ผู้จัดการรายวัน - ศาลฎีกาออกแถลงการณ์ ความเห็นผู้พิพากษาศาลฎีกาจี้ "ตำรวจ - อัยการ" คดีสินบน 2 ล้าน ไม่เกี่ยวศาลฎีกา และ สนง.ศาลยุติธรรม ระบุเป็นหน้าที่ ตำรวจ อัยการ ดำเนินการตามกฎหมาย ด้านตำรวจลุมพินี นำตัว “ธนา ตันศิริ” คุมขังเรือนจำ ยันสาวถึงใครเรียกสอบ คาด 30 วันปิดคดี
จากกรณีสำนักงานศาลยุติธรรมมอบอำนาจให้ผู้แทนเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพิชิฎ ชื่นบาน ทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิง พจมาน ชินวัตร น.ส.ศุภศรี ศรีสวัสดิ์ เสมียนทนาย และนายธนา ตันศิริ ผู้ประสานงานคดี พ.ต.ท.ทักษิณ ข้อหาให้สินบนแก่เจ้าพนักงาน ภายหลัง ศาลฎีกามีคำสั่งลงโทษจำคุก 6 เดือนฐานละเมิดอำนาจศาล กรณีหิ้วถุงขนมสอดไส้เงินสด 2 ล้านบาทให้เจ้าหน้าที่ธุรการศาลฎีกา และผู้พิพากษาในศาลฎีกาท่านหนึ่งให้ความเห็นทำนองว่าผู้พิพากษาทั่วประเทศติดตามการทำงานของตำรวจและอัยการว่าจะมีทิศทางอย่างไรนั้น
วานนี้ (30 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลฎีกาได้ออกแถลงการณ์ 1 ฉบับ ข้อความว่า ตามที่สื่อมวลชนได้เสนอข่าวกรณี การให้เงินจำนวน 2 ล้านบาท แก่เจ้าหน้าที่ธุรการศาลฎีกา และการดำเนินคดีอาญาในความผิดฐานให้สินบนแก่เจ้าพนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.144 หรือความผิดฐานอื่น โดยอ้างแหล่งข่าวผู้พิพากษาศาลฎีกานั้น ศาลฎีกาขอเรียนว่า การเสนอข่าวของสื่อมวลชนที่อ้างแหล่งข่าวจากผู้พิพากษาศาลฎีกาดังกล่าวนั้น มิได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับศาลฎีกาหรือศาลยุติธรรมแต่อย่างใด การดำเนินในความผิดฐานให้สินบนแก่เจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา ม.144 หรือความผิดฐานอื่น เป็นอำนาจหน้าที่และดุลพินิจของพนักงานสอบสวนและพนักงานอัยการที่จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ซึ่งศาลฎีกาและศาลยุติธรรมไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
ด้าน พ.ต.อ.รังสรรค์ ประดิษฐผล ผกก.สน.ชนะสงคราม เปิดเผยว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจในคดีที่สำคัญ และเป็นคดีที่สาธารณะชนให้ความสนใจอยู่แล้ว โดยพนักงานสอบสวนได้นัดพยานฝ่ายผู้ที่กล่าวหาทั้งหมด 5 คน มาสอบปากคำ หากคำให้การของพยาน และพนักงานสอบสวนมีหลักฐานอื่นๆที่มีน้ำหนักเพียงพอ พนักงานสอบจะไปสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 3 คน เพื่อที่จะได้นำข้อมูลเชื่อมโยงเรียกสอบคนที่เกี่ยวข้องต่อไป หากผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ให้การพาดพิงถึงใครก็ตามที่มีส่วนรู้เห็นกับคดีสินบน 2 ล้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมเรียกทุกคนมาสอบปากคำ ไม่มีข้อยกเว้นเด็ดขาด
