ที่โรงแรมดุสิตธานี เมื่อเวลา 18.00 น. วานนี้ (12 มิ.ย.) พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมารับประทานอาหารร่วมกับ นายทอกัส อาซิส อดีตนายกรัฐมนตรีปากีสถาน โดยมีนักลงทุนจากต่างประเทศและรัฐมนตรีของไทยเข้าร่วมด้วย เช่นนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.คมนาคม และนายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ นอกจากนี้ยังมีอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยร่วมด้วย เช่น นายสรอรรถ กลิ่นประทุม นาย ไชยยศ สะสมทรัพย์ นายจาตุรนต์ ฉายแสง อย่างไรก็ตาม ในการร่วมรับประทานอาหารครั้งนี้ ได้เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนและช่างภาพเข้าไปสังเกตการณ์และถ่ายภาพได้
นายพงษ์เทพ เทพกาญจนา โฆษกส่วนตัวพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มาเลี้ยงอาหารอดีตนายกฯปากีสถาน ซึ่งเป็นแขก ของท่านโดยมีนักธุรกิจจากประเทศกรีซอีก 2 ท่าน ซึ่งเป็นนักลงทุนทางด้าน การเดินเรือและพลังงาน
สำหรับเรื่องเงิน 2 ล้านที่พบในกล่องขนมโดยอ้างว่ามาจากทีมทนายของนักการเมืองคนหนึ่งนั้น นายพงษ์เทพ กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้สนใจในเรื่องนี้ แม้ว่าจะมีการพุ่งเป้ามาที่ท่านก็ตาม เพราะที่ผ่านมาท่านได้ยืนยันตลอดว่าพร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และยินดีที่จะให้คดีของท่านได้พิจารณาไปตามกระบวนการยุติธรรม เรื่องเงินท่านอยากเห็นศาลได้ดำเนินการสอบสวนเรื่องนี้ และเอาข้อเท็จจริงต่างๆ มาตีแผ่เพื่อให้เป็นที่ประจักษ์ต่อสังคมโดยเร็วจะได้ไม่เป็นแพะอีก อย่างไรก็ตาม พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้บ่นอะไรถึงเหตุการณ์นี้ เพราะช่วงนี้มีแขกมาพบท่านเยอะ โดยในสัปดาห์หน้า จะมีอดีตประธานาธิบดีของเปรู ซึ่งเป็นแขกของท่านมาพบท่านที่เมืองไทยอีก ตอนนี้ท่านมัวแต่รับแขกจนไม่มีเวลาคิดเรื่องอื่นหรอก
อย่างไรก็ตาม ในการหารือของพ.ต.ท.ทักษิณ กับอดีตนายกฯของปากีสถาน วันนี้ ได้คุยกันถึงเรื่องการตั้งชมรมอดีตผู้นำที่วางมือทางการเมืองแล้วด้วย โดยเฉพาะผู้นำในแถบเอเชีย
นายพงษ์เทพ กล่าวถึงการที่มีรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนี้ โดยเฉพาะนายสันติ พร้อมพัฒน์ มาร่วมด้วยนั้ น เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณ เห็นว่าหากมีอะไรที่เกี่ยวข้องกับทางด้านการคมนาคมขนส่ง รมว.คมนาคมก็จะได้มาให้ข้อมูล หรือมารับฟังข้อมูลได้ โดยท่านหวังว่าจะได้ดึงให้นักลงทุนหันมาลงทุนด้านการขนส่งในประเทศไทยได้
รมว.คมนาคม ถือเป็นตัวหลักที่รู้ว่าตอนนี้ประเทศไทยต้องการ การลงทุนประเภทไหน นอกจากนี้คุณสันติ จะได้ฟังข้อมูลด้วยว่าผู้มาลงทุนเขาสนใจอะไร ถ้าอย่างไหน ที่ประเทศไทยต้องการ ก็จะได้มีโอกาสหารือเพื่อมาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น
