เปิดโปง “สันติ” โดนลบชื่อจาก ม.รามฯ “รังสรรค์” ฝืนอุ้มกลับเข้าเรียนจนจบ

ถึงคิวเชือด รมว.คมนาคม “วินัย” แฉ “สันติ” จ้างคนเข้าสอบ สมัยเรียนรามฯ จนถูกลบชื่อ แต่ “รังสรรค์” กลับรับเข้าเรียนใหม่จนจบ ป.ตรี-โท โดยอดีตอธิการบดีได้รางวัลเป็นบอร์ดการบินไทยตอบแทน ขณะลูกไล่ พปช.ประท้วงเติมเงินวุ่น ด้านเวทีพันธมิตรฯ แฉซ้ำ จวกแค่วิชาง่ายๆ ยังจ้างคนอื่นสอบแทน ไม่สมควรเป็น รมต.บริหารงบแสนล้าน เตรียมแจ้งจับอดีตอธิการรามคำแหง ที่หนองบัวลำภู พรุ่งนี้

เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น.วันนี้ (26 มิ.ย.) พ.อ.วินัย สมพงษ์ ส.ส.ระบบสัดส่วนกลุ่ม 5 พรรคประชาธิปัตย์ ลุกขึ้นอภิปราย นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ว่า รับไม่ได้กับปัญหาทางด้านคุณธรรมจริยธรรมของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมคนนี้ โดยเฉพาะในกรณีการถูกลบชื่อออกจากการเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง เมื่อปี 2542 เนื่องจากให้คนอื่นเข้าสอบแทน

โดย พ.อ.วินัย ได้นำหนังสือคำสั่ง มหาวิทยาลัยรามคำแหง ที่ 1170/2542 เรื่องลงโทษลบชื่อออกจากทะเบียนนักศึกษา มาอ่าน ซึ่งหนังสือดังกล่าวระบุว่า ในการสอบไล่ภาคฤดูร้อนปีการศึกษา 2541 หัวหน้าตึกสอบ PRB201 รายงานว่า ในการสอบกระบวนวิชา PY103 เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2542 คาบสอบที่ 1 ได้ตรวจพบ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รหัสประจำตัว 410 6562624 ได้ให้บุคคลอื่นเข้าสอบแทนโดยการปลอมบัตรประจำตัวนักศึกษา และใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคลตลอดชีพ ของกรมการขนส่งทางบก และใช้เป็นหลักฐานในการเข้าสอบ

มหาวิทยาลัยได้นำเรื่องนี้เสนอที่ประชุมคณะกรรมการที่ปรึกษาของสภามหาวิทยาลัย (ทปม.) ในการประชุมครั้งที่ 23/2542 เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2542 ซึ่งพิจารณาแล้วเห็นว่า การกระทำดังกล่าวของ นายสันติ พร้อมพัฒน์ เป็นการฝ่าฝืนคำสั่งมหาวิทยาลัยรามคำแหงที่ 664/2537 ลงวันที่ 12 พฤษภาคม 2537 เรื่อง ข้อปฏิบัติในการสอบไล่ข้อ 1.20 ซึ่งได้ประกาศให้ทราบโดยทั่วกันแล้ว อันเป็นการประทำผิดวินัยนักศึกษาอย่างร้ายแรงตามข้อ 6 แห่งข้อบังคับมหาวิทยาลัยรามคำแหง ว่าด้วยวินัยนักศึกษา พ.ศ.2522 จึงมีมติให้ลงโทษลบชื่อ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รหัสประจำตัว 4106562624 ออกจากทะเบียนนักศึกษา ทั้งนี้ ตั้งแต่สอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2541 เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ.2542 ลงชื่อ ศาตราจารย์รังสรรค์ แสงสุข อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง

ทั้งนี้ ระหว่างที่ พ.อ.วินัย กำลังอ่านหนังสือคำสั่งดังกล่าว ส.ส.พรรคพลังประชาชน ได้ลุกขึ้นประท้วงหลายคน เริ่มจาก นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ ได้ประท้วงว่า การอภิปรายของ พ.อ.วินัย ไม่ได้อยู่ในญัตติ เพราะเป็นการอภิปรายเรื่องส่วนตัวไม่เกี่ยวกับการบริหารงานในช่วง 4 เดือน อย่างไรก็ตาม นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ได้วินิจฉัยว่า การอภิปรายของ พ.อ.วินัย อยู่ในประเด็นเรื่องการขาดคุณธรรมจริยธรรมและให้อภิปรายต่อได้

นายศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.นครพนม ได้ลุกขึ้นประท้วง ว่า การอภิปรายของ พ.อ.วินัย ไม่เกี่ยวกับการบริหารงานของนายสันติในปัจจุบัน แต่ประธานในที่ประชุมได้ยืนยันคำวินิจฉัยตามเดิม แต่กระนั้น นายไตรรงค์ ตรีธรรม ส.ส.พรรคพลังประชาชน จ.หนองคาย ได้ลุกขึ้นชี้แจงอ้างว่าขอใช้สิทธิพาดพิงในฐานะศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยรามคำแหง แต่ นายสมศักดิ์ บอกให้นั่งลง และให้ พ.อ.วินัย อภิปรายต่อ

พ.อ.วินัย อภิปรายต่อว่า นายสันติ ได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม แต่มีปัญหาเรื่องปลอมใบขับขี่ จะมองหน้ากันกับอธิบดีกรมการขนส่งทางบกได้อย่างไร นอกจากนี้ ยังมีข้อสงสัยว่า ในเมื่อ นายสันติ ถูกลบชื่อออกจากการเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง ในปี 2542 แล้ว แต่กลับจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยแห่งนี้ในปี 2545 และจบปริญญาโทอีกในปี 2547 ทั้งที่ตามระเบียบแล้วคนที่ถูกลบชื่อออกจากมหาวิทยาลัยรามคำแหงจะไม่มีสิทธิกลับเข้ามาเรียนใหม่ได้

นอกจากนี้ พ.อ.วินัย กล่าวต่อว่า นายรังสรรค์ แสงสุข อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง ในช่วงนั้น ขณะนี้ได้เป็นกรรมการอิสระในการบินไทย เท่ากับว่า คนที่มีคำสั่งลบชื่อนายสันติออกจากการเป็นนักศึกษารามคำแหงแล้วได้กลับมาเรียนใหม่ ก็ได้ไปเป็นบอร์ดการบินไทย รมว.คมนาคม คนนี้มีคำถามเรื่องคุณธรรมจริยธรรม

หลังจากนั้น พ.อ.วินัย ได้ยกตัวอย่างพงศาวดารสามก๊ก เพื่อที่จะบอกว่า บางครั้งต้องเนรคุณคนบ้าง ถ้าคนที่มีบุญคุณเป็นคนไม่ดี เป็นการเนรคุณเพื่อให้ชาติบ้านเมืองไปได้ ทำให้ นพ.ประสิทธิ ชัยวิรัตนะ ส.ส.ชัยภูมิ พรรคพลังประชาชน ลุกขึ้นประท้วง อ้างว่า พ.อ.วินัย ไม่ได้อภิปรายการบริหารงานของ นายสันติ แต่ไปอภิปรายเรื่องในอดีต ซ้ำยังมาบอกว่า การเนรคุณเป็นเรื่องดี ซึ่งประธานในที่ประชุมได้บอกให้ พ.อ.วินัย ถอนคำพูดที่สนับสนุนให้เนรคุณ ซึ่ง พ.อ.วินัย ยอมถอน และได้อภิปรายต่อเรื่องโครงการรถไฟฟ้า อย่างไรก็ตาม เมื่อภิปรายไปจนถึงเวลาประมาณ 14.30 น.สถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีได้ตัดสัญญาณการถ่ายทอดกะทันหัน โดยอ้างว่า เกิดกระแสไฟฟ้าขัดข้องในห้องประชุมสภา จนถึงเวลาประมาณ 15.00 น.จึงกลับมาถ่ายทอดตามปกติ

ด้านนายสันติ ได้ชี้แจงว่า ตนไม่เคยทำใบขับขี่ตลอดชีวิตและไม่เคยดำเนินการใดๆ อย่างที่มีการกล่าวหาว่าตนถูกลบรายชื่อออกจากการเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง และทางมหาวิทยาลัยก็ไม่เคยมีปัญหาอะไรกับตนเลย ตนได้เข้าเรียนปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยรามคำแหงและจบเมื่อปี 2543 และจบปริญญาในปี 45 และได้เรียนต่อปริญญาโทจนจบใน2 ปีถัดมา ดังนั้นเรื่องที่มีการปลอมใบขับขี่หรือกระทำการใดๆ นั้นตนไม่เคยทำ ส่วนที่มหาวิทยาจะดำเนินการสิ่งใดนั้นตนไม่ทราบ