ต่อข้อถามว่า ถ้าผู้ต้องหาในคดีไม่ยอมให้การถึงบุคคลอื่น คดีจะเป็นอันสิ้นสุดหรือไม่ พ.ต.อ.รังสรรค์ กล่าวว่า อย่าไปคาดเดาอะไรล่วงหน้าทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย
ส่วนข้อถามที่ว่า หากสมมุติว่าผู้ต้องหาพูดโยงเอ่ยชื่อว่ามีคนระดับอดีตนายกรัฐมนตรี หรือ ภริยาอดีตนายกรัฐมนตรี มีส่วนรู้เห็น หรือเกี่ยวข้องกับกล่องขนมยัดไส้เงิน 2 ล้าน ตำรวจจะกล้า หรือพร้อมเรียกมาสอบปากคำหรือไม่ พ.ต.อ.รังสรรค์ กล่าวว่า ในทางสอบสวนหากมีการพูดหรือให้การใดๆถึงบุคคลใดก็ตาม พนักงานสอบสวนพร้อมจะเรียกบุคคลนั้นๆ มาสอบปากคำแน่นอน
“ถ้าคดีมีหลักฐานเพียงพอเอาผิดกับใคร หรือว่าพยานพูดกล่าวอ้างถึงใครว่าเข้ามามีส่วนร่วมรู้เห็นเป็นใจกับคดีสินบน 2 ล้าน ทางเราไม่รอช้าเรียกมาสอบอยู่แล้ว และถ้าพยานที่สอบบ่งชี้ชัดเจนในหลักฐานพอเพียง ตำรวจจะต้องสอบผู้ต้องหาทั้ง 3 เรื่องราวให้ชัดเจนแน่ ไม่ต้องห่วง กำหนดวันไว้แล้ว คดีนี้ต้องชัดเจนใน 30 วัน" พ.ต.อ.รังสรรค์ กล่าว
ตำรวจคุม "ธนา" ขังคุก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันเดียวกัน เวลา 12.30 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ลุมพินี ได้ควบคุมตัวนายธนา ตันศิริ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 คดีละเมิดอำนาจศาล ที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์จนอาการดีขึ้น มาส่งตัวให้กับศาลฎีกาเปิดบัลลังก์อ่านคำสั่งศาลฎีกาสั่งจำคุก 6 เดือน ฐานร่วมกับนายพิชิฎ และ น.ส.ศุภศรี ละเมิดอำนาจศาล โดยใช้เวลาอ่านคำสั่งประมาณ 1 ชั่วโมง และศาลมีคำสั่งให้เพิกถอนหมายจับนายธนา ก่อนมีคำสั่งให้ออกหมายขังถึงที่สุด
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ได้นำตัวนายธนา ที่ถูกสวมกุญแจมือ สวมแว่นตาดำและหมวกแก๊ปปิดบังอำพรางใบหน้าไม่ให้ช่างภาพผู้สื่อข่าวถ่ายภาพ ขึ้นรถตู้ของกรมราชทัณฑ์ ทะเบียน อห 2001 กทม. ไปควบคุมตัวที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพตามคำสั่งศาล
นายวันชัย รุจนวงศ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงความเป็นอยู่ของนาย นายพิชิฏ ชื่นบาน และน.ส.ศุภศรี ศรีสวัสดิ์ ว่า ขณะนี้สภาพจิตใจของนายพิชิฏ ดีขึ้นแล้ว ทำใจได้มากขึ้นแล้ว แต่ก็ยอมรับว่ามีความเครียดอยู่บ้าง แต่เนื่องจากมีญาติเข้ามาเยี่ยมเป็นจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง โดยทางญาติเองก็ได้ช่วยกันปลอบใจนายพิชิฏ ควบคู่ไปกับทางเจ้าหน้าที่ให้การดูแลทางด้านสภาพจิตใจอย่างใกล้ชิด สำหรับเรื่องอาหารการกินของนายพิชิฏนั้น นายพิชิฏยังไม่ได้รับประทานอาหารของเรือนจำเลย โดยรับประทานอาหารจากทางญาติที่นำมาให้ทั้งสิ้น