นายพงษ์เทพ กล่าวด้วยว่า พ.ต.ท.ทักษิณ พยายามจะดึงให้นักลงทุนต่างชาติ เข้ามาลงทุนในประเทศไทยและในภูมิภาคนี้ เช่นที่ผ่านมาได้ดึงนักลงทุนทางด้าน การเดินเรือให้มาลงทุนในประเทศไทย แต่พอไปพูดที่ประเทศอินโดนีเซีย ถือว่าผิดกับไทยมาก เพราะนักลงทุนในอินโดนีเซียเขาตอบสนองเร็วมาก และนักลงทุนเหล่านี้เขาก็พร้อมที่จะหันไปลงทุนในประเทศอินโดนีเซีย
ส่วนที่วันนี้มีแกนนำอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย และอยู่ในบ้านเลขที่ 111 มากันมาก นั้น เนื่องจากวันนี้มีแขกจากต่างประเทศของ พ.ต.ท. ทักษิณ มามาก จึงได้เชิญให้มาช่วยรับแขกด้วย ในฐานะที่อยู่ในบ้านเลขที่ 111 เหมือนกัน ซึ่งคนที่มาส่วนใหญ่ก็เป็นรัฐมนตรีที่เคยทำงานร่วมกันมาทั้งนั้น ที่สำคัญพ.ต.ท.ทักษิณ และอดีตนายกฯปากีสถาน ก็มีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน เนื่องจากทั้ง 2 ท่านเป็นนายกรัฐมนตรีในช่วงเวลาเดียวกัน และถือเป็นนักบริหารเหมือนกัน ที่สำคัญอายุเท่ากันด้วย
นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลังในฐานะเลขาธิการ พรรคพลังประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาภายในพรรคพลังประชาชน ซึ่งมีการมอบหมายให้แกนนำแบ่งดูแลส.ส.เป็นกลุ่มๆว่า ยังไม่ทราบ และยืนยันว่า ไม่มีการแจกเอกสารเกี่ยวกับการแบ่งกลุ่มอย่างที่เป็นข่าว
อย่างไรก็ตาม มีการพูดคุยและเน้นย้ำกันว่าผู้บริหารพรรคและรัฐมนตรีจะต้องเข้ามาพูดคุยและรับฟังความคิดเห็นของส.ส.ที่ เป็นเสียงสะท้อนความเดือร้อน จากประชาชน ส่วนที่มีข่าวว่ามีการดึงอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย เข้ามาร่วมด้วยนั้น ยืนยันว่าไม่มีการดึงเข้ามาช่วยงานอะไร และโดยหลักการ คนเหล่านั้นไม่ได้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับพรรค ดังนั้นที่มีข่าวว่าอดีตกรรมการบริหารพรรค 111 คนจะเข้ามาประชุมที่พรรคพลังประชาชนนั้นไม่เป็นความจริง หากจะไปพบปะกับนักการเมืองอื่นทั่วไปนั้น เป็นเรื่องส่วนตัวไม่ใช่กิจกรรมของพรรคพลังประชาชน
นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ในอดีตที่ผ่านมาสมัยพรรคไทยรักไทยที่เคยอยู่จะมีการจัดให้รัฐมนตรีมาพบปะพูดคุยกับสมาชิกพรรคในวันที่มีการประชุมเพื่อรับฟังเรื่องราว และเสียงสะท้อนของส.ส.และนำไปแก้ไขปัญหา ซึ่งไม่ได้หมายความว่ารัฐมนตรีจะต้องรับผิดชอบเฉพาะส.ส.กลุ่มนี้
ยืนยันว่าภายในพรรคพลังประชาชนไม่มีปัญหาเรื่องภาคนิยม ซึ่งในระบบของพรรคจะมีการประชุมพรรคจากนั้นจึงจะประชุมรวม แต่การที่จัดโครงสร้างในลักษณะนี้เพื่อให้มีโครงสร้างที่กระจายอำนาจในการบริหารและตัดสินใจ ไม่ได้เน้นเรื่องภาคนิยม เพราะถือว่าทุกภาคมีบทบาทเท่าเทียมกัน
