พนักงานการบินไทยแตกสองขั้ว รวมตัวประท้วงหลัง บอร์ดกลับมติให้ ”อภินันท์” กลับมาทำหน้าที่ตามเดิมไล่”ชัยสวัสดิ์” ด้าน “สันติ” นั่งหัวโต๊ะกาวใจบอร์ด-อภินันท์ ชี้แค่ไม่เข้าใจกันแต่มีเป้าหมายเดียวกัน คือแก้ปัญหาให้องค์กรฝ่ามรสุมน้ำมันแพงในขณะนี้
จากกรณีที่พนักงาน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กว่า 200 คน ได้รวมตัวประท้วงเมื่อช่วงเช้าวานนี้ (27 มิ.ย.) เนื่องจากไม่พอใจที่นายชัยสวัสดิ์ กิตติพรไพบูลย์ ปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะกรรมการ บริษัท การบินไทย ได้ใช้อำนาจประธานระงับมติคณะกรรมการ ที่138/2551 ที่แต่งตั้ง เรืออากาศโทนรหัช พลอยใหญ่ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สังกัดสำนักงานกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ มาปฏิบัติหน้าที่กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ และให้เรืออากาศโทอภินันทน์ สุมนะเศรณี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ไปปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับพิธีการทั่วไปของบริษัทที่ไม่เกี่ยวข้องกับการบริหารภายในองค์กร โดยอ้างว่า เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนในหมู่พนักงาน และเกิดความเสียหายแก่บริษัท ซึ่งการเปลี่ยนมติดังกล่าวเกิดขึ้นหลังสหภาพฯ การบินไทยและตัวแทนนักบินได้เข้าพบ
โดยพนักงานได้ส่งเสียงขับไล่ นายชัยสวัสดิ์ และเรืออากาศโทอภินันทน์ โดยเห็นว่าไม่มีความชัดเจน และไม่ต้องการให้เรืออากาศโทอภินันทน์ กลับมาดำรงตำแหน่งเนื่องจากมีความไม่เหมาะสมและทำให้เกิดความแตกแยกภายในองค์กร ส่วนกรณีที่มีกลุ่มนักบินที่บีบให้บอร์ดทบทวนมติดังกล่าว และมีบางกระแสออกมาบอกว่าจะมีการหยุดบินนั้น กรณีดังกล่าวถือว่าผิดกฎหมาย ซึ่งกลุ่มดังกล่าวมีประมาณ 20 คน เท่านั้น
เรืออากาศโทพอพงษ์ สรรพกิจ ผู้อำนวยการใหญ่ทำหน้าที่ที่ปรึกษาฝ่ายการกิจการพิเศษ การบินไทย กล่าวว่า การชุมนุมของพนักงานในครั้งนี้เพื่อต้องการความชัดเจนจากบอร์ด โดยเฉพาะการแต่งตั้งบุคคลใดปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ต้องเป็นคำสั่งที่เด็ดขาด และประท้วงการที่นายชัยสวัสดิ์ใช้สิทธิส่วนบุคคลในฐานะประธานบอร์ดฯ สั่งกลับมติบอร์ดเพราะทำให้พนักงานสับสนว่า ใครเป็นผู้บริหารตัวจริง ซึ่งมติบอร์ดที่ให้ เรืออากาศโทนรหัชมาปฎิบัติหน้าที่กรรมการผู้อำนวยการใหญ่นั้นก็เพื่อให้เข้ามาแก้ปัญหาความแตกแยกในองค์กร
ทั้งนี้ยอมรับว่า มีพนักงานไม่ต้องการให้เรืออากาศโทอภินันท์เป็นกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ เนื่องจากการบริหารงานช่วงที่ผ่านมาของเรืออากาศโทอภินันท์ ก่อให้เกิดความแตกแยกในองค์กรจริง โดยพนักงานจะนำปัญหาการบริหารงานที่เกิดขึ้นร้องเรียนต่อนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงคมนาคมด้วย
“สันติ”เรียกบอร์ดถกแก้ปัญหา