นายวันชัย ยังกล่าวว่า หากพนักงานสอบสวนสอบ จะขอสอบปากคำผู้ต้องขัง ทางเรือนเรือนจำจะไม่อนุญาตให้นำสอบข้างนอก แต่เรือนจำจะเตรียมสถานที่ในเรือนจำให้พนักงานสอบสวนมาสอบแทนหากได้รับการประสานงานมา เนื่องจากเกรงว่าผู้ต้องหาอาจหลบหนีได้ และเป็นกฎของเรือนจำ
"ธนา" นอนคุกร่วมกับพิชิฏ
เวลา 16.30 น.นายทรงวุฒิ พัฒนกุล ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า นายธนา เดินทางมาถึงเรือนจำเวลาประมาณ 13.00 น.เจ้าหน้าที่ได้สอบประวัติ พร้อมพิมพ์ลายนิ้วมือ และทำตามขั้นตอนผู้ต้องหาแรกเข้า เหมือนคนอื่นทุกประการ ก่อนส่งตัวไปคุมขัง ซึ่งขณะนี้ทางเรือนจำได้ควบคุมตัวนายธนา อยู่ในสถานแรกรับ ซึ่งเป็นสถานที่เดียวกันกับนายพิชิฏ ชื่นบาน ทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ที่ถูกดำเนินคดีเดียวกัน โดยเบื้องต้นเท่าที่ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ นายธนา มีสีหน้าเรียบเฉย อาการเหมือนคนปกติดี คงจะหายจากอาการเครียดจัด ตามที่ได้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ตามที่ได้เข้ารักษามากว่า 6 วันแล้ว แต่หากนายธนา มีอาการเครียดจัด และน้ำในหูไม่เท่ากันตามที่ได้เคยนำใบรับรองแพทย์ไปให้ศาลฎีกาวันสั่งให้จำคุก โดยมีอาการกำเริบอีก ทางเรือนจำพิเศษกรุงเทพมีแพทย์ผู้ชำนาญการณ์เป็นแพทย์ที่เชี่ยวชาญเฉพาะทางดูแลรักษาผู้ต้องหาอยู่แล้ว ผู้ต้องหาทุกคนไม่มีสิทธิ์ทำเรื่องขออนุมัติออกไปรักษานอกเรือนจำ เพราะเรามีแพทย์ดูแลกรณีฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง และ นายธนา มีสิทธิ์ให้ญาติเยี่ยมได้ตามเวลาเยี่ยมปกติที่ทางเรือนจำกำหนด
นายทรงวุฒิ กล่าวว่า ผู้ต้องหาที่เข้ามาครั้งแรกส่วนใหญ่จะปรับตัวยังไม่ค่อยได้ ซึ่งทางเรือนจำจะมีคู่มือ และเจ้าหน้าที่คอยดูแลผู้ต้องหาทุกคนไม่มีการลำเอียงกับใครเป็นพิเศษ โดยในส่วนของนายธนา ตันศิริ ตนก็ไม่ได้สั่งการใดๆ ให้ลูกน้องดูแลเป็นพิเศษ เป็นอย่างดี รวมถึงอาหาร การกิน ความเป็นอยู่อื่นๆ ก็ไม่ได้มีอภิสิทธิ์นอกเหนือผู้ต้องหารายอื่น แม้จะมีข่าวว่าเป็นลูกพี่ ลูกน้อง กับภรรยาอดีตนายกรัฐมนตรี
ทนายความทักษิณเยี่ยม "พิชิฏ"
วานนี้ นายเอนก คำชุ่ม ทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา เดินทางไปเยี่ยมนายพิชิฏ ชื่นบาน อดีตทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ และ น.ส.ศุภศรี ศรีสวัสดิ์ อดีตเสมียนทนายความที่ทัณฑสถานหญิงกลาง นายเอนกกล่าวถึงกรณีที่จะมอบหมายให้ นายมานิตย์ ภิรมย์ศักดิ์ เสมียนทนายความมายื่นเอกสารคำถามคัดค้านพยานโจทก์ ต่อศาลฎีกาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในคดีการทุจริตจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษกว่า ยังไม่สามารถเปิดเผยในรายละเอียดได้ โดยในวันนี้ (1 ก.ค.) เวลา 08.30 น. จะแถลงข่าวอย่างเป็นทางการที่ศาลฎีกา เนื่องจากจะต้องเดินทางมาตามที่ศาลได้นัดพร้อมคู่ความในคดีดังกล่าวด้วย
