ศูนย์ข่าวภูเก็ต - "เฉลิม"หางจุกตูดเผ่นกลับ กทม.สั่งยกเลิกภารกิจในอันดามันตรวจสอบที่ดินเกาะราชาใหญ่ หลังพันมิตรฯทั้งภูเก็ต กระบี่ และพังงารวมตัวไล่ ขณะที่เจ้าตัวโวยลั่นม็อบขับไล่มีนักการเมืองหนุนหลัง-เมา แต่ยังปากกล้าไม่เกิน 2 สัปดาห์ลงใต้อีกแน่ ด้าน"พันธมิตรฯกระบี่"อัดกลับ"เป็ดเหลิม"ป้ายสีพันธมิตรฯ แฉหนีหัวซุกหัวซุนน่าทุเรศจนไม่เหลือลาย มท.1 "เครือข่ายพันธมิตรฯภาคใต้" ประกาศปิดประตูสู่ภาคใต้พร้อมขัดขวางทุกวิถีทางห้ามนายกฯ-รมต.ทุกคนในรัฐบาลนอมินีเข้าพื้นที่ถือหมดความชอบธรรมแล้ว ด้าน "ไอ้ตู่" ฉุนพ่อเมืองกระบี่จองโรงแรม ส.ส.ปชป.รองรับคณะ มท1.ขู่ตัดงบพัฒนาฯ 14 จังหวัดภาคใต้
***"เป็ดเหลิม"หางจุกตูดกลับกรุง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย และคณะ เดินทางมาตรวจราชการในแถบอันดามันทั้ง จ.ภูเก็ต พังงา และกระบี่ โดยเดินทางมาถึงกระบี่เมื่อคืนที่ผ่านมา (1 ก.ค.) และกลุ่มพันธมิตรฯกระบี่ ได้รวมตัวกันขับไล่ที่สนามบิน และที่หน้าโรงแรมมาริไทม์ ปาร์ค แอนด์ สปา รีสอร์ท อ.เมือง จ.กระบี่ ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา จนช่วงเช้าวานนี้ (2 ก.ค.) ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วยรองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ และปลัดจังหวัดกระบี่ ได้ประชุมหารือและมาพูดคุยกับกลุ่มพันธมิตรฯที่ชุมนุมอยู่หน้าโรงแรมประมาณ 100 คนโดยทางผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่กล่าวกับผู้ชุมชนว่า รัฐมนตรีฯ ได้สั่งยกเลิกภารกิจในการเดินทางมาตรวจราชการที่จังหวัดอันดามันทั้งหมดแล้ว
ต่อมาเวลา 09.45 น. ร.ต.อ.เฉลิม และคณะ ได้เดินทางมาขึ้นเครื่องที่สนามบินภูเก็ต เพื่อเดินทางกลับ กทม. ทันทีเมื่อเดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ร.ต.อ.เฉลิม ได้ให้สัมภาษณ์โดยยืนยันว่า จากเหตุการณ์พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยกว่า 100 คนชุมนุมประท้วงขับไล่ที่หน้าโรงแรมกระบี่เมอรีไทม์ เมื่อคืนที่ผ่านมา ตนจะไม่ดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น เพราะถือว่าเป็นพวกที่ก่อกวน ก่อเหตุ และด่าทอ ใช้คำพูดหยาบคายอย่างไม่มีเหตุผล คล้ายกับการชุมนุมของพันธมิตรฯที่กรุงเทพฯ นอกจากนี้ ยังเชื่อมั่นว่า กลุ่มผู้ประท้วงกลุ่มนี้มีผู้เสียผลประโยชน์และนักการเมืองคอยหนุนหลังอยู่ เพื่อต้องการกีดกันไม่ให้ตรวจสอบปัญหาเรื่องการบุกรุกที่ดิน และยังพบว่ากลุ่มที่มาชุมนุมมีสภาพเมามายเหมือนมีการดื่มเหล้าจนไม่ได้สติกันด้วย
ร.ต.อ.เฉลิม ยังกล่าวยืนยันอีกว่า ไม่เกิน 1-2 สัปดาห์ตนจะลงพื้นที่อีกครั้ง แต่ต้องรอดูจังหวะก่อน และมั่นใจว่ากลุ่มผู้ประท้วงจะทำแบบเมื่อคืนนี้ไม่ได้บ่อยนัก พร้อมระบุอีกว่า จำนวนคนที่มาชุมนุมขับไล่มีเพียง 300 คนไม่ใช่ 3,000 คนตามที่เป็นข่าว
