ASTVผู้จัดการรายวัน - บอร์ด ทอท.เดินหน้าลงทุน 9 พันล้าน ก่อสร้างกลุ่มอาคารผู้โดยสารภายในประเทศสนามบินสุวรรณภูมิ แยกงานออกจากรันเวย์ที่ 3 ที่ล่าช้าเตรียมเสนอ สศช.และ ครม.เห็นชอบ ไฟเขียวจ้าง บ.เอพี เมนเนจม้นท์ รับสัมปทานรถเข็นกระเป๋าในสุวรรณภูมิ 566 ล้าน “ปิยะพันธ์”ยันไม่มีคิงเพาเวอร์เอี่ยว
นายปิยะพันธ์ จัมปาสุต ประธานคณะกรรมการบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยภายหลังการประชุมบอร์ดวานนี้ (29 ต.ค.) ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ทอท.ลงทุนโครงการก่อสร้างกลุ่มอาคารผู้โดยสารภายในประเทศสนามบินสุวรรณภูมิ วงเงิน 9,133.520 ล้านบาท เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารจาก 45 ล้านคนต่อปี เป็น 65 ล้านคนต่อปี ดำเนินการระหว่างปี 2553-2556 โดยหลังจากนี้ทอท.จะเสนอแผนการลงทุนไปยังสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และคณะรัฐมนตรีเพื่อ ขออนุมัติต่อไป
โดยแยกงานอาคารผู้โดยสารภายในประเทศออกจากงานทางวิ่งทางขับ ที่ 3 ของสนามบินสุวรรรภูมิ ที่ยังมีปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อม เพื่อไม่ให้ล่าช้านอกจากนี้ทอท.ยังมีแผนที่จะลงทุนขยายขีดความสามารถสนามบินภูเก็ตวงเงินประมาณ 5,000 ล้านบาทและก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินหลังรองที่สนามบินสุวรรณภูมิ วงเงิน 73,000 ล้านบาท อีกด้วย
นายปิยะพันธ์กล่าวว่า หากครม.ให้ความเห็นชอบลงทุนทั้ง 3 โครงการทอท.จะต้องพิจารณาแนวทางการลงทุนเนื่องจากขณะนื้ทอท.มีเงินสดในมือประมาณ 20,000 ล้านบาท แต่หากลงทุนทั้ง 3 โครงการโดยใช้เงินทอท.ทั้งหมดจะทำให้ในปี 2557
ทอท.จะประสบกับปัญหาเงินทุนหมุนเวียนดังนั้นอาจจะพิจารณาในการเพิ่มทุนหรือกู้เงินมาเสริมในการลงทุนก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินหลังรองที่สนามบินสุวรรณภูมิ
“เบื้องต้นมองไว้ 2 แนวทาง คือ การกู้เงิน และการเพิ่มทุน ซึ่งเป็นความเห็นส่วนตัวซึ่งต้องหารือกับผู้เกี่ยวข้องอีกครั้ง โดยเห็นว่า หุ้นทอท.มูลค่า 14,000 ล้านบาท ยังสามารถเพิ่มทุนได้อีก ตามศักยภาพขององค์กรและทรัพย์สินที่มี” นายปิยะพันธ์กล่าว
**เอพีรับสัมปทานรถเข็นฯ Wanzl
นอกจากนี้ ที่ประชุมอนุมัติให้ทอท.จัดจ้างบริษัท เอพี เมนเนจเม้นท์ จำกัด ให้บริการรถเข็นกระเป๋า ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ วงเงิน 566,244,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ระยะเวลา 7 ปี จำนวน 9,034 คัน ประกอบด้วยรถเข็นกระเป๋าขนาดเล็ก 2,000 คัน ขนาดกลาง 7,000 คัน และขนาดใหญ่ 34 คัน โดยบริษัทเอพีฯ ได้รับมอบหมายให้เป็นตัวแทนจำหน่ายรถเข็นกระเป๋า Wanzl โดยบอร์ดให้ทอท.เจรจากับบริษัทฯ ในการส่งมอบรถเข็นกระเป๋างวดแรกจำนวน 4,500 คันให้ ทอท.ใช้งานก่อนภายในวันที่ 31 ธ.ค. 2552 เพื่อรองรับจำนวนผู้โดยสารที่จะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นในช่วงปลายปี 2552 ส่วนที่เหลือให้ส่งมอบให้ครบภายใน 90 วัน
“ค่าจ้างบริษัทเอพีฯ สูงกว่าเดิมที่ทอท.เคยจ้าง บริษัทไทยแอร์พอร์ต กราวด์ เซอร์วิสเซส จำกัด (แทกส์) ประมาณ 30 ล้านบาทซึ่งยอมรับได้เพราะเพิ่มการติดตั้งอุปกรณ์ควบคุม และตรวจนับรถเข็นกระเป๋าชนิดอิเล็กทรอนิค (RFID) เพื่อป้องกันการสูญหายของรถเข็นกระเป๋า ส่วนรถเข็นกระเป๋าของแทกส์ทอท.ไม่ได้นำมาใช้งานแล้วเพราะเกรงว่าจะมีปัญหาโต้แย้งทางกฎหมาย ยืนยันว่า ในบริษัทเอพีฯไม่มีกลุ่มคิงเพาเวอร์ร่วมอยู่ด้วยแน่นอน ซึ่งคิงเพาเวอร์เกี่ยวข้องในส่วนสัญญาโฆษณาบนรถเข็น” นายปิยะพันธ์กล่าว
