปิดเผยถึงแนวโน้มผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรกของปี 51 ว่า ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของยอดจอง(ยอดทำสัญญา) มีตัวเลขสูงถึง 8,700 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 65% เมื่อเทียบกับ 6เดือนแรกของปีที่ผ่านมา ขณะที่ยอดการบันทึกรายได้จากการขาย เพิ่มสูงกว่าเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 50 และหากพิจารณาในส่วนของไตรมาส 2 ของปีนี้ มีผลประกอบการที่สูงกว่าไตรมาสที่ผ่านมาเช่นกัน
"ปัจจัยบวกที่ทำให้ผลประกอบการของบริษัทโดดเด่น เกิดจากการปรับตัว ปรับธุรกิจให้เข้ากับสถานการณ์ได้เร็วและทัน เรียกว่าเราหักองศาได้เร็วกว่า ซึ่งจะเห็นได้ว่า ยอดทำสัญญาที่มีมูลค่า 8,700 ล้านบาท กว่า 83% จะเป็นโครงการแนวราบ และ 17% จะเป็นโครงการคอนโดมิเนียม และด้วยการมองเห็นปัญหา และหันมาเน้นตลาดแนวราบ ก็จะส่งผลดีต่อการโอน เนื่องจากเรามีความเชี่ยวชาญในการก่อสร้าง ระยะเวลาในการโอนสั้นแต่บ้านมีคุณภาพได้มาตรฐาน "นายประเสริฐ กล่าว
สำหรับแผนการลงทุนในครึ่งหลังของปี 51 นั้น นอกจากจะมีโครงการแนวราบแล้ว ทางบริษัทมีที่ดินสำหรับพัฒนาโครงการแนวสูงได้หลายทำเล และเป็นการรุกคืบเข้าสู่ทำเลใจกลางเมืองมากขึ้น อยู่ในแหล่งชุมชนที่มีการขยายตัวของเศรษฐกิจในรัศมีโดยรอบ ซึ่งจะเป็นโครงการคอนโดฯระดับพรีเมียม ได้แก่ แบรนด์"ไอวี่" ทำเลที่สนใจบนถนนเยาวราช (ฝั่งเดียวกับวัดเล่งเน่ยยี่) ,ทำเลบนถนนปิ่นเกล้า(อยู่ติดกับห้างพาต้า) ,ทำเลบนถนนทองหล่อ ในส่วนของของแบรนด์ "เดอะซีด"คาดจะพิจารณาทำเลบนถนนพหลโยธิน
" การที่เราไม่โหมเปิดคอนโดฯในช่วงที่ผ่านมา และชะลอออกมาเปิดในช่วงไตรมาส 3 และ 4 เนื่องจากเราต้องการลดความเสี่ยงทางด้านต้นทุน ที่ผ่านมาผันผวนมาก ขืนเราฝืนขายไปล่วงหน้า จะเข้าตำรา ได้ไม่คุ้มเสีย ดังนั้น เราต้องการเห็นตัวทุนที่แท้จริงก่อน อย่างไรก็ดี ในส่วนของเป้าการขาย มั่นใจว่าจะทำได้ตามแผนที่วางไว้ 1.4หมื่นล้านบาท "นายประเสริฐกล่าว
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ ASP ประเมินถึงผลประกอบการของบริษัทพฤกษาฯในไตรมาส 2 ปี 51 ว่า น่าจะมีการบันทึกรายได้จากการขาย 3,270 ล้านบาท (อนึ่ง รายได้รวมสำหรับไตรมาส 1ที่ผ่านมา เท่ากับ 2,230.2 ล้านบาท คาดเมื่อรวมกับครึ่งแรกของปี 51 บริษัทจะมีรายได้จากการขายประมาณ 5,500 ล้านบาท หรือมีรายได้เติบโตขึ้นกว่า 35% ) และมีอัตรากำไรขั้นต้อน (Gross Margin)อยู่ที่ 37% ส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
เนื่องจากได้รับประโยชน์จากภาษีธุรกิจเฉพาะและค่าธรรมเนียมการโอนตามมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ซึ่งทำให้พฤกษามีกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ประมาณ 626 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 1 เท่าตัวจากไตรมาสที่ 1/51 (ไตรมาสแรกมีกำไร 308.3 ล้านบาท) โดย ณ สิ้นไตรมาส 2/51 มียอดขายที่รอรับรู้รายได้(Backlog) คงเหลือประมาณ 11,340 ล้านบาท