อย่างไรก็ตามวานนี้ (27 มิ.ย.) เวลาประมาณ 16.00 น. คณะกรรมการการบินไทยได้ประชุมด่วนที่กระทรวงคมนาคม ซึ่งนายสันติได้เข้าร่วมหารือ เป็นเวลากว่า 2 ชั่วโมง โดยได้กล่าวภายหลังการประชุมว่า บอร์ดฯและเรืออากาศโทอภินันท์ได้ขอมาหารือเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งปัญหาเกิดจากความไม่เข้าใจกันระหว่างบอร์ดและเรืออากาศโทอภินันท์ แต่ทั้งสองฝ่ายมีวัตถุประสงค์เดียวกันคือ ต้องการแก้ปัญหาของบริษัทเพื่อฝ่ามรสุมต้นทุนราคาน้ำมันในขณะนี้ไปให้ได้
“เป็นมุมมองที่ต่างแต่เป้าหมายเดียวกัน ที่หวังดีต่อการบินไทยที่เป็นสายการบินแห่งชาติ ผมเห็นว่าน่าจะทำงานร่วมกันต่อไปได้ และยืนยันว่า หลังหารือก็มีความเข้าใจกันแล้วโดยบอร์ดเห็นว่า เรืออากาศโทอภินันท์ยังสามารถทำงานในตำแหน่งกรรมการผู้อำนายการใหญ่ต่อไปได้เพราะเป็นบุคคลที่รู้ปัญหาของการบินไทยดี และยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ได้เกิดจากแรงกดดันจากสหภาพฯและนักบิน”นายสันติกล่าว
นายสันติเชื่อว่าบอร์ดการบินไทยจะสามารถแก้ปัญหานี้ได้อย่างเรียบร้อย ซึ่งขณะนี้ต้องยอมรับว่า การบินไทยต้องเผชิญกับภาวการณ์แข่งขันที่รุนแรงภาวะราคาน้ำมันแพง ซึ่งน้ำมันเป็น 1 ในต้นทุนหลักของกิจการด้านการบิน ทำให้การบริหารมีความยากลำบาก ดังนั้นการทำงานในทุกส่วนขององค์กรจะต้องประสานกัน ทุกคนต้องทุ่มเทเพื่อให้บริษัทสามารถฝ่ามรสุมนี้ไปได้
“การที่บริษัทต้องขาดทุนเพราะราคาน้ำมันที่เป็นต้นทุนหลัก ไม่น่าจะมีใครผิดใครถูก ในแง่การบริหาร เพราะไม่มีใครสามารถควบคุมราคาน้ำมันได้ ดังนั้นต้องเคารพการตัดสินใจของบอร์ด ซึ่งต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุด และเห็นว่าไม่ว่าการตัดสินใจแก้ปัญหาใดๆ จะต้องทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ และทำงานกันอย่างเต็มความสามารถและอยากให้ทุกคนคำนึงถึงองค์กรเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าจะไม่มีการชี้นำการตัดสินใจของบอร์ด”
”ชัยสวัสดิ์”ยังไม่ลาออก
ด้านนายชัยสวัสดิ์ กิตติพรไพบูลย์ ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า บอร์ดได้ประชุมร่วมกันและมีมติยกเลิกคำสั่งทั้ง 2 ฉบับที่ออกเมื่อวันที่26 มิ.ย.51 และให้เรืออากาศโทอภินันท์ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ต่อไป โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นความไม่เข้าใจกันระหว่างบอร์ดและเรืออากาศโทอภินันท์ ซึ่งหลังจากที่ได้พูดคุยกันอย่างเปิดอกก็เข้าใจกันมากขึ้นและการปฏิบัติงานจากนี้จะเป็นไปอย่างใกล้ชิดกันมากขึ้น เพราะความสามัคคีในองค์กรจะนำพาให้การบินไทยสามารถเดินต่อไปได้ในภาวะวิกฤติขณะนี้
ส่วนความขัดแย้งของพนักงานที่เกิดขึ้น 2 ฝ่ายนั้น นายชัยสวัสดิ์กล่าวว่า จะต้องสื่อสารเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน ซึ่งเรืออากาศโทอภินันท์จะต้องไปจัดการบริหารจัดการใหม่ เพราะที่ผ่านมายอมรับว่ามีการแต่งตั้งโยกย้ายและทำให้พนักงานบางส่วนไม่พอใจ ซึ่งเรื่องนี้บอร์ดให้รวบรวมเรื่องเสนอมา เพื่อทำให้เกิดความเป็นธรรม
