“โกลบอลเฮ้าส์”พร้อมเทรดในตลาดหลักทรัพย์-โชว์ยอดสวนกระแสเล็งเปิดสาขาชลฯ/นครปฐม

ศูนย์ข่าวขอนแก่น - “โกลบอลเฮ้าส์” แวร์เฮาส์ค้าวัสดุก่อสร้าง ลั่นพร้อมเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โชว์ผลประกอบการไตรมาสแรกปี 51 ยังขยายตัว สวนกระแสอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจยุคข้าวยากหมากแพง ยอดขายโตกว่า 24% เผยวัสดุก่อสร้างเป็นสินค้าจำเป็นดำรงชีพ ยกกลุ่มสร้างที่อยู่อาศัยให้เช่ายังขยายตัวสูง ชูจุดแข็งธุรกิจบริการและสินค้าหลากหลาย ดันยอดขายโตต่อเนื่อง ลั่นพร้อมเปิดอีกสาขาที่ชลบุรี 28 มิ.ย.นี้ และเปิดอีกสาขาปลายปีที่จ.นครปฐม

นายวิทูร สุริยวนากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ประกอบการค้าวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งบ้านรายใหญ่ของประเทศ เปิดเผยถึงความพร้อมเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า ขณะนี้ โกลบอลเฮ้าส์มีความพร้อมที่จะนำกิจการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯแล้ว โดยยื่นไฟลิ่งไปแล้ว อยู่ระหว่างการพิจารณาอนุมัติของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)

ทั้งนี้ บริษัทจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน (IPO) จำนวน 260 ล้านหุ้น เสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไปประมาณปลายปีนี้โดยตั้งบริษัท แอสเซท โปรแมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และตั้งบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เป็นแกนจัดจำหน่ายหุ้น โดยในพื้นที่ภาคอีสานจะมีการจัดโรดโชว์ที่จังหวัดขอนแก่น 24 มิ.ย.นี้

นายวิทูร กล่าวว่า ภาพรวมการดำเนินงานโกลบอลเฮ้าส์ทั้ง 5 สาขาคือ ร้อยเอ็ด , ขอนแก่น , อุดรธานี , เวียงกุมกาม เชียงใหม่ , และระยอง ช่วงไตรมาสแรกปี 51 นี้ ประสบผลสำเร็จเกินคาด ยอดขายรวมขยายตัว 24% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ทั้งที่ภาวะเศรษฐกิจไม่เอื้ออำนวย จากการที่น้ำมันปรับขึ้นราคาอย่างรวดเร็ว

“วัสดุก่อสร้างยังเป็นสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ เศรษฐกิจที่ชะลอตัวช่วงนี้ใกล้เคียงกับวิกฤตเศรษฐกิจปี 41-42 ผลกระทบแม้จะทำให้ประชาชนชะลอการสร้างบ้านใหม่ แต่การต่อเติม ปรับปรุง ขยายที่อยู่อาศัยยังเกิดขึ้นต่อเนื่อง ที่สำคัญการสร้างที่อยู่อาศัยให้เช่า เช่น อพาร์ตเม้นต์ บ้านเช่า เกิดขึ้นมากกว่าปกติ รองรับความต้องการที่อยู่อาศัยจากการขยายตัวของประชากร”ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวและว่า

ยอดขายวัสดุก่อสร้างที่เติบโตขึ้น ส่วนหนึ่งมาจาก ราคาสินค้าที่ปรับขึ้นตามราคาน้ำมัน เช่น เหล็กเส้น ปูน แต่โกลบอลเฮ้าส์ยังคงตรึงราคาสินค้าส่วนใหญ่ไว้ ตามนโยบายธุรกิจให้ลูกค้าซื้อสินค้าคุ้มค่าเงินสูงสุด กอปรกับจุดแข็งด้านบริการรับคืนสินค้า มีสินค้าให้เลือกหลากหลาย ผลักดันให้ยอดขายสินค้าวัสดุก่อสร้างขยายตัวถึง 24% สูงกว่าตัวเลขอัตราขยายตัวของอุตสาหกรรมค้าวัสดุก่อสร้างที่มียอดเติบโต 10-13% ทุกปี

เล็งขยายสาขาต่อเนื่อง

จากกระแสตอบรับที่ดีต่อธุรกิจ ทางบริษัทได้กำหนดแผนขยายสาขาออกไปให้ครอบคลุมในจังหวัดที่มีศักยภาพตลาด ไม่จำกัดการขยายสาขาเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเท่านั้น ภายหลังการเปิดสาขาล่าสุดที่จ.ระยองไปแล้ว บริษัทได้จัดซื้อที่ดินในพื้นที่ภาคตะวันออกและภาคกลางขยายสาขาในลำดับถัดไป

นายวิทูร กล่าวว่า ในปี 2551 นี้ บริษัทฯ มีแผนจะเปิดสาขาเพิ่มอีก 2 แห่งในภาคตะวันออกและภาคกลาง รองรับการขยายตัวทางธุรกิจ และอำนวยความสะดวกเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศ โดยวันที่ 28 มิ.ย.นี้ โกลบอลเฮ้าส์ จะเปิดสาขาล่าสุด ที่จ.ชลบุรี และภายในไตรมาส 4 ปีนี้ จะเปิดอีก 1 สาขาที่จ.นครปฐม ส่วนแผนปีหน้า บริษัทฯ ได้จัดซื้อที่ดินเตรียมการก่อสร้างโกลบอลเฮ้าส์ที่จ.กาฬสินธุ์ และพระนครศรีอยุธยา คาดว่าจะเปิดได้ประมาณกลางปี 52

การลงทุนขยายสาขาแต่ละแห่ง โกลบอลเฮ้าส์ทุ่มเงินลงทุนสาขาละ 300-400 ล้านบาท โดยสาขาใหม่ทุกแห่งที่จะเกิดขึ้น ใช้คอนเซ็ปต์เดียวกัน จัดพื้นที่ขายวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่ในลักษณะแวร์เฮาส์ มีพื้นที่ขายมากกว่า 30,000 ตารางเมตร นำสินค้าเดียวกันหลายแบบและยี่ห้อให้ลูกค้าได้เลือกมากกว่า 60,000-70,000 รายการ ภายใต้บรรยากาศการขายแบบสมัยใหม่ (Modern trade) สร้างความแตกต่างจากร้านค้าวัสดุก่อสร้างทั่วไป