ทั้งนี้ คณะกรรมการจัดจ้างโดยวิธีพิเศษฯ ชี้แจงว่า ได้มีหนังสือเชิญบริษัทผู้ผลิตรถเข็นกระเป๋าชั้นนำ 3 อันดับแรกของโลกเข้ายื่นข้อเสนอประกอบด้วย Smart Carte, Wanzl และ Expresso ซึ่งปรากฏว่าบริษัทผู้ผลิตรถเข็นกระเป๋าในต่างประเทศ ซึ่งป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ Wanzl และ Expresso ได้มอบหมายให้บริษัทผู้แทนจำหน่ายในประเทศไทยเข้ายื่นเสนอราคากับ ทอท. ผลปรากฎว่าบริษัท เอพี เมนเนจเม้นท์ จำกัด ซึ่งได้รับมอบหมายให้เป็นตัวแทนจำหน่ายรถเข็นกระเป๋า Wanzl ในประเทศไทย เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุดโดยรถเข็นกระเป๋ายี่ห้อ Wanzl ทำด้วยวัสดุอลูมิเนียม มีน้ำหนักเบา มีความแข็งแรง ล้อหน้ามีก้านสำหรับยึดติดกับทางลาดเลื่อน สามารถรับน้ำหนักกรณีวางกระเป๋าซ้อนกันได้ดี
**ฝ่าวิกฤติ 52 มีกำไรจ่ายโบนัส-ปันผล
รายงานข่าวแจ้งว่า ผลประกอบการปี 52 (ต.ค.51-ก.ย.52) อยู่ในระดับที่น่าพอใจเมื่อเทียบกับวิกฤติเศรษฐกิจปละปัญหาการเมิองในประเทศ โดยมีกำไรแต่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากทอท.มีมาตรการลดค่าธรรมเนียมต่างๆมาช่วยเหลือผู้ประกอบการเป็นจำนวนมาก แต่อย่างไรก็ตาม ได้มีการพิจารณาจ่ายโบนัสให้พนักงานจำนวน 4 เดือน ทั้งนี้เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับพนักงานที่ร่วมมือกันลดค่าใช้จ่าย และมีเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นด้วย โดยกำหนดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 52 ในวันที่ 22 ม.ค.53.
นายปิยะพันธ์ จัมปาสุต ประธานคณะกรรมการบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยภายหลังการประชุมบอร์ดวานนี้ (29 ต.ค.) ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ทอท.ลงทุนโครงการก่อสร้างกลุ่มอาคารผู้โดยสารภายในประเทศสนามบินสุวรรณภูมิ วงเงิน 9,133.520 ล้านบาท เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารจาก 45 ล้านคนต่อปี เป็น 65 ล้านคนต่อปี ดำเนินการระหว่างปี 2553-2556 โดยหลังจากนี้ทอท.จะเสนอแผนการลงทุนไปยังสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และคณะรัฐมนตรีเพื่อ ขออนุมัติต่อไป
โดยแยกงานอาคารผู้โดยสารภายในประเทศออกจากงานทางวิ่งทางขับ ที่ 3 ของสนามบินสุวรรรภูมิ ที่ยังมีปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อม เพื่อไม่ให้ล่าช้านอกจากนี้ทอท.ยังมีแผนที่จะลงทุนขยายขีดความสามารถสนามบินภูเก็ตวงเงินประมาณ 5,000 ล้านบาทและก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินหลังรองที่สนามบินสุวรรณภูมิ วงเงิน 73,000 ล้านบาท อีกด้วย
นายปิยะพันธ์กล่าวว่า หากครม.ให้ความเห็นชอบลงทุนทั้ง 3 โครงการทอท.จะต้องพิจารณาแนวทางการลงทุนเนื่องจากขณะนื้ทอท.มีเงินสดในมือประมาณ 20,000 ล้านบาท แต่หากลงทุนทั้ง 3 โครงการโดยใช้เงินทอท.ทั้งหมดจะทำให้ในปี 2557
ทอท.จะประสบกับปัญหาเงินทุนหมุนเวียนดังนั้นอาจจะพิจารณาในการเพิ่มทุนหรือกู้เงินมาเสริมในการลงทุนก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินหลังรองที่สนามบินสุวรรณภูมิ
