พนักงาน ททท.มีสิทธิ์ชวดโบนัส “ชุมพล” ส่ง ครม.ตัดสินจะจ่ายหรือไม่ ระบุ ผลการทำหนังสือเวียน ถามหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง คลัง สศช.ยังย้ำไม่เห็นด้วย ระบุ ไม่มีกฎหมายรองรับ หวั่นถ้าให้ ททท.ได้ รัฐวิสาหกิจอื่นๆ ก็จะขอบ้าง
นายชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า เมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ได้เสนอเรื่องการจ่ายค่าตอบแทน (โบนัส) แก่พนักงาน ททท.ประจำปี 2549-2551 รวมวงเงิน กว่า 150 ล้านบาท ยื่นต่อเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ไปเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างรอนำเสนอต่อที่ประชุม ครม.เพื่อพิจารณาซึ่งอาจเป็นวันเดียวกันกับพิจารณาโครงการบัตรอีลิทการ์ด ในวันที่ 17 พ.ย.2552 หรืออาจช้ากว่านั้น ไม่สามารถตอบได้ ขึ้นอยู่กับจะมีวาระการประชุมมากหรือน้อย และเร่งด่วนแค่ไหน เข้ามาแทรก
ทั้งนี้ เพราะจากปัญหาการจ่ายโบนัสแก่พนักงาน ททท.ในช่วงปีดังกล่าว มีปัญหายืดเยื้อมานานแล้ว เพราะความเห็นที่แตกต่างกัน จึงมีความจำเป็นต้องเสนอให้ที่ประชุม ครม.ช่วยตัดสิน เพราะต้องการให้ปัญหานี้ยุติได้โดยเร็ว และมีความยุติธรรมที่สุด ทุกฝ่ายยอมรับได้
โดยก่อนหน้านี้ เคยชี้แจงต่อที่ประชุม ครม.ถึงการจ่ายโบนัสพนักงาน ททท.ช่วงปี 2546-2548 เปรียบเทียบกับช่วงที่กำลังเรียกร้องอยู่ในขณะนี้ ครม.จึงสั่งให้ กระทรวงการท่องเที่ยวฯทำหนังสือเวียนขอความเห็นจากหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ว่า สมควรจ่ายเงินโบนัสให้แก่พนักงานททท.ตามที่ร้องขอมาหรือไม่ เบื้องต้นมีหลายหน่วยงานที่ไม่เห็นด้วย เช่น สำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เป็นต้น
โดยระบุว่า โบนัสที่จ่ายให้พนักงาน ททท.ช่วงปี 2546-2548 ไปแล้ว คงไม่เรียกคืน เพราะหากเรียกคืนก็คงไม่มีใครคืนให้ แต่ที่จะจ่ายต่อไป อีกนั้นเห็นว่าไม่สมควร เพราะหากอนุมติจ่ายให้แก่ ททท.หน่วยงานรัฐวิสาหกิจอื่นๆ ก็จะต้องเรียกร้องบ้าง อีกทั้งไม่รู้ว่าจะใช้ข้อกฎหมายใดมารงอรับในการพิจารณาจ่ายเงินโบนัสในครั้งนี้ เพราะครั้งก่อนเป็นการจ่ายโดยมติที่ประชุม ครม.นำมาใช้บังคับข้ามปีไม่ได้
อย่างไรก็ตาม จากประเด็นดังกล่าว นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (สคพ.) อดีต รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวฯ และ อดีตประธานบอร์ด ททท.เคยกล่าวไว้ว่า สาเหตุที่สำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง ไม่เห็นด้วยกับการจ่ายโบนัส ให้แก่พนักงาน ททท.ในครั้งนี้เป็นเพราะมติคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (ครส.) ที่ระบุว่า ภายใต้ พ.ร.บ.แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ.2546 ในข้อที่ระบุว่า “บอร์ดรัฐวิสาหกิจมีอำนาจในการพิจารณาจ่ายค่าตอบแทนพิเศษแก่พนักงานได้โดยใช้พิจารณาจากงบประมาณขององค์กร” ตามที่สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ ททท.อ้างถึงนั้น ยังไม่ได้ผ่านความเห็นชอบจาก ครม.จึงนำมาบังคับใช้ไม่ได้ ประกอบกับ มติครม.ที่อนุมัติจ่ายโบนัสให้แก่พนักงาน ททท.เมื่อปี 2546 นั้น เป็นเพียงการอนุมัติเพื่อจ่ายค่าตอบแทนพิเศษ และ เป็นมติเฉพาะปี ไม่มีผลต่อเนื่องข้ามปี
นายชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า เมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ได้เสนอเรื่องการจ่ายค่าตอบแทน (โบนัส) แก่พนักงาน ททท.ประจำปี 2549-2551 รวมวงเงิน กว่า 150 ล้านบาท ยื่นต่อเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ไปเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างรอนำเสนอต่อที่ประชุม ครม.เพื่อพิจารณาซึ่งอาจเป็นวันเดียวกันกับพิจารณาโครงการบัตรอีลิทการ์ด ในวันที่ 17 พ.ย.2552 หรืออาจช้ากว่านั้น ไม่สามารถตอบได้ ขึ้นอยู่กับจะมีวาระการประชุมมากหรือน้อย และเร่งด่วนแค่ไหน เข้ามาแทรก
ทั้งนี้ เพราะจากปัญหาการจ่ายโบนัสแก่พนักงาน ททท.ในช่วงปีดังกล่าว มีปัญหายืดเยื้อมานานแล้ว เพราะความเห็นที่แตกต่างกัน จึงมีความจำเป็นต้องเสนอให้ที่ประชุม ครม.ช่วยตัดสิน เพราะต้องการให้ปัญหานี้ยุติได้โดยเร็ว และมีความยุติธรรมที่สุด ทุกฝ่ายยอมรับได้
โดยก่อนหน้านี้ เคยชี้แจงต่อที่ประชุม ครม.ถึงการจ่ายโบนัสพนักงาน ททท.ช่วงปี 2546-2548 เปรียบเทียบกับช่วงที่กำลังเรียกร้องอยู่ในขณะนี้ ครม.จึงสั่งให้ กระทรวงการท่องเที่ยวฯทำหนังสือเวียนขอความเห็นจากหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ว่า สมควรจ่ายเงินโบนัสให้แก่พนักงานททท.ตามที่ร้องขอมาหรือไม่ เบื้องต้นมีหลายหน่วยงานที่ไม่เห็นด้วย เช่น สำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เป็นต้น
โดยระบุว่า โบนัสที่จ่ายให้พนักงาน ททท.ช่วงปี 2546-2548 ไปแล้ว คงไม่เรียกคืน เพราะหากเรียกคืนก็คงไม่มีใครคืนให้ แต่ที่จะจ่ายต่อไป อีกนั้นเห็นว่าไม่สมควร เพราะหากอนุมติจ่ายให้แก่ ททท.หน่วยงานรัฐวิสาหกิจอื่นๆ ก็จะต้องเรียกร้องบ้าง อีกทั้งไม่รู้ว่าจะใช้ข้อกฎหมายใดมารงอรับในการพิจารณาจ่ายเงินโบนัสในครั้งนี้ เพราะครั้งก่อนเป็นการจ่ายโดยมติที่ประชุม ครม.นำมาใช้บังคับข้ามปีไม่ได้
อย่างไรก็ตาม จากประเด็นดังกล่าว นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (สคพ.) อดีต รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวฯ และ อดีตประธานบอร์ด ททท.เคยกล่าวไว้ว่า สาเหตุที่สำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง ไม่เห็นด้วยกับการจ่ายโบนัส ให้แก่พนักงาน ททท.ในครั้งนี้เป็นเพราะมติคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (ครส.) ที่ระบุว่า ภายใต้ พ.ร.บ.แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ.2546 ในข้อที่ระบุว่า “บอร์ดรัฐวิสาหกิจมีอำนาจในการพิจารณาจ่ายค่าตอบแทนพิเศษแก่พนักงานได้โดยใช้พิจารณาจากงบประมาณขององค์กร” ตามที่สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ ททท.อ้างถึงนั้น ยังไม่ได้ผ่านความเห็นชอบจาก ครม.จึงนำมาบังคับใช้ไม่ได้ ประกอบกับ มติครม.ที่อนุมัติจ่ายโบนัสให้แก่พนักงาน ททท.เมื่อปี 2546 นั้น เป็นเพียงการอนุมัติเพื่อจ่ายค่าตอบแทนพิเศษ และ เป็นมติเฉพาะปี ไม่มีผลต่อเนื่องข้ามปี
