xs
xsm
sm
md
lg

แฉ"สมัคร"หัก"มิ่งขวัญ" เหตุทำตัวเด่นแต่ไร้ฝีมือ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แฉเหตุผล “สมัคร” หักหน้า “มิ่งขวัญ” 2 ครั้งซ้อนในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา เหตุเบื่อมัวแต่ทำตัวเด่นโปรโมตตัวเองผ่านสื่อเอาหน้า แต่ในทางปฏิบัติไม่เป็นมวย

เมื่อสัปดาห์ก่อน นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้ปฎิบัติการหักหลังนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ถึง 2 ครั้ง 2 คราว ในเรื่องข้าว เริ่มจากเมื่อวันที่ 4 มิ.ย. นัดประชุมด่วน โดยเชิญรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องและไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องข้าว 11 คนมาหารือ และประกาศให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) รับจำนำข้าวเปลือกเจ้าที่ตันละ 14,000 บาท แทนองค์การคลังสินค้า (อคส.) ขณะที่ตัวนายมิ่งขวัญ ผู้รับผิดชอบโดยตรงอยู่ระหว่างเดินทางกลับจากการประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปก

ถัดมาเมื่อวันที่ 6 มิ.ย. นายสมัครได้เรียกประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) นอกเหนือจากการยืนยันให้ธ.ก.ส.รับจำนำข้าวแทนอคส. แล้ว ยังมีมติให้กระทรวงพาณิชย์ชะลอการทำข้าวถุงธงฟ้ามหาชนออกไปก่อน หลังจากที่วันที่ 5 มิ.ย. มีข่าวออกสื่อว่านายสมัครสั่งเบรกการทำข้าวถุงธงฟ้า เพราะเป็นต้นเหตุทำให้ข้าวราคาตกต่ำ โดยที่การประชุมกขช.ครั้งนี้ นายมิ่งขวัญได้เดินทางกลับมาจากต่างประเทศและได้เข้าร่วมประชุมด้วย

แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า สาเหตุที่นายสมัครดึงงานเรื่องข้าวไปทำเอง ทั้งๆ ที่กระทรวงพาณิชย์มีแผนที่จะเสนอให้กขช.พิจารณาโครงการรับจำนำอยู่แล้ว คงเป็นเพราะว่านายสมัครต้องการสกัดม๊อบชาวนาที่ได้ออกมาขู่ว่าจะรวมตัวกันประท้วงรัฐบาล กรณีที่แก้ไขปัญหาข้าวล้มเหลว เพราะทำให้ราคาข้าวจากที่เคยขึ้นไปสูงสุดตันละกว่า 15,000 บาท ปรับตัวลดลงมาเหลือประมาณตันละ 10,000 บาท และมีแนวโน้มลดต่ำลงอีก นายสมัครจึงต้องออกมาดำเนินการเองในทันที โดยให้เหตุผลว่าเป็นวาระแห่งชาติ

ทั้งนี้ นายสมัครได้ประกาศว่าจะเริ่มรับจำนำเริ่มตั้งแต่วันที่ 5 มิ.ย. แต่พอประกาศไปแล้ว มีคนทักท้วงว่าทำผิดขั้นตอน เพราะต้องเสนอเข้าเป็นมติกขช.ก่อน จึงได้มีการเสนอเข้ากขช.พิจารณาในวันที่ 6 มิ.ย. และถึงแม้กขช.จะมีมติออกมาแล้ว ธ.ก.ส.คงไม่สามารถรับจำนำได้ทันที เพราะต้องเตรียมความพร้อม ซึ่งอย่างเร็วคงเป็นวันที่ 15 มิ.ย. ตามที่ได้มีการคาดกันไว้

แหล่งข่าวตั้งข้อสังเกตว่า การเสนอให้ธ.ก.ส.เข้ามารับจำนำข้าวแทนอคส.นั้น มีการอ้างคำพูดนายสมัครในการประชุมร่วมกับ 11 รัฐมนตรีว่ากระทรวงพาณิชย์ทำงานล่าช้า โดยเฉพาะนายมิ่งขวัญว่าไม่สามารถแก้ไขปัญหาราคาข้าวได้ จนทำให้เกษตรกรเกิดความไม่พอใจและเตรียมก่อม็อบชาวนาเข้ากรุงเทพฯ เพื่อประท้วงรัฐบาล รัฐบาลจึงต้องแก้ไขปัญหาเร่งด่วนด้วยการเปิดโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังขึ้นมาในทันที

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบการทำงานของนายมิ่งขวัญพบว่า มีความผิดพลาดในหลายๆ จุด ตั้งแต่การประกาศจะรับซื้อข้าวเองที่ตันละ 14,000 บาท แต่ไร้มาตรการรองรับ เพราะในฐานะที่เป็นรมว.พาณิชย์ และดูแลงานอคส. แต่ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา กลับไม่มีการแต่งตั้งบอร์ดอคส. ทั้งๆ ที่มีความจำเป็นอย่างมาก เพราะอคส. จะกู้เงินมาดำเนินการรับจำนำข้าวได้ ก็ต้องผ่านมติบอร์ดอคส. ก่อน