ส่วนที่ ส.ส.อีสานประกาศจะเชื่อฟังนายเนวิน ชิดชอบ เพียงคนเดียวนั้น นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ได้สอบถามคนที่พูดแล้วได้รับการยืนยันว่าไม่ได้หมายความ อย่างนั้น ส่วนกรณีที่มีข่าวว่า ในการประชุมเมื่อวันที่10มิ.ย. ส.ส.แสดงความกังวล เรื่องการยุบสภาฯนั้น นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ไม่มีใครถาม ยืนยันว่าไม่ได้กังวล เรื่องการยุบสภาฯ ส่วนรัฐบาลจะรอให้ตั้งกรรมาธิการร่วมศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก่อนที่จะมีร่างพ.ร.บ.ประชามติหรือไม่นั้น นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่มีการพูดคุย กัน และร่างพ.ร.บ.ประชามติก็อยู่ในขั้นตอนเสนอการเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ รัฐบาลจึงไม่จำเป็นจะต้องเร่งตัดสินใจ
ด้าน ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง โฆษกพรรคพลังประชาชน กล่าวถึงกระแสข่าวที่ว่า พรรคพลังประชาชนมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างของพรรคใหม่โดยมอบหมายให้ 2 รัฐมนตรีดูแล 21 ส.ส.โดยจัดเรียงรายชื่อตามตัวอักษรนั้น ร.ท.กุเทพ กล่าวว่า จากการ ประชุม ส.ส.พรรคครั้งที่ผ่านมา มีการแจ้งให้ สมาชิกทุกคนทราบว่า ขณะนี้เรามี ส.ส. 200 กว่าคน และรู้จักหน้าตากันไม่หมดทุกคน รัฐมนตรีเองก็มีการประสานงานกันน้อยมาก ดังนั้นผู้อำนวยการพรรคจึงประสานให้ ส.ส.เรียงรายชื่อตามลำดับตัวอักษร จัดเป็นกลุ่มๆ ละ 20 คน มีรัฐมนตรีหรือผู้ใหญ่ ของพรรคช่วยดูแลกลุ่มละ 2 ท่าน เพื่อนำข้อมูลของส.ส.ที่รับทราบปัญหาของประชาชนมามอบให้กับรัฐมนตรี เพื่อหาทางแก้ไข และเพื่อให้เกิดภาพว่าทุกคนไม่มีกลุ่ม
ส่วนจะมีอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยมาช่วยดูแลด้วยหรือไม่นั้น ร.ท.กุเทพ กล่าวว่า ถ้าจะหาบุคคลใดมาช่วยดูแลก็สามารถทำได้ทั้งสิ้น เพราะเป็นการดูแลกันภายในพรรค ไม่เกี่ยวกับการเมือง และไม่ส่งผลกระทบต่อกรณ๊ที่ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองด้วย ดังนั้นสามารถที่จะมาให้คำปรึกษาและคำแนะนำได้
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่าการปรับโครงสร้างพรรคดังกล่าวเพื่อต้องการสลายขั้วอำนาจของกลุ่ม นายเนวิน ชิดชอบ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ซึ่งมีขนาดใหญ่จนเกินไปนั้น ร.ท.กุเทพ กล่าวว่า เรื่องขั้วไม่ใช่เรื่องที่ดีสำหรับพรรคการเมือง ซึ่งเมื่อมีการจัดโครงสร้างพรรคใหม่แล้ว พรรคก็จะมีความเป็นสถาบันมากขึ้น และไม่ใช่เรื่องของการสลายขั้วใดๆ ทั้งสิ้น เพียงแต่ในอดีตยังไม่เคยมี โครงสร้างที่ชัดเจนแบบนี้เกิดขึ้นเท่านั้น อย่างกรณีของตนนั้น เป็นอักษรก.ไก่ จะมี นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.คมนาคม มาช่วยดูแล
