“สนธิ” เปิดโปงกระบวนการทุนสามานย์ปล้นชาติ ใช้กรณี “ปราสาทพระวิหาร” บังหน้า แฉ “แม้ว” วางแผนชั่วสมคบ “ฮุนเซน” ฮุบธุรกิจพลังงานในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลอ่าวไทย ย้ำถ้ายอมรับแผนที่เขมรอัตราส่วน 1 ต่อ 2 แสน จะทำให้พื้นที่พิพาท 40 จุดตกเป็นของเขมรทันที รวมทั้งเกาะกูดด้วย ยืนยันไม่สนใจโวหารแก๊งโจรในสภาเพราะโหวตชนะแน่นอน
เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. เมื่อเวลาประมาณ 21.30 น. นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีปราศรัยหน้าทำเนียบรัฐบาล โดยเริ่มระบุถึงพฤติกรรมของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ที่ชอบกล่าวว่าตนเองจงรักภักดี พ่อเป็นเจ้าพระยา กลับใช้เอกสารเท็จส่อหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เมื่อครั้งที่ นายห้างทอง ธรรมวัฒนะ เสียชีวิต และได้ยื่นขอพระราชทานเพลิงศพโดยอ้างว่าเป็นผู้จัดการมรดกทั้งที่ยังไม่ได้แต่งตั้งเลย เรื่องแบบนี้ยังกล้าทำแล้วเรื่องอื่นที่เกี่ยวกับการขายชาติทำไมจะไม่กล้า
“คุณสมัครชอบอ้างว่าอายุมากกว่ามีความสามารถ แต่แท้ที่จริงแล้วอยู่เกิน 1 วันยังมีปัญหาเลย" นายสนธิ ระบุพร้อมระบุถึงต้นเหตุของกรณีปราสาทพระวิหารที่มีปัญหาในวันนี้ โดยย้อนอดีตให้ฟังว่าเกิดจากกรณีที่เจ้าของห้างแฮร์รอดส์ในอังกฤษ คือ นายโมฮัมเหม็ด อัลฟาเยด มาเยี่ยม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สมัยที่ยังเป็นนายกฯ แล้วบอกว่าอยากลงทุนด้านพลังงาน และสนใจพื้นที่ทับซ้อนในอ่าวไทย ดังนั้น เมื่อเป็นพื้นที่ทับซ้อนก็มีปัญหาต้องมาเริ่มกระบวนการกันใหม่
นายสนธิ ได้ตั้งข้อสังเกตกรณีสมัยที่ นายวิเศษ จูภิบาล อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท.ที่ต่อมาได้เป็นรัฐมนตรีพลังงานเคยสั่งให้ ปตท.ไปสำรวจในอ่าวไทยพบว่ามีน้ำมันมหาศาล พร้อมตั้งข้อสังเกตเชื่อมโยงกับกรณีการแปรรูป กฟผ.และการขายหุ้นชินคอร์ป 73,000 ล้านบาท ล้วนโยงกับธุรกิจด้านพลังงาน แต่เมื่อฟ้ามีตาแปรรูป กฟผ.ไม่สำเร็จเพราะมีพันธมิตรฯ คอยขวางทางอยู่ จนเกิดการยึดอำนาจ 19 ก.ย.จนต้องออกไป
อย่างไรก็ดี นายสนธิ กล่าวว่า ความพยายามเรื่องนี้ยังไม่สิ้นสุด ยังดำเนินการผ่านทางพรรคพลังประชาชน การแต่งตั้ง นายนพดล เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ที่เริ่มต้นด้วยการย้ายอธิบกรมสนธิสัญญา เพราะเป็นก้างขวางคอ ต่อมามีการย้ายเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) แล้วเอา พล.ท.สุรพล ซึ่งเป็นเตรียมทหารรุ่น 10 รุ่นเดียวกับทักษิณ มาเป็นแทนเพื่อภารกิจปราสาทพระวิหาร แล้วอย่างนี้จะมีคนค้านได้อย่างไร ก็เพราะย้ายคนที่ไม่เห็นด้วยออกไปหมดแล้ว
นายสนธิ กล่าวต่อว่า พื้นที่ปราสาทพระวิหารนั้น ตั้งแต่สมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เรื่อยมา ไม่มีรัฐบาลไหนยอมรับแผนที่เขมร ที่ใช้อัตราส่วน 1 ต่อ 2 แสน ขณะที่ไทยใช้ 1 ต่อ 5 หมื่น
“ถ้าไทยยอมรับอัตราส่วน 1 ต่อ 2 แสนของเขมรที่ทำเอาไว้กรณีปราสาทพระวิหารเท่ากับยอมรับอัตราส่วนนี้ต่อไปในอนาคต และเท่ากับว่าจุดขัดแย้ง 40 จุดจะมีปัญหาทันที”
นายสนธิ ระบุ และว่า ที่ผ่านมกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 ยืนยันว่า เขมรยังยืนยันในแผนที่อัตราส่วน 1 ต่อ 2 แสนมาตลอด ขณะที่ไทยยังยืนยันในอัตราส่วน 1 ต่อ 5 หมื่น ดังนั้น ถ้ายอมแผนที่เขมรจะมีปัญหาต่อการปักปันเขตแดนในอนาคต แต่เลขา สมช.เตรียมทหารรุ่น 10 เพื่อนทักษิณไม่นำเข้าคณะรัฐมนตรี(ครม.)
