เชียงราย – เมืองพ่อขุนฯปั้น 3 โปรเจกต์ยักษ์ เตรียมเสนอที่ประชุม “ปีท่องเที่ยว 51-52” จันทร์ที่ 14 ก.ค. ที่เชียงใหม่ ดัน 2 โครงการพัฒนาถนนเลียบฝั่งโขง / ยกเครื่องเส้นทางเชื่อมเชียงใหม่ พร้อมเดินหน้าผลักดันเส้นทางรถไฟในฝันเด่นชัย – เชียงราย เชื่อมรถไฟจีน และพัฒนา Logistic ในอนาคต
วานนี้ (2 ก.ค.) นายไตรสิทธิ์ สินสมบูรณ์ทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ร่วมกับนายชนะ นาคสุริยะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พล.ต.ต.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา ผบก.ภ.จ.เชียงราย ประชุมกับหัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดทุกหน่วย ทั้งฝ่ายทหาร แขวงการทาง อบจ.เชียงราย เทศบาลนครเชียงราย หอการค้าจังหวัดเชียงราย ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด ททท. สมาคมท่องเที่ยว ตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจท่องเที่ยว เพื่อประชุมหารือคณะกรรมการพัฒนาเส้นทาง คมนาคมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว เศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงจังหวัดเชียงราย ครั้งที่ 1/2551
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า เป็นการประชุมเพื่อเตรียมนำเสนอโครงการพัฒนาต่าง ๆ ต่อประชุมเพื่อส่งเสริม “ปีแห่งการท่องเที่ยวไทย พ.ศ.2551-2552” ในวันเสาร์ที่ 14 กรกฎาคม 2551 เวลา 09.00-16.00 น. ณ โรงแรมแชงกรีลา จ.เชียงใหม่ ที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกับจังหวัดเชียงใหม่ จัดประชุมระหว่างนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมทั้งผู้เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน ประกอบด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัด 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน หอการค้าจังหวัด และส่วนที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว 17 จังหวัดภาคเหนือ เข้าร่วมประชุม
จังหวัดชียงราย ได้เตรียมเสนอโครงการพัฒนาเส้นทางคมนาคม ส่งเสริมการท่องเที่ยวเศรษฐกิจ สังคมและความมั่นคง ต่อนายกรัฐมนตรี 3 เส้นทางคือ 1.เส้นทางชายแดนตามแนวฝั่งแม่น้ำโขง จาก อ.แม่สาย –อ.เชียงแสน-อ.เวียงแก่น-อ.เชียงของ เชื่อมโยงเส้นทางถนนสาย R3a (สิบสองปันนา-บ่อเต็น-บ่อหาน-แขวงบ่อแก้ว-เชียงราย)
2.เส้นทางเชื่อมโยง จ.เชียงราย-อ.แม่ขะจาน-จ.เชียงใหม่ ซึ่งจะมีการพัฒนาจากถนนทางหลวงหมายเลข 118 จากสองช่องจราจรเป็นสี่ช่องจราจรทั้งหมด รวมงบประมาณก่อสร้าง 2,013 ล้านบาท ซึ่งจะดำเนินการแล้วเสร็จในปี 2554 นอกจากนี้ยังมีทางเลี่ยงเมืองด้านทิศตะวันตก อ.เมืองเชียงราย ที่จะมีการสร้างเป็นทางสองช่องจราจร มูลค่าราว 1,060 ล้านบาท ที่จะดำเนินการในปี 2553-2554
