xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.แย้มชัยให้ซักฟอก27มิ.ย.ส.ว.ลั่นส่งป.ป.ช.ฟันครม.สมัคร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสมศักดิ์ เกียรติ์สุรนนท์ รองประธานผู้แทนราษฎร คนที่ 1 กล่าว วานนี้ (19 มิ.ย.) ถึงญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ฝ่ายค้านยื่นมาเมื่อวันที่ 17 มิ.ย. ว่าตนได้ส่งญัตติดังกล่าว ให้กับนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาฯ เรียบร้อยแล้ว ส่วนจะเปิดอภปิรายได้ เมื่อไรนั้นขึ้นอยู่กับรัฐบาล อย่างไรก็ตาม ตนยืนยันว่า เรื่องกรอบเวลาไม่ได้เป็นปัญหา ส่วนที่ ส.ส. และส.ว. จะเข้าชื่อตามมาตรา 129 เพื่อขอเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญอีกครั้งนั้น เป็นสิทธิที่สามารถทำได้ ทั้งนี้ ส่วนตัวมองว่ารัฐบาลควรใช้โอกาสกลไกของรัฐสภา ร่วมมือกันแก้ไขปัญหาด้วยการเป็นผู้ขอเปิดอภิปรายทั่วไป ตามมาตรา 179 ซึ่งตนในฐานะสมาชิกพรรคพลังประชาชนคนหนึ่งก็จะนำเรื่องเข้าที่ประชุมพรรคด้วย
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การที่จะให้อภิปายหรือไม่ ไม่ใช่อำนาจของรัฐบาล เพราะส.ส.ได้ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ และหน้าที่ของประธานสภาฯ คือ ตรวจสอบความถูกต้องของญัตติ ถ้าไม่ถูกต้องก็ต้องแจ้งให้ผู้เสนอญัตติทราบภายใน 7 วัน เมื่อไม่มีอะไรไม่ถูกต้อง หน้าที่ของประธานสภาฯ คือบรรจุระเบียบวาระเร่งด่วน ตามข้อบังคับ ซึ่งตราขึ้นตามรัฐธรรมนูญ และประกาศในราชกิจจานุเษกษา
ส่วนที่ นายสมศักดิ์ ระบุว่า เป็นอำนาจของรัฐบาลนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มีเหตุผล ถ้าเราไปพูดอย่างนี้ต่อไปวันข้างหน้า รัฐธรรมนูญในส่วนของฝ่ายนิติบัญญัติก็ไม่มีความหมายเลย ส.ว.เสนอญัตติก็ตัดสินใจไม่ต้องมาตอบก็ได้ แล้วบทบัญญัติที่ให้มีการอภิปราย หรือทำอะไรจะศักดิ์สิทธิ ปฏิบัติจริงหรือการบังคับใช้ และเป็นประชาธิปไตยได้อย่างไร ถ้ารัฐบาลไม่รับผิดชอบต่อรัฐสภา ทั้งนี้ ตนก็ต้องดูว่าประธานสภาฯ ดำเนินการตามรัฐธรรมนูญหรือข้อบังคับการประชุมสภาฯ หรือไม่
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าไม่คิดว่าญัตติของฝ่ายค้านจะตก เพราะในมาตรา 158 ระบุเกี่ยวกับการยุบสภาด้วย และเห็นได้ชัดว่าญัตติจะสิ้นไปเมื่อมีการถอน หรือ การอภปิรายเท่านั้น และต้องยึดถือตามรัฐธรรมนูญ เนื่องจากรัฐธรรมนูญเขียนไว้ว่าญัติอย่างนี้ และการอ้างข้อบังคับการประชุมไม่สามารถอยู่เหนือรัฐธรรมนูญได้ ซึ่งทุกคน ต้องปฎิบัติตามรัฐธรรมนูญ เพราะไม่ได้มีอะไรน่ากลัวเลยในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ดังนั้น รัฐบาลมีเสียงข้างมาก ถ้ามั่นใจข้อมูล และมั่นใจว่าชี้แจงได้ ก็เป็นผลดีกับรัฐบาลเสียอีกที่จะทำให้ประชาชนรับรู้รับทราบว่า สิ่งที่ฝ่ายค้านตรวจสอบและสงสัยมีคำอธิบายหมด จึงไม่มีอะไรน่ากลัว
