พ.อ.วินัย สมพงษ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.คมนาคม และนายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.คมนาคม วานนี้ (26 มิ.ย.) ซึ่งเป็นวันที่ 3 โดยได้กล่าวออกตัวว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะไม่มีคำชม รัฐมนตรีทั้ง 2 คน และไม่มีการเกลียดชัง ไม่โกรธ ไม่เคือง ไม่แค้น 2 คน มาก่อน แต่ทำหน้าที่แทน ปวงชนชาวไทย เอกสารที่นำมาอภิปรายเป็นของจริง โดยตนจะขอมุ่งไปที่ นายสันติ เป็นการเฉพาะ
พ.อ.วินัย กล่าวว่า ตนรับคุณธรรมจริยธรรมของนายสันติ ไม่ได้ และรับไม่ได้กับการบริหารจัดการมองว่า บกพร่อง ล้มเหลว ไร้ประสิทธิภาพ โดยหยิบข้อมูล การถูกลบออกจากทะเบียนนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง ขณะที่เป็น ส.ส.เพชรบูรณ์ ของนายสันติ ในข้อกล่าวหา คือ ให้บุคคลอื่นเข้าสอบแทน โดยปลอมบัตร นักศึกษาและปลอมใบขับขี่ไปนั่งสอบแทน
พ.อ.วินัยกล่าวว่า ในตอนนั้นนายสันติ เป็นส.ส.เพชรบูรณ์ ตนไม่แน่ใจว่า สมัยที่ 2 หรือ 3 ได้มีการปลอมบัตรนักศึกษาและใบขับขี่ตลอดชีพ ให้บุคคลอื่นไปสอบแทน ทำให้มหาวิทยาลัยมีคำสั่งที่ 1170/2542 สอบไล่ภาคฤดูร้อนปีการศึกษา 2541 เรื่องการลงโทษลบชื่อออกจากทะเบียนนักศึกษา โดย หัวหน้าตึกสอบพีอาบี 201 รายงานว่า ในการสอบวิชา PY103 วันที่ 5 มิถุนายน 2542 คาบสอบที่ 1 นายสันติ พร้อมพัฒน์ ทะเบียน 4106562624 ให้บุคคลอื่นเข้าสอบแทนโดยการปลอมบัตรนักศึกษาและใบขับขี่ตลอดชีพ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส.ส.พรรคพลังประชาชน หลายคนได้ลุกขึ้นประท้วงว่า เอกสารที่นำมาอภิปรายควรจะมีการตรวจสอบก่อน และเป็นเรื่องส่วนตัวไม่เกี่ยวกับข้อกล่าวหาที่ตั้งไว้ และถือว่าผิดข้อบังคับการประชุม เพราะ นำเอกสารลับทางราชการมาอ่านถือว่าไม่เป็นธรรม แต่นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ รองประธานสภาคนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้วินิจฉัยว่าเกี่ยวข้องกับประเด็นคุณธรรมจริยธรรม จึงสามารถอภิปรายได้ แต่ขอให้พ.อ.วินัย เอาเอกสารนำเอกสารมามอบให้ตนด้วย
ด้านพ.อ.วินัย กล่าวต่อว่า คณะกรรมการมหาวิทยาลัย ประชุมครั้งที่ 23/2542 วันที่ 30 มิถุนายน พิจารณาแล้วเห็นว่านายสันติ ฝ่าฝืนคำสั่ง 684/2537 เรื่องทำผิดข้อบังคับการปฏิบัติในการสอบไล่ข้อ 1/20 โดยผิดวินัยนักศึกษาอย่างร้ายแรง จึงลงโทษลบชื่อ ออกจากทะเบียนนักศึกษา ตั้งแต่สอบไล่ฤดูร้อนตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม 2541 ลงชื่อ นายรังสรรค์ แสงสุข อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง จากกรณีดังกล่าวจึงเป็นเรื่องคุณธรรมจริยธรรม และขอถามรัฐมนตรี 3 ข้อ ว่า 1.นายสันติ อยู่กระทรวงเดียวกับ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก วันนี้เห็นหน้ากันแล้วรู้สึกกันอย่างไร ต่อกรณีที่ปลอมใบขับขี่ตลอดชีพ 2.นายสันติ จบปริญญาตรี ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหงปี 2545 และจบปริญญาโท ศิลปศาสตร์รัฐศาสตร์ปี 2547 แต่ตนข้องใจว่า นายสันติ ถูกลบชื่อออกแล้วเข้าไปเรียนต่ออย่างไร เพราะปกติคนโดนลบชื่อไม่สามารถกลับไปเรียนได้