อย่างไรก็ตาม นายชัยสวัสดิ์ ยืนยันว่า ยังไม่คิดที่จะลาออกจากประธานบอร์ดการบินไทยในขณะนี้ เพราะต้องการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นให้จบก่อน หากแก้ไขได้ก็จะทำงานต่อไป ส่วนการลงนามในสั่งยกเลิกมติบอร์ดไม่เป็นการผิดระเบียบขององค์กร เนื่องจากเจ้าหน้าที่ของบริษัทยืนยันว่าสามารถกระทำได้ และอยู่ในส่วนของการบริหารจัดการ โดยการลงนามคำสั่งยกเลิกตามมติบอร์ดที่ออกมาก่อนหน้านี้ ถือว่าไม่ผิด เนื่องจากสถานการณ์ในขณะนั้นเหลือตน และนายพิชัย ชุณหวชิร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เพียงสองคน ทำให้การที่จะเรียกบอร์ดมาประชุมเพื่อรับทราบการลงนามดังกล่าวทำไม่สามารถที่จะปฏิบัติได้
เรืออากาศโทอภินันท์ สุมนะเศรณี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ กล่าวว่า ทุกอย่างยังคงเป็นไปตามปกติ ขณะนี้เรื่องจบแล้วและคิดว่าทุกคนคงเข้าใจ ซึ่งตนไม่ต้องการให้เกิดความเข้าใจผิดในหมู่พนักงานด้วยกัน ทั้งนี้ปัญหาเรื่องการโยกย้ายและการปรับโครงสร้างของบริษัท ซึ่งทำให้เกิดปัญหาภายในบริษัทนั้นบอร์ดได้ตั้งคณะทำงานและจะมีดำเนินการแก้ไขปัญหาต่อไป
ส่วนการดำเนินงานในภาวะต้นทุนราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นนั้น อาจทำให้กำไรของบริษัทลดลง แต่จะต้องหากลยุทธ์เพื่อพยายามให้ ลดลงน้อยที่สุด ทั้งนี้ขึ้นกับสถานการณ์ราคาน้ำมัน ซึ่งหากราคาน้ำมันยังคงที่ ในระดับ 400 ยูเอสเซ็นต์ต่อแกลลอนต่อไปถึงสิ้นปี การบินไทยจะไม่ขาดทุนแน่นอน แต่หากราคาน้ำมันมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นไปอีกก็จะต้องหาแผนกลยุทธ์เพื่อแก้ปัญหาต่อไป ส่วนการปรับค่าธรรมเนียมน้ำมัน (ฟิวเซอร์ชาร์จ) ตามราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นแต่ก็ไม่ได้ทำให้รายได้เข้ามาเพียงพอกับราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นจริง ดังนั้นจึงจะต้องมีการปรับปรุงเส้นทาง เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ด้วย
อย่างไรก็ตามเรืออากาศโทพอพงษ์ สรรพกิจ กล่าวว่า พนักงานส่วนใหญ่ไม่มีความพอใจในมติดังกล่าว ซึ่งต่อจากนี้พนักงานจะยื่นหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ประธานบอร์ดการบินไทย และบอร์ด เพื่อให้พิจารณาต่อไป โดยจะยังไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ และยืนยันว่าจะไม่กระทบต่อการบริการแต่อย่างใด
“ความรู้สึกพนักงานคือ ต้องการปกป้ององค์กร หากมีอะไรเกิดขึ้นเราก็ต้องดูแล แต่เราก็ไม่พอใจที่ เรืออากาศโทอภินันทน์ ยังคงปฏิบัติหน้าที่ เพราะทำให้เกิดความขัดแย้ง และมีเรื่องโยกย้ายคนที่ไม่ถูกต้อง แต่ก็ ยินดีที่จะปฏิบัติตามมติบอร์ด และจากนี้หากเรืออากาศโทอภินันทน์ ปรับกระบวนการทำงานแล้วเราก็พร้อมให้โอกาส ซึ่งต้องการความเป็นธรรม ไม่ควรเอาแค่พวกพ้องตัวเอง หากมีการเช็คบิลจากการรวมตัวของพนักงานดังกล่าว เราก็ต้องเรียกร้องขอความเป็นธรรม” เรืออากาศโทพอพงษ์ กล่าว