ขณะที่ไตรมาส 2/51 มียอดขาย(พรีเซล) อยู่ที่ 3,735 ล้านบาท โดยมีการเปิดตัวโครงการใหม่ 9 โครงการ ซึ่งไม่มีโครงการคอนโดฯ ส่วนในช่วงครึ่งปีหลังนี้ คาดว่าจะเปิดตัวโครงการเพิ่มอีกประมาณ 25 โครงการ
ทั้งนี้ การที่รอบธุรกิจที่สั้นเพียง 110 วันในส่วนของบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ ทำให้บริษัทมีกระแสเงินสด และฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง เป็นผลทำให้สามารถปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี จะเห็นได้ว่าในปีที่ผ่านมา ได้เปิดโครงการในเมืองมากขึ้น ทำให้ปรับราคาขายบ้านให้สูงขึ้น
ศุภาลัยฯชี้ยอดทำสัญญาพุ่ง 3 เท่า
นายประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าว่า ในช่วง 6 เดือนแรกของปี51 มียอดทำสัญญาอยู่ประมาณ 4,800 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าปี 2550 ถึง 3 เท่า (ครึ่งปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 1,710 ล้านบาท ) ส่วนยอดขายตั้งแต่ต้นปี จนถึงปลายเดือนมิถุนายน 51 สูงกว่า 5,300 ล้านบาท เมื่อเทียบกับยอดขายที่ตั้งเป้าไว้ทั้งปีที่ 9,999 ล้านบาท โดยยอดขายที่ทำได้ในครึ่งปีแรก ประกอบด้วยอาคารชุด 60% และบ้านจัดสรร 40% มีราคาต่อหน่วยขายตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป จนถึง 29 ล้านบาท โดยในไตรมาส 2 ปีนี้ บริษัทมียอดโอนประมาณ 2,100 ล้านบาท
นายประเสิรฐ แต่ดุลยสาธิต กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PS เปิดเผยถึงแนวโน้มผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรกของปี 51 ว่า ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของยอดจอง(ยอดทำสัญญา) มีตัวเลขสูงถึง 8,700 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 65% เมื่อเทียบกับ 6เดือนแรกของปีที่ผ่านมา ขณะที่ยอดการบันทึกรายได้จากการขาย เพิ่มสูงกว่าเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 50 และหากพิจารณาในส่วนของไตรมาส 2 ของปีนี้ มีผลประกอบการที่สูงกว่าไตรมาสที่ผ่านมาเช่นกัน
"ปัจจัยบวกที่ทำให้ผลประกอบการของบริษัทโดดเด่น เกิดจากการปรับตัว ปรับธุรกิจให้เข้ากับสถานการณ์ได้เร็วและทัน เรียกว่าเราหักองศาได้เร็วกว่า ซึ่งจะเห็นได้ว่า ยอดทำสัญญาที่มีมูลค่า 8,700 ล้านบาท กว่า 83% จะเป็นโครงการแนวราบ และ 17% จะเป็นโครงการคอนโดมิเนียม และด้วยการมองเห็นปัญหา และหันมาเน้นตลาดแนวราบ ก็จะส่งผลดีต่อการโอน เนื่องจากเรามีความเชี่ยวชาญในการก่อสร้าง ระยะเวลาในการโอนสั้นแต่บ้านมีคุณภาพได้มาตรฐาน "นายประเสริฐ กล่าว
สำหรับแผนการลงทุนในครึ่งหลังของปี 51 นั้น นอกจากจะมีโครงการแนวราบแล้ว ทางบริษัทมีที่ดินสำหรับพัฒนาโครงการแนวสูงได้หลายทำเล และเป็นการรุกคืบเข้าสู่ทำเลใจกลางเมืองมากขึ้น อยู่ในแหล่งชุมชนที่มีการขยายตัวของเศรษฐกิจในรัศมีโดยรอบ ซึ่งจะเป็นโครงการคอนโดฯระดับพรีเมียม ได้แก่ แบรนด์"ไอวี่" ทำเลที่สนใจบนถนนเยาวราช (ฝั่งเดียวกับวัดเล่งเน่ยยี่) ,ทำเลบนถนนปิ่นเกล้า(อยู่ติดกับห้างพาต้า) ,ทำเลบนถนนทองหล่อ ในส่วนของของแบรนด์ "เดอะซีด"คาดจะพิจารณาทำเลบนถนนพหลโยธิน
