ผู้จัดการรายวัน – พิษเศรษฐกิจปีนี้ฉุดตลาดเหล้านำเข้า 3.7 ล้านลัง หดตัว 15% สแตนดาร์ดกระอักผู้ดื่มหันซดเบียร์แทน ส่วนเหล้าหรูไม่กระทบ “เดวาร์”ฉวยเซกเมนต์พรีเมียมขาขึ้น รุกสร้างแบรนด์ในวงกว้าง อัดแคมเปญโฆษณาชุด ” Parachute” ด้านเรด เลเบิ้ล - ฮันเดรด ระเบิดสงครามราคา ตั้งเป้า 2 ปี ขึ้นเบอร์ 2 แทนที่ ฮันเดรดฯ 8 ปี ครองแชร์ 30% ส่วนสิ้นปีโกยแชร์เพิ่มจาก 10% เป็น 15%
นายชลเทพ เจริญสุวรรณ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท บาคาร์ดี (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าสก็อตซ์วิสกี้เดวาร์ เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดสก็อตซ์วิสกี้นำเข้ามูลค่า 3.7 ล้านลังในปีนี้คาดว่าจะหดตัวลง 15% เช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่หดตัวลง ค่าครองชีพ ส่งผลให้ผู้บริโภคมีความระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย ทั้งนี้พบว่าเซกเมนต์สแตนดาร์ดสัดส่วน 75% หรือ 9.2 แสนลัง ตลาดหดตัวลงมาก โดยผู้ดื่มหันไปดื่มเบียร์แทน ส่งผลให้ตลาดเบียร์ปีนี้มีอัตราการเติบโต
แนวโน้มสก็อตซ์วิสกี้เซกเมนต์พรีเมียมสัดส่วน 10% หรือราว 3.7 แสนลัง ปีนี้เติบโตเพิ่ม 15% ซึ่งคู่แข่งจะมุ่งสงครามราคามากขึ้น มีการเปิดตัวบรรจุภัณฑ์ขนาดเล็กลง เพื่อให้สอดคล้องกับกำลังการซื้อของผู้บริโภค ขณะที่เซกเมนต์ดีลักซ์สัดส่วน 9% หรือ 3.3 แสนลัง และซูเปอร์ดีลักซ์ 1% หรือ 3.7 หมื่นลัง ก็เติบโตต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเพราะกลุ่มผู้ดื่มไม่ได้รับผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจ
ดังนั้นจึงมุ่งเน้นทำตลาดและสร้างแบรนด์เดวาร์ สก็อตซ์วิสกี้ระดับพรีเมียมอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ทำตลาดและการสร้างแบรนด์มาแล้ว 2 เฟสจากแผนทั้งหมด 5 เฟส มากว่า 2 ปี ทั้งนี้เพราะเซกเมนต์พรีเมียมมีอัตราการเติบโตสูง ล่าสุดรุกการตลาดเฟส 3 เน้นการขยายการรับรู้ในวงกว้าง โดยวางแผนสร้างแบรนด์ให้มีความแข็งแกร่งในช่วง 5-10 ปี ซึ่งจะไม่เน้นสงครามราคา โดยปัจจุบันเดวาร์ จำหน่าย 595 บาท
โดยเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาทางโทรทัศน์ครั้งแรกชุด “Parachute” จะมีการโฆษณาผ่านทางสื่อสิ่งพิมพ์ และสื่อออนไลน์ เป็นต้น
นายชลเทพ กล่าวว่า การออกแคมเปญใหม่ของเดวาร์ ถือว่าเป็นหนึ่งกลยุทธ์การสร้างแบรนด์และความแตกต่างอย่างต่อเนื่องให้เกิดขึ้นในใจผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่มีรายได้ระดับบน สำหรับด้านช่องทางจำหน่ายบริษัทยังเน้นออนพรีมิสสัดส่วนกว่า 80% และตั้งเป้าจะขยายเพิ่มเป็น 30% ส่วนออฟพรีมิส 20%
