สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน โอดต้นทุนก่อสร้างพุ่ง 20% วอนลูกค้าเห็นใจหากต้องขอปรับราคาเพิ่ม ระบุบ้านต่ำกว่า 3-5 ล้านบาทกระทบแน่ ส่วนสร้างบ้าน 7 ล้านบาทขึ้นไปยังรุ่ง เตรียมจัดสัมนาใหญ่ให้ความรู้สมาชิกปรับตัวรับต้นทุนแพง พร้อมจัดงานรับสร้างบ้าน 2008 เชื่อกำลังซื้อยังมีตั้งเป้าไม่ต่ำกว่า 1,500 ล้านบาท ด้านโฮมสแตนดาร์ดฯหวั่น น้ำมันใกล้ 150 เหรียญ/บาร์เรล ส่อวิกฤตต่อธุรกิจรับสร้างบ้าน กระทบกลุ่มบ้านราคา 3-5 ล้านบาท
นายพันธุ์เทพ ทานชิติกุล นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน เปิดเผยว่า ในครึ่งปีแรกธุรกิจรับสร้างบ้านได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจค่อนข้างมาก เนื่องจากต้นทุนสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและปรับขึ้นมาแล้วกว่า 20% อีกทั้ง ลูกค้ายังไม่มั่นใจในสถานการณ์ส่งผลให้การตัดสินใจซื้อน้อยลง รวมถึงอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มปรับขึ้นในช่วงปลายปี ทั้งนี้ สถานการณ์ดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อตลาดบ้านระดับราคา 3-5 ล้านบาท เนื่องจากลูกค้ากลุ่มนี้เป็นมนุษย์เงินเดือน ส่วนใหญ่จะขอสินเชื่อเพื่อสร้างบ้าน และด้วยงบประมาณที่จำกัด ทำให้ลูกค้ากลุ่มนี้ชะลอการตัดสินใจสร้างบ้านสูงกว่ากลุ่มอื่น
อย่างไรก็ดีพบว่า ตลาดรับสร้างบ้านระดับราคา 7 ล้านบาทขึ้นไป ยังมีโอกาสเติบโต เนื่องจากกลุ่มนี้ไม่มีปัญหาเรื่องการเงิน แต่ต้องการเร่งสร้างบ้านเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาราคาวัสดุก่อสร้างที่มีการปรับตัวสูงขึ้น แม้ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ แต่ตลาดรับสร้างบ้านถือว่าได้รับผลกระทบน้อยกว่าธุรกิจอื่น เนื่องจากลูกค้ามีที่ดินเป็นของตนเอง มีเงินออมแล้วบางส่วน
นายพันธุ์เทพกล่าวว่า เพื่อหาแนวทางในการแก้ปัญหา ทางสมาคมฯได้วางแผนระยาว และเตรียมที่จะพัฒนา 2 มาตรการคือ 1. การสร้างรากฐานที่ยั่งยืนให้แก่ธุรกิจรับสร้างบ้านและสมาชิก 2.การขยายฐานของตลาดรับสร้างบ้านด้วยกิจกรรมทางด้านการตลาด
โดยการขยายฐานตลาดรับสร้างบ้านด้วยกิจกรรมทางการตลาด จะเน้นการจัดกิจกรรมโดยการออกบูธของสมาชิกสมาคมฯ ซึ่งปกติ มีการจัดปีละ 2 ครั้งคือ ในช่วงต้นปี ซึ่งจัดเฉพาะสมาชิกสามัญเท่านั้น ขณะที่งานใหญ่ คือ งานรับสร้างบ้าน จะมีการจัดกันขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง โดยในปีนี้กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 20-24 ส.ค.นี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยใช้งบจัดงาน 17 ล้านบาท กว่า 300 บูธ
“ ในปีนี้ถือเป็นปีแรกที่มีบริษัทรับสร้างบ้านเข้ามาร่วมออกงานมากกว่า 50 บริษัท พร้อมด้วยกลุ่มผู้ผลิตวัสดุก่อสร้าง สถาบันการเงิน นอกจากนี้ยังจัดงานตรงกับงาน Home Expo 2008 คาดว่าจะเพิ่มความคึกคักเป็นอย่างมาก โดยตั้งเป้ายอดขายไม่น้อยกว่า 1,500 ล้านบาท ทั้งนี้ การจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่องของสมาคมฯ จะผลักดันให้มูลค่ารวมของตลาดรับสร้างบ้านเพิ่มขึ้น คาดว่าในปีนี้ จะมีมูลค่าใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาประมาณ 8,500 ล้านบาท "
