รอยเตอร์ – รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีคมนาคม ชาอุล โมฟาซ ของอิสราเอล กล่าวเมื่อวานนี้(6)ว่า การที่อิสราเอลจะต้องเข้าโจมตีสถานที่ตั้งทางนิวเคลียร์ของอิหร่านดูจะเป็นสิ่งที่ “หลีกเลี่ยงไม่ได้” แล้ว เนื่องจากมาตรการต่างๆ ในการคว่ำบาตรเพื่อขัดขวางไม่ให้เตหะรานได้เทคโนโลยีที่อาจนำไปผลิตระเบิดนิวเคลียร์ ต่างก็ประสบความล้มเหลว
“ถ้าอิหร่านยังคงเดินหน้าโครงการเพื่อพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของพวกเขาต่อไป เราก็จะโจมตีเขาแน่นอน การคว่ำบาตรต่างๆ นั้นไร้ผล” โมฟาซบอกกับ เยดิโอธ อาห์โรโนธ หนังสือพิมพ์ขายดีของรัฐยิวแห่งนี้
“การโจมตีอิหร่าน เพื่อหยุดยั้งแผนการนิวเคลียร์ของพวกเขา จะกลายเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้แล้ว” โมฟาซซึ่งเคยเป็นทั้งผู้บัญชาการทหารบกและรัฐมนตรีกลาโหมกล่าว
คำพูดของเขาคราวนี้นับเป็นการข่มขู่อิหร่านอย่างชัดเจนที่สุดเท่าที่เคยมีมาจากสมาชิกในคณะรัฐบาลนายกรัฐมนตรี เอฮุด โอลเมิร์ต ซึ่งใช้ท่าทีเดียวกันกับคณะรัฐบาลประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุช ของสหรัฐฯ นั่นคือบ่งบอกเป็นนัยว่าพร้อมใช้กำลังทหารเป็นเครื่องมือสุดท้าย หากมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติยังคงไม่มีประสิทธิภาพ
การพูดของโมฟาซคราวนี้ บังเกิดขึ้นขณะที่เขาและสมาชิกอาวุโสอีกหลายคนในพรรคคาดิมะ ของโอลเมิร์ต กำลังเตรียมเข้าแข่งขันชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หากกรณีอื้อฉาวเรื่องคอร์รัปชั่นบังคับให้โอลเมิร์ตต้องยอมลงจากเก้าอี้
โมฟาซเป็นยิวที่เกิดในอิหร่าน และถือเป็นปรปักษ์ภายในพรรคคนสำคัญคนหนึ่งของโอลเมิร์ต โดยเฉพาะหลังการเลือกตั้งปี 2006 ที่โอลเมิร์ตถูกบังคับให้ต้องยกตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมที่ก่อนหน้านี้เป็นของโมฟาซ ไปให้แก่พรรคเลเบอร์ที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล
แม้กระนั้นโมฟาซก็ได้เก้าอี้รองนายกรัฐมนตรี และมีบทบาทในการวางแผนด้านกลาโหมของอิสราเอล รวมทั้งยังเป็นสมาชิกคนหนึ่งในคณะรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงของโอลเบิร์ต อีกทั้งเป็นผู้นำในการหารือประสานงานด้านยุทธศาสตร์ที่ทำอยู่เป็นประจำกับกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ
อิสราเอลนั้นเคยส่งเครื่องบินรบไปถล่มทำลายเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ของอิรักในปี 1981
นอกจากนั้น อิสราเอลยังทำอย่างเดียวกันกับซีเรียในเดือนกันยายนปีที่แล้ว โดยทำลายสิ่งที่คณะรัฐบาลสหรัฐฯกล่าวว่า เป็นเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่เพิ่งสร้างเสร็จใหม่ๆ ด้วยความช่วยเหลือของเกาหลีเหนือ ถึงแม้ซีเรียปฏิเสธตลอดมาว่าตนเองไม่ได้มีสิ่งปลูกสร้างเช่นนี้