3. วันนี้นายรังสรรค์ เป็นบอร์ดการบินไทย ขอถามว่า คนลบชื่อนายสันติ ออกจากนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแห่ง แต่กลับมานั่งบอร์ดภายใต้การกำกับดูแลงานของนายสันติได้อย่างไร อาจเปรียบเทียบกับกรณีการเนรคุณแต่ได้รับการยกย่องระหว่างลิโป้ กับตั๋งโต๊ะในสามก๊ก”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่พ.อ.วินัย อภิปรายปรากฏว่าฝนตกอย่างหนัก ทำให้ไฟฟ้าดับ จนทำให้สัญญาณการถ่ายทอดการประชุมเกิดเหตุขัดข้องไม่สามารถ ถ่ายทอดการประชุมได้ นายสมศักดิ์ จึงได้สั่งพักประชุมประมาณ 20 นาที
อย่างไรก็ตามหลังจากเปิดประชุมอีกครั้งปรากฏว่าน ายจาตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน ซึ่งทำหน้าที่ประท้วงอยู่เป็นประจำ ได้ลึกขึ้นประท้วงว่า หากสิ่งที่ พ.อ.วินัย อภิปรายเป็นเรื่องจริงตนก็พร้อมที่จะยกมือไม่ไว้วางใจนายสันตติ แต่ถ้าเป็นเรื่องเท็จจริงพ.อ.วินัย จะรับผิดชอบหรือไม่ เพราะได้ซักถามเรื่องนี้กับนายสันติแล้วก็ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และพร้อมจะลาออก หากเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง นายสันติ และตนพร้อมที่จะลาออก แต่ถ้าเรื่องนี้ไม่จริง พ.อ.วินัยกล้าเอาตำแหน่งเดิมพันหรือไม่
พ.อ.วินัย กล่าวยืนยันว่าเอกสารนี้เป็นของราชการมีการเซ็นรับรองสำเนา ถูกต้อง ถ้าไม่มั่นใจจริงไม่กล้าทำแน่นอน ตนเป็นผู้ชายใจนักเลงและสู้คน ถ้าเอกสารที่ตัวอ้างเป็นเท็จตนก็พร้อมจะลาออก จากการเป็น ส.ส.ทันที และขอประกาศต่อหน้าประชาชน ขณะที่นายสมศักดิ์ได้พยายามปรามไม่ให้เกิดข้อพิพาทกัน โดยกล่าวว่า ให้เลขาธิการสภาฯตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว
สันติปฎิเสธถูกลบชื่อจากม.รามฯ
ด้านนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.คมนาคมได้ชี้แจงว่า ตนไม่เคยทำใบขับขี่ตลอดชีวิตและไม่เคยดำเนินการใดๆ อย่างที่มีการกล่าวหาว่าตนถูกลบรายชื่อ ออกจากการเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง และทางมหาวิทยาลัยก็ไม่เคยมีปัญหาอะไรกับตนเลย ตนได้เข้าเรียนปริญญาตรี ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหงและจบเมื่อปี 2543 และจบปริญญาในปี45 และได้เรียนต่อปริญญาโทจนจบใน 2 ปีถัดมา ดังนั้นเรื่องที่มีการปลอมใบขับขี่หรือกระทำการใดๆ นั้นตนไม่เคยทำ ส่วนที่มหาวิทยาจะดำเนินการสิ่งใดนั้นตนไม่ทราบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการประชุมในช่วงเย็นค่อนข้างจะขลุกขลัก เนื่องจากต้องมีการพักประชุมในระหว่างที่นาย สมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ชี้แจงข้อกล่าวหาของกระทรวงคมนาคม เพราะเกิดเหตุกระแสไฟฟ้าขัดข้อง จนต้องใช้ไฟฟ้าสำรอง ทำให้แสงสว่างภายในห้องประชุมไม่เพียงพอ เห็นเพียงเงาดำๆเท่านั้น จนในที่สุดประธานต้องยอมสั่งพักการประชุมชั่วคราว ประมาณ 30 นาที
รังสรรค์ยันสันติ”จบรามฯถูกต้อง
นายรังสรรค์ แสงสุข อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง ชี้แจงว่า กรณี การสอบแทนกันเกิดขึ้นจริงแต่เป็นบุคคลอื่นที่ชื่อคล้ายนายสันติ พร้อมพัฒน์ คือ ชื่อ นายสานติ พรมพัฒน์ และจับผู้ที่สอบแทนนายสานติได้ ชื่อ นายสวัสดิ์ และดำเนินคดีไปแล้ว ส่วนกรณีนายสันตินั้น เป็นข้อผิดพลาดของฝ่ายวินัย ซึ่งไม่ได้มีการสอบสวน และเสนอชื่อนายสันติมาให้ตนลงนามคัดชื่อออก เมื่อนายสันติทราบเรื่องก็มาต่อว่ามหาวิทยาลัยว่าไม่ได้มีการสอบสวนก่อน และในปี 2542 เป็นปีที่ครบรอบ 72 พรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สภามหาวิทยาลัย ได้ออกระเบียบว่าด้วยการล้างมลทินเนื่องในมหามงคลพระชนมพรรษา 6 รอบของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 2542 ในระเบียบระบุให้ล้างมลทินให้แก่บรรดานักศึกษา ที่ผู้ถูกลงโทษทางวินัย หรือผู้ถูกกล่าวหาว่าทำผิดวินัยนักศึกษา ให้ถือว่าผู้นั้นมิได้เคยถูกกล่าวหา หรือถูกลงโทษ หรือถูกลงทัณฑ์ ทางวินัย นายสันติจึงใช้ช่องทางนั้นและได้รับโอนหน่วยกิตคืนมาทั้งหมด และจบการศึกษาในปี 2545