นายบุญลือ วงศ์พรเพ็ญภาพ กรรมการผู้จัดการบริษัท โฮมสแตนดาร์ด ดีเวลอปเมนท์ จำกัด บริษัทรับสร้างบ้านระดับคุณภาพ โดยไม่ใช้ผู้รับเหมาช่วง กล่าวว่า แนวโน้มการปรับตัวของราคาน้ำมันที่ยังไม่หยุดนิ่งในปัจจุบัน ส่งผลให้ราคาวัสดุก่อสร้างปรับขึ้นราคาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ประกอบการรับสร้างบ้าน ในขณะนี้เริ่มเข้าสู่ภาวะเสี่ยงจากการบริหารต้นทุน หรือคุมต้นทุนในการก่อสร้างลำบากมากขึ้น ทั้งนี้ปัจจุบันราคาน้ำมันอยู่ที่ระดับ145 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เลว หากแนวโน้มราคาน้ำมันยังปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับ150เหรียญสหรัฐ ต่อบาร์เรล จะทำให้ราคาวัสดุก่อสร้างปรับตัวสูงขึ้นอีก ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อต้นทุนก่อสร้างของบริษัทรับสร้างบ้านให้อยู่ในระดับวิกฤติ
โดยเฉพาะกลุ่มตลาดรับสร้างบ้านระดับกลาง-ล่างจะได้รับผลกระทบจากต้นทุนที่ปรับตัวสูงตามราคาน้ำมันจนไม่สามารถควบคุมต้นทุนได้ ดังนั้นในส่วนของบริษัท เองจึงมีแนวทางการทำตลาดรับสร้างบ้านระดับไฮเอน หรือตลาดบ้านระดับบน โดยบริษัทจะพยายามเพิ่มสัดส่วนการรับงานในบริษัท โฮม ดีเวลลอปเมนท์ซึ่งจับกลุ่มลูกค้าบ้านราคา10ล้านบาทขึ้นไป จากเดิมที่มีสัดส่วนรับงานรับสร้างบ้านกลุ่มบ้าน 5-8 ล้านบาทผ่านบริษัทโฮมแสตนดาร์ดเป็นหลัก
นอกจากนี้ บริษัทฯยังเตรียมขยายไลน์เข้าไปจับบ้านจัดสรรคาราแพงโดยเข้าไปรับงานก่อสร้างบ้านบนที่ดินของโครงการจัดสรรด้วย ซึ่งล่าสุดอยู่ระหว่างการเจรจากับเจ้าของที่ดินในจ.สุพรรณบุรี เพื่อก่อสร้างบ้านในที่ดินเพื่อขายให้แก่ลูกค้า เบื้องต้นคาดว่าจะมีประมาณ 28 แปลง ราคาขายบ้านเริ่มต้น 7-10 ล้านบาท และจะมีบางแปลงราคาสูงประมาณ 20 กว่าล้านบาท บนเนื้อที่ 200 ตารางวา
นายพันธุ์เทพ ทานชิติกุล นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน เปิดเผยว่า ในครึ่งปีแรกธุรกิจรับสร้างบ้านได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจค่อนข้างมาก เนื่องจากต้นทุนสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและปรับขึ้นมาแล้วกว่า 20% อีกทั้ง ลูกค้ายังไม่มั่นใจในสถานการณ์ส่งผลให้การตัดสินใจซื้อน้อยลง รวมถึงอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มปรับขึ้นในช่วงปลายปี ทั้งนี้ สถานการณ์ดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อตลาดบ้านระดับราคา 3-5 ล้านบาท เนื่องจากลูกค้ากลุ่มนี้เป็นมนุษย์เงินเดือน ส่วนใหญ่จะขอสินเชื่อเพื่อสร้างบ้าน และด้วยงบประมาณที่จำกัด ทำให้ลูกค้ากลุ่มนี้ชะลอการตัดสินใจสร้างบ้านสูงกว่ากลุ่มอื่น
อย่างไรก็ดีพบว่า ตลาดรับสร้างบ้านระดับราคา 7 ล้านบาทขึ้นไป ยังมีโอกาสเติบโต เนื่องจากกลุ่มนี้ไม่มีปัญหาเรื่องการเงิน แต่ต้องการเร่งสร้างบ้านเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาราคาวัสดุก่อสร้างที่มีการปรับตัวสูงขึ้น แม้ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ แต่ตลาดรับสร้างบ้านถือว่าได้รับผลกระทบน้อยกว่าธุรกิจอื่น เนื่องจากลูกค้ามีที่ดินเป็นของตนเอง มีเงินออมแล้วบางส่วน
