ผู้จัดการรายวัน - บิ๊กปตท.ประเมินแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแค่เล็กน้อย 0.25-0.50% ไม่ส่งผลกระทบต่อแผนการดำเนินธุรกิจและการเงินของเครือปตท. ทำให้คงแผนเดิมที่ตั้งไว้ 1-2 ปีนี้ และการก่อหนี้เพิ่มนั้นเน้นรีไฟแนนซ์หนี้เดิมวงเงิน 5 หมื่นล้านบาท เพื่อหวังยืดอายุหนี้ให้นานขึ้น มั่นใจผลการดำเนินงานไตรมาส 2 นี้ ดีกว่าไตรมาสแรก หลังราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกถีบตัวสูง
นายพิชัย ชุณหวชิร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT เปิดเผยถึง ผลกระทบจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่จะปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องว่า ว่า ปตท.ยังไม่มีแผนปรับเปลี่ยนแผนการเงินและการลงทุนใหม่ในช่วง 1-2 ปีนี้ แม้ว่าแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยจะปรับตัวสูงขึ้น เพราะเชื่อมั่นอัตราดอกเบี้ยจะขยับขึ้นไม่สูงมากประมาณ 0.25-0.50 % ซึ่งเป็นอัตราที่ปตท.ยอมรับได้และไม่ส่งผลกระทบต่อแผนการลงทุนในอนาคต
โดยปตท.จะรีไฟแนนซ์หนี้เดิมตามแผนที่กำหนดไว้ประมาณ 5 หมื่นล้านบาทตามที่ขออนุมัติไว้จากที่ประชุมผู้ถือหุ้น ซึ่งจะเป็นการช่วยยืดอายุหนี้ให้ยาวขึ้นจากปัจจุบันหนี้ปตท.มีอายุเฉลี่ย 8 ปี โดยหนี้ใหม่จะเป็นหนี้สกุลดอลลาร์สหรัฐ เพื่อให้สอดคล้องกับรายได้และการลงทุนที่อิงสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ ปตท.พยายามรักษาสัดส่วนหนี้ให้เพิ่มสูงขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย
"แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เชื่อว่าไม่มีผลต่อการเร่งปรับแผนการกู้เงินของปตท. แต่หากดอกเบี้ยมีแนวโน้มขยับขึ้นไม่หยุด ทางปตท.ก็คงต้องปรับแผนการเงินใหม่"
สำหรับแผนการลงทุนของเครือปตท.ใน 5 ปีนี้ เป็นวงเงินรวมทั้งสิ้น 9.43 แสนล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการลงทุนธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม โดยเฉพาะการลงทุนบมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (ปตท.สผ.) ที่จะมีการลงทุนเพิ่มในแหล่งก๊าซฯM9 ที่พม่า ซึ่งพบปริมาณก๊าซฯสูงขึ้นคาดว่าจะผลิตเชิงพาณิชย์ได้ 300 ล้านลบ.ฟุต/วัน ทำให้งบลงทุนของปตท.สผ. 5 ปีนี้ เพิ่มขึ้นจากเดิม 9,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็น 11,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และแนวโน้มการผลิตปิโตรเลียมของปตท.สผ.ในปีนี้เพิ่มขึ้นจาก 1.79 แสนบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ/วันเป็น 2.2 แสนบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ/วัน
นอกจากนี้ ปตท.ยังให้ความสำคัญในการลงทุนวางท่อบนบกเส้นที่ 4 ซึ่งหากดำเนินการเสร็จเรียบร้อยจะส่งผลให้ปริมาณการขนส่งก๊าซฯเพิ่มขึ้นเป็น 6,200 ล้านลบ.ฟุต/วัน จากเดิมที่ 3,100 ล้านลบ.ฟุต/วัน ส่วนโรงแยกก๊าซโรงที่ 6 หลังจากก่อสร้างเสร็จจะส่งผลให้ความสามารถในการแยกก๊าซฯเพิ่มขึ้นอีก 60-70% จากเดิมมีกำลังการผลิตรวมที่ 4.1 ล้านตัน/ปี และมีความชัดเจนในการสร้างโรงแยกก๊าซฯแห่งที่ 7 ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการศึกษาหาสถานที่ตั้งว่าแหล่งก๊าซฯจะมาจากอ่าวไทยหรือพม่า