ยืนยันว่านายสันติ จบการศึกษาถูกต้อง มีทรานสคริปครบถ้วน โดยการนิรโทษกรรมนักศึกษาในปี 2542 มีทั้งหมด 44 คน โดยที่เราไม่รู้ว่า เป็นนายสันติหรือไม่ เพราะตอนนั้น ไม่มีใครรู้จักนายสันติ และการล้างมลทินลักษณะนี้ก็สอดคล้องกับกฎหมายล้างมลทิน ซึ่งก็ล้างมลทินให้กับข้าราชการที่ทุจริต สามารถกลับเข้ารับราชการได้ และอีกประการหนึ่ง เป็นเพราะทางมหาวิทยาลัยไม่ได้ตั้งกรรมการสอบสวนนายสันติ อาจมีการกลั่นแกล้งกันหรือไม่ก็ไม่ทราบ แต่ใครจะทะเลาะอะไรกัน ก็อย่ามาเอามหาวิทยาลัยรามคำแหงไปเป็นเหยื่อ
ส่วนกรณีเป็นบอร์ดการบินไทยนั้น ขอให้ไปตรวจสอบว่า ในแต่ละปีอาจารย์และนักศึกษารามฯ ใช้บริการการบินไทยมากแค่ไหน เรื่องนี้อย่ามาดูถูกกัน และผู้แต่งตั้งผมก็คือ กระทรวงการคลัง นายรังสรรค์ กล่าว
อาจารย์รามฯจับผิดข้ออ้างรังสรร
ด้านนายวิวัฒน์ชัย กุลมาตย์ อดีตรองอธิการบดี มหาวิทยาลัยรามคำแหง ปัจจุบันเป็นอาจารย์ประจำคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง กล่าวถึงกรณีที่ นายรังสรร แสงสุข ออกมายืนยันความบริสุทธิ์ของนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.คมนาคม โดยระบุว่าผู้ที่ถูกจับได้ว่าให้คนอื่นเข้ามาสอบแทนนั้น ไม่ใช่นายสันติ แต่เป็นนายสานติ พรมพัฒน์ ข้อเท็จจริงก็คือช่วงนั้น นายสันติ พร้อมพัฒน์ เป็น ส.ส.เพชรบูรณ์ พรรคความหวังใหม่ เป็นนักการเมืองที่มีชื่อเสียง และช่วงนั้นกรณีนี้ดังมากเพราะมีการตรวจสอบพบ ส.ส.ทุจริตเลือกตั้ง ไม่น่าเป็นไปได้ว่า มีความผิดพลาดของฝ่ายวินัยที่ใส่ชื่อผิดตามที่นายรังสรร อ้าง
นอกจากนี้ ในการพิจารณากรณีดังกล่าวมีคณะกรรมการซึ่งเป็นอาจารย์ ในมหาวิทยาลัยรามคำแห่งประชุมถึง 40 คน จะผิดพลาดได้อย่างไร อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ตรวจสอบไม่อยาก ให้ดูว่าระหัสนักศึกษา 4106562624 นั้นชื่อนายสันติ หรือไม่ ที่สำคัญหัวหน้าคุมสอบวันนั้นเป็นใคร สามารถตรวจสอบได้ว่ามีความผิดพลาดจริงหรือไม่ และวิชา PY103 ที่สอบเมื่อ วันที่ 5 มิถุนายน 2542 มีชื่อนายสันติ หรือสานติ หรือไม่และได้คะแนนเท่าไหร่ สิ่งเหล่านี้สามารถตรวจสอบได้เพราะมหาวิทยาลัยต้องเก็บเอกสารเหล่านี้ไว้
ส่วนที่นายรังสรร ระบุว่า ได้ดำเนินคดีกับนายสานติ และนายสวัสดิ์ ผู้ซึ่งเข้าสอบแทนนั้น แจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจไหน ศาลรับฟ้องหรือไม่ มีหมายเลขคดีหรือไม่ และผลการตัดสินเป็นอย่างไร สิ่งเหล่านี้ตรวจสอบไม่อยากเพื่อจะได้รู้ว่าใครพูดจริงใครพูดเท็จ
สำหรับการออกระเบียบเรื่องล้างมลทินแก่นักศึกษาที่ถูกลงโทษในกรณีนี้นี้นั้นก็หาไม่อยาก เพราะจะต้องนำเข้าสภามหาวิทยาลัย สามารถขอดูได้เช่นกัน
อาจารย์รามฯกล่าวโทษสันติ-รังสรรค์