"รังสรรค์"ยัน"สันติ"จบรามฯ ถูกต้อง

นายรังสรรค์ แสงสุข อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง ชี้แจงว่า กรณี การสอบแทนกันเกิดขึ้นจริงแต่เป็นบุคคลอื่นที่ชื่อคล้ายนายสันติ พร้อมพัฒน์ คือ ชื่อ นายสานติ พรมพัฒน์ และจับผู้ที่สอบแทนนายสานติได้ ชื่อ นายสวัสดิ์ และดำเนินคดีไปแล้ว ส่วนกรณีนายสันตินั้น เป็นข้อผิดพลาดของฝ่ายวินัย ซึ่งไม่ได้มีการสอบสวน และเสนอชื่อนายสันติมาให้ตนลงนามคัดชื่อออก เมื่อนายสันติทราบเรื่องก็มาต่อว่ามหาวิทยาลัยว่าไม่ได้มีการสอบสวนก่อน และในปี 2542 เป็นปีที่ครบรอบ 72 พรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สภามหาวิทยาลัย ได้ออกระเบียบว่าด้วยการล้างมลทินเนื่องในมหามงคลพระชนมพรรษา 6 รอบของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 2542 ในระเบียบระบุให้ล้างมลทินให้แก่บรรดานักศึกษา ที่ผู้ถูกลงโทษทางวินัย หรือผู้ถูกกล่าวหาว่าทำผิดวินัยนักศึกษา ให้ถือว่าผู้นั้นมิได้เคยถูกกล่าวหา หรือถูกลงโทษ หรือถูกลงทัณฑ์ ทางวินัย นายสันติจึงใช้ช่องทางนั้นและได้รับโอนหน่วยกิตคืนมาทั้งหมด และจบการศึกษาในปี 2545

"ยืนยันว่านายสันติ จบการศึกษาถูกต้อง มีทรานสคริปครบถ้วน โดยการนิรโทษกรรมนักศึกษาในปี 2542 มีทั้งหมด 44 คน โดยที่เราไม่รู้ว่า เป็นนายสันติหรือไม่ เพราะตอนนั้น ไม่มีใครรู้จักนายสันติ และการล้างมลทินลักษณะนี้ก็สอดคล้องกับกฎหมายล้างมลทิน ซึ่งก็ล้างมลทินให้กับข้าราชการที่ทุจริต สามารถกลับเข้ารับราชการได้ และอีกประการหนึ่ง เป็นเพราะทางมหาวิทยาลัยไม่ได้ตั้งกรรมการสอบสวนนายสันติ อาจมีการกลั่นแกล้งกันหรือไม่ก็ไม่ทราบ แต่ใครจะทะเลาะอะไรกัน ก็อย่ามาเอามหาวิทยาลัยรามคำแหงไปเป็นเหยื่อ

"ส่วนกรณีเป็นบอร์ดการบินไทยนั้น ขอให้ไปตรวจสอบว่า ในแต่ละปีอาจารย์และนักศึกษารามฯ ใช้บริการการบินไทยมากแค่ไหน เรื่องนี้อย่ามาดูถูกกัน และผู้แต่งตั้งผมก็คือ กระทรวงการคลัง" นายรังสรรค์ กล่าว

อาจารย์รามฯ จับผิดข้ออ้าง"รังสรร"

ด้านนายวิวัฒน์ชัย กุลมาตย์ อดีตรองอธิการบดี มหาวิทยาลัยรามคำแหง ปัจจุบันเป็นอาจารย์ประจำคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง กล่าวถึงกรณีที่ นายรังสรร แสงสุข ออกมายืนยันความบริสุทธิ์ของนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.คมนาคม โดยระบุว่าผู้ที่ถูกจับได้ว่าให้คนอื่นเข้ามาสอบแทนนั้น ไม่ใช่นายสันติ แต่เป็นนายสานติ พรมพัฒน์ ข้อเท็จจริงก็คือช่วงนั้น นายสันติ พร้อมพัฒน์ เป็น ส.ส.เพชรบูรณ์ พรรคความหวังใหม่ เป็นนักการเมืองที่มีชื่อเสียง และช่วงนั้นกรณีนี้ดังมากเพราะมีการตรวจสอบพบ ส.ส.ทุจริตเลือกตั้ง ไม่น่าเป็นไปได้ว่า มีความผิดพลาดของฝ่ายวินัยที่ใส่ชื่อผิดตามที่นายรังสรร อ้าง