นายสนธิ ระบุอีกว่า การที่นายสมัครบอกว่า เลขาฯ สมช.และอธิบดีกรมสนธิสัญญาเห็นด้วย ก็จะไม่เห็นด้วยได้อย่างไร เพราะมีการโยกย้ายไปหมดแล้ว น่าผิดหวังข้าราชการที่อ้างว่าเป็นข้าราชการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กรณีเขาพระวิหารทำให้นึกย้อนอดีตกรณีของรองอธิบดีกรมสรรพากรที่ยอมช่วยตระกูลชินวัตรเรื่องภาษีเพื่อแลกกับการได้เป็นอธิบดี
นายสนธิ กล่าวต่อว่า กรณีเขตแดนเขาพระวิหาร จะเป็นบรรทัดฐานให้แก่การแบ่งเส้นเขตแดนในทะเลระหว่างไทย-กัมพูชา บริเวณเกาะกูดด้วย ถ้ามีการนำเรื่องนี้ไปฟ้องศาลโลก แล้วมีการอ้างถึงเขตปราสาทพระวิหารที่ไทยเห็นชอบแล้ว เราก็จะแพ้ ดังนั้น กรณีเขาพระวิหารเป็นฉากบังหน้า แต่เป็นกระบวนการขายชาติที่มีการวางแผนกันมาอย่างต่อเนื่อง
นายสนธิ กล่าวถึงกรณีที่พันธมิตรฯ ส่งตัวแทนไปร้องศาลปกครองให้ระงับมติคครม.เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.ที่ยอมยกอธิปไตยเหนือปราสาทพระวิหารและมีการลงนามในแถลงการณ์ร่วมกันไปแล้วว่เป็นมติที่มิชอบ นายนพดล ปัทมะจะต้องมีความผิดตามมาตรา 157 ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และ ครม.ทั้งคณะจะต้องติดคุก พร้อมกันนี้ศาลปกครองยังให้เปิดเผยเอกสารทั้งหมดที่ นายนพดลอ้างว่าเป็นความลับ
“วันนี้เป็นเรื่องของฮุนเซนไปตกลงกับเจ้านายของ นายนพดล กันเพียงสองคน ดังนั้น ทั้งคนไทยและเขมรเลยซวยด้วยกันทั้งสองสองฝ่าย และอยากถามถึงคนเกาะกงว่า จะยอมให้ฮุนเซนยกแผ่นดินเกาะกงให้ทักษิณเช่าถึง 99 ปีได้อย่างไร วันนี้ไม่ใช่เรื่องการเมือง เรื่องรัฐธรรมนูญ แต่เป็นของชาติ ซึ่งมั่นยิ่งใหญ่กว่า” นายสนธิ ระบุ
นายสนธิ กล่าวว่า เวลานี้ไม่สนใจโวหารในสภา เพราะพอวันพฤหัสบดีที่มีการยกมือมันก็ชนะ อย่างนี้มันสภาโจร และวันนี้มีการทบทวนมติครม.เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.เพราะพันธมิตรฯ ถ้าเราเป็นแก๊งข้างถนน แต่ยังดีกว่าโจรปล้นชาติในตึกไทยคู่ฟ้า
นายสนธิ กล่าวในตอนท้ายว่า ให้รอฟังเสียงนกหวีดอีกครั้งและให้บอกพี่น้องทั่วประเทศให้เตรียมตัวให้พร้อมและฝากไปถึง หมัก-เหลิมนอนไม่หลับไปจนชั่วลูกชั่วหลาน และขอบารมีของเสด็จเตี่ยกรมหลวงชุมพรฯคนดี และขอให้คนชั่วปล้นชาติได้ตกนรกอเวจีไปเลย
เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. เมื่อเวลาประมาณ 21.30 น. นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีปราศรัยหน้าทำเนียบรัฐบาล โดยเริ่มระบุถึงพฤติกรรมของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ที่ชอบกล่าวว่าตนเองจงรักภักดี พ่อเป็นเจ้าพระยา กลับใช้เอกสารเท็จส่อหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เมื่อครั้งที่ นายห้างทอง ธรรมวัฒนะ เสียชีวิต และได้ยื่นขอพระราชทานเพลิงศพโดยอ้างว่าเป็นผู้จัดการมรดกทั้งที่ยังไม่ได้แต่งตั้งเลย เรื่องแบบนี้ยังกล้าทำแล้วเรื่องอื่นที่เกี่ยวกับการขายชาติทำไมจะไม่กล้า
