ผู้จัดการรายวัน-"เสรีพิศุทธ์" อดีต ผบ.ตร.สุดทนยื่นหนังสือให้ อสส. ส่งเรื่องศาลรัฐธรรมนูญ สั่ง "สมัคร - พปช." ยุติกิจกรรมทางการเมือง ยันทำผิดกฎหมายส่อทำให้ชาติเสียหาย ร่วมกับอดีต 111 กก.บห.ทรท.ที่ถูกตัดสิทธิ ทำผิด รธน.50 ม.68
วานนี้(16 มิ.ย.)ที่สำนักงานอัยการสูงสุด พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เดินทางเข้ายื่นคำร้องต่อนายชัยเกษม นิติสิริ อัยการสูงสุด (อสส.) ขอให้พิจารณายื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งให้ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และพวกพรรคพลังประชาชน กระทำผิดรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 ม.68 ให้เลิกกระทำกิจกรรมทางการเมือง โดยมีนายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ รองอัยการสูงสุด เป็นตัวแทนรับมอบ
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ในฐานะประชาชนเห็นว่าพรรคพลังประชาชนกระทำผิด รัฐธรรมนูญ ม.68 ที่ระบุว่า บุคคลจะใช้สิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ มิได้ จึงมายื่นหนังสือให้อัยการสูงสุดตรวจสอบ
ทั้งนี้ พฤติการณ์อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย 111 คน ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสิทธิทางการเมือง ได้ร่วมกับนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ตั้งพรรคพลังประชาชนดำเนินกิจกรรมทางการเมือง ร่วมกันทุจริตการเลือกตั้ง แทรกแซงองค์กรอิสระ จาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ แทรกแซงอำนาจตุลาการ ต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และโยกย้ายข้าราชการที่ไม่ใช่พวกพ้องตนเอง ซึ่งหากอัยการสูงสุดไต่สวนแล้วพบมีมูลความจริงขอให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัยสั่งให้ยุติการกระทำ และวินิจฉัยสั่งให้ยุบพรรคพลังประชาชน รวมทั้งตัดสิทธิทางการเมืองกรรมการบริหารพรรคคนละ 5 ปีต่อไป
อย่างไรก็ตาม อนุกรรมการไต่สวนของ กกต.ก็ได้วินิจฉัยแล้วว่าพรรคพลังประชาชนเป็นนอมินีพรรคไทยรักไทย เพียงแต่ยังไม่สามารถลงโทษหรือเอาผิดได้ โดยพรรคพลังประชาชนที่มีนายสมัคร สุนทรเวช ในฐานะหัวหน้ารัฐบาลได้สร้างความเสียหายให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่นกรณีการเผยแพร่คำพูดของนายจักรภพ เพ็ญแข ต่อสาธารณชนผ่านเว็บไซต์ของรัฐบาลด้วย
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงกรณีที่ถูกกล่าวหาแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจโดยไม่มีกฎหมายรองรับ ใช้วาจาหยาบคาย และทุจริตโครงการจัดซื้อรถตู้ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่า ตนได้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้วตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคม แต่หลังจากนั้นคณะกรรมการสอบสวนชุดดังกล่าวยังไม่ได้เรียกตนเข้าชี้แจงข้อเท็จจริงแต่อย่างใด ซึ่งหลังจากนั้นตนได้ยื่นฟ้องคณะกรรมการ ที่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย ต่อศาลจังหวัดตลิ่งชันข้อหาหมิ่นประมาท ให้สัมภาษณ์ว่าตนไม่จงรักภักดีต่อสถาบัน รวม 3 คดี ซึ่งศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์เดือนหน้า โดยหลังจากนี้จะยื่นฟ้องข้อหาปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบอีก 4-5 คดี
ด้าน นายจุลสิงห์ กล่าวว่า หลังรับหนังสือคำร้องแล้วจะส่งให้กับนายชัยเกษม นิติสิริ อัยการสูงสุดเพื่อสั่งคณะทำงานขึ้นมาพิจารณาถ้าอัยการสูงสุดพิจารณาเห็นชอบตามคำร้องก็จะเสนอเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งให้ยุติการกระทำดังกล่าว ซึ่งคาดว่าอัยการจะพิจารณาให้เสร็จสิ้นได้ภายใน 60 วัน