" การที่เราไม่โหมเปิดคอนโดฯในช่วงที่ผ่านมา และชะลอออกมาเปิดในช่วงไตรมาส 3 และ 4 เนื่องจากเราต้องการลดความเสี่ยงทางด้านต้นทุน ที่ผ่านมาผันผวนมาก ขืนเราฝืนขายไปล่วงหน้า จะเข้าตำรา ได้ไม่คุ้มเสีย ดังนั้น เราต้องการเห็นตัวทุนที่แท้จริงก่อน อย่างไรก็ดี ในส่วนของเป้าการขาย มั่นใจว่าจะทำได้ตามแผนที่วางไว้ 1.4หมื่นล้านบาท "นายประเสริฐกล่าว
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ ASP ประเมินถึงผลประกอบการของบริษัทพฤกษาฯในไตรมาส 2 ปี 51 ว่า น่าจะมีการบันทึกรายได้จากการขาย 3,270 ล้านบาท (อนึ่ง รายได้รวมสำหรับไตรมาส 1ที่ผ่านมา เท่ากับ 2,230.2 ล้านบาท คาดเมื่อรวมกับครึ่งแรกของปี 51 บริษัทจะมีรายได้จากการขายประมาณ 5,500 ล้านบาท หรือมีรายได้เติบโตขึ้นกว่า 35% ) และมีอัตรากำไรขั้นต้อน (Gross Margin)อยู่ที่ 37% ส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
เนื่องจากได้รับประโยชน์จากภาษีธุรกิจเฉพาะและค่าธรรมเนียมการโอนตามมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ซึ่งทำให้พฤกษามีกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ประมาณ 626 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 1 เท่าตัวจากไตรมาสที่ 1/51 (ไตรมาสแรกมีกำไร 308.3 ล้านบาท) โดย ณ สิ้นไตรมาส 2/51 มียอดขายที่รอรับรู้รายได้(Backlog) คงเหลือประมาณ 11,340 ล้านบาท
ขณะที่ไตรมาส 2/51 มียอดขาย(พรีเซล) อยู่ที่ 3,735 ล้านบาท โดยมีการเปิดตัวโครงการใหม่ 9 โครงการ ซึ่งไม่มีโครงการคอนโดฯ ส่วนในช่วงครึ่งปีหลังนี้ คาดว่าจะเปิดตัวโครงการเพิ่มอีกประมาณ 25 โครงการ
ทั้งนี้ การที่รอบธุรกิจที่สั้นเพียง 110 วันในส่วนของบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ ทำให้บริษัทมีกระแสเงินสด และฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง เป็นผลทำให้สามารถปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี จะเห็นได้ว่าในปีที่ผ่านมา ได้เปิดโครงการในเมืองมากขึ้น ทำให้ปรับราคาขายบ้านให้สูงขึ้น
ศุภาลัยฯชี้ยอดทำสัญญาพุ่ง 3 เท่า
นายประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าว่า ในช่วง 6 เดือนแรกของปี51 มียอดทำสัญญาอยู่ประมาณ 4,800 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าปี 2550 ถึง 3 เท่า (ครึ่งปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 1,710 ล้านบาท ) ส่วนยอดขายตั้งแต่ต้นปี จนถึงปลายเดือนมิถุนายน 51 สูงกว่า 5,300 ล้านบาท เมื่อเทียบกับยอดขายที่ตั้งเป้าไว้ทั้งปีที่ 9,999 ล้านบาท โดยยอดขายที่ทำได้ในครึ่งปีแรก ประกอบด้วยอาคารชุด 60% และบ้านจัดสรร 40% มีราคาต่อหน่วยขายตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป จนถึง 29 ล้านบาท โดยในไตรมาส 2 ปีนี้ บริษัทมียอดโอนประมาณ 2,100 ล้านบาท