นอกจากนี้ ในการพิจารณากรณีดังกล่าวมีคณะกรรมการซึ่งเป็นอาจารย์ ในมหาวิทยาลัยรามคำแห่งประชุมถึง 40 คน จะผิดพลาดได้อย่างไร อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ตรวจสอบไม่อยาก ให้ดูว่าระหัสนักศึกษา 4106562624 นั้นชื่อนายสันติ หรือไม่ ที่สำคัญหัวหน้าคุมสอบวันนั้นเป็นใคร สามารถตรวจสอบได้ว่ามีความผิดพลาดจริงหรือไม่ และวิชา PY103 ที่สอบเมื่อ วันที่ 5 มิถุนายน 2542 มีชื่อนายสันติ หรือสานติ หรือไม่และได้คะแนนเท่าไหร่ สิ่งเหล่านี้สามารถตรวจสอบได้เพราะมหาวิทยาลัยต้องเก็บเอกสารเหล่านี้ไว้

ส่วนที่นายรังสรร ระบุว่า ได้ดำเนินคดีกับนายสานติ และนายสวัสดิ์ ผู้ซึ่งเข้าสอบแทนนั้น แจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจไหน ศาลรับฟ้องหรือไม่ มีหมายเลขคดีหรือไม่ และผลการตัดสินเป็นอย่างไร สิ่งเหล่านี้ตรวจสอบไม่อยากเพื่อจะได้รู้ว่าใครพูดจริงใครพูดเท็จ

สำหรับการออกระเบียบเรื่องล้างมลทินแก่นักศึกษาที่ถูกลงโทษในกรณีนี้นี้นั้นก็หาไม่อยาก เพราะจะต้องนำเข้าสภามหาวิทยาลัย สามารถขอดูได้เช่นกัน
**พันธมิตรฯ ถล่มซ้ำ

ขณะเดียวกัน ที่เวทีการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หน้าทำเนียบรัฐบาล นายวัชระ เพชรทอง อดีตบรรณาธิการหนังสือพิมพ์แนวหน้า ในฐานะศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้ขึ้นเวทีปราศรัยโดยได้นำหนังสือคำสั่งของมหาวิทยาลัยรามคำแหงที่ให้ลบชื่อนายสันติ ออกจากการเป็นนักศึกษามาเปิดเผยเช่นกัน โดยบอกว่า วิชา PY103 ที่นายสันติให้คนอื่นเข้าสอบแทนนั้นเป็นวิชาปรัชญาเบื้องต้น ซึ่งเป็นวิชาที่ง่ายมาก แต่ นายสันติ ก็ยังให้คนอื่นไปสอบแทน

นายวัชระ กล่าวว่า เมื่อ นายสันติ ถูกจับได้ว่าให้คนอื่นเข้าสอบแทนจนถูกลบชื่อออก จึงมีคำถามว่า นายสันติ จบปริญญาตรีรามคำแหงมาได้อย่างไร และจะมีคุณสมบัติเป็นรัฐมนตรีหรือไม่ เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่าคนที่เป็นรัฐมนตรีต้องจบปริญญาตรี

“สำหรับ นายสันติ นั้น อย่าว่าแต่เรียนให้จบเลย ขนาดวิชาง่ายๆ อย่างปรัชญาเบื้องต้น เขายังทุจริตในการสอบ แล้วจะไว้ใจบริหารงบประมาณประเทศเป็นหมื่นแสนล้านได้อย่างไร แล้วคิดหรือว่า โครงการรถเมล์ รถไฟฟ้า โครงการระบบคมนาคมต่างๆ รัฐมนตรีคนนี้จะไม่ทุจริต ขนาดวิชากล้วยๆ หลับตากาก็ถูก ก็ยังโกง นี่เป็นตัวอย่างหนึ่ง ของระบอบทักษิณอันเลวร้าย” นายวัชระ กล่าว