***พธม.กระบี่โต้"เหลิม"โกหกคำโต
นายจเร แก้วสม พันธมิตรฯกระบี่ ออกมาตอบโต้ ร.ต.อ.เฉลิม ทันทีเช่นกันว่า ที่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวหาว่ากลุ่มพันธมิตรฯที่ไปรวมตัวกันบริเวณหน้าโรงแรมมาริไทม์ ปาร์ค แอนด์ สปา รีสอร์ท มีสภาพเมามาย ไม่ได้สตินั้นขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะตนอยู่ในเหตุการณ์ตลอดตั้งแต่ช่วงค่ำจนรุ่งสาง การที่ ร.ต.อ.เฉลิม ออกมาพูดในลักษณะดังกล่าวเป็นเพียงมุขเดิมๆ ของ รมว.มหาดไทย คนปัจจุบันที่ชอบใส่ร้ายผู้อื่นไปทั่วควรจะหาวิธีการที่ใหม่ๆ มาหลอกชาวบ้านบ้างเพราะที่ผ่านมาชาวบ้านเขารู้ทันแล้ว
นายจเร กล่าวด้วยว่า หากกลุ่มพันธมิตรฯที่ไปรวมตัวกันมีลักษณะเมามายจริงตามที่เป็ดเหลิมกล่าวอ้างนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ รปภ.ก็มีกันอยู่เต็มสามารถที่จะเข้าไปจัดการได้ทันที หากว่าเมาอาละวาดจริง เพราะสถานที่ที่พวกตนชุมนุมนั้นเป็นสถานที่ส่วนบุคคล การชุมนุมก็อยู่ในกรอบ
"การที่เป็ดเหลิม สามารถหนีออกมาจากโรงแรมได้นั้นพฤติกรรมน่าทุเรศมาก มีการเดินลัดเลาะออกทางด้านข้างของโรงแรม ต้องลอดลวดหนาม เดินผ่านพงหญ้ารก ไม่เหลือลาย มท.1 อยู่เลย ต้องหนีเอาตัวรอดหัวซุกหัวซุน ไม่กล้าแม้แต่จะเจอหน้ากับพันธมิตรฯ"
นายจเร กล่าวต่อว่า การที่ ร.ต.อ.เฉลิม พูดให้ร้ายกลุ่มพันธมิตรฯว่ามีการเกณฑ์คนมาชุมนุมประท้วงนั้นก็ไม่เป็นความจริงอีก เพราะทุกคนที่ออกมาชุมนุมขับไล่นั้นทุกคนมาด้วยสมัครใจ ซึ่งก็เป็นมุขเดิมอีกเช่นกัน เพราะคนที่อยู่ในเหตุการณ์ทุกคนย่อมรู้ดี ร.ต.อ.เฉลิม จะไปรู้อะไรได้แต่ฟังคนอื่นรายงานว่าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ก็เชื่อหมดแล้วมาอวดอ้างว่าเป็นคนเก่ง
***ลั่นขวางนายกฯ-รมต.นอมินีเข้าพื้นที่
ขณะที่นายสุนทร รักรงค์ ผู้ประสานงานพันธมิตรฯภาคใต้ กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการประชุมแกนนำพันธมิตรฯภาคใต้ทั้งหมดโดยมีมติให้ปิดประตูสู่ภาคใต้ห้ามนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีของรัฐบาลนอมินีนายสมัคร สุนทรเวช เดินทางเข้ามาในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ ทั้งนี้ หากมีบุคคลใดในรัฐบาลชุดปัจจุบันเดินทางเข้ามาเครือข่ายพันธมิตรฯภาคใต้ และประชาชนจะไปรวมตัวกันปิดเส้นทางการเดินทางทันที ไม่ว่าจะโดยทางรถยนต์ หรือเครื่องบินก็ตาม ทั้งนี้ พันธมิตรฯภาคใต้ และประชาชนจะไม่ปฏิบัติตามคำสั่งใดๆ ทั้งสิ้นเพราะถือว่าพฤติกรรมของรัฐบาลชุดปัจจุบันหมดความชอบธรรมแล้ว
"กลุ่มพันธมิตรฯภาคใต้ ทุกจังหวัดได้มีมติประกาศห้ามรัฐมนตรีทุกคนของรัฐบาลนอมินี นายสมัคร เข้าพื้นที่ภาคใต้อย่างเด็ดขาด โดยจะใช้มาตรการเดียวกับการต่อต้านระบอบทักษิณ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ซึ่งพันธมิตรฯภาคใต้ และประชาชนจำนวนมากได้ประกาศปิดประตูภาคใต้ พร้อมกับต่อต้านทุกรูปแบบมาแล้วเช่นเดียวกัน"