“คุณสมัครชอบอ้างว่าอายุมากกว่ามีความสามารถ แต่แท้ที่จริงแล้วอยู่เกิน 1 วันยังมีปัญหาเลย" นายสนธิ ระบุพร้อมระบุถึงต้นเหตุของกรณีปราสาทพระวิหารที่มีปัญหาในวันนี้ โดยย้อนอดีตให้ฟังว่าเกิดจากกรณีที่เจ้าของห้างแฮร์รอดส์ในอังกฤษ คือ นายโมฮัมเหม็ด อัลฟาเยด มาเยี่ยม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สมัยที่ยังเป็นนายกฯ แล้วบอกว่าอยากลงทุนด้านพลังงาน และสนใจพื้นที่ทับซ้อนในอ่าวไทย ดังนั้น เมื่อเป็นพื้นที่ทับซ้อนก็มีปัญหาต้องมาเริ่มกระบวนการกันใหม่
นายสนธิ ได้ตั้งข้อสังเกตกรณีสมัยที่ นายวิเศษ จูภิบาล อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท.ที่ต่อมาได้เป็นรัฐมนตรีพลังงานเคยสั่งให้ ปตท.ไปสำรวจในอ่าวไทยพบว่ามีน้ำมันมหาศาล พร้อมตั้งข้อสังเกตเชื่อมโยงกับกรณีการแปรรูป กฟผ.และการขายหุ้นชินคอร์ป 73,000 ล้านบาท ล้วนโยงกับธุรกิจด้านพลังงาน แต่เมื่อฟ้ามีตาแปรรูป กฟผ.ไม่สำเร็จเพราะมีพันธมิตรฯ คอยขวางทางอยู่ จนเกิดการยึดอำนาจ 19 ก.ย.จนต้องออกไป
อย่างไรก็ดี นายสนธิ กล่าวว่า ความพยายามเรื่องนี้ยังไม่สิ้นสุด ยังดำเนินการผ่านทางพรรคพลังประชาชน การแต่งตั้ง นายนพดล เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ที่เริ่มต้นด้วยการย้ายอธิบกรมสนธิสัญญา เพราะเป็นก้างขวางคอ ต่อมามีการย้ายเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) แล้วเอา พล.ท.สุรพล ซึ่งเป็นเตรียมทหารรุ่น 10 รุ่นเดียวกับทักษิณ มาเป็นแทนเพื่อภารกิจปราสาทพระวิหาร แล้วอย่างนี้จะมีคนค้านได้อย่างไร ก็เพราะย้ายคนที่ไม่เห็นด้วยออกไปหมดแล้ว
นายสนธิ กล่าวต่อว่า พื้นที่ปราสาทพระวิหารนั้น ตั้งแต่สมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เรื่อยมา ไม่มีรัฐบาลไหนยอมรับแผนที่เขมร ที่ใช้อัตราส่วน 1 ต่อ 2 แสน ขณะที่ไทยใช้ 1 ต่อ 5 หมื่น
“ถ้าไทยยอมรับอัตราส่วน 1 ต่อ 2 แสนของเขมรที่ทำเอาไว้กรณีปราสาทพระวิหารเท่ากับยอมรับอัตราส่วนนี้ต่อไปในอนาคต และเท่ากับว่าจุดขัดแย้ง 40 จุดจะมีปัญหาทันที”
นายสนธิ ระบุ และว่า ที่ผ่านมกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 ยืนยันว่า เขมรยังยืนยันในแผนที่อัตราส่วน 1 ต่อ 2 แสนมาตลอด ขณะที่ไทยยังยืนยันในอัตราส่วน 1 ต่อ 5 หมื่น ดังนั้น ถ้ายอมแผนที่เขมรจะมีปัญหาต่อการปักปันเขตแดนในอนาคต แต่เลขา สมช.เตรียมทหารรุ่น 10 เพื่อนทักษิณไม่นำเข้าคณะรัฐมนตรี(ครม.)