ส่วนกรณีที่นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ออกมาพูดเหมือนถูกโดดเดี่ยวในพรรคนั้น ร.ท.กุเทพ กล่าวว่า ไม่มีการโดดเดี่ยวใดๆทั้งสิ้น นายมิ่งขวัญมีความคิดการบริหารที่ดี ยืนยันว่าไม่มีปัญหาอย่างที่กล่าวมาแน่นอน
นายพงษ์เทพ เทพกาญจนา โฆษกส่วนตัวพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มาเลี้ยงอาหารอดีตนายกฯปากีสถาน ซึ่งเป็นแขก ของท่านโดยมีนักธุรกิจจากประเทศกรีซอีก 2 ท่าน ซึ่งเป็นนักลงทุนทางด้าน การเดินเรือและพลังงาน
สำหรับเรื่องเงิน 2 ล้านที่พบในกล่องขนมโดยอ้างว่ามาจากทีมทนายของนักการเมืองคนหนึ่งนั้น นายพงษ์เทพ กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้สนใจในเรื่องนี้ แม้ว่าจะมีการพุ่งเป้ามาที่ท่านก็ตาม เพราะที่ผ่านมาท่านได้ยืนยันตลอดว่าพร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และยินดีที่จะให้คดีของท่านได้พิจารณาไปตามกระบวนการยุติธรรม เรื่องเงินท่านอยากเห็นศาลได้ดำเนินการสอบสวนเรื่องนี้ และเอาข้อเท็จจริงต่างๆ มาตีแผ่เพื่อให้เป็นที่ประจักษ์ต่อสังคมโดยเร็วจะได้ไม่เป็นแพะอีก อย่างไรก็ตาม พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้บ่นอะไรถึงเหตุการณ์นี้ เพราะช่วงนี้มีแขกมาพบท่านเยอะ โดยในสัปดาห์หน้า จะมีอดีตประธานาธิบดีของเปรู ซึ่งเป็นแขกของท่านมาพบท่านที่เมืองไทยอีก ตอนนี้ท่านมัวแต่รับแขกจนไม่มีเวลาคิดเรื่องอื่นหรอก
อย่างไรก็ตาม ในการหารือของพ.ต.ท.ทักษิณ กับอดีตนายกฯของปากีสถาน วันนี้ ได้คุยกันถึงเรื่องการตั้งชมรมอดีตผู้นำที่วางมือทางการเมืองแล้วด้วย โดยเฉพาะผู้นำในแถบเอเชีย
นายพงษ์เทพ กล่าวถึงการที่มีรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนี้ โดยเฉพาะนายสันติ พร้อมพัฒน์ มาร่วมด้วยนั้ น เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณ เห็นว่าหากมีอะไรที่เกี่ยวข้องกับทางด้านการคมนาคมขนส่ง รมว.คมนาคมก็จะได้มาให้ข้อมูล หรือมารับฟังข้อมูลได้ โดยท่านหวังว่าจะได้ดึงให้นักลงทุนหันมาลงทุนด้านการขนส่งในประเทศไทยได้
รมว.คมนาคม ถือเป็นตัวหลักที่รู้ว่าตอนนี้ประเทศไทยต้องการ การลงทุนประเภทไหน นอกจากนี้คุณสันติ จะได้ฟังข้อมูลด้วยว่าผู้มาลงทุนเขาสนใจอะไร ถ้าอย่างไหน ที่ประเทศไทยต้องการ ก็จะได้มีโอกาสหารือเพื่อมาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น
นายพงษ์เทพ กล่าวด้วยว่า พ.ต.ท.ทักษิณ พยายามจะดึงให้นักลงทุนต่างชาติ เข้ามาลงทุนในประเทศไทยและในภูมิภาคนี้ เช่นที่ผ่านมาได้ดึงนักลงทุนทางด้าน การเดินเรือให้มาลงทุนในประเทศไทย แต่พอไปพูดที่ประเทศอินโดนีเซีย ถือว่าผิดกับไทยมาก เพราะนักลงทุนในอินโดนีเซียเขาตอบสนองเร็วมาก และนักลงทุนเหล่านี้เขาก็พร้อมที่จะหันไปลงทุนในประเทศอินโดนีเซีย