***"มาร์ค"ท้า"เหลิม"จัดการผู้อยู่เบื้องหลัง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม ระบุว่าผู้ที่ไปชุมนุมประท้วงที่ จ.กระบี่ มีกลุ่มผู้เสียผลประโยชน์อยู่เบื้องหลังว่า ตนไม่อยากเห็นภาพแบบนี้จริงๆ และหวังว่าคงจะไม่มี เพราะไม่ว่าเราจะรู้สึกอย่างไรกับนักการเมืองหรือใครก็ตาม ตนไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ ไม่ว่าจะเป็น ส.ส.หรือรัฐมนตรี ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลอยากให้เดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ของตัวเองได้ ส่วนใครจะมีความเห็นอย่างไร ก็สามารถใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกได้ โดยสงบ โดยสันติ ปราศจากอาวุธ แต่ขณะเดียวกันไม่ควรไปขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของ ส.ส.หรือรัฐมนตรี หรือให้เป็นบรรยากาศของการเผชิญหน้ากัน
ส่วนที่ ร.ต.อ.เฉลิมระบุว่า มีนักการเมืองอยู่เบื้องหลังนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนไม่ทราบต้องไปถามตัวรัฐมนตรี เพราะการพูดของ ร.ต.อ.เฉลิม แบบนี้ที่สร้างปัญหาให้เกิดการเผชิญหน้า ซึ่งตนไม่อยากเห็นภาพอย่างนี้เกิดขึ้น หาก ร.ต.อ.เฉลิม มีข้อมูลว่าใครอยู่เบื้องหลัง ใครทำผิดกฎหมายก็ดำเนินการได้เลย
***"เทพไท"ยัน ปชป.ไม่อยู่เบื้องหลัง
ด้านนายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช ปชป.กล่าวว่า เรื่องนี้สร้างความไม่สบายใจให้กับ ส.ส.ปชป.ในพื้นที่อย่างมาก เพราะไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ ในขณะที่บ้านเมืองกำลังเกิดความแตกแยกในทางความคิดครั้งใหญ่ แต่ขณะเดียวกัน ร.ต.อ.เฉลิม ก็ไม่ควรท่าทีที่ก้าวร้าวกับกลุ่มพันธมิตรฯด้วยการออกมาให้สัมภาษณ์ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีการจัดตั้ง และเกณฑ์คนจาก จ.สุราษฏร์ธานี และนครศรีธรรมราช เพื่อมาต่อต้านและกล่าวหาคนที่มาชุมนุมเป็นคนเมาสุรา รวมทั้งมีนักการเมืองอยู่เบื้องหลัง จึงอยากให้ ร.ต.อ.เฉลิม ระวัดระวังในการให้สัมภาษณ์อย่าปักปำใส่ร้ายโดยปราศจากข้อเท็จจริง เพื่อไม่ให้สถานการณ์เลวร้ายไปกว่านี้ ดังนั้น ร.ต.อ.เฉลิม ต้องมีข้อมูลชัดเจนมากกว่านี้ก่อนมาใส่ร้าย เพราะเชื่อว่าการต่อต้าน ร.ต.อ.เฉลิม เป็นเพียงความคิดเห็นของคนกลุ่มหนึ่งเท่านั้น
นายเทพไท ยืนยันว่า ไม่มีการเกณฑ์คนและไม่มีนักการเมืองอยู่หลังเบื้องหลังในเหตุการณ์นี้อย่างแน่นอน ทั้งนี้ เชื่อว่าเป็นการกระทำแสดงออกอย่างบริสุทธิของประชาชนที่ไม่พอใจในพฤติกรรมของ ร.ต.อ.เฉลิม เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา ร.ต.อ.เฉลิม ได้ใช้วาจาและท่าทีก้าวร้าว ท้าทาย จึงก่อให้เกิดความเกลียดชังในกลุ่มประชาชนส่วนหนึ่ง แม้แต่ในเหตุการณ์ครั้งนี้ตาม ร.ต.อ.เฉลิม ยังให้สัมภาษณ์ในลักษณะใส่ร้าย ยั่วยุต่อกลุ่มคนเหล่านี้ ซึ่งจะโทษกลุ่มคนเหล่านี้เพียงฝ่ายเดียวไม่ได้