จากกรณีที่พนักงาน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กว่า 200 คน ได้รวมตัวประท้วงเมื่อช่วงเช้าวานนี้ (27 มิ.ย.) เนื่องจากไม่พอใจที่นายชัยสวัสดิ์ กิตติพรไพบูลย์ ปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะกรรมการ บริษัท การบินไทย ได้ใช้อำนาจประธานระงับมติคณะกรรมการ ที่138/2551 ที่แต่งตั้ง เรืออากาศโทนรหัช พลอยใหญ่ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สังกัดสำนักงานกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ มาปฏิบัติหน้าที่กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ และให้เรืออากาศโทอภินันทน์ สุมนะเศรณี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ไปปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับพิธีการทั่วไปของบริษัทที่ไม่เกี่ยวข้องกับการบริหารภายในองค์กร โดยอ้างว่า เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนในหมู่พนักงาน และเกิดความเสียหายแก่บริษัท ซึ่งการเปลี่ยนมติดังกล่าวเกิดขึ้นหลังสหภาพฯ การบินไทยและตัวแทนนักบินได้เข้าพบ
โดยพนักงานได้ส่งเสียงขับไล่ นายชัยสวัสดิ์ และเรืออากาศโทอภินันทน์ โดยเห็นว่าไม่มีความชัดเจน และไม่ต้องการให้เรืออากาศโทอภินันทน์ กลับมาดำรงตำแหน่งเนื่องจากมีความไม่เหมาะสมและทำให้เกิดความแตกแยกภายในองค์กร ส่วนกรณีที่มีกลุ่มนักบินที่บีบให้บอร์ดทบทวนมติดังกล่าว และมีบางกระแสออกมาบอกว่าจะมีการหยุดบินนั้น กรณีดังกล่าวถือว่าผิดกฎหมาย ซึ่งกลุ่มดังกล่าวมีประมาณ 20 คน เท่านั้น
เรืออากาศโทพอพงษ์ สรรพกิจ ผู้อำนวยการใหญ่ทำหน้าที่ที่ปรึกษาฝ่ายการกิจการพิเศษ การบินไทย กล่าวว่า การชุมนุมของพนักงานในครั้งนี้เพื่อต้องการความชัดเจนจากบอร์ด โดยเฉพาะการแต่งตั้งบุคคลใดปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ต้องเป็นคำสั่งที่เด็ดขาด และประท้วงการที่นายชัยสวัสดิ์ใช้สิทธิส่วนบุคคลในฐานะประธานบอร์ดฯ สั่งกลับมติบอร์ดเพราะทำให้พนักงานสับสนว่า ใครเป็นผู้บริหารตัวจริง ซึ่งมติบอร์ดที่ให้ เรืออากาศโทนรหัชมาปฎิบัติหน้าที่กรรมการผู้อำนวยการใหญ่นั้นก็เพื่อให้เข้ามาแก้ปัญหาความแตกแยกในองค์กร
ทั้งนี้ยอมรับว่า มีพนักงานไม่ต้องการให้เรืออากาศโทอภินันท์เป็นกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ เนื่องจากการบริหารงานช่วงที่ผ่านมาของเรืออากาศโทอภินันท์ ก่อให้เกิดความแตกแยกในองค์กรจริง โดยพนักงานจะนำปัญหาการบริหารงานที่เกิดขึ้นร้องเรียนต่อนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงคมนาคมด้วย
“สันติ”เรียกบอร์ดถกแก้ปัญหา
