00 ไม่ว่าใครก็ตามที่ได้ฟังคำพูดของ นพดล ปัทมะ เจ้ากระทรวงบัวแก้วพูดถึงข้อพิพาทระหว่างไทย-กัมพูชากรณีการขึ้นทะเบียน “เขาพระวิหาร” เป็นมรดกโลก ที่ล่าสุดกลายเป็นว่าทั้งสองฝ่ายได้ออกแถลงการณ์ร่วมและได้เห็นชอบในแผนที่ใหม่ที่ฝ่ายกัมพูชาได้จัดทำขึ้นมา ขอเน้นว่า “เป็นแผนที่ที่ฝ่ายกัมพูชาได้จัดทำขึ้นใหม่” และถ้าฟังจากคำอธิบายยังบอกอีกว่าฝ่ายโน้นได้ยอมขึ้นทะเบียนเฉพาะตัวปราสาท ไม่รวมพื้นที่ทับซ้อนที่มีปัญหา 4.6 ตารางกิโลเมตร
00 ฟังดูเผินๆดูเหมือนกับว่า กัมพูชาหรือเขมรนี่มันใจกว้างจริงๆ ยอมถอยให้กับฝ่ายไทยตั้งเยอะแล้วจะเอาอะไรกันอีก(ว่ะ) อะไรประมาณนั้นแหละ แถมในคำแถลงล่าสุดของ “อดีตทนายหน้าหอ” คนนี้ยังขอร้องทำนองอย่าให้คนไทย “ปากมาก” เดี๋ยวจะกระทบกระเทือนปัญหาการเมืองภายในของเขาที่กำลังจะมีการเลือกตั้งใหญ่ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ที่คาดกันว่า “ฮุนเซน” จะชนะถล่มทลายอีกรอบ
00 เอาเถอะไม่ว่ากันเรื่องการเมืองภายในก็เรื่องของเขา แต่การจะให้คนไทย “หุบปาก” เห็นจะไม่ได้หรอกท่านเสนาบดี เพราะหากนึกย้อนอดีตทีไร เมื่อครั้งปี 2505 ที่ไทยต้องพ่ายแพ้คดีในศาลโลกทำให้ต้องสูญเสียเขาพระวิหารให้กับเขมรไปในลักษณะ “เสียค่าโง่” มันยังเจ็บปวดรวดร้าวในหัวใจไม่หาย
00 คราวนี้ก็เช่นเดียวกันบรรยากาศการเจรจา หรือการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกมีขึ้นในลักษณะ “งุบงิบ” และเสียงวิจารณ์ในเรื่องแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ส่วนตัวเฉพาะกลุ่มอย่างหนาหูตลอดเวลา ในที่นี้จะเป็นใครไปไม่ได้ ถ้าไม่ใช่ “นายเหลี่ยม” เนื่องจากมีข่าวสะพัดว่ากำลังหน้าดำคร่ำเครียดร่วมมือกับบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านน้ำมันต่างชาติวิ่งเต้นขอสัมปทานในเขตพื้นที่ทับซ้อนในอ่าวไทย รวมทั้งเรื่องขอเช่า “เกาะกง” พัฒนาเป็นคาสิโนคอมเพล็กซ์ครบวงจรนานถึง 99 ปี ไม่รู้จะเอาเป็นเรือนตายหากมีอันต้องพรัดพรากหรือต้อง “ลี้ภัย” ในบั้นปลายหรือเปล่าก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าข่าวที่ปูดออกมา มาจากคนระดับรัฐมนตรีระดับแนวหน้าเสียด้วยซิ มีน้ำหนักแค่ไหนสาธุชนทั้งหลายลองตรองดูกันเอาเอง
00 และก็ให้บังเอิญเป็นอย่างในช่วงเวลาเจรจากำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม “นายหน้าเหลี่ยม” ดันไปเสนอหน้าตีกอล์ฟกับ “ฮุนเซน” อีกด้วย เรื่องของเรื่องมันเป็นแบบนี้แหละพี่น้อง และถ้าพิจารณาจากแบ็กกราวด์ของคนๆนี้ “ฟันธง” ได้เลยว่า ทุกอย่างต้องเกี่ยวพันกับผลประโยชน์แน่นอน
00 นาทีนี้ขอย้ำว่ากรณีพื้นที่บริเวณเขาพระวิหารเป็นเรื่องของอธิปไตยของชาติ เราจะไม่ยอมเสียให้ใครแม้แต่ “ตารางนิ้ว” เดียว ไม่ยอมเสียค่าโง่ให้ใครอีกต่อไป ขณะเดียวกันประเด็นสำคัญก็คือเวลานี้คนไทยส่วนใหญ่ไม่ไว้ใจ รัฐมนตรีต่างประเทศ เพราะเป็นแค่ “หุ่นเชิด” คอยรับใช้ ทำตามคำชี้นิ้วของ “นายใหญ่” เท่านั้น
00 ดังนั้นคำการันตีที่ว่าจะเปิดเผยรายละเอียดหรือแผนที่ที่ฝ่ายเขมรทำขึ้นใหม่ หลังจากที่ปราสาทเขาพระวิหารได้รับรองเป็นมรดกโลกเสียก่อน มันจะมีประโยชน์อะไร เพราะทุกอย่างมันเรียบร้อยโรงเรียน “แม้ว” กับ “ฮุนเซน” ไปแล้ว
00 เมื่อคนไทยไม่ยอมก็ต้องส่งเสียงดัง เพราะเราก็ย่อมมีสิทธิ์ในการปกป้องอธิปไตย จะไม่ยอมนิ่งเฉยให้กลุ่มทรราชมาถือวิสาสะเฉือนแผ่นดินไปขายแบบ “วินวิน” กันในหมู่พวกมันไม่ได้เป็นอันขาด และทางที่ถูกควรจะต้องแคร์ความรู้สึกคนไทยกันเองมากกว่าห่วงความรู้สึกของคนชาติอื่น ยิ่งพูดมันก็ยิ่งเครียด (วุ้ย) !!
