วงการตลาดเครื่องสำอางเคาน์เตอร์เซลล์มูลค่า 9,000 ล้านบาท สั่นสะเทือน หลังเจอหางเลขจากพิษเศรษฐกิจ ปีนี้คาดทรงตัว กลุ่มเครื่องสำอางสหพัฒน์ฟากไอซีซี หมดหวังอาจปรับเป้าใหม่ จากเดิมที่วางไว้10% ส่วนโอซีซี เร่งปั้น KMA ลุยตลาดแมส ทั้งในและต่างประเทศ คุยปีนี้รายได้โตอีกเท่าตัว ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท
นางธีรดา อำพันวงษ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ บริษัท ไอ.ซี.ซี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจเสื้อผ้าและเครื่องสำอางบีเอสซี หนึ่งในกลุ่มสหพัฒน์ เปิดเผยว่า ภาพรวมรายได้ของแบรนด์บีเอสซีในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา พบว่ายังมีการเติบโตที่ 5% โดยรายได้ของบีเอสซีนั้น มาจากเครื่องสำอาง 60% และ40% มาจากเสื้อผ้า ซึ่งการเติบโตดังกล่าว มาจากการพัฒนาออกผลิตภัณฑ์ใหม่ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าสภาพเศรษฐกิจจะไม่ค่อยดี แต่ผู้บริโภคก็ยังให้ความสำคัญกับความสวยความงาม
นางจินตนา เฉลิมชัยกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายขาย-การตลาดเครื่องสำอาง บริษัท ไอ.ซี.ซี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) กล่าวเพิ่มเติมว่า ปีนี้ทางบริษัทฯตั้งเป้ารายได้จากกลุ่มเครื่องสำอางว่าจะต้องมีการเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% จากรายได้ 1,800 ล้านบาทที่ทำได้จากปีก่อน ซึ่งขณะนี้สามารถสร้างรายได้ไปแล้วกว่าครึ่งทาง แต่เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยดีนี้ ส่งผลให้คาดการณ์ได้ยากว่า ในช่วงครึ่งปีหลังจากนี้จะสามารถทำได้ถึงเป้าหมายหรือไม่ แต่บริษัทฯก็จะพยายามให้มากที่สุด ซึ่งในอนาคตอาจจะมีการปรับเป้าการเติบโตใหม่หรือไม่นั้น ก็ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์เศรษฐกิจเป็นสำคัญ
ทั้งนี้ในช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมา พบว่า เครื่องสำอางแบรนด์บีเอสซีโตเพียง5% ซ฿งเป็นการเติบโจจากผลิตภัณฑ์ใหม่ ในกลุ่มบำรุงผิว ขณะที่เครื่องสำอาง อาร์ตี้ โปรเฟสชัลนอล โตเกิน 10% ในกลุ่มรองพื้น แป้งพับ ซึ่งในภาพรวมยังพบอีกว่า ยอดการใช้จ่ายของลูกค้าต่อใบเสร็จลดลงกว่า 10%
ดังนั้นช่วงครึ่งปีหลังจากนี้ ทางบริษํทฯจะเน้นพัฒนาสินค้าใหม่ออกมา พร้อมกับหันมาใช้กิจกรรมทางการตลาดที่หลางกหลาย เพื่อดึงลูกค้าใหม่ให้เพิ่มขึ้นมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น การเวิร์คชอป ให้บริการแต่งหน้า โปรโมชั่นลดราคาสินค้า แจกสินค้าตัวอย่าง รวมถึงรวมกับสถาบันการเงินต่างๆ เพื่อให้ผ่อนชำระสินค้าผ่านบัตรเครดิตได้
ล่าสุดในส่วนของเครื่องสำอางแบรนด์บีเอสซี ได้นำผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาด คือ "BSC Time Defence Extreme Caviar Intensive Care" เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับต่อต้านริ้วรอยแห่งวัย โดยนำเอา คาร์เวียร์และทองคำบริสุทธ์ มาเป็นส่วนผสมหลักในการช่วยฟื้นฟูผิว คาดว่าจะได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี
ทั้งนี้กลุ่มเครื่องสำอางที่ทำรายได้สูงสุดให้บริษัทฯ คือ บีเอสซี 60% รองลงมาคือ อาร์ตี้ โปรเฟสชันนอล, เพียวแคร์, ชีเน่ และเซนต์ แอนดรูว์ รวมกันอีก 40% ซึ่งเมื่อรวมรายได้เข้าด้วยกันแล้ว คาดว่าบริษัทฯจะมีส่วนแบ่งทางการตลาดประมาณ 10% ของตลาดเครื่องสำอางเคาน์เตอร์เซลล์ ที่มีมูลค่ากว่า 9,000 ล้านบาท ซึ่งปีนี้เชื่อว่าภาพรวมของตลาดจะทรงตัวเท่าปีที่ผ่านมา