วานนี้(16 มิ.ย.)ที่สำนักงานอัยการสูงสุด พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เดินทางเข้ายื่นคำร้องต่อนายชัยเกษม นิติสิริ อัยการสูงสุด (อสส.) ขอให้พิจารณายื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งให้ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และพวกพรรคพลังประชาชน กระทำผิดรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 ม.68 ให้เลิกกระทำกิจกรรมทางการเมือง โดยมีนายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ รองอัยการสูงสุด เป็นตัวแทนรับมอบ
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ในฐานะประชาชนเห็นว่าพรรคพลังประชาชนกระทำผิด รัฐธรรมนูญ ม.68 ที่ระบุว่า บุคคลจะใช้สิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ มิได้ จึงมายื่นหนังสือให้อัยการสูงสุดตรวจสอบ
ทั้งนี้ พฤติการณ์อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย 111 คน ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสิทธิทางการเมือง ได้ร่วมกับนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ตั้งพรรคพลังประชาชนดำเนินกิจกรรมทางการเมือง ร่วมกันทุจริตการเลือกตั้ง แทรกแซงองค์กรอิสระ จาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ แทรกแซงอำนาจตุลาการ ต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และโยกย้ายข้าราชการที่ไม่ใช่พวกพ้องตนเอง ซึ่งหากอัยการสูงสุดไต่สวนแล้วพบมีมูลความจริงขอให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัยสั่งให้ยุติการกระทำ และวินิจฉัยสั่งให้ยุบพรรคพลังประชาชน รวมทั้งตัดสิทธิทางการเมืองกรรมการบริหารพรรคคนละ 5 ปีต่อไป
อย่างไรก็ตาม อนุกรรมการไต่สวนของ กกต.ก็ได้วินิจฉัยแล้วว่าพรรคพลังประชาชนเป็นนอมินีพรรคไทยรักไทย เพียงแต่ยังไม่สามารถลงโทษหรือเอาผิดได้ โดยพรรคพลังประชาชนที่มีนายสมัคร สุนทรเวช ในฐานะหัวหน้ารัฐบาลได้สร้างความเสียหายให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่นกรณีการเผยแพร่คำพูดของนายจักรภพ เพ็ญแข ต่อสาธารณชนผ่านเว็บไซต์ของรัฐบาลด้วย
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงกรณีที่ถูกกล่าวหาแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจโดยไม่มีกฎหมายรองรับ ใช้วาจาหยาบคาย และทุจริตโครงการจัดซื้อรถตู้ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่า ตนได้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้วตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคม แต่หลังจากนั้นคณะกรรมการสอบสวนชุดดังกล่าวยังไม่ได้เรียกตนเข้าชี้แจงข้อเท็จจริงแต่อย่างใด ซึ่งหลังจากนั้นตนได้ยื่นฟ้องคณะกรรมการ ที่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย ต่อศาลจังหวัดตลิ่งชันข้อหาหมิ่นประมาท ให้สัมภาษณ์ว่าตนไม่จงรักภักดีต่อสถาบัน รวม 3 คดี ซึ่งศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์เดือนหน้า โดยหลังจากนี้จะยื่นฟ้องข้อหาปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบอีก 4-5 คดี
ด้าน นายจุลสิงห์ กล่าวว่า หลังรับหนังสือคำร้องแล้วจะส่งให้กับนายชัยเกษม นิติสิริ อัยการสูงสุดเพื่อสั่งคณะทำงานขึ้นมาพิจารณาถ้าอัยการสูงสุดพิจารณาเห็นชอบตามคำร้องก็จะเสนอเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งให้ยุติการกระทำดังกล่าว ซึ่งคาดว่าอัยการจะพิจารณาให้เสร็จสิ้นได้ภายใน 60 วัน