xs
xsm
sm
md
lg

“นพดล” แจงเขต 30 เมตรเลยปราสาทพระวิหารเป็นของเขมรอยู่แล้ว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“นพดล ปัทมะ” ออก “เอ็นบีที” แจง เขมรเขียนแผนที่ขอขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกเลยจากตัวปราสาท 30 เมตร เป็นสิทธิที่ทำได้ เพราะอยู่ในเขตกัมพูชา อ้างทุกอย่างโปร่งใส เตรียมนำแผนที่ให้ ปชช.ดู อ้างเหตุไทยไม่ยื่นร่วมเพราะตัวปราสาทเป็นของเขมร ชี้ไทยได้ประโยชน์ขายของที่ระลึกบันไดทางขึ้น

คลิกที่นี่ เพื่อฟัง "นพดล ปัทมะ" ให้สัมภาษณ์กรณีแผนที่เขาพระวิหาร

วันนี้ (7 มิ.ย.) นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ในช่วงข่าวภาคค่ำ ทางสถานีโทรทัศน์ เอ็นบีที ถึงความคืบหน้าการแก้ปัญหาพื้นที่ทับซ้อนระหว่างไทย-กัมพูชา บริเวณปราสาทเขาพระวิหาร ซึ่งกัมพูชากำลังเสนอขึ้นทะเบียนเป้นมรดกโลก ว่าล่าสุดตนได้รับแผนที่จากทางกัมพูชาเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเท่าที่เห็นแล้วเบื้องต้นก็สอดคล้องกับที่มีการตกลงไว้ คือไม่มีการรุกล้ำเข้ามาในพื้นที่ทับซ้อนของไทย ซึ่งตอนนี้ตนก็ได้มอบให้เจ้าหน้าที่จากกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กรมเอเชียตะวันออก และกรมแผนที่ทหาร ไปตรวจวัดในพื้นที่ให้รอบคอบอีกครั้ง ด้วยระบบจีพีอาร์เอส (GPRS) จากนั้นจะนำแผนที่ดังกล่าวเสนอเข้าที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป โดยหลังจากที่คณะรัฐมนตรีพิจารณาแล้ว ก็จะตอบตกลงแผนที่ดังกล่าว และจะส่งให้สมาชิกคณะกรรมการมรดกโลกพิจารณา ในวันที่ 15 มิถุนายนนี้

นายนพดล กล่าวด้วยว่า แม้ว่าตอนนี้แผนที่ดังกล่าวจะยังไม่สามารถนำออกมาเผยแพร่ต่อสาธารณชนได้ เนื่องจากต้องรอการตรวจสอบให้สมบูรณ์ก่อน ซึ่งตนคิดว่า หากตรวจสอบเรียบร้อยแล้วก็จะพยายามนำแผนที่ดังกล่าวออกมาเผยแพร่ให้ประชาชนได้เห็นต่อไป ซึ่งโดยส่วนตัวตนก็อยากนำออกมาเผยแพร่อยู่แล้ว เพราะอยากให้เรื่องนี้ดำเนินการไปอย่างโปร่งใสที่สุด

ส่วนกรณีที่ ศ.อดุล วิเชียรเจริญ ประธานคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก ได้แสดงความคิดเห็นว่าหากกัมพูชาเขียนแผนที่เกินจากตัวปราสาทมา 30 เมตร อาจจะเป็นการรุกล้ำพื้นที่ของไทยนั้น นายนพดลกล่าวว่า ไม่เป็นความจริง เนื่องจากพื้นที่ตรงนั้นเป็นพื้นที่ของกัมพูชาอยู่แล้ว

“หากเขาทำของเกิน 30 เมตร ห่างจากตัวอาคารอาจจะเป็นการรุกล้ำเข้ามา การที่เขาทำขอบนั้น ก็เหมือนบ้านของเรา ที่เราทำรั้วห่างออกมาจากตัวบ้าน 30 เมตร เขาจะทำ 40 เมตร หรือ 50 เมตร ไม่ใช่สาระสำคัญ สาระสำคัญคือมันอยู่ในเขตของเขาหรืออยู่ในเขตของเรา แต่เท่าที่ดูเบื้องต้นก็อยู่ในเขตของเขา เพราะฉะนั้นเขาจะทำอย่างไรก็เป็นเรื่องของเขา”

นายนพดล กล่าวต่อว่า กรณีที่มีคนบางกลุ่ม หรือนักวิชาการบางคน เรียกร้องให้ทางกระทรวงต่างประเทศเจรจาขอขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารร่วมกับกัมพูชานั้น เราคงทำไม่ได้ด้วยข้อกำหนดทางกฎหมาย เนื่องจากศาลโลกได้ตัดสินให้ตัวปราสาทเป็นกรรมสิทธิ์ของกัมพูชาไปแล้ว ส่วนเรื่องของบันไดทางขึ้นที่อยู่ทางฝั่งไทย ก็ไม่สามารถขอขึ้นทะเบียนร่วมกับกัมพูชาได้เช่นกัน เพราะจุดหลักของการขึ้นทะเบียนอยู่ที่ตัวปราสาท ดังนั้นคุณค่าก็อยู่ที่ตัวปราสาทเราจึงไม่สามารถขอจดทะเบียนร่วมในตัวบันไดได้

นายนพดลกล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ตนก็เชื่อว่าไทยจะได้รับประโยชน์จากการที่เขาพระวิหารได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก คือ เมื่อขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแล้วนักท่องเที่ยวก็จะมาเที่ยวมากขึ้น และนักนักท่องเที่ยวก็นิยมมาขึ้นทางฝั่งไทยเพราะสะดวกกว่าขึ้นทางฝั่งกัมพูชา ดังนั้นการจำหน่ายของที่ระลึก และรายได้จากนักท่องเที่ยวก็จะมากขึ้นไปด้วย

กำลังโหลดความคิดเห็น