"คนเป็นรัฐมนตรีก็ต้องระวังท่วงทำนองและท่าทีการให้สัมภาษณ์ ไม่อยากให้มีการสัมภาษณ์ในลักษณะแกว่งปากไปหาเสี้ยน ซึ่ง ร.ต.อ.เฉลิม น่าจะรู้ตัวดีว่า ตนเองเป็นสายล่อฟ้าอ่อนไหวต่อความรู้สึกของประชาชนเป็นอย่างยิ่งก็น่าจะเจียมเนื้อเจียมตัว หากยังท้าทายกันไปมา ร.ต.อ.เฉลิม ก็ไม่สามารถไปจังหวัดไปไหนได้ เพราะจะมีคนออกมาต่อต้านแบบนี้อีก"
นายเทพไท กล่าวต่อว่า ส่วนการลงพื้นที่ 3 จังหวัดโดยอ้างว่าดูปัญหาที่ดินนั้นทำให้สังคมเคลือบแคลงใจว่าปัญหาที่ดิน 3 จังหวัดมีความสำคัญหรือจำเป็นมากกว่าเหตุการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือไม่ ตนอยากตั้งคำถามว่าเหตุการณ์ความรุนแรง 3 จังหวัดชายแดนใต้ มีการฆ่าตายเป็นรายวัน ทำไม ร.ต.อ.เฉลิม จึงไม่เคยลงไปดูปัญหา แต่กับมาดูปัญหาที่ดินใน 3 จังหวัดนี้ ทั้งที่ เพิ่งผ่านการอภิปรายไปแค่ 1 อาทิตย์ ร.ต.อ.เฉลิม ก็วิ่งแจ้นลงพื้นที่ทันทีหรือจะเป็นห่วงที่ดินของ ไอ้ตุ๊ ซึ่งเป็นเลขาส่วนตัวของตนเองที่พาดพิง ตนอยากให้ ร.ต.อ.เฉลิม ได้อธิบายถึงความจำเป็น มิฉะนั้น สังคมจะเคลือบแคลง และเข้าใจว่าการลงพื้นที่ครั้งนี้ ก็เพื่อยั่วยุให้เกิดการต่อต้านของคนในจังหวัดนี้ ซึ่งทุกฝ่ายไม่อยากให้เหตุการณ์ทำนองนี้เป็นลัทธิเอากับจังหวัดอื่นๆ ในภายหลัง
"ผมอยากให้ ร.ต.อ.เฉลิมกลับไปหาข้อเท็จจริงก่อน ก่อนที่จะมาใส่ร้ายนักการเมืองว่าอยู่เบื้องหลัง ไม่อยากให้เป็นประเด็นการเมืองระหว่างรัฐบาลกับฝ่ายค้าน และควรกลับไปสำรวจตัวเองก่อนว่าทำไมเป็นรัฐมนตรีคนเดียวที่ถูกต่อต้านจากประชาชนเวลาลงพื้นที่ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ผิดปกติมาก"
***"ไอ้ตู่"ขู่ตัดงบพัฒนาจังหวัดภาคใต้
ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน กล่าวว่า ตนมั่นใจว่ากลุ่มพันธมิตรฯที่มาปิดล้อม ร.ต.อ.เฉลิม จนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้เป็นพวกเดียวกับประชาธิปัตย์ ซึ่งเหตุการณ์นี้จะเป็นผลเสียต่อคนในภาคใต้ทั้ง 14 จังหวัดเพราะหากมีรัฐมนตรีในรัฐบาลนายสมัคร ลงไปแก้ปัญหาแล้วได้รับการปฏิบัติเหมือนเช่น ร.ต.อ.เฉลิม ก็จะทำให้เกิดปัญหา โดยเฉพาะเรื่องงบประมาณถ้าเรื่องนี้ประชาธิปัตย์ไม่ปากว่าตาขยิบกลุ่มผู้ชุมนุมก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะโรงแรมที่ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ จัดให้คณะของ ร.ต.อ.เฉลิม พัก เป็นโรงแรมของนายพิเชษฐ์ พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.กระบี่ พรรคประชาธิปัตย์
"เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการทำร้ายคนภาคใต้ เพราะการไม่ให้รัฐมนรีลงไปยิ่งสร้างปัญหามากกว่า และคนใน 14 จังหวัดภาคใต้กำลังเสียโอกาสจากคนไม่กี่ร้อยคน ดังนั้น ขอเรียกร้องให้เลิกประเพณีปลุกภาคนิยมเพราะคนที่เสียหายคือคนไทยโดยรวม"