ส่วนที่วันนี้มีแกนนำอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย และอยู่ในบ้านเลขที่ 111 มากันมาก นั้น เนื่องจากวันนี้มีแขกจากต่างประเทศของ พ.ต.ท. ทักษิณ มามาก จึงได้เชิญให้มาช่วยรับแขกด้วย ในฐานะที่อยู่ในบ้านเลขที่ 111 เหมือนกัน ซึ่งคนที่มาส่วนใหญ่ก็เป็นรัฐมนตรีที่เคยทำงานร่วมกันมาทั้งนั้น ที่สำคัญพ.ต.ท.ทักษิณ และอดีตนายกฯปากีสถาน ก็มีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน เนื่องจากทั้ง 2 ท่านเป็นนายกรัฐมนตรีในช่วงเวลาเดียวกัน และถือเป็นนักบริหารเหมือนกัน ที่สำคัญอายุเท่ากันด้วย
นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลังในฐานะเลขาธิการ พรรคพลังประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาภายในพรรคพลังประชาชน ซึ่งมีการมอบหมายให้แกนนำแบ่งดูแลส.ส.เป็นกลุ่มๆว่า ยังไม่ทราบ และยืนยันว่า ไม่มีการแจกเอกสารเกี่ยวกับการแบ่งกลุ่มอย่างที่เป็นข่าว
อย่างไรก็ตาม มีการพูดคุยและเน้นย้ำกันว่าผู้บริหารพรรคและรัฐมนตรีจะต้องเข้ามาพูดคุยและรับฟังความคิดเห็นของส.ส.ที่ เป็นเสียงสะท้อนความเดือร้อน จากประชาชน ส่วนที่มีข่าวว่ามีการดึงอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย เข้ามาร่วมด้วยนั้น ยืนยันว่าไม่มีการดึงเข้ามาช่วยงานอะไร และโดยหลักการ คนเหล่านั้นไม่ได้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับพรรค ดังนั้นที่มีข่าวว่าอดีตกรรมการบริหารพรรค 111 คนจะเข้ามาประชุมที่พรรคพลังประชาชนนั้นไม่เป็นความจริง หากจะไปพบปะกับนักการเมืองอื่นทั่วไปนั้น เป็นเรื่องส่วนตัวไม่ใช่กิจกรรมของพรรคพลังประชาชน
นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ในอดีตที่ผ่านมาสมัยพรรคไทยรักไทยที่เคยอยู่จะมีการจัดให้รัฐมนตรีมาพบปะพูดคุยกับสมาชิกพรรคในวันที่มีการประชุมเพื่อรับฟังเรื่องราว และเสียงสะท้อนของส.ส.และนำไปแก้ไขปัญหา ซึ่งไม่ได้หมายความว่ารัฐมนตรีจะต้องรับผิดชอบเฉพาะส.ส.กลุ่มนี้
ยืนยันว่าภายในพรรคพลังประชาชนไม่มีปัญหาเรื่องภาคนิยม ซึ่งในระบบของพรรคจะมีการประชุมพรรคจากนั้นจึงจะประชุมรวม แต่การที่จัดโครงสร้างในลักษณะนี้เพื่อให้มีโครงสร้างที่กระจายอำนาจในการบริหารและตัดสินใจ ไม่ได้เน้นเรื่องภาคนิยม เพราะถือว่าทุกภาคมีบทบาทเท่าเทียมกัน
