คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) กล่าวถึงกรณีที่นายวันชัย จงจรูญหิรันย์ หัวหน้ากลุ่มติดตามการปฎิรูปการเมืองและต่อต้านคอร์รัปชั่น (PRAC) พาสื่อมวลชนถ่ายภาพ คฤหาสน์ 50 ล้านบาท ว่า ตนทราบว่ามีแม่ค้าไปตะโกนด่ากลุ่มดังกล่าวด้วย ซึ่งที่ผ่านมาบรรดาแม่ค้าโทรศัพท์มาแจ้งว่า ตนมาซื้อที่ดินบริเวณดังกล่าว เป็นเรื่องที่ดี เพราะทำให้ความเจริญมาถึงพื้นที่นั้นเร็วขึ้น และอยากชี้แจงว่าที่ดินดังกล่าวมีพื้นที่ 1 ไร่ เป็นที่ที่สามีตนซื้อมาในปี 2505 ราคาไร่ละ 1 หมื่นบาท โดยซื้อก่อนแต่งงานกับตน และมีหลักฐานยืนยันทุกอย่าง
ส่วนตัวบ้านที่ระบุว่า หลังละ 50 ล้านบาทนั้น ถ้านายวันชัย สนใจ และขอซื้อจากตน ในราคา 40 ล้านบาท ตนก็พร้อมที่จะขายให้ทันที ส่วนสาเหตุที่ใช้หลังคาสีเหลืองไม่ใช่ สีแดง หรือเขียวนั้น เพราะต้องการแสดงถึงความจงรักภักดี จึงทำให้หลังคาดูกว้าง และใหญ่ขึ้น ซึ่งราคาหลังคาตนมีใบสั่งซื้อยืนยันว่า เป็นราคา 6 แสนบาท ส่วนบ้านที่ดูโอ่โถงก็สร้างมานานกว่า 3 ปีแล้ว จนผู้ออกแบบก่อสร้างเสียชีวิตไปแล้ว เพราะตนมีเงินก็สร้าง ไม่มีเงินก็หยุดสร้าง ยืนยันว่ามีใบ บีคิว คือใบกำหนดราคาก่อสร้างที่ตกลงราคากับผู้ก่อสร้างที่ราคา 4.4 ล้านบาท ตนพร้อมชี้แจงทุกอย่างแต่ที่ไม่อยากตอบโต้เพราะคิดว่าเราบริสุทธิและทุกอย่างสามารถชี้แจงได่ แต่ยิ่งปล่อยกลุ่มนี้ก็ยิ่งหนักข้อขึ้น
คุณหญิงจารุวรรณ กล่าวอีกว่า ส่วนปัญหาเรื่องการว่างจ้างบริษัทเข้าไปฝึกอบรมข้าราชการของ สตง.นั้น ก็ทำมาตั้งแต่ปี 2546 เนื่องจากบริษัทนี้ทางบริษัทหลักทรัพย์ ก็ว่าจ้างบริษัทดังกล่าว เพราะเป็นบริษัทที่ผ่านการตรวจสอบว่ามีคุณภาพ และคุ้มค่ากับการจ้าง แม้กระทั่งช่วงที่ตนเว้นวรรคไม่ได้เป็นผู้ว่าฯ สตง.ระหว่างปี 2547-2548 ทาง สตง.ก็ว่าจ้างบริษัทดังกล่าวในการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ทั้งหมด เพราะคุ้มค่า เนื่องจากหลังอบรมแล้วทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานตรวจสอบพบการทุจริตจำนวนมาก