จากกรณีสำนักงานศาลยุติธรรมมอบอำนาจให้ผู้แทนเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพิชิฎ ชื่นบาน ทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิง พจมาน ชินวัตร น.ส.ศุภศรี ศรีสวัสดิ์ เสมียนทนาย และนายธนา ตันศิริ ผู้ประสานงานคดี พ.ต.ท.ทักษิณ ข้อหาให้สินบนแก่เจ้าพนักงาน ภายหลัง ศาลฎีกามีคำสั่งลงโทษจำคุก 6 เดือนฐานละเมิดอำนาจศาล กรณีหิ้วถุงขนมสอดไส้เงินสด 2 ล้านบาทให้เจ้าหน้าที่ธุรการศาลฎีกา และผู้พิพากษาในศาลฎีกาท่านหนึ่งให้ความเห็นทำนองว่าผู้พิพากษาทั่วประเทศติดตามการทำงานของตำรวจและอัยการว่าจะมีทิศทางอย่างไรนั้น
วานนี้ (30 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลฎีกาได้ออกแถลงการณ์ 1 ฉบับ ข้อความว่า ตามที่สื่อมวลชนได้เสนอข่าวกรณี การให้เงินจำนวน 2 ล้านบาท แก่เจ้าหน้าที่ธุรการศาลฎีกา และการดำเนินคดีอาญาในความผิดฐานให้สินบนแก่เจ้าพนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.144 หรือความผิดฐานอื่น โดยอ้างแหล่งข่าวผู้พิพากษาศาลฎีกานั้น ศาลฎีกาขอเรียนว่า การเสนอข่าวของสื่อมวลชนที่อ้างแหล่งข่าวจากผู้พิพากษาศาลฎีกาดังกล่าวนั้น มิได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับศาลฎีกาหรือศาลยุติธรรมแต่อย่างใด การดำเนินในความผิดฐานให้สินบนแก่เจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา ม.144 หรือความผิดฐานอื่น เป็นอำนาจหน้าที่และดุลพินิจของพนักงานสอบสวนและพนักงานอัยการที่จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ซึ่งศาลฎีกาและศาลยุติธรรมไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
ด้าน พ.ต.อ.รังสรรค์ ประดิษฐผล ผกก.สน.ชนะสงคราม เปิดเผยว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจในคดีที่สำคัญ และเป็นคดีที่สาธารณะชนให้ความสนใจอยู่แล้ว โดยพนักงานสอบสวนได้นัดพยานฝ่ายผู้ที่กล่าวหาทั้งหมด 5 คน มาสอบปากคำ หากคำให้การของพยาน และพนักงานสอบสวนมีหลักฐานอื่นๆที่มีน้ำหนักเพียงพอ พนักงานสอบจะไปสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 3 คน เพื่อที่จะได้นำข้อมูลเชื่อมโยงเรียกสอบคนที่เกี่ยวข้องต่อไป หากผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ให้การพาดพิงถึงใครก็ตามที่มีส่วนรู้เห็นกับคดีสินบน 2 ล้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมเรียกทุกคนมาสอบปากคำ ไม่มีข้อยกเว้นเด็ดขาด
ต่อข้อถามว่า ถ้าผู้ต้องหาในคดีไม่ยอมให้การถึงบุคคลอื่น คดีจะเป็นอันสิ้นสุดหรือไม่ พ.ต.อ.รังสรรค์ กล่าวว่า อย่าไปคาดเดาอะไรล่วงหน้าทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย
ส่วนข้อถามที่ว่า หากสมมุติว่าผู้ต้องหาพูดโยงเอ่ยชื่อว่ามีคนระดับอดีตนายกรัฐมนตรี หรือ ภริยาอดีตนายกรัฐมนตรี มีส่วนรู้เห็น หรือเกี่ยวข้องกับกล่องขนมยัดไส้เงิน 2 ล้าน ตำรวจจะกล้า หรือพร้อมเรียกมาสอบปากคำหรือไม่ พ.ต.อ.รังสรรค์ กล่าวว่า ในทางสอบสวนหากมีการพูดหรือให้การใดๆถึงบุคคลใดก็ตาม พนักงานสอบสวนพร้อมจะเรียกบุคคลนั้นๆ มาสอบปากคำแน่นอน
“ถ้าคดีมีหลักฐานเพียงพอเอาผิดกับใคร หรือว่าพยานพูดกล่าวอ้างถึงใครว่าเข้ามามีส่วนร่วมรู้เห็นเป็นใจกับคดีสินบน 2 ล้าน ทางเราไม่รอช้าเรียกมาสอบอยู่แล้ว และถ้าพยานที่สอบบ่งชี้ชัดเจนในหลักฐานพอเพียง ตำรวจจะต้องสอบผู้ต้องหาทั้ง 3 เรื่องราวให้ชัดเจนแน่ ไม่ต้องห่วง กำหนดวันไว้แล้ว คดีนี้ต้องชัดเจนใน 30 วัน" พ.ต.อ.รังสรรค์ กล่าว
ตำรวจคุม "ธนา" ขังคุก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันเดียวกัน เวลา 12.30 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ลุมพินี ได้ควบคุมตัวนายธนา ตันศิริ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 คดีละเมิดอำนาจศาล ที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์จนอาการดีขึ้น มาส่งตัวให้กับศาลฎีกาเปิดบัลลังก์อ่านคำสั่งศาลฎีกาสั่งจำคุก 6 เดือน ฐานร่วมกับนายพิชิฎ และ น.ส.ศุภศรี ละเมิดอำนาจศาล โดยใช้เวลาอ่านคำสั่งประมาณ 1 ชั่วโมง และศาลมีคำสั่งให้เพิกถอนหมายจับนายธนา ก่อนมีคำสั่งให้ออกหมายขังถึงที่สุด
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ได้นำตัวนายธนา ที่ถูกสวมกุญแจมือ สวมแว่นตาดำและหมวกแก๊ปปิดบังอำพรางใบหน้าไม่ให้ช่างภาพผู้สื่อข่าวถ่ายภาพ ขึ้นรถตู้ของกรมราชทัณฑ์ ทะเบียน อห 2001 กทม. ไปควบคุมตัวที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพตามคำสั่งศาล
นายวันชัย รุจนวงศ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงความเป็นอยู่ของนาย นายพิชิฏ ชื่นบาน และน.ส.ศุภศรี ศรีสวัสดิ์ ว่า ขณะนี้สภาพจิตใจของนายพิชิฏ ดีขึ้นแล้ว ทำใจได้มากขึ้นแล้ว แต่ก็ยอมรับว่ามีความเครียดอยู่บ้าง แต่เนื่องจากมีญาติเข้ามาเยี่ยมเป็นจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง โดยทางญาติเองก็ได้ช่วยกันปลอบใจนายพิชิฏ ควบคู่ไปกับทางเจ้าหน้าที่ให้การดูแลทางด้านสภาพจิตใจอย่างใกล้ชิด สำหรับเรื่องอาหารการกินของนายพิชิฏนั้น นายพิชิฏยังไม่ได้รับประทานอาหารของเรือนจำเลย โดยรับประทานอาหารจากทางญาติที่นำมาให้ทั้งสิ้น
นายวันชัย ยังกล่าวว่า หากพนักงานสอบสวนสอบ จะขอสอบปากคำผู้ต้องขัง ทางเรือนเรือนจำจะไม่อนุญาตให้นำสอบข้างนอก แต่เรือนจำจะเตรียมสถานที่ในเรือนจำให้พนักงานสอบสวนมาสอบแทนหากได้รับการประสานงานมา เนื่องจากเกรงว่าผู้ต้องหาอาจหลบหนีได้ และเป็นกฎของเรือนจำ
