วีระศักดิ์ โอ๋ ททท.เห็นด้วยกับการให้โบนัสพนักงาน ล่าสุด สั่งตั้งคณะทำงาน มี “วันชัย” เป็นประธาน จัดขุนพลรุดเจรจา สคร.แบบถ้อยทีถ้อยอาศัย ชู 2 ประเด็นหลัก ไม่คืนเงินเก่า แถมเร่งให้จ่ายโบนัสที่ยังค้าง อ้างเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ แก่พนักงาน ททท. พร้อมเล็งเปลี่ยนชื่อสำนักงาน ททท.ในประเทศให้ระบุชื่อจังหวัดแทนตัวเลข รื้อฟื้นสร้างศูนย์ประชุมที่เชียงใหม่
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้ร่วมหารือกับ ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และ นายวันชัย ศารทูลทัต ประธานคณะกรรมการบริหารการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (บอร์ด) ในเรื่องเงินรางวัลค่าตอบแทน (โบนัส) ที่จ่ายให้แก่พนักงาน ททท.ช่วงปี 2546-2548 รวมมูลค่า 150 ล้านบาท ที่สำนักคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ กระทรวงการคลัง (สคร.) จะเรียกคืนนั้น มีความเห็นตรงกันว่า เรื่องดังกล่าวน่าจะเจรจาไกล่เกลี่ยกันได้
ดังนั้น จึงสั่งการให้ ททท.ตั้งคณะทำงาน เพื่อไปเจรจากับ สำนักคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ซึ่งคณะทำงานชุดดังกล่าว จะมี นายวันชัย ศารทูลทัต ประธานบอร์ด ททท.เป็นประธาน ส่วนการเจรจาจะแบ่งเป็น 2 หัวข้อหลัก คือ 1.เงินโบนัส ที่ สคร.จะเรียกคืน และ 2.เงินโบนัสในปี 2549 ที่ สคร.ยังค้างจ่าย เพราะสืบเนื่องมาจากปัญหาในข้อ 1 ยังไม่มีข้อสรุป
ทั้งนี้ จากการตรวจเยี่ยมการทำงานของ ททท.และ การร่วมทำงานกับ ททท.ตั้งแต่ได้รับตำแหน่ง รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวฯ มีความเห็นว่า พนักงาน ททท.ทุกคนทำงานกันอย่างแข็งขัน มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ว่ามีนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น และสร้างรายได้เข้าประเทศเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี ดังนั้น พนักงาน ททท.ก็ควรจะได้รับโบนัสเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจต่อการทำงานต่อไป
“รู้สึกเห็นใจว่าพนักงาน ททท.ทำงานหนัก เพื่อให้ได้นักท่องเที่ยวและรายได้ตามเป้าหมาย จึงสมควรจะได้รางวัลตอบแทน ซึ่งคณะทำงานชุดนี้ จะไปหารือกับ สคร.ชี้แจงให้เข้าใจตรงกัน รวมถึงพูดคุยถึงทิศทางและวิธีการให้โบนัส เพราะที่ผ่านมา สคร.และคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ไม่ตรงกัน เพราะตีความกันคนละกฎหมาย โดย สคร.ตีความของกฤษฎีกา แต่ คณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจฯตีความจากพรบ.แรงงานรัฐวิสาหกิจปี 2543”
นายวีระศักดิ์ ยังกล่าวถึงการแบ่งส่วนสำนักงาน ททท.ในประเทศ ว่า จะเร่งเดินหน้าจัดการทำงานเป็นคลัสเตอร์ เพื่อโปรโมตให้ทุกจังหวัดเป็นแหล่งท่องเที่ยว แต่ในเบื้องต้น ได้ให้ ททท.ไปศึกษาเรื่องการเปลี่ยนชื่อเรียกสำนักงาน ททท.จากเดิม ที่ใช้คำว่า สำนักงาน ททท.แล้วต่อด้วยเลขที่เขต เช่น สำนักงาน ททท.ภาคเหนือเขต 4 ก็ให้เปลี่ยนเป็น สำนักงาน ททท.ภาคเหนือ ต่อด้วยชื่อจังหวัด เช่น เชียงใหม่ เชียงราย เป็นต้นทั้งนี้ เพื่อให้นักท่องเที่ยวและประชาชน เกิดความเข้าใจในวงกว้าง ซึ่งจะทำให้การติดต่อขอข้อมูล หรือ การสื่อสารและประชาสัมพันธ์ เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน
อย่างไรก็ตาม ความคืบหน้าเรื่องการก่อสร้างศูนย์ประชุมนานาชาติ จ.เชียงใหม่ ล่าสุด จะทำหนังสือถึง กรมธนารักษ์ ขออนุญาตเข้าไปใช้ที่ดิน ในพื้นที่ที่จะก่อสร้างศูนย์ประชุมฯ เพราะโครงการนี้ริเริ่มมานาน 5 ปี แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป ปัจจุบันพื้นที่จึงมีประชาชนบุกรุกเข้าไปสร้างที่อยู่อาศัย และบางส่วนก็เป็นที่ทิ้งขยะ กระทรวงการท่องเที่ยวจึงต้องการเข้าไปสำรวจพื้นที่พร้อมกั้นรั้วปักแนวก่อสร้างไว้ก่อน ขณะเดียวกัน ยังได้ให้ ททท.ประเมินค่าก่อสร้างใหม่ให้มีข้อมูลเป็นปัจจุบันมากขึ้นด้วย