นายจตุพร กล่าวต่อว่า สำหรับตนและนายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ รองโฆษกรัฐบาลที่เป็นคนภาคใต้ พร้อมที่จะลงไปในพื้นที่ตลอดเวลาและยังตั้งข้อสังเกตถึงการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ว่า ทำไมโรงแรมในกระบี่มีหลายแห่ง แต่ทำไมถึงมาจองโรงแรมแห่งนี้ เพราะเท่ากับประกาศให้พวกผู้ชุมนุมรับรู้และเคลื่อนย้ายกันมาปิดล้อม "ไม่รู้ว่าผู้ว่าฯเมายา หรือคิดได้แค่นั้น"
***"เป็ดเหลิม"หางจุกตูดกลับกรุง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย และคณะ เดินทางมาตรวจราชการในแถบอันดามันทั้ง จ.ภูเก็ต พังงา และกระบี่ โดยเดินทางมาถึงกระบี่เมื่อคืนที่ผ่านมา (1 ก.ค.) และกลุ่มพันธมิตรฯกระบี่ ได้รวมตัวกันขับไล่ที่สนามบิน และที่หน้าโรงแรมมาริไทม์ ปาร์ค แอนด์ สปา รีสอร์ท อ.เมือง จ.กระบี่ ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา จนช่วงเช้าวานนี้ (2 ก.ค.) ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วยรองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ และปลัดจังหวัดกระบี่ ได้ประชุมหารือและมาพูดคุยกับกลุ่มพันธมิตรฯที่ชุมนุมอยู่หน้าโรงแรมประมาณ 100 คนโดยทางผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่กล่าวกับผู้ชุมชนว่า รัฐมนตรีฯ ได้สั่งยกเลิกภารกิจในการเดินทางมาตรวจราชการที่จังหวัดอันดามันทั้งหมดแล้ว
ต่อมาเวลา 09.45 น. ร.ต.อ.เฉลิม และคณะ ได้เดินทางมาขึ้นเครื่องที่สนามบินภูเก็ต เพื่อเดินทางกลับ กทม. ทันทีเมื่อเดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ร.ต.อ.เฉลิม ได้ให้สัมภาษณ์โดยยืนยันว่า จากเหตุการณ์พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยกว่า 100 คนชุมนุมประท้วงขับไล่ที่หน้าโรงแรมกระบี่เมอรีไทม์ เมื่อคืนที่ผ่านมา ตนจะไม่ดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น เพราะถือว่าเป็นพวกที่ก่อกวน ก่อเหตุ และด่าทอ ใช้คำพูดหยาบคายอย่างไม่มีเหตุผล คล้ายกับการชุมนุมของพันธมิตรฯที่กรุงเทพฯ นอกจากนี้ ยังเชื่อมั่นว่า กลุ่มผู้ประท้วงกลุ่มนี้มีผู้เสียผลประโยชน์และนักการเมืองคอยหนุนหลังอยู่ เพื่อต้องการกีดกันไม่ให้ตรวจสอบปัญหาเรื่องการบุกรุกที่ดิน และยังพบว่ากลุ่มที่มาชุมนุมมีสภาพเมามายเหมือนมีการดื่มเหล้าจนไม่ได้สติกันด้วย
ร.ต.อ.เฉลิม ยังกล่าวยืนยันอีกว่า ไม่เกิน 1-2 สัปดาห์ตนจะลงพื้นที่อีกครั้ง แต่ต้องรอดูจังหวะก่อน และมั่นใจว่ากลุ่มผู้ประท้วงจะทำแบบเมื่อคืนนี้ไม่ได้บ่อยนัก พร้อมระบุอีกว่า จำนวนคนที่มาชุมนุมขับไล่มีเพียง 300 คนไม่ใช่ 3,000 คนตามที่เป็นข่าว
***พธม.กระบี่โต้"เหลิม"โกหกคำโต
นายจเร แก้วสม พันธมิตรฯกระบี่ ออกมาตอบโต้ ร.ต.อ.เฉลิม ทันทีเช่นกันว่า ที่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวหาว่ากลุ่มพันธมิตรฯที่ไปรวมตัวกันบริเวณหน้าโรงแรมมาริไทม์ ปาร์ค แอนด์ สปา รีสอร์ท มีสภาพเมามาย ไม่ได้สตินั้นขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะตนอยู่ในเหตุการณ์ตลอดตั้งแต่ช่วงค่ำจนรุ่งสาง การที่ ร.ต.อ.เฉลิม ออกมาพูดในลักษณะดังกล่าวเป็นเพียงมุขเดิมๆ ของ รมว.มหาดไทย คนปัจจุบันที่ชอบใส่ร้ายผู้อื่นไปทั่วควรจะหาวิธีการที่ใหม่ๆ มาหลอกชาวบ้านบ้างเพราะที่ผ่านมาชาวบ้านเขารู้ทันแล้ว
