xs
xsm
sm
md
lg

เอ็น.ซี.ดึงพันธมิตรลุยคอนโดฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน -เอ็น.ซี.ฯเตรียมบุกเมืองท่องเที่ยวอีกระลอก หลังประสบความสำเร็จ โครงการบ้านเดี่ยวในพัทยา แย้มแผนรอเคาะราคาที่ดินของผู้เสนอขาย หากชัดเจนลุยโครงการบ้านเดี่ยวในเมืองท่องเที่ยวต่อ เงื่อนไขเช่าซื้อ 30 ปี ต่อสัญญา 1-2 ครั้ง พร้อมรับข่าวดี ได้พันธมิตรร่วมพัฒนาโครงการคอนโดฯ เดินหน้าอัดแคมเปญ NC mid year Grand Sale ขนบ้าน 38 หลัง มาลดราคา 7-28% ด้านค่าย ซี.พี.แลนด์ได้ฤกษ์เปิดตัวคอนโดฯ เดอะ เฌอ พัทยา จับมือแมกโนเลียพัฒนาภายใต้บริษัทลูก CPMQ มูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท เผย 2 หัวดีกว่าหัวเดียว เตรียมแผนบริหารต้นทุนหวั่นค่าก่อสร้างทำกำไรหด พร้อมยันไม่ปรับราคาขาย เฉลี่ยที่ 47,500 บาท/ตร.ม.

แม้ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์จะมีแนวโน้มชะลอตัวลงบ้าง โดยเฉพาะโครงการที่อยู่อาศัย ที่ไม่ได้เชื่อมโยงหรืออยู่ในแนวรถไฟฟ้าใต้ดิน อาจจะได้รับความนิยมและความต้องการจากลูกค้า แต่ในขณะที่ปัจจัยผลกระทบจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ทำให้ที่อยู่อาศัยประเภทอาคารชุดในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล ได้รับความสนใจจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ถึงสภาพตลาดที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯจะเติบโตในอัตราลดลง แต่อสังหาฯเมืองท่องเที่ยว นับวันมีโอกาสเติบโตสูง ซึ่งมีหลายองค์ประกอบมาสนับสนุนให้นักลงทุนในท้องถิ่น นักลงทุนส่วนกลางและทุนต่างชาติ เข้ามาลงทุนเปิดโครงการที่อยู่อาศัย เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าไทยและลูกค้าต่างประเทศ ที่มองหาบ้านหลังที่สอง

นายสมนึก ตันฑเทอดธรรม รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี. เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ NCH กล่าวว่า ปัจจุบันต้นทุนการก่อสร้างบ้านปรับตัวสูงขึ้น ทำให้บริษัทยังคงนโยบายการพัฒนาธุรกิจเดิมไว้ โดยในปีนี้จะมีการเปิดตัวโครงการใหม่ 3 โครงการ ซึ่งเป็นการก่อสร้างในเฟสต่อเนื่อง โครงการเดิมในโครงการบ้านฟ้าปิยรมย์ แต่อย่างไรก็ตาม ตลาดอสังหาริมทรัพย์ใน กทม. และปริมณฑลนั้นมีการชะลอตัว อย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทฯต้องพิจารณาหาตลาดใหม่ๆ เข้ามาเสริม