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้ร่วมหารือกับ ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และ นายวันชัย ศารทูลทัต ประธานคณะกรรมการบริหารการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (บอร์ด) ในเรื่องเงินรางวัลค่าตอบแทน (โบนัส) ที่จ่ายให้แก่พนักงาน ททท.ช่วงปี 2546-2548 รวมมูลค่า 150 ล้านบาท ที่สำนักคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ กระทรวงการคลัง (สคร.) จะเรียกคืนนั้น มีความเห็นตรงกันว่า เรื่องดังกล่าวน่าจะเจรจาไกล่เกลี่ยกันได้
ดังนั้น จึงสั่งการให้ ททท.ตั้งคณะทำงาน เพื่อไปเจรจากับ สำนักคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ซึ่งคณะทำงานชุดดังกล่าว จะมี นายวันชัย ศารทูลทัต ประธานบอร์ด ททท.เป็นประธาน ส่วนการเจรจาจะแบ่งเป็น 2 หัวข้อหลัก คือ 1.เงินโบนัส ที่ สคร.จะเรียกคืน และ 2.เงินโบนัสในปี 2549 ที่ สคร.ยังค้างจ่าย เพราะสืบเนื่องมาจากปัญหาในข้อ 1 ยังไม่มีข้อสรุป
ทั้งนี้ จากการตรวจเยี่ยมการทำงานของ ททท.และ การร่วมทำงานกับ ททท.ตั้งแต่ได้รับตำแหน่ง รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวฯ มีความเห็นว่า พนักงาน ททท.ทุกคนทำงานกันอย่างแข็งขัน มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ว่ามีนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น และสร้างรายได้เข้าประเทศเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี ดังนั้น พนักงาน ททท.ก็ควรจะได้รับโบนัสเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจต่อการทำงานต่อไป
“รู้สึกเห็นใจว่าพนักงาน ททท.ทำงานหนัก เพื่อให้ได้นักท่องเที่ยวและรายได้ตามเป้าหมาย จึงสมควรจะได้รางวัลตอบแทน ซึ่งคณะทำงานชุดนี้ จะไปหารือกับ สคร.ชี้แจงให้เข้าใจตรงกัน รวมถึงพูดคุยถึงทิศทางและวิธีการให้โบนัส เพราะที่ผ่านมา สคร.และคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ไม่ตรงกัน เพราะตีความกันคนละกฎหมาย โดย สคร.ตีความของกฤษฎีกา แต่ คณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจฯตีความจากพรบ.แรงงานรัฐวิสาหกิจปี 2543”
นายวีระศักดิ์ ยังกล่าวถึงการแบ่งส่วนสำนักงาน ททท.ในประเทศ ว่า จะเร่งเดินหน้าจัดการทำงานเป็นคลัสเตอร์ เพื่อโปรโมตให้ทุกจังหวัดเป็นแหล่งท่องเที่ยว แต่ในเบื้องต้น ได้ให้ ททท.ไปศึกษาเรื่องการเปลี่ยนชื่อเรียกสำนักงาน ททท.จากเดิม ที่ใช้คำว่า สำนักงาน ททท.แล้วต่อด้วยเลขที่เขต เช่น สำนักงาน ททท.ภาคเหนือเขต 4 ก็ให้เปลี่ยนเป็น สำนักงาน ททท.ภาคเหนือ ต่อด้วยชื่อจังหวัด เช่น เชียงใหม่ เชียงราย เป็นต้นทั้งนี้ เพื่อให้นักท่องเที่ยวและประชาชน เกิดความเข้าใจในวงกว้าง ซึ่งจะทำให้การติดต่อขอข้อมูล หรือ การสื่อสารและประชาสัมพันธ์ เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน
อย่างไรก็ตาม ความคืบหน้าเรื่องการก่อสร้างศูนย์ประชุมนานาชาติ จ.เชียงใหม่ ล่าสุด จะทำหนังสือถึง กรมธนารักษ์ ขออนุญาตเข้าไปใช้ที่ดิน ในพื้นที่ที่จะก่อสร้างศูนย์ประชุมฯ เพราะโครงการนี้ริเริ่มมานาน 5 ปี แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป ปัจจุบันพื้นที่จึงมีประชาชนบุกรุกเข้าไปสร้างที่อยู่อาศัย และบางส่วนก็เป็นที่ทิ้งขยะ กระทรวงการท่องเที่ยวจึงต้องการเข้าไปสำรวจพื้นที่พร้อมกั้นรั้วปักแนวก่อสร้างไว้ก่อน ขณะเดียวกัน ยังได้ให้ ททท.ประเมินค่าก่อสร้างใหม่ให้มีข้อมูลเป็นปัจจุบันมากขึ้นด้วย