ผู้จัดการรายวัน – โฆษณาที่ตีโจทย์แตก สร้างความแตกต่างได้ชัด มั่นใจกำผู้บริโภคและยอดขายไว้ในมือได้อย่างเหนียวแน่น “โอกิลวี่” เป็นปลื้มคว้า 7 รางวัล ในแอดแมน 2008 การันตีชี้วัดเป็นโฆษณาที่มีประสิทธิภาพ
นางสาวจิรวรา วีรยวรรธน ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจ บริษัท โอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ แอดเวอร์ไทซิ่ง ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า สถานการณ์เศรษฐกิจและการเมืองไม่ดีแบบนี้ ส่งผลให้ลูกค้าระมัดระวังการใช้เงินมากยิ่งขึ้น และการคิดงานโฆษณาจะต้องให้ความสำคัญมากยิ่งขึ้น ในการที่ส่งผลต่อกลุ่มผู้บริโภครวมถึงยอดขายให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น
“การตีโจทย์โฆษณาให้มีความแตกต่างจากคู่แข่งเป็นเรื่องที่ยาก เพราะสินค้าไม่ได้แตกต่างกันมากนัก หากเป็นสินค้าเดิมที่ไม่มีเรื่องของผลิตภัณฑ์ใหม่เข้ามาเป็นธีมแล้ว การคิดงานโฆษณาให้แตกต่างเป็นเรื่องที่ท้าทาย ถ้าทำได้ก็จะช่วยทั้งในแง่การตอบรับที่ดีจากลูกค้า ส่วนแบ่งทางการตลาด และยอดขายที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด”
นายอมรทัต สุนทรสวัสดิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนกลยุทธ์ กล่าวเสริมว่า ความสำเร็จของงานโฆษณาที่มีการตีโจทย์แตก ตรงกลุ่มเป้าหมายและสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง ทางบริษัทฯได้ส่งเข้าประกวดในงานแอดแมน 2008 ด้วย ในประเภท Ad That Works ซึ่งถือเป็นประเภทชิ้นงานยอดเยี่ยมที่วัดผลความสำเร็จของงานโฆษณา แผนงาน กลยุทธ์ทางการสื่อสาร การเลือกใช้สื่อ การผสมผสานสื่อ และความคิดสร้างสรรค์เพื่อการสร้างแบรนด์
โดยบริษัทฯได้ส่งผลงานเข้าประกวดในประเภทดังกล่าว จำนวน 6 ชิ้นงาน ผ่านเข้ารอบสุดท้ายจำนวน 5 ชิ้น และได้รับคัดเลือกได้รับ 2 รางวัลซิลเวอร์ ซึ่งถือเป็นรางวัลสูงสุดในประเภทดังกล่าว กับผลงานสินค้า นมผงดูเม็กซ์ โดยหลังจากที่ลอนช์แคมเปญไป 3 เดือน ในช่วงเดือนส.ค.-พ.ย. ของปีที่ผ่านมา ก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาด เพิ่มเป็น 31.4 % แซงอันดับหนึ่งอย่างเอ็นฟาโก ที่มีส่วนแบ่งลดลงเหลือ 29.6% จากประมาณ 30%
อีก 1 รางวัล จากบัตรเชื่อมรักเคาน์เตอร์เซอร์วิส เป็นแคมเปญระหว่างปลายปี 2549 ถึงต้นปี2550 พบว่า จำนวนการโอนผ่านบัตรเชื่อมรักสูงขึ้น จากเดิมเฉลี่ย ประมาณ 7,000 พันครั้ง ต่อเดือน เพิ่มเป็น 13,000 ครั้งต่อเดือน และเป็นการโอนเงินจากหัวเมืองใหญ่ไปสู่ท้องถิ่น ตรงตามแผนงานที่วางไว้
นางสาวจิรวรา วีรยวรรธน ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจ บริษัท โอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ แอดเวอร์ไทซิ่ง ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า สถานการณ์เศรษฐกิจและการเมืองไม่ดีแบบนี้ ส่งผลให้ลูกค้าระมัดระวังการใช้เงินมากยิ่งขึ้น และการคิดงานโฆษณาจะต้องให้ความสำคัญมากยิ่งขึ้น ในการที่ส่งผลต่อกลุ่มผู้บริโภครวมถึงยอดขายให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น
“การตีโจทย์โฆษณาให้มีความแตกต่างจากคู่แข่งเป็นเรื่องที่ยาก เพราะสินค้าไม่ได้แตกต่างกันมากนัก หากเป็นสินค้าเดิมที่ไม่มีเรื่องของผลิตภัณฑ์ใหม่เข้ามาเป็นธีมแล้ว การคิดงานโฆษณาให้แตกต่างเป็นเรื่องที่ท้าทาย ถ้าทำได้ก็จะช่วยทั้งในแง่การตอบรับที่ดีจากลูกค้า ส่วนแบ่งทางการตลาด และยอดขายที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด”
นายอมรทัต สุนทรสวัสดิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนกลยุทธ์ กล่าวเสริมว่า ความสำเร็จของงานโฆษณาที่มีการตีโจทย์แตก ตรงกลุ่มเป้าหมายและสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง ทางบริษัทฯได้ส่งเข้าประกวดในงานแอดแมน 2008 ด้วย ในประเภท Ad That Works ซึ่งถือเป็นประเภทชิ้นงานยอดเยี่ยมที่วัดผลความสำเร็จของงานโฆษณา แผนงาน กลยุทธ์ทางการสื่อสาร การเลือกใช้สื่อ การผสมผสานสื่อ และความคิดสร้างสรรค์เพื่อการสร้างแบรนด์
โดยบริษัทฯได้ส่งผลงานเข้าประกวดในประเภทดังกล่าว จำนวน 6 ชิ้นงาน ผ่านเข้ารอบสุดท้ายจำนวน 5 ชิ้น และได้รับคัดเลือกได้รับ 2 รางวัลซิลเวอร์ ซึ่งถือเป็นรางวัลสูงสุดในประเภทดังกล่าว กับผลงานสินค้า นมผงดูเม็กซ์ โดยหลังจากที่ลอนช์แคมเปญไป 3 เดือน ในช่วงเดือนส.ค.-พ.ย. ของปีที่ผ่านมา ก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาด เพิ่มเป็น 31.4 % แซงอันดับหนึ่งอย่างเอ็นฟาโก ที่มีส่วนแบ่งลดลงเหลือ 29.6% จากประมาณ 30%
อีก 1 รางวัล จากบัตรเชื่อมรักเคาน์เตอร์เซอร์วิส เป็นแคมเปญระหว่างปลายปี 2549 ถึงต้นปี2550 พบว่า จำนวนการโอนผ่านบัตรเชื่อมรักสูงขึ้น จากเดิมเฉลี่ย ประมาณ 7,000 พันครั้ง ต่อเดือน เพิ่มเป็น 13,000 ครั้งต่อเดือน และเป็นการโอนเงินจากหัวเมืองใหญ่ไปสู่ท้องถิ่น ตรงตามแผนงานที่วางไว้