อย่างไรก็ตามวานนี้ (27 มิ.ย.) เวลาประมาณ 16.00 น. คณะกรรมการการบินไทยได้ประชุมด่วนที่กระทรวงคมนาคม ซึ่งนายสันติได้เข้าร่วมหารือ เป็นเวลากว่า 2 ชั่วโมง โดยได้กล่าวภายหลังการประชุมว่า บอร์ดฯและเรืออากาศโทอภินันท์ได้ขอมาหารือเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งปัญหาเกิดจากความไม่เข้าใจกันระหว่างบอร์ดและเรืออากาศโทอภินันท์ แต่ทั้งสองฝ่ายมีวัตถุประสงค์เดียวกันคือ ต้องการแก้ปัญหาของบริษัทเพื่อฝ่ามรสุมต้นทุนราคาน้ำมันในขณะนี้ไปให้ได้
“เป็นมุมมองที่ต่างแต่เป้าหมายเดียวกัน ที่หวังดีต่อการบินไทยที่เป็นสายการบินแห่งชาติ ผมเห็นว่าน่าจะทำงานร่วมกันต่อไปได้ และยืนยันว่า หลังหารือก็มีความเข้าใจกันแล้วโดยบอร์ดเห็นว่า เรืออากาศโทอภินันท์ยังสามารถทำงานในตำแหน่งกรรมการผู้อำนายการใหญ่ต่อไปได้เพราะเป็นบุคคลที่รู้ปัญหาของการบินไทยดี และยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ได้เกิดจากแรงกดดันจากสหภาพฯและนักบิน”นายสันติกล่าว
นายสันติเชื่อว่าบอร์ดการบินไทยจะสามารถแก้ปัญหานี้ได้อย่างเรียบร้อย ซึ่งขณะนี้ต้องยอมรับว่า การบินไทยต้องเผชิญกับภาวการณ์แข่งขันที่รุนแรงภาวะราคาน้ำมันแพง ซึ่งน้ำมันเป็น 1 ในต้นทุนหลักของกิจการด้านการบิน ทำให้การบริหารมีความยากลำบาก ดังนั้นการทำงานในทุกส่วนขององค์กรจะต้องประสานกัน ทุกคนต้องทุ่มเทเพื่อให้บริษัทสามารถฝ่ามรสุมนี้ไปได้
“การที่บริษัทต้องขาดทุนเพราะราคาน้ำมันที่เป็นต้นทุนหลัก ไม่น่าจะมีใครผิดใครถูก ในแง่การบริหาร เพราะไม่มีใครสามารถควบคุมราคาน้ำมันได้ ดังนั้นต้องเคารพการตัดสินใจของบอร์ด ซึ่งต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุด และเห็นว่าไม่ว่าการตัดสินใจแก้ปัญหาใดๆ จะต้องทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ และทำงานกันอย่างเต็มความสามารถและอยากให้ทุกคนคำนึงถึงองค์กรเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าจะไม่มีการชี้นำการตัดสินใจของบอร์ด”
”ชัยสวัสดิ์”ยังไม่ลาออก
ด้านนายชัยสวัสดิ์ กิตติพรไพบูลย์ ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า บอร์ดได้ประชุมร่วมกันและมีมติยกเลิกคำสั่งทั้ง 2 ฉบับที่ออกเมื่อวันที่26 มิ.ย.51 และให้เรืออากาศโทอภินันท์ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ต่อไป โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นความไม่เข้าใจกันระหว่างบอร์ดและเรืออากาศโทอภินันท์ ซึ่งหลังจากที่ได้พูดคุยกันอย่างเปิดอกก็เข้าใจกันมากขึ้นและการปฏิบัติงานจากนี้จะเป็นไปอย่างใกล้ชิดกันมากขึ้น เพราะความสามัคคีในองค์กรจะนำพาให้การบินไทยสามารถเดินต่อไปได้ในภาวะวิกฤติขณะนี้
ส่วนความขัดแย้งของพนักงานที่เกิดขึ้น 2 ฝ่ายนั้น นายชัยสวัสดิ์กล่าวว่า จะต้องสื่อสารเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน ซึ่งเรืออากาศโทอภินันท์จะต้องไปจัดการบริหารจัดการใหม่ เพราะที่ผ่านมายอมรับว่ามีการแต่งตั้งโยกย้ายและทำให้พนักงานบางส่วนไม่พอใจ ซึ่งเรื่องนี้บอร์ดให้รวบรวมเรื่องเสนอมา เพื่อทำให้เกิดความเป็นธรรม