นายวิวัฒน์ชัย กล่าวด้วยว่า วันเดียวกันนี้ ตนได้มอบอำนาจให้ นายโลมิรันดร์ บุตรจันทร์ ทนายความ เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษเพื่อให้ดำเนินคดีกับ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.กระทรวงคมนาคม ข้อหาปลอมแปลงเอกสารทางราชการและใช้เอกสารปลอม และนายรังสรรค์ แสงสุข สมัยเป็นอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง ข้อหาละเว้นหรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157
นายวิวัฒน์ชัย ระบุในหนังสือร้องทุกข์ ว่า ตนในฐานะอาจารย์ประจำคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2542 ในการสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2541 หัวหน้าตึก PRB ตรวจพบว่า นายสันติ รหัสประจำตัวนักศึกษา 4106562624 ได้ให้บุคคลอื่นเข้าสอบแทน โดยปลอมบัตรประจำตัวนักศึกษาและใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคลตลอดชีพ ของกรมการขนส่งทางบก และนำมาใช้เป็นหลักฐานเข้าห้องสอบ
ที่ประชุมของคณะกรรมการที่ปรึกษาของสภามหาวิทยาลัย (ทปอ.) ในการประชุมครั้งที่ 23/2542 วันที่ 30 มิถุนายน 2542 ได้พิจารณาแล้วเห็นว่าการกระทำของ นายสันติ ฝ่าฝืนคำสั่งมหาวิทยาลัยรามคำแหง ที่ 684/2537 เรื่องข้อปฏิบัติในการสอบไล่ ข้อ 1.20 อันเป็นการกระทำผิดวินัยร้ายแรง ตามข้อ 6 แห่งข้อบังคับมหาวิทยาลัยรามคำแหง ว่าด้วยวินัยนักศึกษา พ.ศ.2522 จึงมีมติให้ลบชื่อ นายสันติ ออกจากทะเบียนนักศึกษาตังแต่สอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2541 สั่ง ณ วันที่ 4 สิงหาคม 2542
ข้าพเจ้าในฐานะที่เป็นอาจารย์สอนที่ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ซึ่งเคยถูก มหาวิทยาลัยรามคำแหง ซึ่งเป็นนิติบุคคล โดย นายรังสรรค์ แสงสุข เป็นผู้บังคับบัญชา แจ้งความดำเนินคดีข้อหาหมิ่นประมาท ได้ยื่นหนังสือลงวันที่ 25 มิถุนายน 2551 เพื่อติดตามให้มหาวิทยาลัย ดำเนินคดีอาญากับนายสันติ โดยให้นำมาตรฐานเดียวกันมาปฏิบัติ ซึ่งมหาวิทยาลัยมีระเบียบ และกฎหมายดำเนินคดีอาญากับนักศึกษา ที่ผิดวินัยร้ายแรงอยู่แล้ว นายวัฒน์ชัย ระบุ
นายวิวัฒน์ชัย กล่าวอีกว่า นายสันติ ซึ่งถูกลบชื่อออกจากทะเบียนนักศึกษาไปแล้ว ได้บังอาจสมัครเป็นนักศึกษาใหม่มหาวิทยาลัยรามคำแหงอีก ทั้งที่รู้อยู่ว่าตนถูกลบชื่อไปแล้ว และไม่มีสิทธิสมัคร ซึ่งในเวลาดังกล่าว นายรังสรรค์ แสงสุข เป็นอธิการบดี เป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรงของพนักงานมหาวิทยาลัย ขณะเดียวกัน มหาวิทยาลัยรามคำแหง เป็นนิติบุคคลตามกฎหมายมหาชน มีอธิการบดี ปฏิบัติหน้าที่ตาม พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยรามคำแหง พ.ศ.2541 ได้มีการช่วยเหลือ หรือสนับสนุน หรือละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งกฎหมายให้มีอำนาจปฏิบัติ โดยได้ให้ นายสันติ ได้รับการรับสมัครเป็นนักศึกษาใหม่ ระดับปริญญาตรี และเรียนต่อระดับปริญญาโทจนจบ จึงเป็นการกระทำผิดตามระเบียบมหาวิทยาลัย เพราะเมื่อนายสันติถูกลบชื่อ ก็มีสิทธิสมัครเป็นนักศึกษา หรือจนกว่าจะขาดอายุความ 15 ปี
นายวิวัฒน์ชัย กล่าวว่า จากการที่มหาวิทยาลัย หรืออธิการบดี ไม่ดำเนินการ ตรวจสอบคุณสมบัติของนายสันติ ขณะเดียวกัน ก็มีหน้าที่ต้องดำเนินคดีกับนายสันติ แต่กลับไม่ดำเนินการใดๆ อีกทั้งยังสนันสนุนให้สมัครเรียนปริญญาตรีภาคพิเศษ จนจบปริญญาโท ทั้งที่มีกฎหมายให้ตรวจสอบและปฏิบัติ ถือว่าเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายอาญามาตรา 157 ตนในฐานะอาจารย์มหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้รับความเสียหายจากกระทำดังกล่าว เพราะทำให้ประชาชนทั่วไป รวมทั้งลูกศิษย์ปัจจุบันและศิษย์เก่า มหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้รับความเสียหาย เสียชื่อเสียง ขณะเดียวกัน นายสันติ ถือว่าขาดจริยธรรมสำหรับข้าราชการการเมืองด้วย