ในส่วนของส.ว.คงไม่ไปก้าวล่วงเขาก็ต้องพิจารณา แต่ประเด็นของผมมีอยู่ว่า ทุกคนต้องสามารถใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญได้ ถ้าเราไม่ให้คนใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญมันก็เหมือนว่าเราไม่ต้องมีรัฐธรรมนูญ รัฐบาลนี้พยายามอ้างความชอบธรรมจากการ มาตามระบอบประชาธิปไตย แต่รัฐบาลกลับไม่เคารพกระบวนการประชาธิปไตยเสียเองก็จะยิ่งทำให้เกิดปฏิกิริยามากขึ้นในสังคม
ผู้สื่อข่าวถามว่าถึงเวลาหรือยังที่จะใช้มาตรา 129 นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ยังไม่ถึงเวลา เพราะตนยืนยันว่าการที่จะอภิปรายในสมัยประชุมนี้อยู่ในวิสัยที่รัฐบาลและประธานสภาฯ จัดให้ได
ผู้สื่อข่าวถามว่าดูการทำหน้าที่ของนายชัย แล้ว ถ้ามีการละเมิดรัฐธรรมนูญ เข้าข่ายถอดถอนได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ถ้านายชัยจงใจฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ ก็เข้าข่ายถูกถอดถอนอยู่แล้ว แต่เราอย่าไปกล่าวหารัฐบาลล่วงหน้า อาจจะมีการแสดงความคิดเห็นต่างๆ แต่ยังไม่ได้ดูบทบัญญติของรัฐธรรมนูญก็ได้ ก็ขอให้กลับไปดูและทำให้ถูกต้อง
ด้านน.ส.สุมล สุตะวิริยะวัฒน์ ส.ว.เพชรบุรี พร้อมด้วย นายคำนูณ สิทธิสมาน นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ และนายวรินทร์ เทียมจรัส ส.ว.สรรหา ร่วมกันแถลงข่าว ถึงกรณีที่รัฐบาลแจ้งว่าจะไม่มาชี้แจงญัตติอภิปรายทั่วไปของ 61 ส.ว. น.ส.สุมล กล่าวว่า ได้รับทราบหนังสือตอบกลับอย่างเป็นทางการจากนายกฯว่า จะไม่มาชี้แจงในวันที่ 23มิ.ย.เราจึงเห็นว่านายกฯกระทำผิดหน้าที่เราจะหามาตรการในการดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ไม่ได้คิดโค่นล้มรัฐบาล
ด้านนายคำนูณ กล่าวว่า ในเมื่อส.ว.ได้ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ ม.161 แต่มีปัญหาว่าครม.จะต้องมาชี้แจงหรือไม่ ซึ่งเราได้พิจารณาแล้วเมื่อเป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ โดยให้อำนาจฝ่ายหนึ่งไว้ ก็เป็นหน้าที่ของอีกฝ่ายจะมาชี้แจง ถึงแม้จะมีรัฐธรรมนูญ ม. 162 มีข้อยกเว้นในกรณีมีเหตุจำเป็นอันหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เมื่อดูหนังสือแจ้งมาเป็นเหตุผลที่ไม่สมควร ถือว่ารัฐบาลจงใจที่ไม่ปฎิบัติตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีผู้เสนอให้ดำเนินการ 2 ทางคือ
1.ดำเนินการตามรัฐธรรมนูญมาตรา 129 โดยขอความร่วมมือจาก ส.ส.ทุกพรรคเพื่อเปิดประชุมสมัยวิสามัญอีกครั้ง แต่เรื่องนี้ยังเป็นเรื่องรองและต้องดำเนินการหลังวันที่ 28 มิ.ย.ไปแล้ว หรือ 2.ในเมื่อรัฐบาลจงใจไม่ปฎิบัติตามรัฐธรรมนูญก็มีช่องให้ดำเนินการ 2 ทางคือการยื่นถอดถอนนายกฯและรัฐมนตรีออกจากตำแหน่งตามรัฐธรรมนูญมาตรา 270-274 แต่กรณีนี้เราทำไม่ได้ เป็นอำนาจของประชาชนที่จะเข้าชื่อ 2หมื่นคนขึ้นไปหรือส.ส.จำนวนหนึ่งในสี่ ขณะที่อีกช่องทางคือการดำเนินการตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และรัฐธรรมนูญ 275 ที่เปิดโอกาสให้ส.ว.สามารถยื่นเรื่องให้ประธานวุฒิสภาส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.) พิจารณาไต่สวนมูลความผิด เพื่อส่งให้ศาลฏีกาแผนกคดีอาญา ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองถอดถอนออกจากตำแหน่งต่อไป