00 ฟังดูเผินๆดูเหมือนกับว่า กัมพูชาหรือเขมรนี่มันใจกว้างจริงๆ ยอมถอยให้กับฝ่ายไทยตั้งเยอะแล้วจะเอาอะไรกันอีก(ว่ะ) อะไรประมาณนั้นแหละ แถมในคำแถลงล่าสุดของ “อดีตทนายหน้าหอ” คนนี้ยังขอร้องทำนองอย่าให้คนไทย “ปากมาก” เดี๋ยวจะกระทบกระเทือนปัญหาการเมืองภายในของเขาที่กำลังจะมีการเลือกตั้งใหญ่ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ที่คาดกันว่า “ฮุนเซน” จะชนะถล่มทลายอีกรอบ
00 เอาเถอะไม่ว่ากันเรื่องการเมืองภายในก็เรื่องของเขา แต่การจะให้คนไทย “หุบปาก” เห็นจะไม่ได้หรอกท่านเสนาบดี เพราะหากนึกย้อนอดีตทีไร เมื่อครั้งปี 2505 ที่ไทยต้องพ่ายแพ้คดีในศาลโลกทำให้ต้องสูญเสียเขาพระวิหารให้กับเขมรไปในลักษณะ “เสียค่าโง่” มันยังเจ็บปวดรวดร้าวในหัวใจไม่หาย
00 คราวนี้ก็เช่นเดียวกันบรรยากาศการเจรจา หรือการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกมีขึ้นในลักษณะ “งุบงิบ” และเสียงวิจารณ์ในเรื่องแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ส่วนตัวเฉพาะกลุ่มอย่างหนาหูตลอดเวลา ในที่นี้จะเป็นใครไปไม่ได้ ถ้าไม่ใช่ “นายเหลี่ยม” เนื่องจากมีข่าวสะพัดว่ากำลังหน้าดำคร่ำเครียดร่วมมือกับบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านน้ำมันต่างชาติวิ่งเต้นขอสัมปทานในเขตพื้นที่ทับซ้อนในอ่าวไทย รวมทั้งเรื่องขอเช่า “เกาะกง” พัฒนาเป็นคาสิโนคอมเพล็กซ์ครบวงจรนานถึง 99 ปี ไม่รู้จะเอาเป็นเรือนตายหากมีอันต้องพรัดพรากหรือต้อง “ลี้ภัย” ในบั้นปลายหรือเปล่าก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าข่าวที่ปูดออกมา มาจากคนระดับรัฐมนตรีระดับแนวหน้าเสียด้วยซิ มีน้ำหนักแค่ไหนสาธุชนทั้งหลายลองตรองดูกันเอาเอง
00 และก็ให้บังเอิญเป็นอย่างในช่วงเวลาเจรจากำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม “นายหน้าเหลี่ยม” ดันไปเสนอหน้าตีกอล์ฟกับ “ฮุนเซน” อีกด้วย เรื่องของเรื่องมันเป็นแบบนี้แหละพี่น้อง และถ้าพิจารณาจากแบ็กกราวด์ของคนๆนี้ “ฟันธง” ได้เลยว่า ทุกอย่างต้องเกี่ยวพันกับผลประโยชน์แน่นอน
00 นาทีนี้ขอย้ำว่ากรณีพื้นที่บริเวณเขาพระวิหารเป็นเรื่องของอธิปไตยของชาติ เราจะไม่ยอมเสียให้ใครแม้แต่ “ตารางนิ้ว” เดียว ไม่ยอมเสียค่าโง่ให้ใครอีกต่อไป ขณะเดียวกันประเด็นสำคัญก็คือเวลานี้คนไทยส่วนใหญ่ไม่ไว้ใจ รัฐมนตรีต่างประเทศ เพราะเป็นแค่ “หุ่นเชิด” คอยรับใช้ ทำตามคำชี้นิ้วของ “นายใหญ่” เท่านั้น
00 ดังนั้นคำการันตีที่ว่าจะเปิดเผยรายละเอียดหรือแผนที่ที่ฝ่ายเขมรทำขึ้นใหม่ หลังจากที่ปราสาทเขาพระวิหารได้รับรองเป็นมรดกโลกเสียก่อน มันจะมีประโยชน์อะไร เพราะทุกอย่างมันเรียบร้อยโรงเรียน “แม้ว” กับ “ฮุนเซน” ไปแล้ว
00 เมื่อคนไทยไม่ยอมก็ต้องส่งเสียงดัง เพราะเราก็ย่อมมีสิทธิ์ในการปกป้องอธิปไตย จะไม่ยอมนิ่งเฉยให้กลุ่มทรราชมาถือวิสาสะเฉือนแผ่นดินไปขายแบบ “วินวิน” กันในหมู่พวกมันไม่ได้เป็นอันขาด และทางที่ถูกควรจะต้องแคร์ความรู้สึกคนไทยกันเองมากกว่าห่วงความรู้สึกของคนชาติอื่น ยิ่งพูดมันก็ยิ่งเครียด (วุ้ย) !!