“วรุธ” เปิดใจ 60 วันในตำแหน่งรักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ งานแรกจ่ายโบนัสพนักงานไม่ต่ำกว่า 2.3-2.4 เท่าของเงินเดือน พร้อมเดินหน้าสร้างความสามัคคีในองค์กร เน้นปรับปรุงคุณภาพให้บริการ รับปากขอเบอร์หรือซ่อมเรียบร้อยใน 3 วัน พร้อมเร่งโครงการ IP Network มูลค่า 6 พันล้านผ่านครม.เผยเป็นช่วงสร้างรายได้กลับทีโอทีปีละกว่าพันล้าน การันตีรายได้เพิ่มเดือนละ2-5 %
นายวรุธ สุวกร รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วงที่อยู่ในตำแหน่งระยะเวลา 60 วันตามที่คณะกรรมการ(บอร์ด) ทีโอทีมีมติเมื่อวันที่ 10 เม.ย. ที่ผ่านมา ก่อนที่กรรมการผู้จัดการใหญ่จากการสรรหาจะเข้ามารับตำแหน่ง โดยจะเร่งจ่ายโบนัสให้พนักงานทั้งปีในระดับตัวเลข 2.3-2.4 เท่าของเงินเดือนในปี 2550 ตามที่สำนักงานคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. และทริสเรทติ้งประเมิน เอาไว้ โดยเมื่อกลางปีพนักงานทีโอทีได้รับโบนัสไปแล้ว 0.4 เท่าของเงินเดือน ในขณะเดียวกันจะเร่งสร้างความสามัคคีและสร้างความเข้าใจกับพนักงานและสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจทีโอทีด้วย
นอกจากนี้ยังมีความตั้งใจที่จะเข้ามาปรับปรุงคุณภาพการบริการของทีโอทีให้ดีขึ้นในช่วงที่อยู่ในต่ตำแหน่งให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นความรวดเร็วในการขอเลขหมาย บริการบรอดแบนด์ หรือบริการอื่นๆ รวมไปถึงความรวดเร็วในการซ่อมบำรุงต่างๆ ให้แก่ลูกค้า
“ยอมรับว่าที่ผ่านมาทีโอทีเทียบคู่แข่งไม่ได้เลยในความรวดเร็วในการบริการ ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งเลขหมาย หรือ ความรวดเร็วในการซ่อม โดยมีเป้าหมายจะพยายามดำเนินการติดตั้งให้แก่ลูกค้าภายในระยะเวลา 3 วัน รวมทั้งกำหนดซ่อมเช่นกัน จากเดิมลูกค้ารอนานหลายสัปดาห์ถึงจะได้รับบริการติดตั้งเลขหมาย หรือการซ่อมบำรุง”นายวรุธกล่าว
ทั้งนี้ตนให้ความสำคัญต่อการปรับปรุงคุณภาพของทีโอทีมากกว่า การออกโปรโมชันเพิ่มจำนวนลูกค้าใหม่ เนื่องจากแผนดังกล่าวเป็นแผนที่สามารถดำเนินการได้ต่อเนื่องอยู่แล้ว ส่วนการปรับปรุงคุณภาพบริการนั้นต้องเร่งดำเนินการเพราะไม่เช่นนั้นจะตามหลังเอกชน โดยหนึ่งในแผนปรับปรุงคุณภาพบริการคือการให้บริการคอลเซ็นเตอร์ 24 ชั่วโมงใน 7 วัน
นอกจากนี้ในช่วงที่อยู่ในตำแหน่งจะเร่งโครงการขยายโครงข่ายการให้บริการอินเทอร์เน็ต หรือ IP Network มูลค่าโครงการ 5,000-6,000 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ได้ผ่านความเห็นชอบของสำนักงานพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมหรือ สภาพัฒน์ ซึ่งได้ส่งกลับให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ไอซีที นำเข้าเสนอขอความเห็นชอบจากมติคณะรัฐมนตรี โดยระหว่างนี้ตนจะพยายามเร่งให้กระทรวงไอซีทีเสนอเรื่องดังกล่าวเข้าครม.พิจารณาให้แล้วเสร็จในช่วงที่อยู่ในตำแหน่ง