นายเรืองไกร กล่าวว่า รัฐบาลขัดขวางการปฎิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ ของวุฒิสภาที่มีสิทธิโดยชอบทำให้ส.ว.เสียสิทธิตกเป็นผู้เสียหายซึ่งตนได้รับมอบหมายให้ยกร่างคำร้องที่จะส่งให้ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด ซึ่งคาดว่าน่าจะส่งเรื่องให้ประธานวุฒิสภาได้ในวันที่ 20 มิ.ย.นี้ ซึ่งถ้าป.ป.ช.ดำเนินการไต่สวนและมีมติชี้มูลความผิดด้วยเสียงเกินกึ่งหนึ่งรัฐบาลจะต้องหยุดปฎิบัติหน้าที่ทันที
นาย สาทิตย์ วงศ์หนองเตย ประธานควิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ตนได้เข้าพบนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาฯ เพื่อหารือถึงการบรรจุญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งนายชัย กล่าวว่าอาจจะบรรจุวาระในวันที่ 20 มิ.ย. และคาดว่าจะสามารถอภิปรายได้ในวันที่ 27 มิ.ย. ต่อจากการพิจารณาร่างงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2552 และหากเป็นเช่นนั้น ตนเห็นว่ามีทางออก 2 ทาง คือ 1. การพิจารณาร่างงบประมาณ ก็ต้องอภิปรายในเวลา ที่เหมาะสม และตนไม่แน่ใจว่าวิปรัฐบาลจะมีท่าทีต่อกรณีดังกล่าวอย่างไร และ 2. ตนก็ได้สอบถาม นายชัย เพิ่มว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่รัฐบาลจะเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญเพิ่ม ซึ่งนายชัยก็ตอบกลับอย่างติดตลกว่า จะทำที่ฝ่ายค้านสั่ง
นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช กล่าวว่าเมื่อฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายฯก็สามารถเปิดอภิปรายได้ แต่ปัญหาอยู่ที่ว่าเหมาะสมหรือไม่ เพราะบ้านเมืองกำลับมีวิกฤต
นายเสนาะ กล่าวว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านควรจะเลื่อนไปเป็นสมัยประชุมหน้า ควรให้วิกฤตช่วงนี้คลี่คลายไปก่อนอะไรที่มีปัญหากับคนไม่กี่คนให้บังคับไว้ก่อน และเรื่องของบุคคลที่ถูกกล่าวหา ในขณะนี้เอาไว้ก่อน อย่าเอาเรื่องเล็กไปแก้ปัญหาให้เป็นเรื่องใหญ่ ต้องหันมาแก้ปัญหาวิกฤตชาติผ่านไปให้ได้ หรือว่าเราอยากให้มี ปฏิวัติรัฐประหารอีกหรือ แต่รัฐบาลก็ไม่ใช่ว่าจะใช้อำนาจของตัวเองเพื่อเล่นการเมือง เกินไป ทุกฝ่ายต้องหันจากการเมืองและมาทำการบ้านเพื่อแก้วิกฤตของประเทศ
ผู้สื่อข่าวถามว่าหากรัฐบาลไม่ยอมให้เปิดอภิปรายฯและรัฐบาลยังมีข้อบกพร่อง ในการบริหารราชการแผ่นดินจะทำอย่างไร นายเสนาะกล่าวว่า พูดตรงๆ ข้อบกพร่องตอนนี้จะไปกล่าวหารัฐบาลอย่างเดียวไม่ได้ แต่รัฐบาลเจอวิกฤตในเรื่องนี้ ซึ่งขณะนี้ตนคิดว่านายกฯไม่ควรไปต่อล้อต่อเถียงกับคนอื่น ทำหน้าที่ของตนเอง เพียงอย่างเดียว และอย่าไปทำอะไรให้ประชาชนจ้องมอง เช่นเรื่องประโยชน์ส่วนตนอย่าให้มีระแคะระคาย
กำลังโหลดความคิดเห็น