ฟุ้งผลงานไตรมาส 2 ปีนี้สดใส
นายพิชัย กล่าวว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2551 ของปตท.จะดีขึ้นเมื่อเทียบจากไตรมาส1/2551 ที่มีรายได้รวม 4.9 แสนล้านบาท เนื่องจากได้รับอานิสงส์จากราคาน้ำมันดิบตลาดโลกในไตรมาส 2 ที่ถีบตัวขึ้นสูงเฉลี่ยอยู่ที่ 120 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล สูงกว่าไตรมาส 1 ที่ราคาน้ำมันดิบเฉลี่ย 100 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล แต่จะได้รับผลกระทบเล็กน้อย จากกรณีให้ความร่วมมือกับกระทรวงพลังงาน โดยลดราคาขายน้ำมันดีเซลหน้าโรงกลั่น 3 บาท/ลิตรจำนวน 720 ล้านลิตร และการอุดหนุนราคาก๊าซหุงต้ม(แอลพีจี)
ส่วนค่าการกลั่น(ไม่รวมกำไร/ขาดทุนจากสต๊อกน้ำมัน)ในปีนี้น่าจะอยู่ที่ 7-8 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล โดยแนวโน้มค่าการกลั่นจะอ่อนตัวลง เนื่องจากมีโรงกลั่นใหม่เกิดขึ้นใหม่ในช่วง 5ปีนี้ คิดเป็นกำลังการกลั่นเพิ่มขึ้นอีก 8 ล้านบาร์เรล/วัน หากความต้องการใช้น้ำมันในตลาดโลกไม่ขยายตัวเพิ่มขึ้นปีละ 1 ล้านบาร์เรล/วัน จะส่งผลให้ทำให้ราคาน้ำมันสำเร็จรูปปรับตัวลงมา
นายพิชัย กล่าวถึงราคาหุ้นPTTที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมาว่า ราคาหุ้นPTT เป็นไปตามทิศทางเดียวกับภาวะตลาดหุ้นไทยที่ปรับลดลง ไม่ได้มีสาเหตุมาจากกรณีที่บริษัทฯ ให้ความร่วมมือกับกระทรวงพลังงาน ในการอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลต่ำกว่าราคาหน้าปั๊ม 3 บาท/ลิตร
นายพิชัย ชุณหวชิร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT เปิดเผยถึง ผลกระทบจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่จะปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องว่า ว่า ปตท.ยังไม่มีแผนปรับเปลี่ยนแผนการเงินและการลงทุนใหม่ในช่วง 1-2 ปีนี้ แม้ว่าแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยจะปรับตัวสูงขึ้น เพราะเชื่อมั่นอัตราดอกเบี้ยจะขยับขึ้นไม่สูงมากประมาณ 0.25-0.50 % ซึ่งเป็นอัตราที่ปตท.ยอมรับได้และไม่ส่งผลกระทบต่อแผนการลงทุนในอนาคต
โดยปตท.จะรีไฟแนนซ์หนี้เดิมตามแผนที่กำหนดไว้ประมาณ 5 หมื่นล้านบาทตามที่ขออนุมัติไว้จากที่ประชุมผู้ถือหุ้น ซึ่งจะเป็นการช่วยยืดอายุหนี้ให้ยาวขึ้นจากปัจจุบันหนี้ปตท.มีอายุเฉลี่ย 8 ปี โดยหนี้ใหม่จะเป็นหนี้สกุลดอลลาร์สหรัฐ เพื่อให้สอดคล้องกับรายได้และการลงทุนที่อิงสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ ปตท.พยายามรักษาสัดส่วนหนี้ให้เพิ่มสูงขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย
"แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เชื่อว่าไม่มีผลต่อการเร่งปรับแผนการกู้เงินของปตท. แต่หากดอกเบี้ยมีแนวโน้มขยับขึ้นไม่หยุด ทางปตท.ก็คงต้องปรับแผนการเงินใหม่"