คุณหญิงจารุวรรณ กล่าวด้วยว่า รู้สึกสงสัยในพฤติกรรมของ นพ.เหวง โตจิราการ ที่ก่อนหน้านี้ปี 2547 ช่วงที่ตนต้องเว้นวรรค ไม่ได้เป็นผู้ว่าฯสตง. ยังมาเดินทางมาให้กำลังใจตนอยู่เลย ไม่เข้าใจว่า เหตุใดเวลาผ่านไปไม่เท่าไร กลับมีพฤติกรรมเปลี่ยนจากหน้ามือ เป็นหลังมือ เช่นเดียวกัน นายวันชัย ซึ่งทราบมาว่ามีคดีติดตัว เพราะเป็นบุคคลที่ขับรถชนเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันที่ นปก.ชุมนุม และบุกบ้าน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ซึ่งไม่ทราบว่าตอนนี้คดีของนายวันชัย ไปถึงไหนแล้ว
ส่วนตัวบ้านที่ระบุว่า หลังละ 50 ล้านบาทนั้น ถ้านายวันชัย สนใจ และขอซื้อจากตน ในราคา 40 ล้านบาท ตนก็พร้อมที่จะขายให้ทันที ส่วนสาเหตุที่ใช้หลังคาสีเหลืองไม่ใช่ สีแดง หรือเขียวนั้น เพราะต้องการแสดงถึงความจงรักภักดี จึงทำให้หลังคาดูกว้าง และใหญ่ขึ้น ซึ่งราคาหลังคาตนมีใบสั่งซื้อยืนยันว่า เป็นราคา 6 แสนบาท ส่วนบ้านที่ดูโอ่โถงก็สร้างมานานกว่า 3 ปีแล้ว จนผู้ออกแบบก่อสร้างเสียชีวิตไปแล้ว เพราะตนมีเงินก็สร้าง ไม่มีเงินก็หยุดสร้าง ยืนยันว่ามีใบ บีคิว คือใบกำหนดราคาก่อสร้างที่ตกลงราคากับผู้ก่อสร้างที่ราคา 4.4 ล้านบาท ตนพร้อมชี้แจงทุกอย่างแต่ที่ไม่อยากตอบโต้เพราะคิดว่าเราบริสุทธิและทุกอย่างสามารถชี้แจงได่ แต่ยิ่งปล่อยกลุ่มนี้ก็ยิ่งหนักข้อขึ้น
คุณหญิงจารุวรรณ กล่าวอีกว่า ส่วนปัญหาเรื่องการว่างจ้างบริษัทเข้าไปฝึกอบรมข้าราชการของ สตง.นั้น ก็ทำมาตั้งแต่ปี 2546 เนื่องจากบริษัทนี้ทางบริษัทหลักทรัพย์ ก็ว่าจ้างบริษัทดังกล่าว เพราะเป็นบริษัทที่ผ่านการตรวจสอบว่ามีคุณภาพ และคุ้มค่ากับการจ้าง แม้กระทั่งช่วงที่ตนเว้นวรรคไม่ได้เป็นผู้ว่าฯ สตง.ระหว่างปี 2547-2548 ทาง สตง.ก็ว่าจ้างบริษัทดังกล่าวในการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ทั้งหมด เพราะคุ้มค่า เนื่องจากหลังอบรมแล้วทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานตรวจสอบพบการทุจริตจำนวนมาก
คุณหญิงจารุวรรณ กล่าวด้วยว่า รู้สึกสงสัยในพฤติกรรมของ นพ.เหวง โตจิราการ ที่ก่อนหน้านี้ปี 2547 ช่วงที่ตนต้องเว้นวรรค ไม่ได้เป็นผู้ว่าฯสตง. ยังมาเดินทางมาให้กำลังใจตนอยู่เลย ไม่เข้าใจว่า เหตุใดเวลาผ่านไปไม่เท่าไร กลับมีพฤติกรรมเปลี่ยนจากหน้ามือ เป็นหลังมือ เช่นเดียวกัน นายวันชัย ซึ่งทราบมาว่ามีคดีติดตัว เพราะเป็นบุคคลที่ขับรถชนเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันที่ นปก.ชุมนุม และบุกบ้าน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ซึ่งไม่ทราบว่าตอนนี้คดีของนายวันชัย ไปถึงไหนแล้ว