โดยขณะนี้ บริษัทฯอยู่ระหว่างการวางแผนขยายตลาดบ้านจัดสรรในเมืองท่องเที่ยว ซึ่งที่ผ่านมาบริษัท ได้มีการพิจารณาที่ดินในเมืองท่องเที่ยวหลายทำเล เช่น พัทยา, หัวหิน และภูเก็ต ที่มีผู้เสนอขายให้ ซึ่งหากสามารถเจรจาได้สำเร็จ ทาง บริษัทฯจะดำเนินการพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวในเมืองท่องเที่ยว เพื่อรองรับความต้องการของชาวต่างชาติซึ่งมีอัตราการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ตามแผนการพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวในเมืองท่องเที่ยวนั้น บริษัทจะพัฒนาและขายให้นักท่องเที่ยวในรูปแบบการเช่าซื้อระยะยาว 30 ปี และต่อสัญญาเช่าอีก 1-2 ครั้ง โดยบ้านที่จะพัฒนาขายในเมืองท่องเที่ยวนั้น จะเป็นบ้านระดับราคา 4-8 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นบ้านระดับกลาง ที่มีความต้องการขยายตัวค่อนข้างสูง นอกจากนี้ บริษัทฯยังมีแผนจะพัฒนาโครงการแนวสูงในเมืองท่องเที่ยวที่มีที่ดินอยู่แล้ว ซึ่งที่ผ่านมา ทาง เอ็น.ซี.ฯได้มีการเจรจากับพันธมิตรที่จะเข้ามาร่วมลงทุนพัฒนาโครงการแนวสูงดังกล่าว ซึ่งล่าสุดได้ข้อสรุปร่วมกันและได้พันธมิตรที่จะเข้ามาร่วมทุนแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากยังไม่มีการเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการ

อย่างไรก็ตาม แนวทางการพัฒนาโครงการในตลาดเมืองท่องเที่ยวนั้น จะต้องพิจารณาภาวะและปัจจัยรอบด้านต่างๆ ด้วยว่า มีความเหมาะสมมากน้อยเพียงใด เช่น สถานการณ์การเมือง สภาพตลาดที่จะเข้าไปลงทุน ภาวะต้นทุนทางการเงิน และช่วงเวลาที่เหมาะสม ซึ่งหากภาวะต่างๆมีความชัดเจน บริษัทฯก็พร้อมขยายการพัฒนาโครงการดังกล่าวต่อไป

'ปัจจัยสำคัญในการพัฒนาโครงการในเมืองท่องเที่ยวขณะนี้ ขึ้นอยู่กับภาวะ ดังกล่าวข้างต้น ซึ่งในเรื่องของความพร้อมด้านการหาที่ดีๆนั้น ถือว่าเป็นเรื่องรองลงไป เพราะขณะนี้เรามีที่ดินในเมืองท่องเที่ยวไว้รองรับการพัฒนาแล้วบางส่วน เช่นในเมืองพัทยา ซึ่งมีทั้งที่ดินที่รอการพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวและโครงการแนวสูงอยู่แล้ว'

นายสมนึกกล่าวต่อว่า ล่าสุดเพื่อเป็น การสานต่อยอดขายบ้านให้เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ในปีนี้ บริษัทได้จัดแคมเปญ (Luxury But Easy) โดยนำบ้านจำนวน 38 ยูนิต มูลค่าขายรวม 260 ล้านบาท จาก 8 โครงการ ราคาขายตั้งแต่ 3-16 ล้านบาท มาลดราคาขายเฉลี่ย 7-28% ขึ้นอยู่กับขนาดบ้านในแต่ละโครงการ ซึ่งเป็นกลยุทธ์การทำตลาดแบบผสมผสาน โดยบ้านที่นำมาร่วมแคมเปญนี้มีการปรับขึ้นราคาขายไปแล้ว 3-5% ตามราคาวัสดุก่อสร้างที่ปรับตัว ดังนั้น บ้านที่นำมาจัดแคมเปญครั้งนี้จึงถือว่าเป็นล็อตสุดท้ายที่จะขายในราคาต้นทุนเดิม โดยบริษัทตั้งเป้าว่าจะมียอดขายจากแคมเปญดังกล่าว260 ล้านบาทในระยะเวลา1เดือนครึ่งจากนี้

ซี.พี.งัดแลนด์แบงก์ข้างโลตัสพัทยา
ผุดคอนโดฯมูลค่ากว่า 2,000 ล้าน


นายสมเกียรติ เรือนทองดี รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซี.พี.แลนด์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้ร่วมกับบริษัท แมกโนเลีย คอร์เปอเรชั่น หรือ MQDC เปิดบริษัทในเครือ ภายใต้ชื่อ บริษัท PCMQ จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 150 ล้านบาท ถือหุ้นฝ่ายละ 50% เพื่อพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม เดอะ เฌอ พัทยา ติดศูนย์สรรพสินค้าเทสโก้ โลตัส บนเนื้อที่ 29 ไร่ พัฒนาเป็นอาคารสูง 7 ชั้น 6 อาคาร จำนวน 792 ยูนิต ราคาขายเฉลี่ย 47,500 บาท/ตร.ม. มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท

'การร่วมมือดังกล่าว ที่ดินเป็นของ ซี.พี. ส่วนแมกโนเลียจะช่วยบริหารการก่อสร้างรวมไปถึงการขาย แม้ว่าโดยศักยภาพของ ซี.พี.จะสามารถพัฒนาเองได้ แต่หากทั้งสองฝ่ายร่วมมือกัน ก็จะใช้โนว์ฮาว ของอีกฝ่ายที่ไม่มี มาช่วยเสริมซึ่งกันและกัน รวมไปถึงช่วยกันหาลูกค้าอีกด้วย ปัจจุบันเดอะ เฌอ มียอดจองแล้วประมาณ 100 ยูนิตแม้ว่าจะยังไม่เปิดขายอย่างเป็นทางการ'

สำหรับในช่วงแรก โครงการคอนโดฯจะทำการเปิดขายในเฟสแรก 2 อาคาร ในวันที่ 28 มิ.ย.นี้ พร้อมตั้งเป้าสร้างยอดขายภายในสิ้นปีให้ได้ 1,000 ล้านบาท โดยกลุ่ม ลูกค้าเป้าหมายทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่เป็นนักท่องเที่ยว รวมถึงชาวต่างชาติที่ทำงานในย่านนั้น ทั้งนี้ จากการรวบรวมข้อมูลพบว่า ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเข้าไป เที่ยวพัทยาปีละ 5 ล้านคน ส่งผลให้พัทยาเติบโตอย่างรวดเร็ว ส่วนราคาที่ดินนั้นมีการ ปรับตัวสูงขึ้นมาตลอดในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา พื้นที่ในการพัฒนาขยายไปตามริมหาดด้านฝั่งอำเภอสัตหีบ

นอกจากเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีสถานที่ ท่องเที่ยวทั้งกลางคืนและกลางวันแล้ว ยังเป็นเมืองเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมและเมืองที่อยู่อาศัยทำให้กลุ่มลูกค้ามีความหลากหลาย การลงทุนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มราคาสูงขึ้นอีกด้วย ส่วนภาพรวมของการซื้ออสังหาฯในพัทยา มีทั้งซื้อเพื่อลงทุน และซื้อเพื่อเป็นบ้านหลังที่สอง ลูกค้าซื้อคอนโดฯในพัทยา กว่า 60% เป็นชาวต่างชาติที่เข้ามาพักอาศัยในไทยอย่างถาวร เช่น อังกฤษ สหรัฐ และไอร์แลนด์ เป็นต้น ทั้งนี้ คอนโดฯ ที่ซื้อส่วนใหญ่เป็นยูนิตขนาดใหญ่เฉลี่ย 96 ตร.ม. ราคาสูงเกือบ 9 ล้านบาท

นายวิศิษฐ์ มาลัยศิริรัตน์ กรรมการ ผู้จัดการ MQDC กล่าวว่า สำหรับต้นทุนการก่อสร้างที่ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาจส่งผลกระทบต่อต้นทุนก่อสร้างบ้าง แต่บริษัทได้พยายามบริหารต้นทุนไม่ให้ปรับขึ้น ในหลากหลายวิธี ทั้งการซื้อวัสดุล่วงหน้า ล็อกราคาวัสดุ และอื่นๆ ซึ่งปัจจุบันต้นทุนก่อสร้างอยู่ที่ประมาณ 16,000 บาท/ตร.ม. คิดเป็นเงินลงทุนก่อสร้างกว่า 1,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม แม้ว่าต้นทุนจะปรับเพิ่มขึ้น แต่บริษัทจะไม่ปรับขึ้นราคา โดยคงราคาขาย ไว้ที่ระดับ 47,500 บาท/ตร.ม.

ส่วนการร่วมมือพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในอนาคต ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณา ซึ่งไม่จำกัดประเภทที่อยู่อาศัย แต่จะคำนึงถึงผลประโยชน์ร่วมกันสูงสุด
กำลังโหลดความคิดเห็น