ทั้งนี้จากการดำเนินการตลาดในเชิงรุกตั้งเป้าภายใน 2 ปี เดวาร์จะขึ้นเป็นอันดับ 2 ของตลาด ครองส่วนแบ่ง 30% แทนที่ฮันเดรด ไพเพอร์ส 8 ปี มีส่วนแบ่ง 15% ส่วนผู้นำตลาดจอห์นี่ วอล์กเกอร์ เรด เลเบิ้ล 75% จากมูลค่าสก็อตซ์วิสกี้ 9.2 แสนลัง โดยปัจจุบันเดวาร์ มีส่วนแบ่ง 10% และสิ้นปีเพิ่มเป็น 15%
นายชลเทพ เจริญสุวรรณ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท บาคาร์ดี (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าสก็อตซ์วิสกี้เดวาร์ เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดสก็อตซ์วิสกี้นำเข้ามูลค่า 3.7 ล้านลังในปีนี้คาดว่าจะหดตัวลง 15% เช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่หดตัวลง ค่าครองชีพ ส่งผลให้ผู้บริโภคมีความระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย ทั้งนี้พบว่าเซกเมนต์สแตนดาร์ดสัดส่วน 75% หรือ 9.2 แสนลัง ตลาดหดตัวลงมาก โดยผู้ดื่มหันไปดื่มเบียร์แทน ส่งผลให้ตลาดเบียร์ปีนี้มีอัตราการเติบโต
แนวโน้มสก็อตซ์วิสกี้เซกเมนต์พรีเมียมสัดส่วน 10% หรือราว 3.7 แสนลัง ปีนี้เติบโตเพิ่ม 15% ซึ่งคู่แข่งจะมุ่งสงครามราคามากขึ้น มีการเปิดตัวบรรจุภัณฑ์ขนาดเล็กลง เพื่อให้สอดคล้องกับกำลังการซื้อของผู้บริโภค ขณะที่เซกเมนต์ดีลักซ์สัดส่วน 9% หรือ 3.3 แสนลัง และซูเปอร์ดีลักซ์ 1% หรือ 3.7 หมื่นลัง ก็เติบโตต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเพราะกลุ่มผู้ดื่มไม่ได้รับผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจ
ดังนั้นจึงมุ่งเน้นทำตลาดและสร้างแบรนด์เดวาร์ สก็อตซ์วิสกี้ระดับพรีเมียมอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ทำตลาดและการสร้างแบรนด์มาแล้ว 2 เฟสจากแผนทั้งหมด 5 เฟส มากว่า 2 ปี ทั้งนี้เพราะเซกเมนต์พรีเมียมมีอัตราการเติบโตสูง ล่าสุดรุกการตลาดเฟส 3 เน้นการขยายการรับรู้ในวงกว้าง โดยวางแผนสร้างแบรนด์ให้มีความแข็งแกร่งในช่วง 5-10 ปี ซึ่งจะไม่เน้นสงครามราคา โดยปัจจุบันเดวาร์ จำหน่าย 595 บาท
โดยเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาทางโทรทัศน์ครั้งแรกชุด “Parachute” จะมีการโฆษณาผ่านทางสื่อสิ่งพิมพ์ และสื่อออนไลน์ เป็นต้น
นายชลเทพ กล่าวว่า การออกแคมเปญใหม่ของเดวาร์ ถือว่าเป็นหนึ่งกลยุทธ์การสร้างแบรนด์และความแตกต่างอย่างต่อเนื่องให้เกิดขึ้นในใจผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่มีรายได้ระดับบน สำหรับด้านช่องทางจำหน่ายบริษัทยังเน้นออนพรีมิสสัดส่วนกว่า 80% และตั้งเป้าจะขยายเพิ่มเป็น 30% ส่วนออฟพรีมิส 20%
ทั้งนี้จากการดำเนินการตลาดในเชิงรุกตั้งเป้าภายใน 2 ปี เดวาร์จะขึ้นเป็นอันดับ 2 ของตลาด ครองส่วนแบ่ง 30% แทนที่ฮันเดรด ไพเพอร์ส 8 ปี มีส่วนแบ่ง 15% ส่วนผู้นำตลาดจอห์นี่ วอล์กเกอร์ เรด เลเบิ้ล 75% จากมูลค่าสก็อตซ์วิสกี้ 9.2 แสนลัง โดยปัจจุบันเดวาร์ มีส่วนแบ่ง 10% และสิ้นปีเพิ่มเป็น 15%