"ธนา" นอนคุกร่วมกับพิชิฏ
เวลา 16.30 น.นายทรงวุฒิ พัฒนกุล ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า นายธนา เดินทางมาถึงเรือนจำเวลาประมาณ 13.00 น.เจ้าหน้าที่ได้สอบประวัติ พร้อมพิมพ์ลายนิ้วมือ และทำตามขั้นตอนผู้ต้องหาแรกเข้า เหมือนคนอื่นทุกประการ ก่อนส่งตัวไปคุมขัง ซึ่งขณะนี้ทางเรือนจำได้ควบคุมตัวนายธนา อยู่ในสถานแรกรับ ซึ่งเป็นสถานที่เดียวกันกับนายพิชิฏ ชื่นบาน ทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ที่ถูกดำเนินคดีเดียวกัน โดยเบื้องต้นเท่าที่ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ นายธนา มีสีหน้าเรียบเฉย อาการเหมือนคนปกติดี คงจะหายจากอาการเครียดจัด ตามที่ได้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ตามที่ได้เข้ารักษามากว่า 6 วันแล้ว แต่หากนายธนา มีอาการเครียดจัด และน้ำในหูไม่เท่ากันตามที่ได้เคยนำใบรับรองแพทย์ไปให้ศาลฎีกาวันสั่งให้จำคุก โดยมีอาการกำเริบอีก ทางเรือนจำพิเศษกรุงเทพมีแพทย์ผู้ชำนาญการณ์เป็นแพทย์ที่เชี่ยวชาญเฉพาะทางดูแลรักษาผู้ต้องหาอยู่แล้ว ผู้ต้องหาทุกคนไม่มีสิทธิ์ทำเรื่องขออนุมัติออกไปรักษานอกเรือนจำ เพราะเรามีแพทย์ดูแลกรณีฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง และ นายธนา มีสิทธิ์ให้ญาติเยี่ยมได้ตามเวลาเยี่ยมปกติที่ทางเรือนจำกำหนด
นายทรงวุฒิ กล่าวว่า ผู้ต้องหาที่เข้ามาครั้งแรกส่วนใหญ่จะปรับตัวยังไม่ค่อยได้ ซึ่งทางเรือนจำจะมีคู่มือ และเจ้าหน้าที่คอยดูแลผู้ต้องหาทุกคนไม่มีการลำเอียงกับใครเป็นพิเศษ โดยในส่วนของนายธนา ตันศิริ ตนก็ไม่ได้สั่งการใดๆ ให้ลูกน้องดูแลเป็นพิเศษ เป็นอย่างดี รวมถึงอาหาร การกิน ความเป็นอยู่อื่นๆ ก็ไม่ได้มีอภิสิทธิ์นอกเหนือผู้ต้องหารายอื่น แม้จะมีข่าวว่าเป็นลูกพี่ ลูกน้อง กับภรรยาอดีตนายกรัฐมนตรี
ทนายความทักษิณเยี่ยม "พิชิฏ"
วานนี้ นายเอนก คำชุ่ม ทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา เดินทางไปเยี่ยมนายพิชิฏ ชื่นบาน อดีตทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ และ น.ส.ศุภศรี ศรีสวัสดิ์ อดีตเสมียนทนายความที่ทัณฑสถานหญิงกลาง นายเอนกกล่าวถึงกรณีที่จะมอบหมายให้ นายมานิตย์ ภิรมย์ศักดิ์ เสมียนทนายความมายื่นเอกสารคำถามคัดค้านพยานโจทก์ ต่อศาลฎีกาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในคดีการทุจริตจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษกว่า ยังไม่สามารถเปิดเผยในรายละเอียดได้ โดยในวันนี้ (1 ก.ค.) เวลา 08.30 น. จะแถลงข่าวอย่างเป็นทางการที่ศาลฎีกา เนื่องจากจะต้องเดินทางมาตามที่ศาลได้นัดพร้อมคู่ความในคดีดังกล่าวด้วย