ส่วนที่ ส.ส.อีสานประกาศจะเชื่อฟังนายเนวิน ชิดชอบ เพียงคนเดียวนั้น นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ได้สอบถามคนที่พูดแล้วได้รับการยืนยันว่าไม่ได้หมายความ อย่างนั้น ส่วนกรณีที่มีข่าวว่า ในการประชุมเมื่อวันที่10มิ.ย. ส.ส.แสดงความกังวล เรื่องการยุบสภาฯนั้น นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ไม่มีใครถาม ยืนยันว่าไม่ได้กังวล เรื่องการยุบสภาฯ ส่วนรัฐบาลจะรอให้ตั้งกรรมาธิการร่วมศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก่อนที่จะมีร่างพ.ร.บ.ประชามติหรือไม่นั้น นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่มีการพูดคุย กัน และร่างพ.ร.บ.ประชามติก็อยู่ในขั้นตอนเสนอการเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ รัฐบาลจึงไม่จำเป็นจะต้องเร่งตัดสินใจ
ด้าน ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง โฆษกพรรคพลังประชาชน กล่าวถึงกระแสข่าวที่ว่า พรรคพลังประชาชนมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างของพรรคใหม่โดยมอบหมายให้ 2 รัฐมนตรีดูแล 21 ส.ส.โดยจัดเรียงรายชื่อตามตัวอักษรนั้น ร.ท.กุเทพ กล่าวว่า จากการ ประชุม ส.ส.พรรคครั้งที่ผ่านมา มีการแจ้งให้ สมาชิกทุกคนทราบว่า ขณะนี้เรามี ส.ส. 200 กว่าคน และรู้จักหน้าตากันไม่หมดทุกคน รัฐมนตรีเองก็มีการประสานงานกันน้อยมาก ดังนั้นผู้อำนวยการพรรคจึงประสานให้ ส.ส.เรียงรายชื่อตามลำดับตัวอักษร จัดเป็นกลุ่มๆ ละ 20 คน มีรัฐมนตรีหรือผู้ใหญ่ ของพรรคช่วยดูแลกลุ่มละ 2 ท่าน เพื่อนำข้อมูลของส.ส.ที่รับทราบปัญหาของประชาชนมามอบให้กับรัฐมนตรี เพื่อหาทางแก้ไข และเพื่อให้เกิดภาพว่าทุกคนไม่มีกลุ่ม
ส่วนจะมีอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยมาช่วยดูแลด้วยหรือไม่นั้น ร.ท.กุเทพ กล่าวว่า ถ้าจะหาบุคคลใดมาช่วยดูแลก็สามารถทำได้ทั้งสิ้น เพราะเป็นการดูแลกันภายในพรรค ไม่เกี่ยวกับการเมือง และไม่ส่งผลกระทบต่อกรณ๊ที่ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองด้วย ดังนั้นสามารถที่จะมาให้คำปรึกษาและคำแนะนำได้
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่าการปรับโครงสร้างพรรคดังกล่าวเพื่อต้องการสลายขั้วอำนาจของกลุ่ม นายเนวิน ชิดชอบ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ซึ่งมีขนาดใหญ่จนเกินไปนั้น ร.ท.กุเทพ กล่าวว่า เรื่องขั้วไม่ใช่เรื่องที่ดีสำหรับพรรคการเมือง ซึ่งเมื่อมีการจัดโครงสร้างพรรคใหม่แล้ว พรรคก็จะมีความเป็นสถาบันมากขึ้น และไม่ใช่เรื่องของการสลายขั้วใดๆ ทั้งสิ้น เพียงแต่ในอดีตยังไม่เคยมี โครงสร้างที่ชัดเจนแบบนี้เกิดขึ้นเท่านั้น อย่างกรณีของตนนั้น เป็นอักษรก.ไก่ จะมี นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.คมนาคม มาช่วยดูแล
ส่วนกรณีที่นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ออกมาพูดเหมือนถูกโดดเดี่ยวในพรรคนั้น ร.ท.กุเทพ กล่าวว่า ไม่มีการโดดเดี่ยวใดๆทั้งสิ้น นายมิ่งขวัญมีความคิดการบริหารที่ดี ยืนยันว่าไม่มีปัญหาอย่างที่กล่าวมาแน่นอน