สำหรับแผนการลงทุนของเครือปตท.ใน 5 ปีนี้ เป็นวงเงินรวมทั้งสิ้น 9.43 แสนล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการลงทุนธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม โดยเฉพาะการลงทุนบมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (ปตท.สผ.) ที่จะมีการลงทุนเพิ่มในแหล่งก๊าซฯM9 ที่พม่า ซึ่งพบปริมาณก๊าซฯสูงขึ้นคาดว่าจะผลิตเชิงพาณิชย์ได้ 300 ล้านลบ.ฟุต/วัน ทำให้งบลงทุนของปตท.สผ. 5 ปีนี้ เพิ่มขึ้นจากเดิม 9,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็น 11,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และแนวโน้มการผลิตปิโตรเลียมของปตท.สผ.ในปีนี้เพิ่มขึ้นจาก 1.79 แสนบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ/วันเป็น 2.2 แสนบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ/วัน
นอกจากนี้ ปตท.ยังให้ความสำคัญในการลงทุนวางท่อบนบกเส้นที่ 4 ซึ่งหากดำเนินการเสร็จเรียบร้อยจะส่งผลให้ปริมาณการขนส่งก๊าซฯเพิ่มขึ้นเป็น 6,200 ล้านลบ.ฟุต/วัน จากเดิมที่ 3,100 ล้านลบ.ฟุต/วัน ส่วนโรงแยกก๊าซโรงที่ 6 หลังจากก่อสร้างเสร็จจะส่งผลให้ความสามารถในการแยกก๊าซฯเพิ่มขึ้นอีก 60-70% จากเดิมมีกำลังการผลิตรวมที่ 4.1 ล้านตัน/ปี และมีความชัดเจนในการสร้างโรงแยกก๊าซฯแห่งที่ 7 ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการศึกษาหาสถานที่ตั้งว่าแหล่งก๊าซฯจะมาจากอ่าวไทยหรือพม่า
ฟุ้งผลงานไตรมาส 2 ปีนี้สดใส
นายพิชัย กล่าวว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2551 ของปตท.จะดีขึ้นเมื่อเทียบจากไตรมาส1/2551 ที่มีรายได้รวม 4.9 แสนล้านบาท เนื่องจากได้รับอานิสงส์จากราคาน้ำมันดิบตลาดโลกในไตรมาส 2 ที่ถีบตัวขึ้นสูงเฉลี่ยอยู่ที่ 120 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล สูงกว่าไตรมาส 1 ที่ราคาน้ำมันดิบเฉลี่ย 100 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล แต่จะได้รับผลกระทบเล็กน้อย จากกรณีให้ความร่วมมือกับกระทรวงพลังงาน โดยลดราคาขายน้ำมันดีเซลหน้าโรงกลั่น 3 บาท/ลิตรจำนวน 720 ล้านลิตร และการอุดหนุนราคาก๊าซหุงต้ม(แอลพีจี)
ส่วนค่าการกลั่น(ไม่รวมกำไร/ขาดทุนจากสต๊อกน้ำมัน)ในปีนี้น่าจะอยู่ที่ 7-8 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล โดยแนวโน้มค่าการกลั่นจะอ่อนตัวลง เนื่องจากมีโรงกลั่นใหม่เกิดขึ้นใหม่ในช่วง 5ปีนี้ คิดเป็นกำลังการกลั่นเพิ่มขึ้นอีก 8 ล้านบาร์เรล/วัน หากความต้องการใช้น้ำมันในตลาดโลกไม่ขยายตัวเพิ่มขึ้นปีละ 1 ล้านบาร์เรล/วัน จะส่งผลให้ทำให้ราคาน้ำมันสำเร็จรูปปรับตัวลงมา
นายพิชัย กล่าวถึงราคาหุ้นPTTที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมาว่า ราคาหุ้นPTT เป็นไปตามทิศทางเดียวกับภาวะตลาดหุ้นไทยที่ปรับลดลง ไม่ได้มีสาเหตุมาจากกรณีที่บริษัทฯ ให้ความร่วมมือกับกระทรวงพลังงาน ในการอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลต่ำกว่าราคาหน้าปั๊ม 3 บาท/ลิตร