นายสนธิ ระบุอีกว่า การที่นายสมัครบอกว่า เลขาฯ สมช.และอธิบดีกรมสนธิสัญญาเห็นด้วย ก็จะไม่เห็นด้วยได้อย่างไร เพราะมีการโยกย้ายไปหมดแล้ว น่าผิดหวังข้าราชการที่อ้างว่าเป็นข้าราชการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กรณีเขาพระวิหารทำให้นึกย้อนอดีตกรณีของรองอธิบดีกรมสรรพากรที่ยอมช่วยตระกูลชินวัตรเรื่องภาษีเพื่อแลกกับการได้เป็นอธิบดี
นายสนธิ กล่าวต่อว่า กรณีเขตแดนเขาพระวิหาร จะเป็นบรรทัดฐานให้แก่การแบ่งเส้นเขตแดนในทะเลระหว่างไทย-กัมพูชา บริเวณเกาะกูดด้วย ถ้ามีการนำเรื่องนี้ไปฟ้องศาลโลก แล้วมีการอ้างถึงเขตปราสาทพระวิหารที่ไทยเห็นชอบแล้ว เราก็จะแพ้ ดังนั้น กรณีเขาพระวิหารเป็นฉากบังหน้า แต่เป็นกระบวนการขายชาติที่มีการวางแผนกันมาอย่างต่อเนื่อง
นายสนธิ กล่าวถึงกรณีที่พันธมิตรฯ ส่งตัวแทนไปร้องศาลปกครองให้ระงับมติคครม.เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.ที่ยอมยกอธิปไตยเหนือปราสาทพระวิหารและมีการลงนามในแถลงการณ์ร่วมกันไปแล้วว่เป็นมติที่มิชอบ นายนพดล ปัทมะจะต้องมีความผิดตามมาตรา 157 ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และ ครม.ทั้งคณะจะต้องติดคุก พร้อมกันนี้ศาลปกครองยังให้เปิดเผยเอกสารทั้งหมดที่ นายนพดลอ้างว่าเป็นความลับ
“วันนี้เป็นเรื่องของฮุนเซนไปตกลงกับเจ้านายของ นายนพดล กันเพียงสองคน ดังนั้น ทั้งคนไทยและเขมรเลยซวยด้วยกันทั้งสองสองฝ่าย และอยากถามถึงคนเกาะกงว่า จะยอมให้ฮุนเซนยกแผ่นดินเกาะกงให้ทักษิณเช่าถึง 99 ปีได้อย่างไร วันนี้ไม่ใช่เรื่องการเมือง เรื่องรัฐธรรมนูญ แต่เป็นของชาติ ซึ่งมั่นยิ่งใหญ่กว่า” นายสนธิ ระบุ
นายสนธิ กล่าวว่า เวลานี้ไม่สนใจโวหารในสภา เพราะพอวันพฤหัสบดีที่มีการยกมือมันก็ชนะ อย่างนี้มันสภาโจร และวันนี้มีการทบทวนมติครม.เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.เพราะพันธมิตรฯ ถ้าเราเป็นแก๊งข้างถนน แต่ยังดีกว่าโจรปล้นชาติในตึกไทยคู่ฟ้า
นายสนธิ กล่าวในตอนท้ายว่า ให้รอฟังเสียงนกหวีดอีกครั้งและให้บอกพี่น้องทั่วประเทศให้เตรียมตัวให้พร้อมและฝากไปถึง หมัก-เหลิมนอนไม่หลับไปจนชั่วลูกชั่วหลาน และขอบารมีของเสด็จเตี่ยกรมหลวงชุมพรฯคนดี และขอให้คนชั่วปล้นชาติได้ตกนรกอเวจีไปเลย