พ.อ.วินัย กล่าวว่า ตนรับคุณธรรมจริยธรรมของนายสันติ ไม่ได้ และรับไม่ได้กับการบริหารจัดการมองว่า บกพร่อง ล้มเหลว ไร้ประสิทธิภาพ โดยหยิบข้อมูล การถูกลบออกจากทะเบียนนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง ขณะที่เป็น ส.ส.เพชรบูรณ์ ของนายสันติ ในข้อกล่าวหา คือ ให้บุคคลอื่นเข้าสอบแทน โดยปลอมบัตร นักศึกษาและปลอมใบขับขี่ไปนั่งสอบแทน
พ.อ.วินัยกล่าวว่า ในตอนนั้นนายสันติ เป็นส.ส.เพชรบูรณ์ ตนไม่แน่ใจว่า สมัยที่ 2 หรือ 3 ได้มีการปลอมบัตรนักศึกษาและใบขับขี่ตลอดชีพ ให้บุคคลอื่นไปสอบแทน ทำให้มหาวิทยาลัยมีคำสั่งที่ 1170/2542 สอบไล่ภาคฤดูร้อนปีการศึกษา 2541 เรื่องการลงโทษลบชื่อออกจากทะเบียนนักศึกษา โดย หัวหน้าตึกสอบพีอาบี 201 รายงานว่า ในการสอบวิชา PY103 วันที่ 5 มิถุนายน 2542 คาบสอบที่ 1 นายสันติ พร้อมพัฒน์ ทะเบียน 4106562624 ให้บุคคลอื่นเข้าสอบแทนโดยการปลอมบัตรนักศึกษาและใบขับขี่ตลอดชีพ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส.ส.พรรคพลังประชาชน หลายคนได้ลุกขึ้นประท้วงว่า เอกสารที่นำมาอภิปรายควรจะมีการตรวจสอบก่อน และเป็นเรื่องส่วนตัวไม่เกี่ยวกับข้อกล่าวหาที่ตั้งไว้ และถือว่าผิดข้อบังคับการประชุม เพราะ นำเอกสารลับทางราชการมาอ่านถือว่าไม่เป็นธรรม แต่นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ รองประธานสภาคนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้วินิจฉัยว่าเกี่ยวข้องกับประเด็นคุณธรรมจริยธรรม จึงสามารถอภิปรายได้ แต่ขอให้พ.อ.วินัย เอาเอกสารนำเอกสารมามอบให้ตนด้วย
ด้านพ.อ.วินัย กล่าวต่อว่า คณะกรรมการมหาวิทยาลัย ประชุมครั้งที่ 23/2542 วันที่ 30 มิถุนายน พิจารณาแล้วเห็นว่านายสันติ ฝ่าฝืนคำสั่ง 684/2537 เรื่องทำผิดข้อบังคับการปฏิบัติในการสอบไล่ข้อ 1/20 โดยผิดวินัยนักศึกษาอย่างร้ายแรง จึงลงโทษลบชื่อ ออกจากทะเบียนนักศึกษา ตั้งแต่สอบไล่ฤดูร้อนตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม 2541 ลงชื่อ นายรังสรรค์ แสงสุข อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง จากกรณีดังกล่าวจึงเป็นเรื่องคุณธรรมจริยธรรม และขอถามรัฐมนตรี 3 ข้อ ว่า 1.นายสันติ อยู่กระทรวงเดียวกับ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก วันนี้เห็นหน้ากันแล้วรู้สึกกันอย่างไร ต่อกรณีที่ปลอมใบขับขี่ตลอดชีพ 2.นายสันติ จบปริญญาตรี ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหงปี 2545 และจบปริญญาโท ศิลปศาสตร์รัฐศาสตร์ปี 2547 แต่ตนข้องใจว่า นายสันติ ถูกลบชื่อออกแล้วเข้าไปเรียนต่ออย่างไร เพราะปกติคนโดนลบชื่อไม่สามารถกลับไปเรียนได้
3. วันนี้นายรังสรรค์ เป็นบอร์ดการบินไทย ขอถามว่า คนลบชื่อนายสันติ ออกจากนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแห่ง แต่กลับมานั่งบอร์ดภายใต้การกำกับดูแลงานของนายสันติได้อย่างไร อาจเปรียบเทียบกับกรณีการเนรคุณแต่ได้รับการยกย่องระหว่างลิโป้ กับตั๋งโต๊ะในสามก๊ก”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่พ.อ.วินัย อภิปรายปรากฏว่าฝนตกอย่างหนัก ทำให้ไฟฟ้าดับ จนทำให้สัญญาณการถ่ายทอดการประชุมเกิดเหตุขัดข้องไม่สามารถ ถ่ายทอดการประชุมได้ นายสมศักดิ์ จึงได้สั่งพักประชุมประมาณ 20 นาที