**โอซีซี ปั้น KMA ลุยแมสทั้งในและต่างประเทศ**
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ บริษัท โอซีซี จำกัด (มหาชน) อีกหนึ่งบริษัทฯของกลุ่มสหพัฒน์ ที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องสำอางเช่นเดียวกัน ปีนี้กำลังเดินหมากครั้งสำคัญ ในการปลุกปั้นแบรนด์ เคเอ็มเอ สู่กลุ่มตลาดแมสที่เป็นวัยรุ่นมากยิ่งขึ้น หลังจากที่ประสบความสำเร็จในการรีเฟชรแบรนด์ จากเคม่า มาเป็น เคเอ็มเอ จากปีที่ผ่านมา
นางกาญจนา สายสิริพร กรรมการบริหาร บริษัท โอซีซี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หลังจากที่มีการรีเฟชรแบรนด์เคม่า มาเป็นเคเอ็มเอ ตั้งแต่ในปีก่อนที่ผ่านมา พบว่า ประสบความสำเร็จอย่างสูงในส่วนของตลาดต่างประเทศเพื่อนบ้าน อย่างกัมพูชา ซึ่งในปีนี้บริษัทฯจะเข้าไปรุกตลาดต่างประเทศเพิ่มมากขึ้นไม่ว่าจะเป็น เวียดนาม หรือ พม่า คาดว่าน่าจะเพิ่มสัดส่วนรายได้เป็น 50 % ของยอดขายที่ตั้งไว้ 100 ล้านบาทในปีนี้ จากรายได้ในปีก่อนที่ทำได้ 50-60 ล้านบาท
ทั้งนี้ในส่วนของประเทศไทย ปีนี้ทางบริษัทฯได้เพิ่มงบการตลาดเป็น 15 ล้านบาท จากเดิม 5 ล้านบาทในปีก่อน สำหรับทำตลาดแบบเต็มรูปแบบหลังจากนี้ โดยจะมีการนำเอาแพท-นปภา ตันตระกูล ดารานักแสดงชื่อดังมาเป็นพรีเซนเตอร์ เชื่อว่าจะสามารถสร้างการรับรู้แบรนด์ในกลุ่มเป้าหมายที่เป็น วัยรุ่น ระดับแมสขึ้นไป ได้เป็นอย่างดี ภายใต้การจำหน่ายผ่านช่องทางจำหน่าย โมเดิร์นเทรด ในเทสโก้โลตัส โรบินสันทุกสาขา จังซีลอน และร้านขายเครื่องสำอางทั่วไป
อย่างไรก็ตามในส่วนของโอซีซี จากเดิมที่คาดว่าจะมีการเติบโตที่ 15% คาดว่าปีนี้น่าจะทำได้เพียง 10% จาก 1,300 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจเป็นสำคัญ
นางธีรดา อำพันวงษ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ บริษัท ไอ.ซี.ซี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจเสื้อผ้าและเครื่องสำอางบีเอสซี หนึ่งในกลุ่มสหพัฒน์ เปิดเผยว่า ภาพรวมรายได้ของแบรนด์บีเอสซีในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา พบว่ายังมีการเติบโตที่ 5% โดยรายได้ของบีเอสซีนั้น มาจากเครื่องสำอาง 60% และ40% มาจากเสื้อผ้า ซึ่งการเติบโตดังกล่าว มาจากการพัฒนาออกผลิตภัณฑ์ใหม่ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าสภาพเศรษฐกิจจะไม่ค่อยดี แต่ผู้บริโภคก็ยังให้ความสำคัญกับความสวยความงาม
นางจินตนา เฉลิมชัยกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายขาย-การตลาดเครื่องสำอาง บริษัท ไอ.ซี.ซี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) กล่าวเพิ่มเติมว่า ปีนี้ทางบริษัทฯตั้งเป้ารายได้จากกลุ่มเครื่องสำอางว่าจะต้องมีการเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% จากรายได้ 1,800 ล้านบาทที่ทำได้จากปีก่อน ซึ่งขณะนี้สามารถสร้างรายได้ไปแล้วกว่าครึ่งทาง แต่เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยดีนี้ ส่งผลให้คาดการณ์ได้ยากว่า ในช่วงครึ่งปีหลังจากนี้จะสามารถทำได้ถึงเป้าหมายหรือไม่ แต่บริษัทฯก็จะพยายามให้มากที่สุด ซึ่งในอนาคตอาจจะมีการปรับเป้าการเติบโตใหม่หรือไม่นั้น ก็ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์เศรษฐกิจเป็นสำคัญ