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์อิสระหลายรายตั้งข้อสงสัยว่า กองทัพอิสราเอลจะสามารถเล่นงานอิหร่านได้โดยลำพังหรือไม่ ในเมื่อสถานที่ตั้งด้านนิวเคลียร์ของอิหร่านนั้นมีหลายแห่งและ ตั้งอยู่ห่างไกลกัน รวมทั้งมีการป้องกันเป็นอย่างดี
“ถ้าอิหร่านยังคงเดินหน้าโครงการเพื่อพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของพวกเขาต่อไป เราก็จะโจมตีเขาแน่นอน การคว่ำบาตรต่างๆ นั้นไร้ผล” โมฟาซบอกกับ เยดิโอธ อาห์โรโนธ หนังสือพิมพ์ขายดีของรัฐยิวแห่งนี้
“การโจมตีอิหร่าน เพื่อหยุดยั้งแผนการนิวเคลียร์ของพวกเขา จะกลายเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้แล้ว” โมฟาซซึ่งเคยเป็นทั้งผู้บัญชาการทหารบกและรัฐมนตรีกลาโหมกล่าว
คำพูดของเขาคราวนี้นับเป็นการข่มขู่อิหร่านอย่างชัดเจนที่สุดเท่าที่เคยมีมาจากสมาชิกในคณะรัฐบาลนายกรัฐมนตรี เอฮุด โอลเมิร์ต ซึ่งใช้ท่าทีเดียวกันกับคณะรัฐบาลประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุช ของสหรัฐฯ นั่นคือบ่งบอกเป็นนัยว่าพร้อมใช้กำลังทหารเป็นเครื่องมือสุดท้าย หากมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติยังคงไม่มีประสิทธิภาพ
การพูดของโมฟาซคราวนี้ บังเกิดขึ้นขณะที่เขาและสมาชิกอาวุโสอีกหลายคนในพรรคคาดิมะ ของโอลเมิร์ต กำลังเตรียมเข้าแข่งขันชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หากกรณีอื้อฉาวเรื่องคอร์รัปชั่นบังคับให้โอลเมิร์ตต้องยอมลงจากเก้าอี้
โมฟาซเป็นยิวที่เกิดในอิหร่าน และถือเป็นปรปักษ์ภายในพรรคคนสำคัญคนหนึ่งของโอลเมิร์ต โดยเฉพาะหลังการเลือกตั้งปี 2006 ที่โอลเมิร์ตถูกบังคับให้ต้องยกตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมที่ก่อนหน้านี้เป็นของโมฟาซ ไปให้แก่พรรคเลเบอร์ที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล
แม้กระนั้นโมฟาซก็ได้เก้าอี้รองนายกรัฐมนตรี และมีบทบาทในการวางแผนด้านกลาโหมของอิสราเอล รวมทั้งยังเป็นสมาชิกคนหนึ่งในคณะรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงของโอลเบิร์ต อีกทั้งเป็นผู้นำในการหารือประสานงานด้านยุทธศาสตร์ที่ทำอยู่เป็นประจำกับกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ
อิสราเอลนั้นเคยส่งเครื่องบินรบไปถล่มทำลายเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ของอิรักในปี 1981
นอกจากนั้น อิสราเอลยังทำอย่างเดียวกันกับซีเรียในเดือนกันยายนปีที่แล้ว โดยทำลายสิ่งที่คณะรัฐบาลสหรัฐฯกล่าวว่า เป็นเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่เพิ่งสร้างเสร็จใหม่ๆ ด้วยความช่วยเหลือของเกาหลีเหนือ ถึงแม้ซีเรียปฏิเสธตลอดมาว่าตนเองไม่ได้มีสิ่งปลูกสร้างเช่นนี้
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์อิสระหลายรายตั้งข้อสงสัยว่า กองทัพอิสราเอลจะสามารถเล่นงานอิหร่านได้โดยลำพังหรือไม่ ในเมื่อสถานที่ตั้งด้านนิวเคลียร์ของอิหร่านนั้นมีหลายแห่งและ ตั้งอยู่ห่างไกลกัน รวมทั้งมีการป้องกันเป็นอย่างดี