อย่างไรก็ดีโครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่ส่งผลตอบแทนที่ดีต่อ ทีโอทีเป็นอย่างมากเพราะจะสามารถทำให้ทีโอทีมีศักยภาพในการให้บริการบรอดแบนด์ได้มากขึ้น โดยจะสามารถเพิ่มความเร็วในการให้บริการได้มากขึ้น และรองรับการใช้งานมัลติมีเดียได้อย่างเต็มรูปแบบ รวมไปถึงสามารถให้บริการไฟเบอร์ทูเดอะโฮมได้อีกด้วย ซึ่งหากโครงการนี้แล้วเสร็จเชื่อว่าจะช่วยเพิ่มรายได้ให้ทีโอที ปีละกว่า 1,000 บาท
นายวรุธกล่าวต่อว่า ยังมีแผนที่จะนำสินค้าของทีโอทีที่มีเหลืออยู่มาสร้างรายได้ โดยขณะนี้ได้มอบหมายให้ฝ่ายภูมิภาค และนครหลวงรวบรวมข้อมูลว่ามีสินค้าของทีโอทีที่ยังค้างอยู่เท่าไหร่ซึ่งจะรู้รายละเอียดในสัปดาห์หน้า โดยตนมีแผนจำหน่ายเลขหมายที่ยังข้างอยู่เหล่านี้ด้วยการให้เอกชนเข้ามาช่วยจำหน่ายเพื่อเพิ่มความสามารถในการขาย โดยจะแบ่งรายได้ให้เอกชนจากส่วนแบ่งที่ได้จากการขาย แต่ก็ต้องขอความเห็นจากพนักงานก่อนว่ามีความสามารถในการขายเองได้หรือไม่ ส่วนแง่ธุรกิจวงจรเช่า ก็มีแผนที่จะเข้าไปเพิ่มกำลังขายในจุดพื้นที่ห่างไกลที่เอกชนไม่สามารถเข้าไปให้บริการได้ด้วย
“ผมเชื่อว่าในช่วงที่เข้ามารับตำแหน่ง 60 วันนี้ หากสามารถดำเนินการได้ตามที่ผมตั้งใจไว้ทั้งหมด จะสามารถเพิ่มรายได้ให้แก่ทีโอทีได้เดือนละ 2-5 % แต่ก็ขึ้นอยู่กับการร่วมมือร่วมใจของพนักงานทีโอทีด้วย”นายวรุธกล่าว
ส่วนกรณีข้อพิพาทระหว่างคู่สัญญาสัมปทานที่มีอยู่ในขณะนี้จะต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการเพราะคดีเหล่านี้อยู่ในชั้นศาลแล้ว การจะดำเนินการเจรจาไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเป็นเรื่องในชั้นศาลแล้ว
Company Related Links :
TOT
นายวรุธ สุวกร รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วงที่อยู่ในตำแหน่งระยะเวลา 60 วันตามที่คณะกรรมการ(บอร์ด) ทีโอทีมีมติเมื่อวันที่ 10 เม.ย. ที่ผ่านมา ก่อนที่กรรมการผู้จัดการใหญ่จากการสรรหาจะเข้ามารับตำแหน่ง โดยจะเร่งจ่ายโบนัสให้พนักงานทั้งปีในระดับตัวเลข 2.3-2.4 เท่าของเงินเดือนในปี 2550 ตามที่สำนักงานคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. และทริสเรทติ้งประเมิน เอาไว้ โดยเมื่อกลางปีพนักงานทีโอทีได้รับโบนัสไปแล้ว 0.4 เท่าของเงินเดือน ในขณะเดียวกันจะเร่งสร้างความสามัคคีและสร้างความเข้าใจกับพนักงานและสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจทีโอทีด้วย
นอกจากนี้ยังมีความตั้งใจที่จะเข้ามาปรับปรุงคุณภาพการบริการของทีโอทีให้ดีขึ้นในช่วงที่อยู่ในต่ตำแหน่งให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นความรวดเร็วในการขอเลขหมาย บริการบรอดแบนด์ หรือบริการอื่นๆ รวมไปถึงความรวดเร็วในการซ่อมบำรุงต่างๆ ให้แก่ลูกค้า