นายพันธุ์เทพกล่าวว่า เพื่อหาแนวทางในการแก้ปัญหา ทางสมาคมฯได้วางแผนระยาว และเตรียมที่จะพัฒนา 2 มาตรการคือ 1. การสร้างรากฐานที่ยั่งยืนให้แก่ธุรกิจรับสร้างบ้านและสมาชิก 2.การขยายฐานของตลาดรับสร้างบ้านด้วยกิจกรรมทางด้านการตลาด
โดยการขยายฐานตลาดรับสร้างบ้านด้วยกิจกรรมทางการตลาด จะเน้นการจัดกิจกรรมโดยการออกบูธของสมาชิกสมาคมฯ ซึ่งปกติ มีการจัดปีละ 2 ครั้งคือ ในช่วงต้นปี ซึ่งจัดเฉพาะสมาชิกสามัญเท่านั้น ขณะที่งานใหญ่ คือ งานรับสร้างบ้าน จะมีการจัดกันขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง โดยในปีนี้กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 20-24 ส.ค.นี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยใช้งบจัดงาน 17 ล้านบาท กว่า 300 บูธ
“ ในปีนี้ถือเป็นปีแรกที่มีบริษัทรับสร้างบ้านเข้ามาร่วมออกงานมากกว่า 50 บริษัท พร้อมด้วยกลุ่มผู้ผลิตวัสดุก่อสร้าง สถาบันการเงิน นอกจากนี้ยังจัดงานตรงกับงาน Home Expo 2008 คาดว่าจะเพิ่มความคึกคักเป็นอย่างมาก โดยตั้งเป้ายอดขายไม่น้อยกว่า 1,500 ล้านบาท ทั้งนี้ การจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่องของสมาคมฯ จะผลักดันให้มูลค่ารวมของตลาดรับสร้างบ้านเพิ่มขึ้น คาดว่าในปีนี้ จะมีมูลค่าใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาประมาณ 8,500 ล้านบาท "
นายบุญลือ วงศ์พรเพ็ญภาพ กรรมการผู้จัดการบริษัท โฮมสแตนดาร์ด ดีเวลอปเมนท์ จำกัด บริษัทรับสร้างบ้านระดับคุณภาพ โดยไม่ใช้ผู้รับเหมาช่วง กล่าวว่า แนวโน้มการปรับตัวของราคาน้ำมันที่ยังไม่หยุดนิ่งในปัจจุบัน ส่งผลให้ราคาวัสดุก่อสร้างปรับขึ้นราคาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ประกอบการรับสร้างบ้าน ในขณะนี้เริ่มเข้าสู่ภาวะเสี่ยงจากการบริหารต้นทุน หรือคุมต้นทุนในการก่อสร้างลำบากมากขึ้น ทั้งนี้ปัจจุบันราคาน้ำมันอยู่ที่ระดับ145 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เลว หากแนวโน้มราคาน้ำมันยังปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับ150เหรียญสหรัฐ ต่อบาร์เรล จะทำให้ราคาวัสดุก่อสร้างปรับตัวสูงขึ้นอีก ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อต้นทุนก่อสร้างของบริษัทรับสร้างบ้านให้อยู่ในระดับวิกฤติ
โดยเฉพาะกลุ่มตลาดรับสร้างบ้านระดับกลาง-ล่างจะได้รับผลกระทบจากต้นทุนที่ปรับตัวสูงตามราคาน้ำมันจนไม่สามารถควบคุมต้นทุนได้ ดังนั้นในส่วนของบริษัท เองจึงมีแนวทางการทำตลาดรับสร้างบ้านระดับไฮเอน หรือตลาดบ้านระดับบน โดยบริษัทจะพยายามเพิ่มสัดส่วนการรับงานในบริษัท โฮม ดีเวลลอปเมนท์ซึ่งจับกลุ่มลูกค้าบ้านราคา10ล้านบาทขึ้นไป จากเดิมที่มีสัดส่วนรับงานรับสร้างบ้านกลุ่มบ้าน 5-8 ล้านบาทผ่านบริษัทโฮมแสตนดาร์ดเป็นหลัก
นอกจากนี้ บริษัทฯยังเตรียมขยายไลน์เข้าไปจับบ้านจัดสรรคาราแพงโดยเข้าไปรับงานก่อสร้างบ้านบนที่ดินของโครงการจัดสรรด้วย ซึ่งล่าสุดอยู่ระหว่างการเจรจากับเจ้าของที่ดินในจ.สุพรรณบุรี เพื่อก่อสร้างบ้านในที่ดินเพื่อขายให้แก่ลูกค้า เบื้องต้นคาดว่าจะมีประมาณ 28 แปลง ราคาขายบ้านเริ่มต้น 7-10 ล้านบาท และจะมีบางแปลงราคาสูงประมาณ 20 กว่าล้านบาท บนเนื้อที่ 200 ตารางวา