นายจเร กล่าวด้วยว่า หากกลุ่มพันธมิตรฯที่ไปรวมตัวกันมีลักษณะเมามายจริงตามที่เป็ดเหลิมกล่าวอ้างนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ รปภ.ก็มีกันอยู่เต็มสามารถที่จะเข้าไปจัดการได้ทันที หากว่าเมาอาละวาดจริง เพราะสถานที่ที่พวกตนชุมนุมนั้นเป็นสถานที่ส่วนบุคคล การชุมนุมก็อยู่ในกรอบ
"การที่เป็ดเหลิม สามารถหนีออกมาจากโรงแรมได้นั้นพฤติกรรมน่าทุเรศมาก มีการเดินลัดเลาะออกทางด้านข้างของโรงแรม ต้องลอดลวดหนาม เดินผ่านพงหญ้ารก ไม่เหลือลาย มท.1 อยู่เลย ต้องหนีเอาตัวรอดหัวซุกหัวซุน ไม่กล้าแม้แต่จะเจอหน้ากับพันธมิตรฯ"
นายจเร กล่าวต่อว่า การที่ ร.ต.อ.เฉลิม พูดให้ร้ายกลุ่มพันธมิตรฯว่ามีการเกณฑ์คนมาชุมนุมประท้วงนั้นก็ไม่เป็นความจริงอีก เพราะทุกคนที่ออกมาชุมนุมขับไล่นั้นทุกคนมาด้วยสมัครใจ ซึ่งก็เป็นมุขเดิมอีกเช่นกัน เพราะคนที่อยู่ในเหตุการณ์ทุกคนย่อมรู้ดี ร.ต.อ.เฉลิม จะไปรู้อะไรได้แต่ฟังคนอื่นรายงานว่าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ก็เชื่อหมดแล้วมาอวดอ้างว่าเป็นคนเก่ง
***ลั่นขวางนายกฯ-รมต.นอมินีเข้าพื้นที่
ขณะที่นายสุนทร รักรงค์ ผู้ประสานงานพันธมิตรฯภาคใต้ กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการประชุมแกนนำพันธมิตรฯภาคใต้ทั้งหมดโดยมีมติให้ปิดประตูสู่ภาคใต้ห้ามนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีของรัฐบาลนอมินีนายสมัคร สุนทรเวช เดินทางเข้ามาในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ ทั้งนี้ หากมีบุคคลใดในรัฐบาลชุดปัจจุบันเดินทางเข้ามาเครือข่ายพันธมิตรฯภาคใต้ และประชาชนจะไปรวมตัวกันปิดเส้นทางการเดินทางทันที ไม่ว่าจะโดยทางรถยนต์ หรือเครื่องบินก็ตาม ทั้งนี้ พันธมิตรฯภาคใต้ และประชาชนจะไม่ปฏิบัติตามคำสั่งใดๆ ทั้งสิ้นเพราะถือว่าพฤติกรรมของรัฐบาลชุดปัจจุบันหมดความชอบธรรมแล้ว
"กลุ่มพันธมิตรฯภาคใต้ ทุกจังหวัดได้มีมติประกาศห้ามรัฐมนตรีทุกคนของรัฐบาลนอมินี นายสมัคร เข้าพื้นที่ภาคใต้อย่างเด็ดขาด โดยจะใช้มาตรการเดียวกับการต่อต้านระบอบทักษิณ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ซึ่งพันธมิตรฯภาคใต้ และประชาชนจำนวนมากได้ประกาศปิดประตูภาคใต้ พร้อมกับต่อต้านทุกรูปแบบมาแล้วเช่นเดียวกัน"