“ยอมรับว่าที่ผ่านมาทีโอทีเทียบคู่แข่งไม่ได้เลยในความรวดเร็วในการบริการ ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งเลขหมาย หรือ ความรวดเร็วในการซ่อม โดยมีเป้าหมายจะพยายามดำเนินการติดตั้งให้แก่ลูกค้าภายในระยะเวลา 3 วัน รวมทั้งกำหนดซ่อมเช่นกัน จากเดิมลูกค้ารอนานหลายสัปดาห์ถึงจะได้รับบริการติดตั้งเลขหมาย หรือการซ่อมบำรุง”นายวรุธกล่าว
ทั้งนี้ตนให้ความสำคัญต่อการปรับปรุงคุณภาพของทีโอทีมากกว่า การออกโปรโมชันเพิ่มจำนวนลูกค้าใหม่ เนื่องจากแผนดังกล่าวเป็นแผนที่สามารถดำเนินการได้ต่อเนื่องอยู่แล้ว ส่วนการปรับปรุงคุณภาพบริการนั้นต้องเร่งดำเนินการเพราะไม่เช่นนั้นจะตามหลังเอกชน โดยหนึ่งในแผนปรับปรุงคุณภาพบริการคือการให้บริการคอลเซ็นเตอร์ 24 ชั่วโมงใน 7 วัน
นอกจากนี้ในช่วงที่อยู่ในตำแหน่งจะเร่งโครงการขยายโครงข่ายการให้บริการอินเทอร์เน็ต หรือ IP Network มูลค่าโครงการ 5,000-6,000 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ได้ผ่านความเห็นชอบของสำนักงานพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมหรือ สภาพัฒน์ ซึ่งได้ส่งกลับให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ไอซีที นำเข้าเสนอขอความเห็นชอบจากมติคณะรัฐมนตรี โดยระหว่างนี้ตนจะพยายามเร่งให้กระทรวงไอซีทีเสนอเรื่องดังกล่าวเข้าครม.พิจารณาให้แล้วเสร็จในช่วงที่อยู่ในตำแหน่ง
อย่างไรก็ดีโครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่ส่งผลตอบแทนที่ดีต่อ ทีโอทีเป็นอย่างมากเพราะจะสามารถทำให้ทีโอทีมีศักยภาพในการให้บริการบรอดแบนด์ได้มากขึ้น โดยจะสามารถเพิ่มความเร็วในการให้บริการได้มากขึ้น และรองรับการใช้งานมัลติมีเดียได้อย่างเต็มรูปแบบ รวมไปถึงสามารถให้บริการไฟเบอร์ทูเดอะโฮมได้อีกด้วย ซึ่งหากโครงการนี้แล้วเสร็จเชื่อว่าจะช่วยเพิ่มรายได้ให้ทีโอที ปีละกว่า 1,000 บาท
นายวรุธกล่าวต่อว่า ยังมีแผนที่จะนำสินค้าของทีโอทีที่มีเหลืออยู่มาสร้างรายได้ โดยขณะนี้ได้มอบหมายให้ฝ่ายภูมิภาค และนครหลวงรวบรวมข้อมูลว่ามีสินค้าของทีโอทีที่ยังค้างอยู่เท่าไหร่ซึ่งจะรู้รายละเอียดในสัปดาห์หน้า โดยตนมีแผนจำหน่ายเลขหมายที่ยังข้างอยู่เหล่านี้ด้วยการให้เอกชนเข้ามาช่วยจำหน่ายเพื่อเพิ่มความสามารถในการขาย โดยจะแบ่งรายได้ให้เอกชนจากส่วนแบ่งที่ได้จากการขาย แต่ก็ต้องขอความเห็นจากพนักงานก่อนว่ามีความสามารถในการขายเองได้หรือไม่ ส่วนแง่ธุรกิจวงจรเช่า ก็มีแผนที่จะเข้าไปเพิ่มกำลังขายในจุดพื้นที่ห่างไกลที่เอกชนไม่สามารถเข้าไปให้บริการได้ด้วย
“ผมเชื่อว่าในช่วงที่เข้ามารับตำแหน่ง 60 วันนี้ หากสามารถดำเนินการได้ตามที่ผมตั้งใจไว้ทั้งหมด จะสามารถเพิ่มรายได้ให้แก่ทีโอทีได้เดือนละ 2-5 % แต่ก็ขึ้นอยู่กับการร่วมมือร่วมใจของพนักงานทีโอทีด้วย”นายวรุธกล่าว
ส่วนกรณีข้อพิพาทระหว่างคู่สัญญาสัมปทานที่มีอยู่ในขณะนี้จะต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการเพราะคดีเหล่านี้อยู่ในชั้นศาลแล้ว การจะดำเนินการเจรจาไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเป็นเรื่องในชั้นศาลแล้ว
Company Related Links :
TOT