ทั้งนี้ในช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมา พบว่า เครื่องสำอางแบรนด์บีเอสซีโตเพียง5% ซ฿งเป็นการเติบโจจากผลิตภัณฑ์ใหม่ ในกลุ่มบำรุงผิว ขณะที่เครื่องสำอาง อาร์ตี้ โปรเฟสชัลนอล โตเกิน 10% ในกลุ่มรองพื้น แป้งพับ ซึ่งในภาพรวมยังพบอีกว่า ยอดการใช้จ่ายของลูกค้าต่อใบเสร็จลดลงกว่า 10%
ดังนั้นช่วงครึ่งปีหลังจากนี้ ทางบริษํทฯจะเน้นพัฒนาสินค้าใหม่ออกมา พร้อมกับหันมาใช้กิจกรรมทางการตลาดที่หลางกหลาย เพื่อดึงลูกค้าใหม่ให้เพิ่มขึ้นมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น การเวิร์คชอป ให้บริการแต่งหน้า โปรโมชั่นลดราคาสินค้า แจกสินค้าตัวอย่าง รวมถึงรวมกับสถาบันการเงินต่างๆ เพื่อให้ผ่อนชำระสินค้าผ่านบัตรเครดิตได้
ล่าสุดในส่วนของเครื่องสำอางแบรนด์บีเอสซี ได้นำผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาด คือ "BSC Time Defence Extreme Caviar Intensive Care" เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับต่อต้านริ้วรอยแห่งวัย โดยนำเอา คาร์เวียร์และทองคำบริสุทธ์ มาเป็นส่วนผสมหลักในการช่วยฟื้นฟูผิว คาดว่าจะได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี
ทั้งนี้กลุ่มเครื่องสำอางที่ทำรายได้สูงสุดให้บริษัทฯ คือ บีเอสซี 60% รองลงมาคือ อาร์ตี้ โปรเฟสชันนอล, เพียวแคร์, ชีเน่ และเซนต์ แอนดรูว์ รวมกันอีก 40% ซึ่งเมื่อรวมรายได้เข้าด้วยกันแล้ว คาดว่าบริษัทฯจะมีส่วนแบ่งทางการตลาดประมาณ 10% ของตลาดเครื่องสำอางเคาน์เตอร์เซลล์ ที่มีมูลค่ากว่า 9,000 ล้านบาท ซึ่งปีนี้เชื่อว่าภาพรวมของตลาดจะทรงตัวเท่าปีที่ผ่านมา
**โอซีซี ปั้น KMA ลุยแมสทั้งในและต่างประเทศ**
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ บริษัท โอซีซี จำกัด (มหาชน) อีกหนึ่งบริษัทฯของกลุ่มสหพัฒน์ ที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องสำอางเช่นเดียวกัน ปีนี้กำลังเดินหมากครั้งสำคัญ ในการปลุกปั้นแบรนด์ เคเอ็มเอ สู่กลุ่มตลาดแมสที่เป็นวัยรุ่นมากยิ่งขึ้น หลังจากที่ประสบความสำเร็จในการรีเฟชรแบรนด์ จากเคม่า มาเป็น เคเอ็มเอ จากปีที่ผ่านมา
นางกาญจนา สายสิริพร กรรมการบริหาร บริษัท โอซีซี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หลังจากที่มีการรีเฟชรแบรนด์เคม่า มาเป็นเคเอ็มเอ ตั้งแต่ในปีก่อนที่ผ่านมา พบว่า ประสบความสำเร็จอย่างสูงในส่วนของตลาดต่างประเทศเพื่อนบ้าน อย่างกัมพูชา ซึ่งในปีนี้บริษัทฯจะเข้าไปรุกตลาดต่างประเทศเพิ่มมากขึ้นไม่ว่าจะเป็น เวียดนาม หรือ พม่า คาดว่าน่าจะเพิ่มสัดส่วนรายได้เป็น 50 % ของยอดขายที่ตั้งไว้ 100 ล้านบาทในปีนี้ จากรายได้ในปีก่อนที่ทำได้ 50-60 ล้านบาท
ทั้งนี้ในส่วนของประเทศไทย ปีนี้ทางบริษัทฯได้เพิ่มงบการตลาดเป็น 15 ล้านบาท จากเดิม 5 ล้านบาทในปีก่อน สำหรับทำตลาดแบบเต็มรูปแบบหลังจากนี้ โดยจะมีการนำเอาแพท-นปภา ตันตระกูล ดารานักแสดงชื่อดังมาเป็นพรีเซนเตอร์ เชื่อว่าจะสามารถสร้างการรับรู้แบรนด์ในกลุ่มเป้าหมายที่เป็น วัยรุ่น ระดับแมสขึ้นไป ได้เป็นอย่างดี ภายใต้การจำหน่ายผ่านช่องทางจำหน่าย โมเดิร์นเทรด ในเทสโก้โลตัส โรบินสันทุกสาขา จังซีลอน และร้านขายเครื่องสำอางทั่วไป
อย่างไรก็ตามในส่วนของโอซีซี จากเดิมที่คาดว่าจะมีการเติบโตที่ 15% คาดว่าปีนี้น่าจะทำได้เพียง 10% จาก 1,300 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจเป็นสำคัญ