อย่างไรก็ตามหลังจากเปิดประชุมอีกครั้งปรากฏว่าน ายจาตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน ซึ่งทำหน้าที่ประท้วงอยู่เป็นประจำ ได้ลึกขึ้นประท้วงว่า หากสิ่งที่ พ.อ.วินัย อภิปรายเป็นเรื่องจริงตนก็พร้อมที่จะยกมือไม่ไว้วางใจนายสันตติ แต่ถ้าเป็นเรื่องเท็จจริงพ.อ.วินัย จะรับผิดชอบหรือไม่ เพราะได้ซักถามเรื่องนี้กับนายสันติแล้วก็ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และพร้อมจะลาออก หากเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง นายสันติ และตนพร้อมที่จะลาออก แต่ถ้าเรื่องนี้ไม่จริง พ.อ.วินัยกล้าเอาตำแหน่งเดิมพันหรือไม่
พ.อ.วินัย กล่าวยืนยันว่าเอกสารนี้เป็นของราชการมีการเซ็นรับรองสำเนา ถูกต้อง ถ้าไม่มั่นใจจริงไม่กล้าทำแน่นอน ตนเป็นผู้ชายใจนักเลงและสู้คน ถ้าเอกสารที่ตัวอ้างเป็นเท็จตนก็พร้อมจะลาออก จากการเป็น ส.ส.ทันที และขอประกาศต่อหน้าประชาชน ขณะที่นายสมศักดิ์ได้พยายามปรามไม่ให้เกิดข้อพิพาทกัน โดยกล่าวว่า ให้เลขาธิการสภาฯตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว
สันติปฎิเสธถูกลบชื่อจากม.รามฯ
ด้านนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.คมนาคมได้ชี้แจงว่า ตนไม่เคยทำใบขับขี่ตลอดชีวิตและไม่เคยดำเนินการใดๆ อย่างที่มีการกล่าวหาว่าตนถูกลบรายชื่อ ออกจากการเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง และทางมหาวิทยาลัยก็ไม่เคยมีปัญหาอะไรกับตนเลย ตนได้เข้าเรียนปริญญาตรี ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหงและจบเมื่อปี 2543 และจบปริญญาในปี45 และได้เรียนต่อปริญญาโทจนจบใน 2 ปีถัดมา ดังนั้นเรื่องที่มีการปลอมใบขับขี่หรือกระทำการใดๆ นั้นตนไม่เคยทำ ส่วนที่มหาวิทยาจะดำเนินการสิ่งใดนั้นตนไม่ทราบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการประชุมในช่วงเย็นค่อนข้างจะขลุกขลัก เนื่องจากต้องมีการพักประชุมในระหว่างที่นาย สมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ชี้แจงข้อกล่าวหาของกระทรวงคมนาคม เพราะเกิดเหตุกระแสไฟฟ้าขัดข้อง จนต้องใช้ไฟฟ้าสำรอง ทำให้แสงสว่างภายในห้องประชุมไม่เพียงพอ เห็นเพียงเงาดำๆเท่านั้น จนในที่สุดประธานต้องยอมสั่งพักการประชุมชั่วคราว ประมาณ 30 นาที
รังสรรค์ยันสันติ”จบรามฯถูกต้อง
นายรังสรรค์ แสงสุข อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง ชี้แจงว่า กรณี การสอบแทนกันเกิดขึ้นจริงแต่เป็นบุคคลอื่นที่ชื่อคล้ายนายสันติ พร้อมพัฒน์ คือ ชื่อ นายสานติ พรมพัฒน์ และจับผู้ที่สอบแทนนายสานติได้ ชื่อ นายสวัสดิ์ และดำเนินคดีไปแล้ว ส่วนกรณีนายสันตินั้น เป็นข้อผิดพลาดของฝ่ายวินัย ซึ่งไม่ได้มีการสอบสวน และเสนอชื่อนายสันติมาให้ตนลงนามคัดชื่อออก เมื่อนายสันติทราบเรื่องก็มาต่อว่ามหาวิทยาลัยว่าไม่ได้มีการสอบสวนก่อน และในปี 2542 เป็นปีที่ครบรอบ 72 พรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สภามหาวิทยาลัย ได้ออกระเบียบว่าด้วยการล้างมลทินเนื่องในมหามงคลพระชนมพรรษา 6 รอบของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 2542 ในระเบียบระบุให้ล้างมลทินให้แก่บรรดานักศึกษา ที่ผู้ถูกลงโทษทางวินัย หรือผู้ถูกกล่าวหาว่าทำผิดวินัยนักศึกษา ให้ถือว่าผู้นั้นมิได้เคยถูกกล่าวหา หรือถูกลงโทษ หรือถูกลงทัณฑ์ ทางวินัย นายสันติจึงใช้ช่องทางนั้นและได้รับโอนหน่วยกิตคืนมาทั้งหมด และจบการศึกษาในปี 2545