***"มาร์ค"ท้า"เหลิม"จัดการผู้อยู่เบื้องหลัง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม ระบุว่าผู้ที่ไปชุมนุมประท้วงที่ จ.กระบี่ มีกลุ่มผู้เสียผลประโยชน์อยู่เบื้องหลังว่า ตนไม่อยากเห็นภาพแบบนี้จริงๆ และหวังว่าคงจะไม่มี เพราะไม่ว่าเราจะรู้สึกอย่างไรกับนักการเมืองหรือใครก็ตาม ตนไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ ไม่ว่าจะเป็น ส.ส.หรือรัฐมนตรี ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลอยากให้เดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ของตัวเองได้ ส่วนใครจะมีความเห็นอย่างไร ก็สามารถใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกได้ โดยสงบ โดยสันติ ปราศจากอาวุธ แต่ขณะเดียวกันไม่ควรไปขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของ ส.ส.หรือรัฐมนตรี หรือให้เป็นบรรยากาศของการเผชิญหน้ากัน
ส่วนที่ ร.ต.อ.เฉลิมระบุว่า มีนักการเมืองอยู่เบื้องหลังนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนไม่ทราบต้องไปถามตัวรัฐมนตรี เพราะการพูดของ ร.ต.อ.เฉลิม แบบนี้ที่สร้างปัญหาให้เกิดการเผชิญหน้า ซึ่งตนไม่อยากเห็นภาพอย่างนี้เกิดขึ้น หาก ร.ต.อ.เฉลิม มีข้อมูลว่าใครอยู่เบื้องหลัง ใครทำผิดกฎหมายก็ดำเนินการได้เลย
***"เทพไท"ยัน ปชป.ไม่อยู่เบื้องหลัง
ด้านนายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช ปชป.กล่าวว่า เรื่องนี้สร้างความไม่สบายใจให้กับ ส.ส.ปชป.ในพื้นที่อย่างมาก เพราะไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ ในขณะที่บ้านเมืองกำลังเกิดความแตกแยกในทางความคิดครั้งใหญ่ แต่ขณะเดียวกัน ร.ต.อ.เฉลิม ก็ไม่ควรท่าทีที่ก้าวร้าวกับกลุ่มพันธมิตรฯด้วยการออกมาให้สัมภาษณ์ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีการจัดตั้ง และเกณฑ์คนจาก จ.สุราษฏร์ธานี และนครศรีธรรมราช เพื่อมาต่อต้านและกล่าวหาคนที่มาชุมนุมเป็นคนเมาสุรา รวมทั้งมีนักการเมืองอยู่เบื้องหลัง จึงอยากให้ ร.ต.อ.เฉลิม ระวัดระวังในการให้สัมภาษณ์อย่าปักปำใส่ร้ายโดยปราศจากข้อเท็จจริง เพื่อไม่ให้สถานการณ์เลวร้ายไปกว่านี้ ดังนั้น ร.ต.อ.เฉลิม ต้องมีข้อมูลชัดเจนมากกว่านี้ก่อนมาใส่ร้าย เพราะเชื่อว่าการต่อต้าน ร.ต.อ.เฉลิม เป็นเพียงความคิดเห็นของคนกลุ่มหนึ่งเท่านั้น
นายเทพไท ยืนยันว่า ไม่มีการเกณฑ์คนและไม่มีนักการเมืองอยู่หลังเบื้องหลังในเหตุการณ์นี้อย่างแน่นอน ทั้งนี้ เชื่อว่าเป็นการกระทำแสดงออกอย่างบริสุทธิของประชาชนที่ไม่พอใจในพฤติกรรมของ ร.ต.อ.เฉลิม เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา ร.ต.อ.เฉลิม ได้ใช้วาจาและท่าทีก้าวร้าว ท้าทาย จึงก่อให้เกิดความเกลียดชังในกลุ่มประชาชนส่วนหนึ่ง แม้แต่ในเหตุการณ์ครั้งนี้ตาม ร.ต.อ.เฉลิม ยังให้สัมภาษณ์ในลักษณะใส่ร้าย ยั่วยุต่อกลุ่มคนเหล่านี้ ซึ่งจะโทษกลุ่มคนเหล่านี้เพียงฝ่ายเดียวไม่ได้
"คนเป็นรัฐมนตรีก็ต้องระวังท่วงทำนองและท่าทีการให้สัมภาษณ์ ไม่อยากให้มีการสัมภาษณ์ในลักษณะแกว่งปากไปหาเสี้ยน ซึ่ง ร.ต.อ.เฉลิม น่าจะรู้ตัวดีว่า ตนเองเป็นสายล่อฟ้าอ่อนไหวต่อความรู้สึกของประชาชนเป็นอย่างยิ่งก็น่าจะเจียมเนื้อเจียมตัว หากยังท้าทายกันไปมา ร.ต.อ.เฉลิม ก็ไม่สามารถไปจังหวัดไปไหนได้ เพราะจะมีคนออกมาต่อต้านแบบนี้อีก"
