สหภาพฯททท.เตรียมเสนอบอร์ด ปรับขึ้นเงินเดือนพนักงาน 6% อ้างเป็นไปตามสิทธิของสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจแห่งประเทศไทย ที่ต้องการให้พนักงานมีรายได้สอดคล้องการค่าครองชีพ พร้อมแนบเรื่องทวงสัญญาเร่งเบิกจ่ายโบนัส 0.5% ต่อกระทรวงการคลัง ระบุไม่เกี่ยวกับเรื่องการขอคืนโบนัส 150 ล้านบาท
นายประเสริฐ วรพิทักษ์ ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า สหภาพฯอยู่ระหว่างการร่างหนังสือเพื่อเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(บอร์ด) โดยมีสาระให้พิจารณาปรับขึ้นค่าตอบแทน(เงินเดือน)ให้กับพนักงานของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)คนละ 6% หรือต้องไม่ต่ำกว่าคนละ 1,500 บาทต่อเดือน
โดยมีเหตุผลให้สอคคล้องกับสภาวะค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้นจากราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่ขึ้นราคา ตลอดจนราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปรับขึ้นราคาอย่างต่อเนื่องด้วย และเป็นการขอปรับเพื่อให้สอดคล้องกับสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจแห่งประเทศไทย ที่เรียกร้องให้กระทรวงการคลังปรับขึ้นค่าจ้างแรงงาน
อย่างไรก็ตาม หาก บอร์ดพิจารณาแล้วเห็นชอบตามที่สหภาพฯได้ยื่นเสนอนั้น ก็จะนำเรื่องดังกล่าว เสนอต่อนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้รับทราบและพิจารณาก่อนนำเข้าหารือในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เป็นลำดับต่อไป
นายประเสริฐ กล่าวอีกว่า ในหนังสือที่จะยื่นเสนอบอร์ด ททท. ในครั้งนี้ ยังได้เพิ่มเติมในส่วนของความชัดเจนเรื่องการจ่ายโบนัส 0.5% ของเงินเดือนให้แก่พนักงาน ททท. ประจำปีงบประมาณ 2549-2551 ด้วย ซึ่งเป็นไปตามมติของบอร์ด ททท.ในขณะนั้น และกระทรวงการคลังก็ได้รับทราบในเรื่องนี้แล้ว แม้กรณีการเรียกคืนโบนัสที่กระทรวงการคลังจ่ายให้แก่พนักงาน ททท. รวมวงเงิน 150 ล้านบาท ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการก็ตาม ซึ่งสหภาพฯมองว่า เป็นคนละเรื่องกัน
"การทวงเงินคืน เป็นกระบวนการของกระทรวงการคลัง ที่กำลังรวบรวมข้อมูลให้ได้ข้อสรุป และก็เป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่ระหว่างกระทรวงฯจะต้องเจรจาร่วมกัน แต่หน้าที่ของสหภาพฯ คือการทวงสิทธิ์ ที่พนักงาน ททท.ควรจะได้ และ ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ก็เป็นเพราะการตีความกฏหมายกันคนละข้อ จึงไม่เกี่ยวข้องกัน" นายประเสริฐ กล่าว
ทางด้านนายวันชัย ศารทูรทัต ประธานบอร์ดททท. กล่าวในเรื่องนี้ว่า การตีความการให้โบนัสแก่พนักงาน ททท. ไม่มีใครถูกหรือผิด เพราะใช้กฏหมายคนละฉบับในการพิจารณา ซึ่งในส่วนของบอร์ดททท.ก็อยู่ระหว่างการศึกษาของมูลเพื่อใช้เป็นเหตุผลไปชี้แจงต่อกระทรวงการคลัง ซึ่งคาดว่าสัปดาห์หน้าจะได้ข้อสรุป
นายประเสริฐ วรพิทักษ์ ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า สหภาพฯอยู่ระหว่างการร่างหนังสือเพื่อเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(บอร์ด) โดยมีสาระให้พิจารณาปรับขึ้นค่าตอบแทน(เงินเดือน)ให้กับพนักงานของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)คนละ 6% หรือต้องไม่ต่ำกว่าคนละ 1,500 บาทต่อเดือน
โดยมีเหตุผลให้สอคคล้องกับสภาวะค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้นจากราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่ขึ้นราคา ตลอดจนราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปรับขึ้นราคาอย่างต่อเนื่องด้วย และเป็นการขอปรับเพื่อให้สอดคล้องกับสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจแห่งประเทศไทย ที่เรียกร้องให้กระทรวงการคลังปรับขึ้นค่าจ้างแรงงาน
อย่างไรก็ตาม หาก บอร์ดพิจารณาแล้วเห็นชอบตามที่สหภาพฯได้ยื่นเสนอนั้น ก็จะนำเรื่องดังกล่าว เสนอต่อนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้รับทราบและพิจารณาก่อนนำเข้าหารือในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เป็นลำดับต่อไป
นายประเสริฐ กล่าวอีกว่า ในหนังสือที่จะยื่นเสนอบอร์ด ททท. ในครั้งนี้ ยังได้เพิ่มเติมในส่วนของความชัดเจนเรื่องการจ่ายโบนัส 0.5% ของเงินเดือนให้แก่พนักงาน ททท. ประจำปีงบประมาณ 2549-2551 ด้วย ซึ่งเป็นไปตามมติของบอร์ด ททท.ในขณะนั้น และกระทรวงการคลังก็ได้รับทราบในเรื่องนี้แล้ว แม้กรณีการเรียกคืนโบนัสที่กระทรวงการคลังจ่ายให้แก่พนักงาน ททท. รวมวงเงิน 150 ล้านบาท ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการก็ตาม ซึ่งสหภาพฯมองว่า เป็นคนละเรื่องกัน
"การทวงเงินคืน เป็นกระบวนการของกระทรวงการคลัง ที่กำลังรวบรวมข้อมูลให้ได้ข้อสรุป และก็เป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่ระหว่างกระทรวงฯจะต้องเจรจาร่วมกัน แต่หน้าที่ของสหภาพฯ คือการทวงสิทธิ์ ที่พนักงาน ททท.ควรจะได้ และ ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ก็เป็นเพราะการตีความกฏหมายกันคนละข้อ จึงไม่เกี่ยวข้องกัน" นายประเสริฐ กล่าว
ทางด้านนายวันชัย ศารทูรทัต ประธานบอร์ดททท. กล่าวในเรื่องนี้ว่า การตีความการให้โบนัสแก่พนักงาน ททท. ไม่มีใครถูกหรือผิด เพราะใช้กฏหมายคนละฉบับในการพิจารณา ซึ่งในส่วนของบอร์ดททท.ก็อยู่ระหว่างการศึกษาของมูลเพื่อใช้เป็นเหตุผลไปชี้แจงต่อกระทรวงการคลัง ซึ่งคาดว่าสัปดาห์หน้าจะได้ข้อสรุป