ยืนยันว่านายสันติ จบการศึกษาถูกต้อง มีทรานสคริปครบถ้วน โดยการนิรโทษกรรมนักศึกษาในปี 2542 มีทั้งหมด 44 คน โดยที่เราไม่รู้ว่า เป็นนายสันติหรือไม่ เพราะตอนนั้น ไม่มีใครรู้จักนายสันติ และการล้างมลทินลักษณะนี้ก็สอดคล้องกับกฎหมายล้างมลทิน ซึ่งก็ล้างมลทินให้กับข้าราชการที่ทุจริต สามารถกลับเข้ารับราชการได้ และอีกประการหนึ่ง เป็นเพราะทางมหาวิทยาลัยไม่ได้ตั้งกรรมการสอบสวนนายสันติ อาจมีการกลั่นแกล้งกันหรือไม่ก็ไม่ทราบ แต่ใครจะทะเลาะอะไรกัน ก็อย่ามาเอามหาวิทยาลัยรามคำแหงไปเป็นเหยื่อ
ส่วนกรณีเป็นบอร์ดการบินไทยนั้น ขอให้ไปตรวจสอบว่า ในแต่ละปีอาจารย์และนักศึกษารามฯ ใช้บริการการบินไทยมากแค่ไหน เรื่องนี้อย่ามาดูถูกกัน และผู้แต่งตั้งผมก็คือ กระทรวงการคลัง นายรังสรรค์ กล่าว
อาจารย์รามฯจับผิดข้ออ้างรังสรร
ด้านนายวิวัฒน์ชัย กุลมาตย์ อดีตรองอธิการบดี มหาวิทยาลัยรามคำแหง ปัจจุบันเป็นอาจารย์ประจำคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง กล่าวถึงกรณีที่ นายรังสรร แสงสุข ออกมายืนยันความบริสุทธิ์ของนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.คมนาคม โดยระบุว่าผู้ที่ถูกจับได้ว่าให้คนอื่นเข้ามาสอบแทนนั้น ไม่ใช่นายสันติ แต่เป็นนายสานติ พรมพัฒน์ ข้อเท็จจริงก็คือช่วงนั้น นายสันติ พร้อมพัฒน์ เป็น ส.ส.เพชรบูรณ์ พรรคความหวังใหม่ เป็นนักการเมืองที่มีชื่อเสียง และช่วงนั้นกรณีนี้ดังมากเพราะมีการตรวจสอบพบ ส.ส.ทุจริตเลือกตั้ง ไม่น่าเป็นไปได้ว่า มีความผิดพลาดของฝ่ายวินัยที่ใส่ชื่อผิดตามที่นายรังสรร อ้าง
นอกจากนี้ ในการพิจารณากรณีดังกล่าวมีคณะกรรมการซึ่งเป็นอาจารย์ ในมหาวิทยาลัยรามคำแห่งประชุมถึง 40 คน จะผิดพลาดได้อย่างไร อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ตรวจสอบไม่อยาก ให้ดูว่าระหัสนักศึกษา 4106562624 นั้นชื่อนายสันติ หรือไม่ ที่สำคัญหัวหน้าคุมสอบวันนั้นเป็นใคร สามารถตรวจสอบได้ว่ามีความผิดพลาดจริงหรือไม่ และวิชา PY103 ที่สอบเมื่อ วันที่ 5 มิถุนายน 2542 มีชื่อนายสันติ หรือสานติ หรือไม่และได้คะแนนเท่าไหร่ สิ่งเหล่านี้สามารถตรวจสอบได้เพราะมหาวิทยาลัยต้องเก็บเอกสารเหล่านี้ไว้
ส่วนที่นายรังสรร ระบุว่า ได้ดำเนินคดีกับนายสานติ และนายสวัสดิ์ ผู้ซึ่งเข้าสอบแทนนั้น แจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจไหน ศาลรับฟ้องหรือไม่ มีหมายเลขคดีหรือไม่ และผลการตัดสินเป็นอย่างไร สิ่งเหล่านี้ตรวจสอบไม่อยากเพื่อจะได้รู้ว่าใครพูดจริงใครพูดเท็จ
สำหรับการออกระเบียบเรื่องล้างมลทินแก่นักศึกษาที่ถูกลงโทษในกรณีนี้นี้นั้นก็หาไม่อยาก เพราะจะต้องนำเข้าสภามหาวิทยาลัย สามารถขอดูได้เช่นกัน
อาจารย์รามฯกล่าวโทษสันติ-รังสรรค์
นายวิวัฒน์ชัย กล่าวด้วยว่า วันเดียวกันนี้ ตนได้มอบอำนาจให้ นายโลมิรันดร์ บุตรจันทร์ ทนายความ เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษเพื่อให้ดำเนินคดีกับ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.กระทรวงคมนาคม ข้อหาปลอมแปลงเอกสารทางราชการและใช้เอกสารปลอม และนายรังสรรค์ แสงสุข สมัยเป็นอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง ข้อหาละเว้นหรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157