อย่างไรก็ตาม นายชัยสวัสดิ์ ยืนยันว่า ยังไม่คิดที่จะลาออกจากประธานบอร์ดการบินไทยในขณะนี้ เพราะต้องการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นให้จบก่อน หากแก้ไขได้ก็จะทำงานต่อไป ส่วนการลงนามในสั่งยกเลิกมติบอร์ดไม่เป็นการผิดระเบียบขององค์กร เนื่องจากเจ้าหน้าที่ของบริษัทยืนยันว่าสามารถกระทำได้ และอยู่ในส่วนของการบริหารจัดการ โดยการลงนามคำสั่งยกเลิกตามมติบอร์ดที่ออกมาก่อนหน้านี้ ถือว่าไม่ผิด เนื่องจากสถานการณ์ในขณะนั้นเหลือตน และนายพิชัย ชุณหวชิร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เพียงสองคน ทำให้การที่จะเรียกบอร์ดมาประชุมเพื่อรับทราบการลงนามดังกล่าวทำไม่สามารถที่จะปฏิบัติได้
เรืออากาศโทอภินันท์ สุมนะเศรณี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ กล่าวว่า ทุกอย่างยังคงเป็นไปตามปกติ ขณะนี้เรื่องจบแล้วและคิดว่าทุกคนคงเข้าใจ ซึ่งตนไม่ต้องการให้เกิดความเข้าใจผิดในหมู่พนักงานด้วยกัน ทั้งนี้ปัญหาเรื่องการโยกย้ายและการปรับโครงสร้างของบริษัท ซึ่งทำให้เกิดปัญหาภายในบริษัทนั้นบอร์ดได้ตั้งคณะทำงานและจะมีดำเนินการแก้ไขปัญหาต่อไป
ส่วนการดำเนินงานในภาวะต้นทุนราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นนั้น อาจทำให้กำไรของบริษัทลดลง แต่จะต้องหากลยุทธ์เพื่อพยายามให้ ลดลงน้อยที่สุด ทั้งนี้ขึ้นกับสถานการณ์ราคาน้ำมัน ซึ่งหากราคาน้ำมันยังคงที่ ในระดับ 400 ยูเอสเซ็นต์ต่อแกลลอนต่อไปถึงสิ้นปี การบินไทยจะไม่ขาดทุนแน่นอน แต่หากราคาน้ำมันมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นไปอีกก็จะต้องหาแผนกลยุทธ์เพื่อแก้ปัญหาต่อไป ส่วนการปรับค่าธรรมเนียมน้ำมัน (ฟิวเซอร์ชาร์จ) ตามราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นแต่ก็ไม่ได้ทำให้รายได้เข้ามาเพียงพอกับราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นจริง ดังนั้นจึงจะต้องมีการปรับปรุงเส้นทาง เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ด้วย
อย่างไรก็ตามเรืออากาศโทพอพงษ์ สรรพกิจ กล่าวว่า พนักงานส่วนใหญ่ไม่มีความพอใจในมติดังกล่าว ซึ่งต่อจากนี้พนักงานจะยื่นหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ประธานบอร์ดการบินไทย และบอร์ด เพื่อให้พิจารณาต่อไป โดยจะยังไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ และยืนยันว่าจะไม่กระทบต่อการบริการแต่อย่างใด
“ความรู้สึกพนักงานคือ ต้องการปกป้ององค์กร หากมีอะไรเกิดขึ้นเราก็ต้องดูแล แต่เราก็ไม่พอใจที่ เรืออากาศโทอภินันทน์ ยังคงปฏิบัติหน้าที่ เพราะทำให้เกิดความขัดแย้ง และมีเรื่องโยกย้ายคนที่ไม่ถูกต้อง แต่ก็ ยินดีที่จะปฏิบัติตามมติบอร์ด และจากนี้หากเรืออากาศโทอภินันทน์ ปรับกระบวนการทำงานแล้วเราก็พร้อมให้โอกาส ซึ่งต้องการความเป็นธรรม ไม่ควรเอาแค่พวกพ้องตัวเอง หากมีการเช็คบิลจากการรวมตัวของพนักงานดังกล่าว เราก็ต้องเรียกร้องขอความเป็นธรรม” เรืออากาศโทพอพงษ์ กล่าว