หลังจากนั้น นายไทกร พลสุวรรณ แกนนำกลุ่มอีสานกู้ชาติ ศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยรามคำแหงอีกคนหนึ่ง ได้ขึ้นเวทีปราศรัยต่อจากนายวัชระ โดยกล่าวว่า หากนักศึกษาคนใดถูกสภามหาวิทยาลัยรามคำแหง ลบชื่อออกจากการเป็นนักศึกษาแล้ว จะไม่สามารถสมัครกลับเข้ามาเป็นนักศึกษาได้อีก

ทั้งนี้ ในสมัยที่ นายสันติ เป็น ส.ส.จังหวัดเพชรบูรณ์ ในพรรคความหวังใหม่ เคยใช้วุฒิการศึกษาของวิทยาลัยบัณฑิตสกลนคร ซึ่งต่อมาถูกทบวงมหาวิทยาลัยสั่งยุบ เพราะการเรียนการสอนไม่ได้มาตรฐาน แค่ลงทะเบียนเรียนไม่ต้องสอบก็จบได้ แต่รัฐธรรมนูญตั้งแต่ปี 2540 กำหนดให้รัฐมนตรีต้องจบปริญญาตรี นายสันติ ซึ่งอยู่ในกลุ่มเดียวกันกับ นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล จึงสมัครเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยรามคำแหง

นายไทกร กล่าวต่อว่า จนมีการสอบไล่ในปี 2542 มีบุคคลหนึ่งเข้าไปนั่งสอบ ใช้บัตรนักศึกษาชื่อ นายสันติ พร้อมพัฒน์ แต่เป็นรูปของอีกคนหนึ่ง เจ้าหน้าที่คุมสอบจึงเรียกตรวจ เมื่อดูบัตร ด้วยความที่นายสันติเป็น ส.ส.ทำให้เจ้าหน้าที่เอะใจว่ารูปไม่เหมือนหน้านายสันติ จึงขอเรียกดูบัตร คนๆ นั้นได้เอาใบขับขี่ให้ดู ก็ชื่อ นายสันติ แต่เป็นรูปของอีกคน เมื่อมีการตรวจสอบข้อมูลในคอมพิวเตอร์ของมหาวิทยาลัย จึงทราบว่าคนที่นั่งสอบไม่ใช่นายสันติ แต่เป็นคนอื่นที่รับจ้างเข้ามาสอบเพื่อให้ผ่านวิชา PY103 จึงเชิญออกจากห้อง และยกเลิกการสอบ พร้อมกับเสนอเรื่องเข้าสภามหาวิทยาลัยทำการตรวจสอบชัดเจนแล้วจึงให้ลบชื่อนายสันติออกจากการเป็นนักศึกษา

“แต่ปัญหาสำคัญ วันพรุ่งนี้จะมีน้องๆ จากจังหวัดหนองบัวลำภู ไปแจ้งความดำเนินคดีกับ 1.นายรังสรรค์ แสงสุข เพื่อนร่วมก๊วนกอล์ฟกับทักษิณ ชินวัตร ในฐานะเป็นอธิการบดี ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ นายสันติ พร้อมพัฒน์ ถูกลบชื่อออกจากการเป็นมหาวิทยาลัยรามคำแหงแล้ว ทำไมปล่อยให้นายสันติไปสมัครเป็นนักศึกษาปริญญาตรี ในโครงการพิเศษของมหาวิทยาลัยรามคำแหงอีก นี่คือ เรื่องที่ ศาสตราจารย์รังสรรค์ ต้องถูกดำเนินคดีในวันพรุ่งนี้

“สะท้อนให้เห็นว่า รัฐบาลนายสมัคร เต็มไปด้วยบุคคลที่พฤติกรรมทุจริตตลอดเวลา ขนาดสอบก็ยังโกง จ้างคนอื่นไปสอบให้ แล้วเราจะไว้วางใจให้คนพวกนี้ บริหารประเทศต่อไปหรือครับพี่น้อง นอกจากนี้ นายสันติ เป็นคนรับผิดชอบ ส.ส.ในสายเสี่ยงเพ้ง อดีตรัฐมนตรีคมนาคม ผู้ทำมาหากินกับหนองงูเห่าจนเป็นโครงการอภิมหาโกง” นายไทกร กล่าว