นายวิวัฒน์ชัย ระบุในหนังสือร้องทุกข์ ว่า ตนในฐานะอาจารย์ประจำคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2542 ในการสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2541 หัวหน้าตึก PRB ตรวจพบว่า นายสันติ รหัสประจำตัวนักศึกษา 4106562624 ได้ให้บุคคลอื่นเข้าสอบแทน โดยปลอมบัตรประจำตัวนักศึกษาและใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคลตลอดชีพ ของกรมการขนส่งทางบก และนำมาใช้เป็นหลักฐานเข้าห้องสอบ
ที่ประชุมของคณะกรรมการที่ปรึกษาของสภามหาวิทยาลัย (ทปอ.) ในการประชุมครั้งที่ 23/2542 วันที่ 30 มิถุนายน 2542 ได้พิจารณาแล้วเห็นว่าการกระทำของ นายสันติ ฝ่าฝืนคำสั่งมหาวิทยาลัยรามคำแหง ที่ 684/2537 เรื่องข้อปฏิบัติในการสอบไล่ ข้อ 1.20 อันเป็นการกระทำผิดวินัยร้ายแรง ตามข้อ 6 แห่งข้อบังคับมหาวิทยาลัยรามคำแหง ว่าด้วยวินัยนักศึกษา พ.ศ.2522 จึงมีมติให้ลบชื่อ นายสันติ ออกจากทะเบียนนักศึกษาตังแต่สอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2541 สั่ง ณ วันที่ 4 สิงหาคม 2542
ข้าพเจ้าในฐานะที่เป็นอาจารย์สอนที่ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ซึ่งเคยถูก มหาวิทยาลัยรามคำแหง ซึ่งเป็นนิติบุคคล โดย นายรังสรรค์ แสงสุข เป็นผู้บังคับบัญชา แจ้งความดำเนินคดีข้อหาหมิ่นประมาท ได้ยื่นหนังสือลงวันที่ 25 มิถุนายน 2551 เพื่อติดตามให้มหาวิทยาลัย ดำเนินคดีอาญากับนายสันติ โดยให้นำมาตรฐานเดียวกันมาปฏิบัติ ซึ่งมหาวิทยาลัยมีระเบียบ และกฎหมายดำเนินคดีอาญากับนักศึกษา ที่ผิดวินัยร้ายแรงอยู่แล้ว นายวัฒน์ชัย ระบุ
นายวิวัฒน์ชัย กล่าวอีกว่า นายสันติ ซึ่งถูกลบชื่อออกจากทะเบียนนักศึกษาไปแล้ว ได้บังอาจสมัครเป็นนักศึกษาใหม่มหาวิทยาลัยรามคำแหงอีก ทั้งที่รู้อยู่ว่าตนถูกลบชื่อไปแล้ว และไม่มีสิทธิสมัคร ซึ่งในเวลาดังกล่าว นายรังสรรค์ แสงสุข เป็นอธิการบดี เป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรงของพนักงานมหาวิทยาลัย ขณะเดียวกัน มหาวิทยาลัยรามคำแหง เป็นนิติบุคคลตามกฎหมายมหาชน มีอธิการบดี ปฏิบัติหน้าที่ตาม พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยรามคำแหง พ.ศ.2541 ได้มีการช่วยเหลือ หรือสนับสนุน หรือละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งกฎหมายให้มีอำนาจปฏิบัติ โดยได้ให้ นายสันติ ได้รับการรับสมัครเป็นนักศึกษาใหม่ ระดับปริญญาตรี และเรียนต่อระดับปริญญาโทจนจบ จึงเป็นการกระทำผิดตามระเบียบมหาวิทยาลัย เพราะเมื่อนายสันติถูกลบชื่อ ก็มีสิทธิสมัครเป็นนักศึกษา หรือจนกว่าจะขาดอายุความ 15 ปี
นายวิวัฒน์ชัย กล่าวว่า จากการที่มหาวิทยาลัย หรืออธิการบดี ไม่ดำเนินการ ตรวจสอบคุณสมบัติของนายสันติ ขณะเดียวกัน ก็มีหน้าที่ต้องดำเนินคดีกับนายสันติ แต่กลับไม่ดำเนินการใดๆ อีกทั้งยังสนันสนุนให้สมัครเรียนปริญญาตรีภาคพิเศษ จนจบปริญญาโท ทั้งที่มีกฎหมายให้ตรวจสอบและปฏิบัติ ถือว่าเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายอาญามาตรา 157 ตนในฐานะอาจารย์มหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้รับความเสียหายจากกระทำดังกล่าว เพราะทำให้ประชาชนทั่วไป รวมทั้งลูกศิษย์ปัจจุบันและศิษย์เก่า มหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้รับความเสียหาย เสียชื่อเสียง ขณะเดียวกัน นายสันติ ถือว่าขาดจริยธรรมสำหรับข้าราชการการเมืองด้วย