“สิ่งที่เกิดขึ้น ทำให้ อคส. เป็นง่อย รับนโยบายมาแล้ว แต่ทำงานไม่ได้ เป็นความผิดพลาดอย่างแรงของนายมิ่งขวัญ จนเป็นเหตุให้นายกฯ ต้องดึงงานจำนำข้าวไปให้ธ.ก.ส.ทำเอง” แหล่งข่าวกล่าว

ส่วนการสั่งให้กระทรวงพาณิชย์ชะลอการทำข้าวถุงธงฟ้า เพราะมีผลกระทบต่อกลไกตลาด โดยพ่อค้าข้าวถุง ไม่สามารถปรับราคาข้าวถุงตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้นได้ เนื่องจากมีข้าวถุงของกระทรวงพาณิชย์เป็นคู่แข่ง จึงได้หาทางออกด้วยการบีบซื้อข้าวจากชาวนาในราคาต่ำ เพื่อนำมาบรรจุถุงแล้วขายแข่งกับข้าวถุงของกระทรวงพาณิชย์ ขณะที่โรงสีและผู้ส่งออกก็ผสมโรง ใช้เหตุผลนี้ในการบีบซื้อข้าวจากชาวนา

นอกจากนี้ มันเป็นเรื่องที่ผิดปกติอย่างมาก ที่ประเทศไทยในฐานะผู้ผลิตและส่งออกข้าวอันดับ 1 ของโลก แต่ประชาชนต้องมาเข้าคิวซื้อข้าวไปรับประทาน ซึ่งภาพที่ออกไป ได้ส่งผลเสียมากกว่าผลดี จึงเป็นเหตุผลที่นายสมัครขอให้กระทรวงพาณิชย์ชะลอการทำข้าวถุงธงฟ้าออกไป

ก่อนหน้านี้ โพลล์สำนักต่างๆ ได้ออกมาระบุว่า นายมิ่งขวัญเป็นรัฐมนตรีที่มีผลงานโดดเด่นที่สุด โดยนายสมัคร เป็นคนที่โพลล์เห็นว่ามีผลงานน้อย และรั้งอยู่อันดับท้ายๆ

รายงานข่าวแจ้งว่า สาเหตุที่ทำให้นายมิ่งขวัญเป็นรัฐมนตรีที่มีผลงานโดดเด่น เนื่องจากนายมิ่งขวัญมักจะนำวิธีการทางด้านการตลาดมาใช้ โดยในการแถลงข่าวแต่ละครั้ง มักจะดึงประเด็นที่คิดว่าพูดแล้วจะเป็นข่าวใหญ่โต เช่น ราคาข้าวจะถึงขึ้นตันละ 30,000 บาท มีคนเข้าคิวรอซื้อข้าวไทย 6.7 ล้านตัน จะนำข้าวในสต๊อก 2.1 ล้านตันมาบรรจุถุงขาย กระทรวงพาณิชย์จะซื้อข้าวเองตันละ 14,000 บาท เป็นต้น ซึ่งการดึงประเด็นมาพูดเช่นนี้ แน่นอนว่าจะต้องเป็นข่าวใหญ่ ทำให้คนดูข่าว อ่านข่าว เห็นว่านายมิ่งขวัญเป็นคนที่ทำงาน และมีผลงาน

แต่ทั้งนี้ ไม่เคยมีใครไปตรวจสอบว่า หลังจากที่พูดให้เป็นข่าวไปแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นได้ผลตามที่พูดไว้หรือไม่ และทำได้จริงหรือไม่ แต่ในแง่การตลาด ต้องยอมรับว่านายมิ่งขวัญประสบความสำเร็จไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม ไม่เพียงแต่เรื่องข้าวที่นายมิ่งขวัญใช้กลยุทธิ์ทางด้านการตลาดมาใช้ การแก้ไขปัญหาเรื่องอื่นๆ ก็ใช้วิธีเช่นเดียวกันนี้ เช่น การแก้ไขปัญหาค่าครองชีพ นายมิ่งขวัญเคยประกาศใหญ่โตว่าสามารถทำให้ผู้ผลิตสินค้า 60 รายการปรับลดราคาลงมาเป็นเวลา 2 เดือน แต่พอตรวจสอบเข้าจริง ลดราคาแค่ไม่กี่วัน การแก้ไขปัญหาลำไย ที่ระบุว่ามีคนขอซื้อลำไยสูงถึง 8 แสนตัน จากจำนวนผลผลิต 4 แสนตัน ซึ่งขณะนี้ทุกคนกำลังรอดูผลว่าเมื่อผลผลิตลำไยออกมาแล้ว ราคาจะเป็นอย่างไร หรือกระทั่งมังคุด ที่ระบุว่ามีห้างดังชื่อนั้นชื่อนี้จากต่างประเทศ มาติดต่อขอซื้อ รวมไปถึงจะทำตลาดมังคุดในต่างประเทศ แต่ล่าสุดราคามังคุดก็ยังตกต่ำ เป็นต้น.
กำลังโหลดความคิดเห็น