xs
xsm
sm
md
lg

ศาลปค.ชี้ชะตาไชยาปากเสียจันร์ที่7พ.ค.นี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าคดีที่ศาลปกครองโดยนายกมล สกลเดชา ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองกลาง มีคำสั่งเรียกไชยา สะสมทรัพย์ รมว.สาธารณสุข และบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ 3 ฉบับ เข้าให้ปากคำกรณีนายไชยา ให้สัมภาษณ์ วิพากษ์การมีคำสั่งคุ้มครอง ระงับมติครม.ที่ปลด นพ.วิชัย โชควิวัตน และพวกรวม 5 คน ออกจากประธานกรรมการและกรรมการบริหารองค์การเภสัชกรรม ซึ่งอาจเข้าข่ายละเมิดอำนาจศาลไปแล้วนั้น ศาลได้มีคำสั่งเรียกผู้ถูกกล่าวหามารับฟังคำสั่งศาลในเวลา 15.00 น. ของวันจันทร์ที่ 7 ก.ค.นี้แล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า วานนี้ ( 4 ก.ค.) ที่ศาลปกครองกลาง นพ.ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล อายุ 58 ปี อดีตเลขาธิการคณะกรรมการการอาหารและยา (อย.) มอบอำนาจให้ นายชำนาญ พิเชษฐพันธ์ ทนายความ ยื่นฟ้อง คณะรัฐมนตรี นายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.สาธารณสุข และ นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กรณี ครม.มีมติเมื่อวันที่ 26 ก.พ.2551 ให้ นพ.ศิริวัฒน์ ย้ายจาก ตำแหน่งเลขาธิการ อย.ไปเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง ตามที่นายไชยา รมว.สาธารณสุข เสนอ
ทั้งนี้คำฟ้องระบุว่า ผู้ถูกฟ้องทั้ง 3 เป็นหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ ของรัฐ ได้ร่วมกันมีมติและคำสั่งทางปกครองโดยไม่มีอำนาจ นอกเหนืออำนาจหน้าที่ หรือไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ตามรูปแบบขั้นตอนหรือวิธีการที่เป็นสาระสำคัญ ซึ่งกำหนดไว้สำหรับการกระทำนั้นหรือโดยไม่สุจริตที่มีลักษณะเป็นการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม โดย น.พ.ปราชญ์ เสนอต่อ นายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.สาธารณสุข ให้ย้ายตนโดยไม่คำนึงถึงประวัติการรับราชการ ผลการปฏิบัติงานในอดีตที่ผ่านมา โดยให้ตนไปดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการ 10) ซึ่งนายไชยา ได้ เสนอต่อ ครม. ให้มีมติย้ายและเสนอข้าราชการอื่นซึ่งมีคุณสมบัติที่ไม่น่าจะมีความ โดดเด่นกว่าตนมาเป็นเลขาธิการ อย.โดยไม่มีเหตุผล ถือเป็นการใช้อำนาจ โดยไม่สุจริต เป็นการใช้ดุลพินิจไม่ชอบ
และต่อมาวันที่ 26 ก.พ.51 ครม. มีมติให้ย้ายตนตามที่นายไชยา เสนอ ซึ่งการกระทำของ ครม.และนายไชยา ถือเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องตามรูปแบบขั้นตอนหรือวิธีการที่เป็นสาระสำคัญ ซึ่งกำหนดไว้สำหรับการกระทำนั้นหรือโดยไม่สุจริต เนื่องจากการย้ายให้ไปดำรงตำแหน่งระดับ 10 จะต้องมีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯแต่งตั้งเสียก่อน แต่คดีนี้ปรากฏว่า ระหว่างที่ดำเนินกระบวนการดังกล่าว น.พ.ปราชญ์ กลับมีคำสั่งกระทรวงสาธารณสุขที่ 215/2551 ลงเมื่อวันที่ 26 ก.พ.2551 ซึ่งเป็นวันเดียววันที่ครม. มีมติให้ย้ายและสั่งให้ตนไปรักษาการ ในตำแหน่งผู้ตรวจราชการโดยไม่มีเหตุผล
การกระทำดังกล่าวนอกจากจะขัดต่อบทบัญญัติ รัฐธรรมนูญ มาตรา 193 แล้วยังขัดต่อ พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2551 มาตรา 57 (2) อีกด้วย โดยการออกคำสั่งย้ายตนจากตำแหน่งเลขาธิการ อย.(นักบริหาร 10) ซึ่งเทียบเท่าตำแหน่งอธิบดี ไปเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง ถือเป็นการย้ายลดชั้น แม้จะเป็นระดับ 10 เท่ากันก็ตาม เพราะเป็นการย้ายจากระดับบริหารกรม ไปอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ใช่ตำแหน่งบริหารกรมเสมือนเป็นการลงโทษตนทั้งที่ไม่ได้กระทำความผิดใดๆ ซึ่งได้ร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมต่อประธานคณะกรรมการ ข้าราชการพลเรือน(ก.พ.)เมื่อวันที่ 27 มี.ค.51 แล้วแต่จนถึงบัดนี้ เวลาล่วงเลยมา 90 วัน ก.พ.ยังไม่มีคำวินิจฉัยในกรณีดังกล่าวแต่อย่างใด
เมื่อการกระทำของผู้ถูกฟ้องทั้ง 3 เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทำให้ตนได้รับความเสียหายจึงขอให้ 1.ศาลปกครองมีคำพิพากษาเพิกถอนมติ ครม.ลงวันที่ 26 ก.พ.51 ที่ให้ย้ายตนไปดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการ และเพิกถอน ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีและคำสั่งกระทรวงสาธารณสุขที่แต่งตั้งให้ผู้ฟ้องเป็น ผู้ตรวจราชการ ตลอดจนการดำเนินการใดๆ ตามมติดังกล่าว และ 2.ให้ศาลปกครอง มีคำพิพากษาว่าให้ผู้ฟ้องมีสิทธิและหน้าที่ในการดำรงตำแหน่งเลขาธิการ อย.เหมือนเดิม
ทั้งนี้นพ.ศิริวัฒน์ได้ยื่นคำขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉินเพื่อกำหนดมาตรการ คุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาโดยสั่งระงับคำสั่งย้ายและให้เขากลับดำรงตำแหน่งเลขาธิการ อย.ตามเดิม
กำลังโหลดความคิดเห็น