“เบื้องต้นมองไว้ 2 แนวทาง คือ การกู้เงิน และการเพิ่มทุน ซึ่งเป็นความเห็นส่วนตัวซึ่งต้องหารือกับผู้เกี่ยวข้องอีกครั้ง โดยเห็นว่า หุ้นทอท.มูลค่า 14,000 ล้านบาท ยังสามารถเพิ่มทุนได้อีก ตามศักยภาพขององค์กรและทรัพย์สินที่มี” นายปิยะพันธ์กล่าว
**เอพีรับสัมปทานรถเข็นฯ Wanzl
นอกจากนี้ ที่ประชุมอนุมัติให้ทอท.จัดจ้างบริษัท เอพี เมนเนจเม้นท์ จำกัด ให้บริการรถเข็นกระเป๋า ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ วงเงิน 566,244,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ระยะเวลา 7 ปี จำนวน 9,034 คัน ประกอบด้วยรถเข็นกระเป๋าขนาดเล็ก 2,000 คัน ขนาดกลาง 7,000 คัน และขนาดใหญ่ 34 คัน โดยบริษัทเอพีฯ ได้รับมอบหมายให้เป็นตัวแทนจำหน่ายรถเข็นกระเป๋า Wanzl โดยบอร์ดให้ทอท.เจรจากับบริษัทฯ ในการส่งมอบรถเข็นกระเป๋างวดแรกจำนวน 4,500 คันให้ ทอท.ใช้งานก่อนภายในวันที่ 31 ธ.ค. 2552 เพื่อรองรับจำนวนผู้โดยสารที่จะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นในช่วงปลายปี 2552 ส่วนที่เหลือให้ส่งมอบให้ครบภายใน 90 วัน
“ค่าจ้างบริษัทเอพีฯ สูงกว่าเดิมที่ทอท.เคยจ้าง บริษัทไทยแอร์พอร์ต กราวด์ เซอร์วิสเซส จำกัด (แทกส์) ประมาณ 30 ล้านบาทซึ่งยอมรับได้เพราะเพิ่มการติดตั้งอุปกรณ์ควบคุม และตรวจนับรถเข็นกระเป๋าชนิดอิเล็กทรอนิค (RFID) เพื่อป้องกันการสูญหายของรถเข็นกระเป๋า ส่วนรถเข็นกระเป๋าของแทกส์ทอท.ไม่ได้นำมาใช้งานแล้วเพราะเกรงว่าจะมีปัญหาโต้แย้งทางกฎหมาย ยืนยันว่า ในบริษัทเอพีฯไม่มีกลุ่มคิงเพาเวอร์ร่วมอยู่ด้วยแน่นอน ซึ่งคิงเพาเวอร์เกี่ยวข้องในส่วนสัญญาโฆษณาบนรถเข็น” นายปิยะพันธ์กล่าว
ทั้งนี้ คณะกรรมการจัดจ้างโดยวิธีพิเศษฯ ชี้แจงว่า ได้มีหนังสือเชิญบริษัทผู้ผลิตรถเข็นกระเป๋าชั้นนำ 3 อันดับแรกของโลกเข้ายื่นข้อเสนอประกอบด้วย Smart Carte, Wanzl และ Expresso ซึ่งปรากฏว่าบริษัทผู้ผลิตรถเข็นกระเป๋าในต่างประเทศ ซึ่งป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ Wanzl และ Expresso ได้มอบหมายให้บริษัทผู้แทนจำหน่ายในประเทศไทยเข้ายื่นเสนอราคากับ ทอท. ผลปรากฎว่าบริษัท เอพี เมนเนจเม้นท์ จำกัด ซึ่งได้รับมอบหมายให้เป็นตัวแทนจำหน่ายรถเข็นกระเป๋า Wanzl ในประเทศไทย เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุดโดยรถเข็นกระเป๋ายี่ห้อ Wanzl ทำด้วยวัสดุอลูมิเนียม มีน้ำหนักเบา มีความแข็งแรง ล้อหน้ามีก้านสำหรับยึดติดกับทางลาดเลื่อน สามารถรับน้ำหนักกรณีวางกระเป๋าซ้อนกันได้ดี
**ฝ่าวิกฤติ 52 มีกำไรจ่ายโบนัส-ปันผล
รายงานข่าวแจ้งว่า ผลประกอบการปี 52 (ต.ค.51-ก.ย.52) อยู่ในระดับที่น่าพอใจเมื่อเทียบกับวิกฤติเศรษฐกิจปละปัญหาการเมิองในประเทศ โดยมีกำไรแต่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากทอท.มีมาตรการลดค่าธรรมเนียมต่างๆมาช่วยเหลือผู้ประกอบการเป็นจำนวนมาก แต่อย่างไรก็ตาม ได้มีการพิจารณาจ่ายโบนัสให้พนักงานจำนวน 4 เดือน ทั้งนี้เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับพนักงานที่ร่วมมือกันลดค่าใช้จ่าย และมีเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นด้วย โดยกำหนดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 52 ในวันที่ 22 ม.ค.53.