นายเทพไท กล่าวต่อว่า ส่วนการลงพื้นที่ 3 จังหวัดโดยอ้างว่าดูปัญหาที่ดินนั้นทำให้สังคมเคลือบแคลงใจว่าปัญหาที่ดิน 3 จังหวัดมีความสำคัญหรือจำเป็นมากกว่าเหตุการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือไม่ ตนอยากตั้งคำถามว่าเหตุการณ์ความรุนแรง 3 จังหวัดชายแดนใต้ มีการฆ่าตายเป็นรายวัน ทำไม ร.ต.อ.เฉลิม จึงไม่เคยลงไปดูปัญหา แต่กับมาดูปัญหาที่ดินใน 3 จังหวัดนี้ ทั้งที่ เพิ่งผ่านการอภิปรายไปแค่ 1 อาทิตย์ ร.ต.อ.เฉลิม ก็วิ่งแจ้นลงพื้นที่ทันทีหรือจะเป็นห่วงที่ดินของ ไอ้ตุ๊ ซึ่งเป็นเลขาส่วนตัวของตนเองที่พาดพิง ตนอยากให้ ร.ต.อ.เฉลิม ได้อธิบายถึงความจำเป็น มิฉะนั้น สังคมจะเคลือบแคลง และเข้าใจว่าการลงพื้นที่ครั้งนี้ ก็เพื่อยั่วยุให้เกิดการต่อต้านของคนในจังหวัดนี้ ซึ่งทุกฝ่ายไม่อยากให้เหตุการณ์ทำนองนี้เป็นลัทธิเอากับจังหวัดอื่นๆ ในภายหลัง
"ผมอยากให้ ร.ต.อ.เฉลิมกลับไปหาข้อเท็จจริงก่อน ก่อนที่จะมาใส่ร้ายนักการเมืองว่าอยู่เบื้องหลัง ไม่อยากให้เป็นประเด็นการเมืองระหว่างรัฐบาลกับฝ่ายค้าน และควรกลับไปสำรวจตัวเองก่อนว่าทำไมเป็นรัฐมนตรีคนเดียวที่ถูกต่อต้านจากประชาชนเวลาลงพื้นที่ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ผิดปกติมาก"
***"ไอ้ตู่"ขู่ตัดงบพัฒนาจังหวัดภาคใต้
ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน กล่าวว่า ตนมั่นใจว่ากลุ่มพันธมิตรฯที่มาปิดล้อม ร.ต.อ.เฉลิม จนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้เป็นพวกเดียวกับประชาธิปัตย์ ซึ่งเหตุการณ์นี้จะเป็นผลเสียต่อคนในภาคใต้ทั้ง 14 จังหวัดเพราะหากมีรัฐมนตรีในรัฐบาลนายสมัคร ลงไปแก้ปัญหาแล้วได้รับการปฏิบัติเหมือนเช่น ร.ต.อ.เฉลิม ก็จะทำให้เกิดปัญหา โดยเฉพาะเรื่องงบประมาณถ้าเรื่องนี้ประชาธิปัตย์ไม่ปากว่าตาขยิบกลุ่มผู้ชุมนุมก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะโรงแรมที่ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ จัดให้คณะของ ร.ต.อ.เฉลิม พัก เป็นโรงแรมของนายพิเชษฐ์ พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.กระบี่ พรรคประชาธิปัตย์
"เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการทำร้ายคนภาคใต้ เพราะการไม่ให้รัฐมนรีลงไปยิ่งสร้างปัญหามากกว่า และคนใน 14 จังหวัดภาคใต้กำลังเสียโอกาสจากคนไม่กี่ร้อยคน ดังนั้น ขอเรียกร้องให้เลิกประเพณีปลุกภาคนิยมเพราะคนที่เสียหายคือคนไทยโดยรวม"
นายจตุพร กล่าวต่อว่า สำหรับตนและนายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ รองโฆษกรัฐบาลที่เป็นคนภาคใต้ พร้อมที่จะลงไปในพื้นที่ตลอดเวลาและยังตั้งข้อสังเกตถึงการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ว่า ทำไมโรงแรมในกระบี่มีหลายแห่ง แต่ทำไมถึงมาจองโรงแรมแห่งนี้ เพราะเท่ากับประกาศให้พวกผู้ชุมนุมรับรู้และเคลื่อนย้ายกันมาปิดล้อม "ไม่รู้ว่าผู้ว่าฯเมายา หรือคิดได้แค่นั้น"