3.เส้นทางรถไฟจาก อ.เด่นชัย จ.แพร่-จ.พะเยา-จ.เชียงราย ซึ่งมีการศึกษาความเป็นไปได้หลายครั้งแล้วตั้งแต่ปี 2512 โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย กระทั่งปี 2539-2541 การรถไฟฯได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาทำการสำรวจออกแบบรายละเอียดด้านวิศวกรรมและศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม ซึ่งเส้นทางนี้มีระยะราว 246 กิโลเมตร(กม.) เริ่มต้นแยกจาก ทางรถไฟสายเหนือ อ.เด่นชัย จ.แพร่ (กม.534+000) ผ่าน จ.แพร่ (อ.เด่นชัย-อ.สูงเม่น อ.เมือง กิ่ง อ.ม่วงไข่ และ อ.ลอง) ผ่าน จ.ลำปาง (อ.งาว) ผ่าน จ.พะเยา (อ.เมือง อ.ดอกคำใต้) เข้าสู่ จ.เชียงราย (อ.ป่าแดด อ.เทิง อ.พาน ) สิ้นสุดปลายทางที่ อ.เมือง จ.เชียงราย (กม.780+000)
บริษัทที่ปรึกษาประมาณราคาค่าเวนคืนที่ดินเพื่อใช้ก่อสร้าง ประมาณ 7,794 ไร่ 1,6936 ล้านบาท ค่าก่อสร้าง /ติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณ 18,585 ล้านบาท ค่าจ้างที่ปรึกษาจัดการประกวดราคาและควบคุมงานก่อสร้าง 885 ล้านบาท
โดยมีปริมาณงานก่อสร้างที่สำคัญ เช่น ทางรถไฟ 246 กม. สถานี 19 สถานี สะพานรถไฟ 72 แห่ง สะพานรถยนต์หรือถนนข้ามทางรถไฟ 46 แห่ง อุโมงค์ 6 แห่ง ดินถม 9.5 ล้าน ลบ.ม. ดินตัด 6.5 ล้าน ลบ.ม. รางรถไฟ 30,000 ตัน
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เชื่อว่า ในส่วนเส้นทางคมนาคมทางถนน คาดว่าจะไม่มีปัญหาในการก่อสร้าง แต่ในส่วนของทางรถไฟต้องนำเสนอต่อรัฐบาล เนื่องจากปัจจุบันราคาค่าน้ำมันเชื้อเพลิงราคาแพง หากมีเส้นทางรถไฟมาถึง จ.เชียงราย และอาจจะเชื่อมต่อไปกับรถไฟที่มาจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ผ่าน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว(สปป.ลาว) ในอนาคต น่าจะเกิดประโยชน์หลายด้าน ซึ่งเรื่องนี้จะมีการนำเสนอต่อรัฐบาล แต่ในส่วนของจังหวัดได้กำหนดให้มีการตั้งคณะอนุกรรมการภายใน 1 เดือน เพื่อเร่งผลักดัน
นายพัฒนา สิทธิสมบัติ ประธานหอการค้า จ.เชียงราย และประธานคณะกรรมการเพื่อโครงการสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ (คสศ.) หอการค้า 10 จังหวัดภาคเหนือ กล่าวว่า หากมีเส้นทางรถไฟผ่าน 12 อำเภอ ประชาชนในพื้นที่จังหวัดเชียงราย-พะเยา ลำปาง และ แพร่ หลายล้านคนจะได้ประโยชน์มาก รวมถึงโอกาสในการแข่งขันการค้า การท่องเที่ยวในเขตล้านนาตะวันออก ซึ่งที่ผ่านมาเสียเปรียบเขตพื้นที่อื่น และถ้าราคาค่าน้ำมันยังแพงต่อเนื่อง คาดว่าการขนส่งทางรถจะเริ่มไม่คุ้มหากเปรียบกับรถไฟ ดังนั้น อยากให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องออกมาเรียกร้องผลักดันรัฐบาลเพื่อสร้างทางรถไฟสายนี้ให้เกิดขึ้น และเชื่อมต่อผ่าน สปป.ลาว และจีนในอนาคต ซึ่งจีนก็สนใจจะสร้างทางรถไฟมาเชื่อมด้วย
นายสมเกียรติ ชื่นธีระวงศ์ นายกสมาคมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงราย และนายกสมาพันธ์สมาคมท่องเที่ยวภาคเหนือ 17 จังหวัด อยากให้ทุกฝ่ายร่วมสร้างแผนการท่องเที่ยวในเขตจังหวัดเชียงรายและภูมิภาคนี้ ให้ต่อเนื่องเพื่อดึงนักท่องเที่ยวเข้ามา ซึ่งแผนงานของจังหวัดครั้งนี้ถือว่าตรงใจผู้ประกอบการ
